(Types of Administrator)
แบบของผู้บริหาร
ผู้เขียนดูรายการของสถานีโทรทัศน์แห่งประเทศไทยออกอากาศคืนวันที่ 14 กรกฎาคม 2553 เวลาประมาณ 23 นาฬิกา เป็นรายการของการฝึกอบรมของคณะผู้บริหารระดับสูง ซึ่งท่าน ว.วัชรเมธี ได้รับเชิญเป็นวิทยากร ในวันนั้นผู้เขียนได้ฟังแล้วก็พยายามจดจำและคิดว่าน่าจะมีประโยชน์สำหรับนักบริหารโดยทั่ว ๆไป ดังนั้นจึงขออนุญาตท่านนำมาถ่ายทอดต่อ ซึ่งอาจจะเป็นประโยชน์บ้างไม่มากก็น้อย
ท่าน ว.วัชรเมธี กล่าวว่า ผู้บริหารนั้นมี 2 แบบใหญ่ ๆ ด้วยกัน คือ
1. ผู้บริหารแบบฝรั่ง มีอยู่ 4 แบบ ได้แก่
1) ผู้บริหารแบบพนักงานรถไฟ
ผู้บริหารแบบนี้เปรียบเสมือนพนักงานขับรถไฟ คือขับไปตามราง ถึงก็ช่างไม่ถึงก็ช่างหรือเดี๋ยวมันก็ถึงเอง ไม่คิดที่จะพัฒนางานให้เขริญก้าวหน้า
2) ผู้บริหารแบบนายแพทย์
ผู้บริหารแบบนี้ทำงานเหมือนนายแพทย์ คือให้เหตุหรือปัญหามันเกิดขึ้นแล้วค่อยคิดหาวิธีแก้ปัญหา เปรียบเสมือนให้คนป่วยวิ่งมาหาแล้วค่อยรักษา ทำงานหรือแก้ปัญหาเฉพาะที่อยู่ตรงหน้าเท่านั้น
3) ผู้บริหารแบบชาวนา
ผู้บริหารแบบนี้เปรียบเสมือนเหมือนกับชาวนาที่พลอยฟ้าพลอยฝน อยู่ในแต่พื้นที่รับผิดชอบตัวเองไม่ออกไปหาโลกภายนอก ไม่คิดงานใหม่แต่ก็มุ่งผลประโยชน์
4) ผู้บริหารแบบชาวประมง
ผู้บริหารแบบนี้มักเป็นนักเสี่ยง กล้าคิด กล้านำ กล้าที่จะขยายขอบฟ้าเผชิญหน้าท้าทาย เปรียบเหมือนชาวประมงที่ต้องเสียงออกหาปลา เสี่ยงว่าพื้นน้ำมีปลาหรือไม่มีปลา
2. ผู้บริหารแบบไทย ๆ มีอยู่ 4 แบบ ได้แก่
1) ผู้บริหารอาวุโส
ผู้บริหารแบบนี้มักเป็นผู้ที่อาวุโส แก่พรรษา หาตัวเลือกไม่มีแล้ว ไม่ค่อยคิดงานใหม่เคยทำอย่างไรก็ทำแบบเดิม ๆ
2) ผู้บริหารที่ได้ดำรงตำแหน่ง
ผู้บริหารแบบนี้เป็นผู้บริหารแบบที่ผู้ใหญ่ส่งมาให้ดำรงตำแหน่ง ประเภทลูกท่านหลานเธอ
3) ผู้บริหารร่างทรง
ผู้บริหารแบบที่มีผู้ชักใยอยู่เบื้องหลัง ถ้าเบื้องหลังเก่งเบื้องหน้าไม่ได้เรื่องก็ไม่รอด และถ้าเบื้องหน้าเก่งแต่เบื้องหลังไม่เอาเรื่องก็ไปไม่รอดเช่นกัน รวมทั้ง ถ้าทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลังไม่ได้เรื่องก็ยิ่งแย่ที่สุด
4) ผู้บริหารนำการเปลี่ยนแปลง
ผู้บริหารแบบนี้มักเป็นคนกล้าคิกกล้าทำ กล้าที่จะเปลี่ยนแปลงงาน มีแผนงาน มีวิธีคิดและลงมือปฏิบัติเพื่อความเจริญก้าวหน้าขององค์กร
สรุป การบริหารงานที่ดีนั้นผู้บริหารจะยึดติดแบบใดแบบหนึ่งไม่ได้ ผู้บริหารที่ดีน่าจะเป็นผู้บริหารแบบชาวประมงและผู้บริหารนำการเปลี่ยนแปลงรวมกันน่าจะเหมาะสมที่สุด และเมื่อใดประสบผลสำเร็จก็อย่าหลงตัวเอง จงกระจายอำนาจให้ผู้ใต้บังคับบัญชารับผิดชอบ อย่าทำแต่ตนเองต้องให้ลูกน้องช่วยทำ และต้องยอมรับทั้งดอกไม้และก้อนอิฐ ในการบริหารงานต้องประสานคุณภาพชีวิตของทุกองคาพยพ จึงจะประสบผลสำเร็จอย่างดียิ่ง
ท่าน ว.วัชเมธี ยังมีนิทานเล่าให้ฟังเรื่องหนึ่งว่า.......ในกาลครั้งหนึ่งนานมาแล้วที่ประเทศญี่ปุ่นมีพ่อไก่โต้งตัวหนึ่งที่มีความสามารถในการบริหารครอบครัวอย่างดียิ่ง สามารถสยายปีกเลี้ยงดูคุ้มครองครอบครัวให้อยู่เย็นเป็นสุขได้เป็นอย่างดี ทุกเช้าจะมาโก่งคอขันตอนพระอาทิตย์จะขึ้น พอขันเสร็จดวงอาทิตย์ก็จะลอยขื้นมาลัดขอบฟ้า พ่อไก่ก็บอกว่ากับลูก ๆ ว่า....เห็นความสามารถของฉันไหม.... ฉันขันทีไรดวงอาทิตย์ก็จะโผล่ขึ้นทันที และ พ่อไก่โต้งก็ทำอย่านี้เรื่องมา จนกระทั่งวันหนึ่งพ่อไก่กระโดดขึ้นเกาะกิ่งไม้เพื่อขันตามปกติแต่เนื่องจากชราภาพมากแล้วจึงตกลงมา...... ลูกไก้โต้งหนุ่มรีบไปดูอาการของพ่อ.....พร้อมกับบอกพ่อว่า.....พ่อครับให้ผมทำหน้าที่แทนพ่อนะพ่อชราภาพมากแล้ว....พ่อไก่ได้ฟังดังนั้นชี้หน้าลูกว่าน้ำหน้าอย่างแกนั้นหรือจะทำได้ แกยังอ่อนประสบการณ์นัก...ว่าแล้วพ่อไก่โต้งก็พยายามกระพือปีกบินขึ้นไปขันอีกครั้งแต่ก็ขึ้นไม่ได้และสุดท้ายก็ตกลงมาขาดใจตาย.....นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่าการเป็นผู้บริหารนั้นอย่าคิดว่าตนเองมีความรู้ความสามารถเพียงคนเดียว คนอื่นไม่มีความสามารถ ข้อเท็จจริงเมื่อหมดวาระ หมดหน้าที่ของเรา......คนอื่นก็จะสามารถขึ้นมาทดแทนเราได้ เฉกเช่นนิทานที่ ท่าน ว.วัชรเมธี เล่ามา เพราะเช้าวันต่อมาแม้ไม่มีพ่อไก้โต้งมาโก่งคอขัน...... ดวงอาทิตย์ก็โผล่ลับขอบฟ้าขึ้นมาด้วยตัวของมันเอง 5555
...........................................
สวัสดีค่ะ...
เรียน อ.บุษ
ขอบคุณครับรับไว้เป็นไก่โต้ง
แต่ป๋าเป็นไก้แจ้นะจ๊ะ อิอิ