กลิ่นและรสของชาวอิเหนา


กลิ่นและรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของชาวอินโดนีเซีย

Kretek กานพลู ที่มา: flixmedia.com

กลิ่นและรสประจำชนชาติ

ใครที่เคยไปเที่ยวอินโดนีเซีย.......สัมผัสแรกที่เรารู้สึกได้เกือบจะในทันทีที่เหยียบแผ่นดินอินโดฯ คือ....กลิ่น.....เป็นกลิ่นฉุนนิดๆ ที่ซึมอยู่ทั่วไปในอากาศ.....นั่นคือกลิ่นของเครื่องเทศชนิดนึง.....ที่เราเรียกกันว่ากานพลู.....คนอินโดฯ เขาเรียกกันว่า kretek อ่านว่า กะ- เร-เต็ก หรือ เกร-เต็ก..... อินโดฯ เป็นดินแดนแห่งกานพลูก็ว่าได้.......ใครที่ไม่คุ้นกับกลิ่นของกานพลูอาจจะรู้สึกคลื่นเหียนได้

ผู้ชายอินโดฯ สูบบุหรี่จัดที่สุดในโลกชาตินึง.......เทียบเท่าชายไทยที่กินเหล้ามากเป็นอันดับต้นๆ ของโลกเช่นกัน.....ประมาณว่าเจ็ดถึงแปดในสิบของผู้ชายอินโดฯ สูบบุหรี่......บุหรี่ของอินโดฯมีหลายยี่ห้อแต่ทุกยี่ห้อต้องใส่กานพลู......บุหรี่กานพลูสูบแล้วจะหวานติดริมฝีปาก......และทิ้งกลิ่นที่ติดทนนานไว้ด้วย......ติดทนนานกว่ากลิ่นของใบยาสูบมาก......ดังนั้นกลิ่นที่เราสัมผัสได้ในอากาศรอบตัวก็คือกลิ่นของกานพลูที่มาจากการสูบบุหรี่นั่นเอง

บุหรี่กานพลูแบบไม่มีก้นกรองของยี่ห้อดังราคาแพง จีซัมซู (234) ที่มา: thetraveltart.com และ baltyra.com

บุหรี่กานพลูแบบ 16 มวนมีก้นกรองอย่างดี ยี่ห้อกูดังการัม (โกดังเกลือ) เบอร์สองของอินโดฯ ที่มา: zigsam.at

บุหรี่กานพลูแบบมีก้นกรองอย่างดี 16 มวน เบอร์หนึ่งยี่ห้อจารุม ที่มา: cigarety.by

ลองคิดดูว่าบริษัทที่ผลิตบุหรี่ของอินโดฯ จะร่ำรวยขนาดไหน.....คิดง่ายๆว่าผู้ชายมีครึ่งนึงก็เป็นร้อยล้านแล้ว......เป็นผู้ใหญ่ซะสองในสาม......ผู้ใหญ่สูบบุหรี่สามในสี่.......ก็ตกสี่สิบถึงห้าสิบล้านคนแล้ว......เอาเป็นว่าไม่แพ้เสี่ยโรงเหล้าบ้านเราก็แล้วกัน

ผู้ชายอินโดฯ ไม่นิยมกินเหล้าเพราะเป็นข้อห้ามอันดับต้นๆของศาสนาอิสลาม.....คนไทยชาวพุทธน่าจะเอาตัวอย่างที่ดีในข้อนี้บ้าง......ศีลข้อห้าระบุชัดแต่ก็ติดกันงอมแงมไปทั้งเมือง......ซึ่งอาจเป็นธรรมชาติของคนก็ได้ที่ต้องติดอะไรซักอย่างในชีวิต

รสชาติที่เราจะรู้สึกได้ในทันทีที่เราดื่มเครื่องดื่มพื้นเมืองของอินโดฯ......คือรสหวาน......เครื่องดื่มยอดฮิตประจำวัน......วันละหลายเวลาของคนอินโดฯ มีสองอย่างคือ.......กาแฟและน้ำชา......กาแฟ คนอินโดฯเรียกว่า kopi อ่านว่า โก-ปี๊......และชาเรียกว่า teh อ่านว่า เต๊ะ.......แต่ห้ามเรียกซ้อนกันสองครั้งเพราะความหมายจะเปลี่ยนไปในทางเปลือย

kopi hitam โกปี๊ฮิตัม อย่างหวานและต้องดื่มพร้อมกาแฟสดบดละเอียดลงคอไปด้วยถึงจะได้รสชาติ ที่มา:nufadilah.blogspot.com

ชาวบ้านทั่วไปเขาไม่นิยมดื่มเครื่องดื่มกับน้ำแข็ง.......อย่างมากก็แช่เย็นเท่านั้น.......ยกเว้นพวกที่อยู่ในเมือง.......เมื่อเราไปเป็นแขกที่บ้านของคนอินโดฯ เขาจะเสิร์ฟกาแฟหรือชาร้อนเท่านั้น.....กาแฟจะเป็นกาแฟพื้นเมืองคั่วชงใส่มาในแก้วเลย.......ก็ต้องดื่มและกินเมล็ดกาแฟบดที่ลอยปนอยู่เข้าไปด้วย......ได้รสชาติแท้ๆไปอีกแบบนึง......ที่สำคัญเขาจะใส่น้ำตาลมากทั้งในกาแฟและชาร้อน.....ขนาดที่ลิ้นคนไทยต้องเรียกว่าเชื่อม......เคยลองมั้ย

ดังนั้นถ้าจะสั่งชาหรือกาแฟร้อนที่โน่นต้องบอกคนชงว่า......tidak manis อ่านว่า ติ-ดัก-มา-นิส แปลว่าไม่เอาหวาน.....หรือ pakai gula sedikit อ่านว่า ปา-ไกย-กุ-ลา-เซอ-ดิ-กิด แปลว่าใส่น้ำตาลนิดเดียว......ยกเว้นอยากลองรสชาติแบบอินโดฯแท้ๆ.......แต่จริงๆ แล้วถึงแม้ใส่น้อยของเขาก็ยังหวานไปสำหรับลิ้นคนไทยอยู่ดี

es teh manis เอสเต๊ะมานิส ใส่น้ำตาลทรายนอนก้นให้คนกันเองตามสะดวก ที่มา:kilk77.blogspot.com

พูดง่ายๆ คือคนอินโดฯ เป็นคนติดหวานมาก.......ขาดไม่ได้เลย......บนโต๊ะอาหารจะต้องมีซ้อสหวานเป็นเครื่องปรุงอยู่เสมอ......ซ๊อสเค็มตามมาห่างๆ ส่วนซ๊อสพริกและซ๊อสมะเขือเทศก็มีแต่ไม่เสมอไป......ไม่มีน้ำปลาแต่อย่างใด......เมื่ออยู่อินโดฯนานๆ จะเป็นคนติดหวานไปโดยไม่รู้ตัว

kecap manis และ kecap asin ซ๊อสหวานและซ๊อสเค็ม ยี่ห้อเอบีซีชื่อดังประจำโต๊ะกินข้าวและซ๊อสหวานมักหมดก่อนเนิ่นนาน ที่มา: wikipedia

รสชาติในอาหารของคนอินโดฯ โดยปกติจะออกหวานนำ.......ตามด้วยเค็มและมัน......เผ็ดมีแต่ไม่เข้าเส้นเลือดอย่างบ้านเราและที่ไม่เอามากๆคือรสเปรี้ยว......ความเปรี้ยวของเขาส่วนใหญ่เป็นความเปรี้ยวแค่ระดับมะขามหรือมะเขือเทศเท่านั้นครับ......เขาไม่ใช้มะนาวในการปรุงอาหารมากอย่างของเรา.....ที่เห็นใส่ในน้ำพริกกะปิเผ็ดติดหวานก็คือมะกรูดลูกเล็กเท่านั้น

สุพัฒน์ เจริญสรรพพืช

วันเสาร์ที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553 (ลงรูป มีนาคม2557)

หมายเลขบันทึก: 409275เขียนเมื่อ 20 พฤศจิกายน 2010 12:20 น. ()แก้ไขเมื่อ 17 กันยายน 2015 14:51 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท