ตัวอย่างนี้เป็นส่วนหนึ่งของการให้คำแนะนำสำหรับคนไข้ที่มารับบริการตรวจคัดกรองโรคเบื้องต้น โดยอาศัยตามหลักวิธีการ Method ในการให้คำแนะนำ จะขอยกตัวอย่างคนไข้ที่มาด้วย Acute bronchitis โดยมีคำแนะนำที่ให้แก่ผู้ป่วยรายนี้ ตามหลัก METHOD มีดังนี้
ตัวอย่างที่ 1 Acute bronchitis
- M : Medication (การรับประทานยา) เนื่องจากผู้ป่วยรายนี้มีการติดเชื้อที่ระบบทางเดินหายใจ และได้รับยา Amoxycillin (500 mg.) 1 tab. Oral b.i.d. pc. จึงแนะนำให้ผู้ป่วยรับประทานยาอย่างต่อเนื่องจนกว่ายาจะหมดถึงแม้อาการจะดีขึ้นแล้วก็ตาม เพื่อป้องกันการดื้อยาในการรักษาครั้งต่อไป และ ผู้ป่วยรายนี้ได้รับยา Acetaminophen (500 mg.) 2 tabs. Oral prn. ทุก 4-6 ชั่วโมง ให้รับประทานเมื่อมีอาการปวดหรือมีไข้ รับประทานซ้ำได้ทุก 4-6 ชั่วโมง
- E : Environment (การจัดการกับสิ่งแวดล้อม) เนื่องจากช่วงนี้อาการค่อนข้างเปลี่ยนแปลงบ่อย ประกอบกับผู้ป่วยรายนี้อาศัยอยู่บ้านสวนจึงแนะนำเกี่ยวกับการห่มผ้าห่มเวลานอน และสวมเสื้อผ้าที่ให้ความอบอุ่นแก่ร่างกาย และที่สำหรับโรคดังกล่าวมักไวต่อสิ่งกระตุ้น จึงได้แนะนำเพิ่มเติมว่า ควรหลีกเลี่ยงควันบุหรี่ (คนในครอบครัวสูบบุหรี่) ฝุ่นละออง ลม และเศษผงต่างๆ
- T : Treatment (การปฏิบัติตามแผนการรักษาพยาบาล) สำหรับผู้ป่วยรายนี้แนะนำให้จิบน้ำอุ่นบ่อยๆ และนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ เนื่องจากอาการมักจะหายเองตามธรรมชาติ ซึ่งแต่ละคนอาจใช้ระยะเวลาแตกต่างกันไป โดยทั่วไปแล้วอาจใช้เวลานานประมาณ 7-8 สัปดาห์ และบางรายอาจนานถึง 3 เดือนก็เป็นได้
- H : Heath (สุขภาพ) แนะนำเกี่ยวกับการออกกำลังกาย ใน case นี้เป็นผู้สูงอายุและอาศัยอยู่บ้านสวนจึงแนะนำเกี่ยวกับการเดินออกกำลังกายในสวนเพื่อรับอากาศบริสุทธิ์ และ ทำสวนเพื่อเป็นการออกกำลังกายด้วย
- O : Out-patent referral (การมาตรวจตามแพทย์นัด) ผู้ป่วยรายนี้แพทย์ไม่ได้นัดให้มาตรวจซ้ำก่อนกลับบ้าน จึงแนะนำให้สังเกตอาการ หากมีไข้สูง ไอ เจ็บคอ ปวดศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน หรือมีอาการผิดปกติอื่นๆ ให้มาพบแพทย์ ไม่ควรซื้อยามารับประทานเอง
- D : Diet (การรับประทานอาหาร) ผู้ป่วยรายนี้มีโรคประจำตัวคือ เบาหวาน จึงแนะนำให้รับประทานอาหารประเภทต้ม ซึ่งผู้ป่วยรายนี้ชอบรับประทาน แกงส้มและต้มจืด และควรหลีกเลี่ยงอาหารประเภททอด และของมัน เนื่องจากจะไปกระตุ้นให้มีอาการไอเพิ่มขึ้นด้วย
ตัวอย่างที่ 2 Diabetes mellitus คำแนะนำที่ให้แก่ผู้ป่วยรายนี้ ตามหลัก METHOD มีดังนี้
- M : Medication (การรับประทานยา) สำหรับผู้ป่วยรายนี้มักหยุดยาและปรับขนาดยาเอง จึงแนะนำเกี่ยวกับการกินยาลดระดับน้ำตาลตามที่แพทย์สั่ง อย่าลดยาหรือปรับขนาดยาตามความรู้สึกหรือการคาดเดาของตัวเองเป็นอันขาด เพราะการใช้ยาเกินขนาดอาจทำให้เกิดภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำและถ้าหากใช้ยาต่ำกว่าขนาดก็อาจส่งผลให้ ระดับน้ำตาลเพิ่มสูงขึ้น และจะไม่สามารถควบคุมโรคได้
- E : Environment (การจัดการกับสิ่งแวดล้อม) จัดสภาพแววล้อมให้ปลอดโปร่ง ทำจิตใจ ให้ร่าเริง อย่าให้เครียดหรือวิตกกังวล (เพราะความเครียดอาจทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงได้)
- T : Treatment (การปฏิบัติตามแผนการรักษาพยาบาล) แนะนำเกี่ยวการรับประทานตาม แพทย์สั่ง ไม่ปรับขนาดยาเอง และแนะเกี่ยวการสวมถุงเท้า เพื่อป้องกันการเกิดแผลที่เท้า เนื่องจากผู้ป่วยมีอาการชาที่เท้า
- H : Heath (สุขภาพ) แนะนำเกี่ยวกับการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เช่น การเดินเร็ว ทำสวน ขุดดิน กวาดบ้าน ถูบ้าน และควรทำในปริมาณที่พอๆ กันทุกวัน อย่าหักโหมเกินไป เพราะอาจส่งผลให้ระดับน้ำตาลในเลือดลดต่ำลงได้
- O : Out-patent referral (การมาตรวจตามแพทย์นัด) แนะนำให้มาตรวจตามนัดเพื่อตรวจดูระดับน้ำตาลในเลือด และให้การรักษาได้ถูกต้องตามอาการเช่นอาจมีการปรับเปลี่ยนยา เป็นต้น
- D : Diet (การรับประทานอาหาร) แนะนำให้กินอาหารวันละ 3 มื้อ กินให้ตรงเวลา ไม่ควรงดมื้อใดมื้อหนึ่ง ผู้ป่วยรายนี้ชอบกินขนมหวานและกินจุกจิก จึงแนะนำว่า หากรับประทานขนมหวานมากและไม่ค่อยรับประยาลดระดับน้ำตาลตามแพทย์สั่งอาจส่งผลให้ควบคุมระดับน้ำตาลไม่ได้ และอาจเกิดภาวะแทรกซ้อนต่างๆตามมาได้ เช่น หัวใจเต้นผิดจังหวะ ไตเสียหน้าที่ หรือตามัวจนถึงขั้นมองไม่เห็นได้
มาเรียนรู้ค่ะ...ขอบคุณที่แบ่งปันนะคะ
ขอบคุณสำหรับข้อมูลดี ๆ ครับ
ขอบคุนมากค่ะ อาจาร หนูกำลังจะทำของผู้ป่วยที่ผ่าตัดนิ้วเท้า ขอเอาของอาจารไปเป็นตัวอย่างในการเขียนนะคะ
ขออนุญาตนำไปยกตัวอย่างให้ทีมใช้ในการวางแผนจำหน่ายผู้ป่วยนะครับ
นึกว่าเป็นการให้ความรู้เกี่ยวกับการ Codding ^_^