หนี้ใจกับการ "รับใช้สังคม..."


เมื่อได้เห็นคำว่า "นักวิชาการไทยสายรับใช้สังคม" ทุกครั้ง ข้าพเจ้าเกิดคำถามขึ้นในใจแทบทุกครั้งว่า นักวิชาการ ข้าราชการ หรือแม้แต่พนักงานบริษัทเอกชน ที่ทำงานอยู่ตามองค์กรต่าง ๆ ในปัจจุบันทำงานไปเพื่อ "รับใช้ใคร...?"

ทำไมเราถึงต้องกระตุ้นให้คนไทยทำงานเพื่อ "รับใช้สังคม" ก็เพราะคนไทยในปัจจุบันทำงานเพื่อรับใช้ตัวเองมากกว่ารับใช้สังคม คนไทย "เห็นแก่ตัว" มากกว่า "เห็นแก่สังคม"...

จิตสำนึกในการรับใช้สังคม ทำเพื่อประโยชน์เพื่อส่วนรวมของคนเรานั้นหายไปไหน เกิดมาในผืนแผ่นดินไทยทำไมจึงไม่ทำงานเพื่อ "สังคม"

"ความเห็นแก่ตัว" ของคนในปัจจุบันมีสัดส่วนมากกว่า "ความเห็นแก่สังคม" มากน้อยเท่าใด น่าจะมีการวิจัยออกมาเปิดเผย (ประจาน) กันบ้าง

การทำงานโดยกินภาษีประชาชน แต่ไม่ทำงาน "เพื่อสังคม" ข้าวทุกคำที่กลืนลงไปนั้นคือ "การติดหนี้ประชาชน"

ในความคิดส่วนตัวของข้าพเจ้านั้น (ซึ่งอาจจะผิด) เรื่องการรับใช้สังคมคือเป็นเรื่องธรรมดา ๆ มากสำหรับชีวิตที่มีหน้าที่ที่จะต้องทำเพื่อส่วนรวม

การรับใช้สังคมไม่ใช่เรื่องแปลก แต่การรับใช้แต่ตัวเองกลับเป็นสิ่งที่แปลกกว่า

การรับใช้สังคมเป็นเรื่องธรรมดา เป็นเรื่องธรรมชาติที่ต้องทำทุกวัน ถ้าวันไหนไม่ทำก็ไม่มีหน้าที่จะไปสู้หน้าใคร เพราะจิตใจนี้มันเศร้าหมอง เพราะรู้สึกว่าตัวเองไม่ดี ตัวเองชั่ว ตัวเองเลว ที่วันนี้เห็นแก่ปาก เห็นแก่ท้อง เห็นแก่ความสุขส่วนตัวมากกว่า "ความสุขส่วนรวม..."

มีบางวันนะที่ "เหนื่อย" ท้อแท้ กับการทำเพื่อส่วนรวม แต่สำหรับวันรุ่งขึ้นความเหนื่อยที่เคยมีมากลับกลายเป็น "พลัง" ที่จะเชิดหน้า ชูคอ ว่าเราไม่เอาเปรียบใคร กินข้าว กินน้ำของใครเข้าไป เรา "ไม่ติดหนี้" ใคร...

 

ข้าพเจ้าพยายามดำเนินชีวิตไม่ให้เป็นหนี้ใคร โดยเฉพาะไม่ให้ชีวิตที่ได้เกิดมาชาตินี้เป็น "หนี้สังคม"

สังคมนี้ให้โอกาสให้ข้าพเจ้ามีชีวิตอยู่ ชีวิตนี้จึงอยู่เพื่อ "รับใช้สังคม..."



หมายเลขบันทึก: 406713เขียนเมื่อ 5 พฤศจิกายน 2010 19:37 น. ()แก้ไขเมื่อ 10 มีนาคม 2021 14:52 น. ()สัญญาอนุญาต: ไม่สงวนสิทธิ์ใดๆจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท