หลายท่านอาจจะเคยอ่านทฤษฎีคางคกจากปรัชญาโยชิซูกุมาบ้างแล้ว ซึ่งหากนำมาเชื่อมโยงกับภาวะโลกร้อนในปัจจุบัน ก็สามารถอธิบายพฤติกรรมของคนส่วนใหญ่ได้เป็นอย่างดี ความจริงสำหรับครูอ๊ะเองเคยรับรู้ทฤษฎีนี้มีนานนับยี่สิบปีแล้ว แต่ไม่เคยคิดว่ามันจะมีความสำคัญมากในภาวะของโลกในปัจจุบันนี้
ย้อนกลับไปเมื่อครั้งที่ครูอ๊ะเรียนอยู่ชั้น ป.4 หลังฤดูเกี่ยวข้าวครูอ๊ะกับเพื่อนๆ ได้นำควายไปเลี้ยงที่นาของลุงบุญหนา แล้วก็ไปนอนเล่นที่เถียงนาน้อยของลุงบุญหนากัน ที่ใต้ถุนเถียงนาน้อยนั้นมีหม้อนึ่งเก่าๆ อยู่ใบหนึ่ง ครูอ๊ะกับเพื่อนๆ ก็จะเอามาเคาะเล่นตามประสาเด็กๆ แต่ก็ต้องแปลกใจเมื่อเห็นคางคกถูกต้มตายอยู่ในหม้อนึ่งใบนั้น
ด้วยความสงสัยจึงมีคำถามมากมายถามลุงบุญหนา
“ต้มคางคกทำไม” “ใครต้มคางคกกิน” “คางคกกินได้ด้วยหรือ” “ทำไมต้องต้มคางคก” ฯลฯ
แต่คำตอบที่ได้จากลุงบุญหนาคือ
“มันถูกต้มจนตายเพราะน้ำไม่ร้อน”
คำตอบของลุงบุญหนาสร้างความแปลกใจให้กับครูอ๊ะและเพื่อนๆ เป็นอย่างมาก
สุดท้ายลุงบุญหนาจึงอธิบายว่า
“ธรรมชาติของคางคกนั้นสามารถปรับตัวได้ดี มันบังเอิญมาลอยคอว่ายน้ำอยู่ในหม้อนึ่งใบนี้อย่างสบายอารมณ์ เมื่อป้าภรรยาลุงบุญหนาก่อไฟนึ่งข้าวแต่เช้ามืด (ลุงบุญหนากับภรรยานอนที่เถียงนา) ด้วยความรีบจะออกเก็บกองข้าวแต่เช้ามืดไม่ทันได้สังเกต ป้าก็จับหม้อนึ่งตั้งค้างเตาไฟโดยไม่รู้ว่ามีคางคกอยู่ในนั้น เจ้าคางคกโชคร้ายเมื่อน้ำเริ่มอุ่นก็จะคิดว่า “สบายตัวดีเหลือเกิน” เมื่อน้ำเพิ่มอุณหภูมิขึ้นตามลำดับมันก็จะคิดว่า “น้ำอุ่นนี้กระตุ้นเลือดลมดีแท้ รออีกสักครู่จึงจะกระโดดออก” แล้วมันก็ปรับตัวตามระดับอุณหภูมิที่สูงขึ้นไปเรื่อยๆ กว่ามันจะรู้ว่าอุณหภูมิสูงเกินกว่าที่จะทนได้ มันก็สายไปเสียแล้ว มันจึงนอนตายขาชี้ให้ดูอย่างที่เห็น
ในขณะเดียวกัน หากน้ำในหม้อนึ่งนั้นร้อนอยู่แล้ว แล้วเจ้าคางคกตัวนี้บังเอิญกระโดดเข้าไปพอดี มันจะดีดตัวออกจากหม้อทันทีเพราะมันไม่สามารถปรับตัวได้ทันในขณะนั้น แล้วมันก็จะไม่ตาย ซึ่งมันก็จะคล้ายๆ กับสุภาษิตไทยที่ว่า
“น้ำร้อนปลาเป็น น้ำเย็นปลาตาย” นั่นเอง
ทฤษฎีคางคกของลุงบุญหนาจึงอธิบายได้อย่างนี้แล
ต้มคางคก นอนที่เถียงนา
นอนแรกนึกว่าใครเถียงใคร ตากับยายเถียงกัน
เถียงนา คืออะไรเหรอค่ะ
สวัสดีครับครู อ๊ะ ขอบคุณ ทฤษฎีคางคกจะได้ไปเป็นบทเรียน ครับ
ขอตอบแทนน้องกอสาวใต้ เถียง ก็หนำนา ขนำนา หรือเพิงหมาแหนบนหัวนา ไว้กันแดดกันฝนได้ดีนักแล
สวัสดีครับ
คุณ วอญ่า-ผู้เฒ่า-natachoei-- อธิบายได้ถูกต้องแล้วครับ