ชาวนครศรีฯ ต้านโรงไฟฟ้าถ่านหินเต็มสูบ-ระดมให้ความรู้ ปชช.

ชาวนครศรีฯ ต้านโรงไฟฟ้าถ่านหินเต็มสูบ-ระดมให้ความรู้ ปชช.

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์30 ตุลาคม 2553 20:24 น.

http://manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9530000153043

นครศรีธรรมราช - กลุ่มเครือข่ายต้านโรงไฟฟ้าถ่านหินนครศรีธรรมราชระดมชาวบ้านให้ความรู้ศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม หลัง กฟผ.ตั้งเป้าศึกษาความเหมาะสม และมีแนวโน้มสูงจะก่อสร้างในพื้นที่
       
       บ่ายวันที่ 29ต.ค. กลุ่มเครือข่ายต่อต้านการก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินในพื้นที่ อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช ในนามกลุ่มรักษ์บ้านเกิดท่าขึ้น ร่วมกับเครือข่ายปกป้องและคุ้มครองสุขภาวะและผลกระทบนครศรีธรรมราช และกลุ่มรักษ์ภูมินิเวศชายฝั่ง นำโดยนายทรงวุฒิ พัฒแก้ว และนายบุญโชค แก้วแกม นายก อบต.ท่าขึ้น อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช ได้ร่วมกันจัดเวทีคัดค้านการก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหิน บริเวณริมชายหาดบ้านตะเคียนดำ ม.2 ต.ท่าขึ้น อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช
       
       การจัดเวทีในครั้งนี้ มีนักวิชาการ และนักการเมืองท้องถิ่นเข้าร่วมสานเสวนาถึงผลกระทบกับสิ่งแวดล้อมในแง่มุมต่างๆ อย่างหลากหลาย เช่น ดร.เลิศชาย ศิริชัย อาจารย์สำนักวิชาศิลปะศาสตร์ ม.วลัยลักษณ์ นายบุญโชค แก้วแกม นายกองค์การบริหารส่วนตำบลท่าขึ้น นายธงชัย นิลวัล ประธานสภา อบต.ท่าขึ้น นายธารา บัวคำศรี ตัวแทนกรีนพีซเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ผศ.ประสาท มีแต้ม นักวิชาการอิสระด้านพลังงาน นางสุไรด๊ะ โต๊ะหลี แกนนำสตรี โครงการคัดค้านท่อก๊าซไทย-มาเลย์ นายทรงวุฒิ พัฒแก้ว บก.ศูนย์ข่าวพลเมืองฅนคอน นายประยุทธ วรรณพรหม อาสาสมัครพิทักษ์สิ่งแวดล้อม (ทสม.) และนายวันชัย ชูทอง โดยมีประชาชนจาก ต.ท่าขึ้น ต.ท่าศาลา เข้าร่วมประมาณ 500 คน
       
       เนื้อหาสาระสำคัญในการกล่าวปราศรัย ส่วนใหญ่เป็นการกล่าวถึงผลกระทบจากการสร้างโครงการขนาดใหญ่ ที่มีการลงทุนในพื้นที่นครศรีธรรมราช โดยมีเป้าหมายหลักที่มีการให้ความสำคัญมากคือโรงไฟฟ้าถ่านหิน และโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ ซึ่งการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.)ได้มีเป้าหมายในการศึกษาความเหมาะสมของพื้นที่ และมีแนวโน้มสูงที่จะมีการก่อสร้างในพื้นที่นครศรีธรรมราช
       
       นายบุญโชค แก้วแกม นายกองค์การบริหารส่วนตำบลท่าศาลา ได้ร่วมขึ้นกล่าวบนเวทีปราศรัยสรุปได้ว่า พื้นที่ ต.ท่าขึ้น อ.ท่าศาลา ถือว่าเป็นพื้นที่ที่เหมาะสมกับการท่องเที่ยวในเชิงธรรมชาติ ไม่ใช่พื้นที่การพัฒนาอุตสาหกรรม และที่สำคัญตามที่รัฐบาลกล่าวว่าในอนาคตปริมาณการใช้ไฟฟ้าเพิ่มขึ้น และจะมีกำลังผลิตที่ไม่เพียงพอนั้น ผู้ปราศรัยกล่าวว่า ประชาชนภาคใต้ใช้ไฟฟ้าเพียง 8 เปอร์เซ็นเท่านั้น ดังนั้นคาดการได้เลยว่าการก่อสร้างโรงไฟฟ้านั้น เพื่อเตรียมรองรับการเกิดขึ้นของโครงการขนาดใหญ่ ทั้งในรูปแบบอุตสาหกรรมทั้งขนาดใหญ่ และย่อม จะเกิดขึ้นตามมาอย่างแน่นอน นอกจากนั้นได้มีการยกตัวอย่างผลกระทบของโรงไฟฟ้าแม่เมาะ ที่เกิดอุบัติเหตุระเบิดจนสร้างผลกระทบอย่างมากมาย และนอกจากนั้นในการเปิดเวทีในครั้งนี้ได้มีนักการเมืองท้องถิ่นและผู้นำศาสนาในพื้นที่ร่วมขึ้นเวทีแสดงจุดยืนไม่เอาโรงไฟฟ้าถ่านหิน
       
       ในการจัดเวทีในครั้งนี้มีการจำหน่ายเสื้อยืดคอกลมสีดำ สกรีนข้อความ พวกเราไม่ต้องการโรงไฟฟ้าถ่านหิน ในราคาตัวละ 120 บาท เพื่อเป็นการหาทุนหรือร่วมบริจาคสมทบทุนการต่อต้านโรงไฟฟ้าถ่านหิน และมีการร่วมลงชื่อคัดค้านการก่อสร้างโรงไฟฟ้าอีกด้วย และนอกจากนั้นทางกลุ่มคัดค้านได้แสดงสัญลักษณ์คัดค้าน ด้วยการนำธงผ้า พื้นที่สีแดง สกรีนข้อความสีเหลือง ว่า “พวกเราไม่เอาโรงไฟฟ้าถ่านหิน” ติดแสดงบริเวณหน้าบ้านของชาวบ้านในพื้นที่ดังกล่าวทุกครัวเรือนเพื่อเป็นการแสดงการคัดค้านเชิงสัญลักษณ์