มาอ่านกลอนเพราะๆ และชมภาพน่ารักๆ ค่ะคุณครู
ขอบคุณค่ะ
ขอบคุณค่ะ ขอให้น้ำลดเร็ว ๆ นะคะ
มาเยี่ยมมาชมมาติดตามอ่านครับผม ชอบครับชอบ
ขอบคุณค่ะ ครูภาทิพ บ้ายอ ประเดี๋ยวแต่งไม่หยุดเลย
โปรยปรายสายวสันต์ พฤกษ์ไพรพรรณต่างสมหมาย
มาลี่คลี่กลีบกราย รับไมตรีที่มอบมา
ฤดูกาลย่อมผ่านผัน สายวสันต์ก็อำลา
มาลีที่เริงร่า ต่างก็พากันร่วงโรย
ยี่สุ่นกรุ่นกลิ่นอวล เหมือนยั่วยวนชายเผยคำ
ตกบ่ายยี่สุ่นช้ำ กลิ่นหอมล้ำก็จางหาย
สิ้นกลิ่นของบุปผา สิ้นเวลาลมคำชาย
สิ้นกลิ่นสิ้นความหมาย กลิ่นยี่สุ่นจึงฉุนทรวง
โปรยปรายสายวสันต์ โปรยนานวันพลันเสียหาย
มาลีคลี่กรีบกราย ตกอยู่ใต้สายวสันต์
โอกาสของมาลี ส่งกลิ่นสีก็หายพลัน
สายธารจากวสันต์ กลบพืชพรรณผองมาลี
ขอบคุณค่ะ คุณดอกรัก
ขออนุญาต ครู ภาทิพ (ทำเฒ่า)
1. ต่างสมหมาย ใช้คำว่า อวดโฉมไสว.....ความหมายดีกว่า "ต่างสมหมาย" สมหมายอะไร..ภาษาธรรมดาไป
2. คือฤดู ไม่ต้องใส่ฤดู กาล
3. สายวสันต์พร่ำเรียกหา เรียกหา ต้องเสียงสูง น่าจะเพราะกว่า
4. ต่างก็พากันร่วงโรย ...เป็นกลอนไหล ซึ้งไม่ดี น่าจะ ผ่านเวลาอาจร่วงโรย ..
ปล. ครู ภาทิพ ถือมีศิลปในการแต่งกลอนหวาน เยี่ยมมาก...
ขอบคุณมากค่ะ ขอน้อมรับคำชี้แนะไว้ด้วยความยินดียิ่งค่ะ
แต่เสียง อาย กับ ไอ ใน ร้อยกรอง ไม่ใช่เสียงที่สัมผัสกันค่ะ
อะ+ ย คือ ไอ ใอ อัย
อา + ย คือ อาย
ก็แล้วแต่....ของครูก็ถูก...
ขอบคุณค่ะ ครูภาทิพได้แต่ฟังเพลง ไม่มีทักษะเรื่องการร้องและการแต่งเพลง จึงไม่เข้าใจเรื่องของการเอื้อน ขอบคุณที่ชี้แนะค่ะ
โถ....อย่าน้อยใจ...ล้อเล่นน่า เห็นแต่งกลอนเก่ง...
ขอบ พระคุณแนะถ้อย แถลงมา พี่เอย
คุณ เยี่ยมการพรรณนา ถิ่นท้อง
มาก เพลงที่ถวิลหา สาวถิ่น ใต้นอ
ค่ะ เล่นตามพวกพ้อง ต่างใต้เดียวกัน
เขียนโคลงกลอนยากแท้ ต้องหมั่น
ต้องฝึกเขียนทุกวัน ค่ำเช้า
บางวันเบื่อคิดฝัน ไม่ออก
ก็งดเว้นหยุดเว้า หยุดสร้างผลงาน
สวัสดีค่ะคุณครู นาย ปภินวิช pap2498 ถนอมวงศ์
เขียนโคลงเขียนบ่อยเข้า คงชิน
เขียนส่งเป็นอาจินต์ แจ่มแท้
เหมือนดังดุจธารริน แรงเรื่อย เสมอนา
จึงบ่เหือดหายแม้ หมดสิ้นวสันต์