น้องแสนเคยเล่าให้ฟังว่าจะถ่ายทอดประสบการณ์ เรื่อง "การต่อสู้กับมะเร็ง" ให้ฟัง แต่หลังจากวันนั้น น้องแสนก็ต้องเพียบ เข้า- ออก โรงพยาบาลตลอดเวลา การจะหาโอกาสเล่าเรื่องราวให้จึงไม่ราบรื่นนัก เรื่องราวการต่อสู้ที่ผ่านมาจึงอยู่กับน้องแสนจวบจนกระทั่งวันนี้ "ผมเป็นคุณลิขิตที่แย่" นี่คือความรู้สึกของผมในวันนี้ แต่ด้วยเจตนาของน้องแสน เมื่อผมรับปากแล้วผมจะทำให้ครับ เชื่อว่ายังไม่สาย เพราะยังมีอีกหลายชีวิตที่ต้องทนทุกข์ทรมานด้วยมะเร็ง
อธิบายภาพ แสนสุข รัตนมณี(คนที่สี่จากซ้าย) ถ่ายรูปกับเพื่อนๆ ที่ทำงาน "หอสมุดจอห์น เอฟ เคนเนดี้" เมื่อเมษายน 2552 ที่น้ำตกกรุงชิง นครศรีธรรมราชในโอกาสไปพัฒนาตนเองเพื่อการทำงาน เป็นภาพสุดท้ายที่ผมกดชัตเตอร์ให้เธอหลังจากเธอต่อสู้กับมะเร็งจนอาการปกติ ก่อนที่เธอจะเข้าโรงพยาบาลอีกครังเมื่อประมาณสิงหาคม 2553 และจากไปอย่างสงบเมื่อ 27 ตุลาคม 2553
ด้วยความผูกพันและความฝันของเธอว่าจะให้ผมช่วยในเรื่องการถ่ายทอดประสบการณ์การต่อสู้กับมะเร็งให้ การมาปรากฏตัวให้เห็นในฝันเมื่อคืนวันเสาร์ที่ 23 ต.ค. 53 นั้นน่ะผมรับทราบโดยประสาทสัมผัสที่หกว่าว่าน้องแสนยังห่วงเรื่องนี้ ในเมื่อผมเคยสัญญาไว้ ผมรับปากว่าจะหาเรื่องราวการป้องกันและรักษามะเร็งมาเป็นวิทยาทานตอบแทนสิ่งที่น้องแสนเจตนานั้นนะครับ แม้จะไม่ใช่คำบอกเล่าจากปากน้องแสนก็ตาม พี่จะตอบสนองความคิดนี้ให้ในโอกาสต่อไปนะครับ สู่สุขคติเถิดครับน้องแสน ผมและเพื่อนร่วมงานจะอุทิศบุญกุศลไปให้ครับ
เมื่อ 28 ตุลาคม 2553 เวลา 14.00 น. เพื่อนๆ ได้ไปทำบุญรดน้ำศพและเป็นเจ้าภาพสวดพระอภิิธรรมให้คุณแสนสุข รัตนมณี (ภาพถ่ายด้วยกล้องถ่ายรูป มันเล็กไปหน่อยครับ) ในภาพน้องรงค์ น้องหลิน น้องซี กำลังจัดดอกไม้ติดกับกรอบรูปถ่ายสำหรับวางหน้าหีบศพให้น้องแสน นอกกรอบภาพยังมีคุณจารึก คุณอรศิริและอีกหลายคนช่วยอยู่ด้วย ขออภัยเก็บไม่หมด
หมายเหตุ แสนสุข รัตนมณี ต่อสู้กับมะเร็ง จนถึงที่สุด แต่ท้ายที่สุดก็พ่ายแพ้เช่นเดียวอีกหลายๆ คน แต่น้องแสนมีเจตนาที่จะถ่ายทอดประสบการณ์การต่อสู้กับมะเร็ง ผมเคยรับปากจะนำประสบการณ์ของน้องแสนมาถ่ายทอดเพื่อประโยชน์ สาธารณะก่อนที่เธอจะจากไปเพียงประมาณ 60 วัน แต่ท้ายที่สุดผมก็ไม่ได้ทำหน้าที่เป็นคุณลิขิตให้เธอ จึงตั้งใจที่จะหาความรู้เรื่องนี้มาทดแทนในโอกาสต่อไป