ระเบียบวิธีวิจัยเชิงสำรวจเพื่อประมาณการจำนวนผู้ใช้สารเสพติด
คำถามที่น่าพิจารณา คือ ผลวิจัยระบุออกมาได้อย่างไรว่า คนที่พักอาศัยในกรุงเทพ มหานคร และเคยใช้สารเสพติดชนิดใดชนิดหนึ่งตลอดช่วงชีวิตที่ผ่านมามีมากถึงเกือบหกแสนคน ทั้ง ๆ ที่เก็บข้อมูลสำรวจมาจากตัวอย่างทั้งสิ้น 2,452 ตัวอย่างเท่านั้น
คำตอบ คือ ผลประมาณการที่ค้นพบทำได้ก็เพราะอาศัยหลักการวิจัยทางสังคมศาสตร์และหลักสถิติที่มีขั้นตอนต่าง ๆ ที่สำคัญหลายขั้นตอน โดยต้องสัมพันธ์ต่อกันทั้งหมดเป็นแบบ "ข่ายใยแมงมุม"
ได้แก่ การตั้งหัวข้อเรื่องวิจัย การทบทวนวรรณกรรมงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง การตั้งวัตถุประสงค์ การสร้างกรอบแนวคิดตัวแปร คำถามวิจัย สมมติฐาน การสร้างเครื่องมือวัด หรือแบบสอบถาม การทดสอบแบบสอบถาม การนิยามกลุ่มประชากรเป้าหมาย การกำหนดขนาดตัวอย่าง กระบวนการเลือกตัวอย่าง การเก็บรวบรวมข้อมูล และการใช้สถิติวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อประมาณการ
โดยทั่วไป ยังคงมีความเข้าใจที่ผิดพลาดคลาดเคลื่อนในกลุ่มนักวิชาการหลายท่านในประเทศไทยว่า ยิ่งจำนวนตัวอย่างมากเท่าไหร่ ยิ่งจะทำให้มีความแม่นยำของข้อมูลผลสำรวจมากขึ้นตามไปด้วย
ความเข้าใจคลาดเคลื่อนและมองกระบวนการสำรวจที่แคบเกินไปเช่นนี้ เคยเกิดขึ้นใน สหรัฐอเมริกา เมื่อประมาณ 70 ปีที่ผ่านมา คือ ในปี ค.ศ.1936 หรือ พ.ศ. 2479 ซึ่งมีสำนกโพลล์แห่งหนึ่งได้ลองสำรวจกับ ตัวอย่างประชาชนนับเป็นล้านตัวอย่าง ทั่วประเทศ แต่ละเลยกระบวนการเลือกตัวอย่างที่คำนึงถึงความเป็นไปได้ในการถูกเลือก
เพราะใช้วิธีส่งแบบสอบถามไปตามนิตยสาร ให้ประชาชนโทรศัพท์เข้ามาบ้าง สัมภาษณ์ตามสะดวกกับคนที่เดินไปเดินมาตามป้ายรถเมล์ ตามทางเดิน ร้านค้า ที่สาธารณะอื่น ๆ และการส่งแบบสอบถามกลับมาทางไปไปรษณีย์ตามแต่การเสนอตัวเข้ามาตอบของประชาชนเอง ส่งผลทำให้ได้ข้อมูลกลับมาเป็นล้านตัวอย่าง แต่ผลวิจัยที่ผิดพลาดผิดเพี้ยนไปจากความเป็นจริงอย่างมากมาย
ยิ่งไปกว่านั้น สิ่งที่ค้นพบเป็นความผิดพลาดและ หลุมพราง (pitfall) ขนาดใหญ่ในกลุ่มนักวิจัยเชิงสำรวจของประทศไทย คือ การใช้สูตรกำหนดขนาดตัวอย่างสำเร็จรูปจาก Yamane หรือ Morgan ที่มักจะอ้างกันบ่อย ๆ ว่า ด้วยช่วงความเชื่อมั่นร้อยละ 95 ความคลาดเคลื่อนบวก ลบ ร้อยละ 5 ขนาดตัวอย่างที่เหมาะสมจะประมาณ 400 ตัวอย่าง
ซึ่งเป็นความเข้าใจและหลักปฏิบัติที่ไม่ครบถ้วนและไม่ได้ลงไปในรายละเอียดของที่มาของจำนวนตัวอย่างจากสูตรดังกล่าว เพราะหากพิจารณาแล้วจะพบว่า สูตรตัวอย่างดังกล่าวนั้น เป็นสูตรที่เหมาะสมกับการเลือกตัวอย่างแบบชั้นเดียว แต่ในการวิจัยเชิงสำรวจที่ประเทศไทยกับประชากรเป้าหมายขนาดใหญ่ มักจะใช้การเลือกตัวอย่างมากกว่าหนึ่งชั้น
ดังนั้น การอ้างอิงสูตรกำหนดขนาดตัวอย่างข้างต้นเพียงอย่างเดียว จึงเป็นการตกหลุมพรางซ้ำแล้วซ้ำอีกของนักวิจัยเชิงสำรวจในประเทศไทย
นักวิจัยเชิงสำรวจ จำเป็นต้องตระหนักว่า การกำหนดขนาดตัวอย่างต้องสัมพันธ์กับการกระบวนการเลือกตัวอย่างที่เป็นหัวใจสำคัญในระเบียบวิธีวิจัยเชิงสำรวจ เพราะถ้าใช้การเลือกตัวอย่างที่ไม่คำนึงความเป็นไปได้ในการถูกเลือก (Non-Probability sample selection)
การกำหนดขนาดตัวอย่างเท่าใดก็ตาม หรืออาศัยสูตรใด ๆ กจะทำให้ผลวิจัยที่ค้นพบก็จะเป็นเพียงแค่ "การคาดเดา (guesstimate) " เท่านั้น ไม่มีหลักจะเปิดช่องให้สามารถนำไปประมาณการจำนวน และไม่สามารถกล่าวอ้างช่วงความเชื่อมั่นและความคลาดเคลื่อนจากการเลือกตัวอย่างได้.
(เรียบเรียงจากบทความ ของ ดร.นพดล กรรณิกา ในการประชุมสัมมนานักวิชาการด้านการแพร์ระบาดยาเสพติดในประเทศไทย ครั้งที่ 6 วันที่ 15-17 มิถุนายน 2552 ณ โรงแรมเจริญธานี ปริ้นเซส จังหวัดขอนแก่น)
**********
สวัสดีค่ะคุณหมอ ยินดีที่กลับมาเขียนบันทึกดีๆ กันอีก ขอบคุณค่ะ
ดีครับมีประโยชน์มาก เป็นกำลังใจให้ด้วยคนครับ
ÄÄÄÄÄ.....มาตามหลุมพราง...ได้ยินว่าน้ำท่วม...มีคนตายแล้วสิบคน...(ข่าวนอกประเทศ)...คุณทิมดาบเป็นอย่างไรบ้าง..ชาวบ้านช่วยตัวเองได้ไหม..สาหัสสากัล..กันมากน้อยเท่าใด....(ได้ยินว่าบางประเทศเกิด..อหิวา..ระบาด..เนื่องจากอุทกภัยโดยเฉพาะเรื่องน้ำท่วม)ของเรามีการป้องกันหรือไม่...(เราคงต้องเข้มแข็งและช่วยตนเองกันต่อไป....สวัสดีค่ะ..และขอให้ทุกคนปลอดภัยจากการเจ็บไข้เจ้าค่ะ...ยายธี
สวัสดีค่ะ
ไม่ทราบว่าสถานการณ์น้ำท่วมเป็นอย่างไรบ้างคะ
มาถามข่าว และมาขอบคุณค่ะ
ที่หยิบหนังสือ " ชวนลูกวาดรูป " ออกจากร้านขายหนังสือน่ะค่ะ
^_^
สวัสดีจร้า... น้องหมอ
พี่กลับมาแล้วจร้า.. คิดถึงน้องหมอคนดีนะจ๊ะ...
ยังเหงาๆ อยู่เหมือนเดิม เพราะลูกๆ กลับไปเรียนกันแล้ว...
แต่ช่วงเวลาปิดเทอมอันน้อยนิด เราตักตวงความสุขจากการเที่ยวพักผ่อนไว้เยอะเลย..
เขียนเล่าสู่กันฟังด้วยนะจ๊ะ....
คิดถึงอยู่เสมอจร้า...