และแล้ว เวลา ๒ ทุ่ม หนึ่งนาที สองวินาที คุณติ๋ว ศันศนีย์ นาคพงษ์ ก็อีเมลล์ตั้งคำถามมายัง อ.แหวว สั้นๆ ว่า “อาจารย์แหววคะ มีเส้นแบ่งระหว่างการจัดการประชากร กับ สิทธิมนุษยชน และวัฒนธรรม(หลักศาสนา) อย่างไรคะ ติ๋วค่ะ”
ตื่นมาวันนี้ (๑๐ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๕๓) คุณสานิตย์ส่งข่าวหนึ่งมาให้มวลมิตรได้อ่าน ข่าวนี้เป็นเรื่อง “กลุ่มคาทอลิกแคนาดาอนุญาตสตรีเป็นบาทหลวง-เมิน “วาติกัน” ขับออกจากศาสนา”
อ.แหววอ่านข่าวนี้แล้ว นึกออกเลยว่า ข่าวนี้จะเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของงานจัดการประชากรในยุคที่สังคมโลกมีลักษณะพหุวัฒนธรรมอย่างชัดเจน การยอมรับในเสรีภาพในการนับถือศาสนาคริสต์ของสังคมแคนาดาน่าจะเป็น “แรงบันดาลใจ” สำหรับนักศึกษา สสสส.๒ ซึ่งกำลังศึกษาเรื่อง “ความขัดแย้งของการจัดการประชากรในสังคมพหุวัฒนธรรม” อ.แหววจึง fwd อีเมลล์ข่าวนี้ออกไปยังนักศึกษา สสสส.๒ โดยให้หัวข้อว่า “กลุ่มคาทอลิกแคนาดาอนุญาตสตรีเป็นบาทหลวง – เป็นรูปแบบหนึ่งของการจัดการประชาคมในสังคมพหุวัฒนธรรมที่น่าสนใจนะคะ”
และแล้ว เวลา ๒ ทุ่ม หนึ่งนาที สองวินาที คุณติ๋ว ศันศนีย์ นาคพงษ์ ก็อีเมลล์ตั้งคำถามมายัง อ.แหวว สั้นๆ ว่า “อาจารย์แหววคะ มีเส้นแบ่งระหว่างการจัดการประชากร กับ สิทธิมนุษยชน และวัฒนธรรม(หลักศาสนา) อย่างไรคะ ติ๋วค่ะ”
และนี่ก็คือ คำตอบของ อ.แหวว
ติ๋วคะ
ขอตอบคำถามแบบง่ายๆ อย่างนี้ค่ะ
-
บนพื้นฐานที่ "รัฐ" มีอำนาจอธิปไตยเหนือ "ดินแดน" และ "ประชากร" ดังนั้น รัฐจึงต้องจัดการทั้ง "ดินแดน" และ "ประชากร"
-
การจัดการดินแดน ในหลักสูตรของ สสสส. ก็คือ งานที่นักศึกษาจะต้องศึกษาภายใต้กลุ่มวิชาที่ดูแลโดย อ.สุนีค่ะ กล่าวคือ จะจัดการอย่างไรกับดินแดน และองค์ประกอบต่างๆ ของดินแดน อาทิ น้ำ ป่า ทรัพยากร
-
การจัดการประชากร ในหลักสูตรของ สสสส. ก็คือ งานที่นักศึกษาจะต้องศึกษาภายใต้กลุ่มวิชาที่ดูแลโดย อ.แหวว กล่าวคือ จะจัดการอย่างไรกับคนในสภาวะต่างๆ ที่เข้ามาเกาะเกี่ยวกับดินแดนของรัฐ
-
แนวคิดในการจัดการคนมีหลายแนวคิดค่ะ
-
ในทางกฎหมายแท้ ให้ความสำคัญกับสัญชาติและภูมิลำเนา (ในคณะนิติศาสตร์ เราเรียนในวิชากฎหมายระหว่างประเทศแผนกคดีบุคคล)
-
ในทางรัฐศาสตร์หรือกฎหมายระหว่างประเทศแผนกคดีเมือง ให้ความสำคัญกับความเป็นพลเมือง (Citizenship) หรือในยุคหลังๆ พูดกันมากถึงความเป็นมนุษย์ ด้วยอิทธิพลของแนวคิดเรื่องสิทธิมนุษยชนที่พัฒนาขึ้นโดยปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน
-
ในทางเศรษฐศาสตร์ โดยเฉพาะทุนนิยม ให้ความสำคัญกับเจ้าของทุน ปัจจัยการผลิต ดังนั้น การนิยามคนว่า "นักลงทุน" "คนงาน" "ผู้ประกอบการ" จึงได้เกิดขึ้นเพื่อจำแนกคนใน "กฎหมายเศรษฐกิจ"
-
ในทางสันติศึกษา ซึ่งเป็นศาสตร์ที่เกิดขึ้นเพื่อจัดการความขัดแย้งในสังคมพหุวัฒนธรรม จึงพยายามเอาแนวคิด "บวก" ในทุกศาสตร์ที่แยกกันอยู่ มาผสมผสานให้เกิดประสิทธิภาพในการจัดการข้อพิพาทของคนในสังคมพหุวัฒนธรรม เรื่องของความต่างศาสนามักเป็นสาเหตุของข้อพิพาทในหลายภูมิภาคของโลก แต่ก็มีความเชื่อว่า การยอมรับ "เสรีภาพทางศาสนา" จะเป็นกลไกที่จะทำให้ความต่างศาสนาเป็นเรื่องบวกต่อกัน มิใช่ความขัดแย้งของคนในสังคมพหุวัฒนธรรมอีกต่อไป
-
ถ้าเราประสานงานได้ ที่อุดร จะพากลุ่ม ๔ ไปคุยกับคนไทยเชื้อสายเวียดนามที่นับถือศาสนาคริสต์ค่ะ
-
ถ้าเป็นไปได้ ที่ตาก จะพากลุ่ม ๔ ไปคุยกับชาวบ้านที่ปูแป้ ซึ่งเป็นหมู่บ้านของคนไทยเชื้อสายกะเหรี่ยงที่นับถือพุทธบ้างคริสต์บ้าง มีทั้งโบสถ์คริสต์และวัดพุทธ และพระในสองศาสนาก็ทำกิจกรรมเพื่อชุมชนร่วมกัน
-
วันที่ ๒๒ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๕๓ ซึ่งท่านอาจารย์ประเวศมาบรรยาย การผสมผสานความคิดในเรื่องการจัดการ "คน" บน "ดินแดน" ที่นำไปสู่ "สังคมสันติสุข" ก็คงชัดขึ้นค่ะ
-
ก็อย่างที่คุณติ๋ว เห็น "Key Words" ล่ะค่ะ คำว่า "จัดการประชากร" จึงเป็นคำที่ต้องคิดให้ "บวก" ให้ได้ค่ะ และสถานการณ์ "บวก" นั้น จะเป็นไปได้ใน "สังคมพหุวัฒนธรรม" ก็คือ การยอมรับในสิทธิมนุษยชน โดยเฉพาะการยอมรับใน "ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ (Human Dignity)"
-
ขอบคุณสำหรับคำถามที่งดงามและลึกซึ้งนี้ค่ะ
คงมีบทสนทนาต่อไปอย่างแน่นอนระหว่าง อ.แหวว และนักศึกษา สสสส.๒
รอติดตามตอนต่อไป