เรื่องราว ณ กะบากยังไม่จบนะคะ
บันทึกนี้บอกเล่าเรื่องของคุณตาที่ท่านเกิดพิษจากสเตรียรอยด์
ท่านเป็นครูผู้ยิ่งใหญ่ที่ใช้ชีวิตท่านเป็นวิทยาทาน
จากการเขียนบันทึกของพี่อ้อ ท่านฝากหนูมาลงอีกทีค่ะ (^_^)
“มันกิ๋นคนไป๋พอแฮงแล่ว”
เป็นคำพูดภาษาอีสานที่เข้าใจความหมายง่าย ๆ และกินใจสำหรับคนที่นี่ ใช่แล้วสารที่อยู่ในยาแผนโบราณหรือสมุนไพรมันได้ทำลายระบบการทำงานต่าง ๆ ของร่างกายไปจนอิ่มหนำสำราญใจ ไม่ว่าจะเป็น ตับ ไต ใส้ พุง ซึ่งคุณตาเป็นคนบอกเอง กว่าเราจะรู้ตัวอีกทีก็เกือบจะสายไปเสียแล้ว หรือบางคนอาจจะไม่มีโอกาสเสียด้วยซ้ำ เป็นคำพูดหนึ่งที่คุณตาบอกกล่าวให้ทีมงานได้ฟัง เป็นคำพูดแฝงไปด้วยความจริงที่แสนจะเจ็บปวด
กว่าคุณตาจะผ่านพ้นมาถึงจุดนี้ได้ จากที่เดินไม่ได้ นอนซมอยู่กับที่ จนมาเดินไปไหนมาไหนเองได้ และช่วยเหลือตนเองโดยไม่ต้องรอลูกหลาน ซึ่งคุณตาเล่าให้ฟังต่อว่า
เริ่มจากอาการปวดตามข้อต่าง ๆ เมื่อยเนื้อเมื่อยตัว ทานข้าวไม่ได้ มีคนมาแนะนำว่าไปซื้อยาแผนโบราณมากินแล้วหายจากอาการพวกนี้ คนแนะนำบอกว่าก็ลองกินแล้ว กินปุ๊บ หายปั๊บ
อะไรจะเป็นยาวิเศษขนาดนั้น
คุณตาได้ยินดังนั้นมีหรือจะไม่ลอง ก็ฝากเขาไปซื้อมาลองทานดู ได้ผลจริง ๆ อาการต่าง ๆ ที่เป็นมาหายหมด
(ลืมบอก ไปว่าคุณตาเป็นโรคเบาหวาน)
ก็ทานไปเรื่อย ๆ คุณตาบอกว่าหมดเงินกับค่ายาตรงนี้ไปหลายหมื่น เวลาที่ได้ทานยาก็อาการดีขึ้น พอไม่ได้ทานก็มีอาการเหมือนเดิม คล้าย ๆ กับคนติดยา แต่ก็กลับไปทานอีกเพราะว่าไม่อยากปวด และไปหาหมอก็ไม่หาย จากนั้นไม่นานคุณตาก็ไม่สบาย อาการหนักมากชนิดที่ว่าลูกหลานบอกว่า
“ต้องทำใจแล้วคงไม่ได้คืน”
นี่เป็นคำบอกเล่าของลูกสาวซึ่งได้มาเป็น อสม.ไม่นาน และได้เล่าต่อว่าช่วงที่กินยาแผนโบราณที่ไปหาซื้อมานั้นพอกินยาเสร็จก็ได้แต่นอน ไม่เดินไปไหนมาไหน นอนซมอยู่แต่กับที่นอนจนสุดท้ายได้เข้าโรงพยาบาล คุณตาเสริมว่า
“มันเจ็บเข่าไปในกระดูกกระเดี่ยว”
(เขียนยากจังภาษาอีสานไม่เหมือนพูด) ซึ่งช่วงที่อยู่โรงพยาบาลปวดตามกระดูกมาก จนรักษาได้ อาการดีขึ้น ทาง อสม.ก็เข้าไปเยี่ยมแล้วบอกว่า
“พ่อเซากินเถอะ มันบ่ดี๋ มันให้โทษกับตัวเฮา ........”
ทั้ง อสม. และลูกสาวได้เรียนรู้จากคุณหมอพิมพ์ (คุณหมอของชาวบ้าน) ก็ช่วยกันบอกคุณตา คุณตาบอกว่า
“มันก็คงบ่ดี๋จิง ๆ เขาถึงมาบอกเฮา”
ในที่สุดคุณตาก็ไม่ทานยาแผนโบราณอีกเลย และไม่หามาทานอีก ลูกสาวบอกว่าที่ผ่านมาได้ขนาดนี้เพราะว่าคุณตามีกำลังใจ ไม่ว่าจากลูกหลาน เพื่อนบ้าน แม้แต่ อสม. ที่ลงพื้นที่ไปเยี่ยมไม่ขาดสาย
(เนื่องจาก รพ.สต.ที่นี่มีงานที่จะต้องไปดูแลผู้สูงอายุด้วย)
สำหรับคนอายุ 76 ปีแล้ว กลับมามีสภาพแบบนี้ได้ทุกคนดีใจมาก แถมยังใช้ตัวเองเป็นบทเรียนให้กับคนอื่น เวลามีนัดตรวจเบาหวานคุณตาก็จะมาตรวจที่อนามัย
(จากการผ่านช่วงเวลานั้นมาได้คุณตาก็เข้ารับการรักษาจากสถานีอนามัย ก็คือ รพ.สต.กระบากนั่นเอง)
ช่วงเวลาที่นั่งรอก็จะเล่าให้กับกลุ่มคนที่เป็นโรคเบาหวานด้วยกัน เป็นการเผยแพร่ข้อมูลอีกทางหนึ่งเป็นอุทาหรณ์ให้กับคนในพื้นที่
ทางทีมงานทุกคนหวังว่าคนทั้งตำบลนี้จะไม่หลงผิดไปให้ยาที่เป็นโทษ ให้เลือกใช้ยาแผนโบราณและยาสมุนไพรที่ดี
ศุภลักษณ์ พริ้งเพราะ ผู้เรียบเรียง
ComMedSci ι เรียนรู้การทำงานของทีมงาน รพ.สต.กระบาก ตอนที่ 1 ตกใจที่สุด...และสุดขีด
ComMedSci ι เรียนรู้การทำงานของทีมงาน รพ.สต.กระบาก ตอนที่ 2 วางแผนทำ KM
ComMedSci ι เรียนรู้การทำงานของทีมงาน รพ.สต.กระบาก ตอนที่ 3 ลงพื้นที่กระบากพบ อสม.และ อบต.ครั้งแรก
ComMedSci ι เรียนรู้การทำงานของทีมงาน รพ.สต.กระบาก ตอนที่ 4 เข้าบทเรียน
ComMedSci ι เรียนรู้การทำงานของทีมงาน รพ.สต.กระบาก ตอนที่ 5 บทเรียนจากคุณตาเคน
ComMedSci ι เรียนรู้การทำงานของทีมงาน รพ.สต.กระบาก ตอนที่ 6 ความประทับใจของ อสม.
ComMedSci ι เรียนรู้การทำงานของทีมงาน รพ.สต.กระบาก ตอนที่ 7 ผู้บุกเบิก อสม.
ComMedSci ι เรียนรู้การทำงานของทีมงาน รพ.สต.กระบาก ตอนที่ 8 สรุปการทำงานของ รพ.สต.และทีมงาน