เมื่อวันที่ 22 กันยายน 2553 ผู้เขียนมีโอกาสเข้าร่วมกิจกรรม "โครงการสัมมนาเชิงปฎิบัติการ" ของสาขาวิชาการบริหารการศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฎเลย เป็นการตัวกันเข้าร่วมกิจกรรมของ...นักศึกษาสาขาบริหารการศึกษา ทั้งในระดับประกาศนียบัตรบัณฑิต (ป. บัณฑิต), ระดับการศึกษามหาบัณฑิต (ป. โท), และระดับดุษฎีบัณฑิต (ป.เอก) มหาวิทยาลัยราชภัฎเลย ทั้งศูนย์ฯ จังหวัดเลย และศูนย์ฯ จังหวัดขอนแก่น โดยพร้อมเพรียงกัน ณ ห้องประชุมชั้น 2 ศูนย์ภาษาและคอมพิวเตอร์ มหาวิทยาลัยราชภัฎเลย อำเภอเมือง จังหวัดเลย
กิจกรรมโครงการสัมนาเชิงปฏิบัติการครั้งนี้ มี วัตถุประสงค์ เพื่อพัฒนานักศึกษาในด้านการบริหารการศึกษา โดยมุ่งเน้นให้มีความรู้ก้าวนำทางการบริหารการศึกษา ตลอดจนสามารถสร้างและแสวงหาองค์ความรู้เพื่อพัฒนาการปฏิรูปการศึกษา โดยผ่านกระบวนการเรียนรู้จากประสบการณ์จริง...
กำหนดการสัมมนาเชิงปฏิบัติการ มีรายละเอียดโดยสรุป ดังนี้
-
08.00-08.30 น. นักศึกษาลงทะเบีน (ค่าลงทะเบีนคนละ 200-)
-
08.30-09.00 น. พิธีเปิดการสัมมนา โดย อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฎเลย ผศ.สนิท เหลืองบุตรนาค
-
09.00-09.30 น. พิธีไหว้ครู
-
09.30-12.15 น. บรรยายพิเศษ "การปฏิรูปการศึกษาไทยในทศวรรษที่ 2 : ปัจจัยเงื่อนไขสู่ความสำเร็จ" โดย ศาสตราจารย์ ดร.ธีระ รุญเจริญ
-
13.00-17.00 น. ศึกษาดูงานการจัดการศึกษาของโรงเรียนจุฬาภรณราชวิทยาลัยเลย และศึกษาความเป็นอยู่และวัฒนธรรมชุมชนในบริบท อำเภอเชียงคาน
-
18.00-21.00 น. ร่วมงาน "สังสรรค์น้อง-พี่ บริหารการศึกษา"
>>>
พร้อมนี้...ขออนุญาตนำภาพกิจกรรมบางส่วนมาฝากคะ
พิธีไหว้ครู
การบรรยายพิเศษ "การปฏิรูปการศึกษาไทยในทศวรรษที่ 2 : ปัจจัยเงื่อนไขสู่ความสำเร็จ" โดย ศาสตราจารย์ ดร.ธีระ รุญเจริญ
การศึกษาดูงานการจัดการศึกษาของโรงเรียนจุฬาภรณราชวิทยาลัยเลย
การศึกษาความเป็นอยู่และวัฒนธรรมชุมชนในบริบท อำเภอเชียงคาน (แก่งคุดคู้, บ้านเจ้าคำ)
- - - - - - - - - - - - - -
จากกิจกรรมดังกล่าว ผู้เขียนขอเล่ารายละเอียดที่น่าสนใจ 2 กิจกรรม เพิ่มเติม คือ
1. การบรรยายพิเศษ "การปฏิรูปการศึกษาไทยในทศวรรษที่ 2 : ปัจจัยเงื่อนไขสู่ความสำเร็จ" โดย ศาสตราจารย์ ดร.ธีระ รุญเจริญ ...ผู้เขียนขอสรุปสาระสำคัญที่พอจับใจความได้พอสังเขป ดังนี้...
การปฏิรูปการศึกษารอบสอง (2552-2561)
มีการศึกษาผลของการปฏิรูปการศึกษาในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา ซึ่งพบปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น เช่น ปัญหาคุณภาพ, ปัญหาการผลิตและการพัฒนครู, ปัญหาประสิทธิภาพการบริหารและจัดการศึกษา, ปัญหาโอกาสทางการศึกษาระดับต่างๆ, ปัญหาความไม่พร้อมของท้องถิ่นในการจัดการศึกษา, ปัญหาการขาดแคลนกำลังคนในระดับกลาง, ปัญหาการด้อยประสิทธิภาพในการใช้งบประมาณ, ปัญหาการใช้ ICT น้อย, และการไม่สามารถบังคับใช้กฎหมาย ซึ่งก่อให้เกิดผลในการปฏิบัติเชิงโครงสร้างมากกว่าคุณภาพจากที่กำหนดไว้
ทั้งนี้ จากการศึกษาวิจัยฯ ดังกล่าว ได้มีการจัดทำข้อเสนอแนะในการปฏิรูปการศึกษาในทศวรรษที่สอง ดังนี้คือ
1) เน้นการพัฒนาการศึกษาและการเรียนรู้
การพัฒนาการศึกษาและการเรียนรู้ของการจัดการศึกษาไทยจะต้องเน้นการเชื่อมโยง สู่ระบบอื่นๆ เป็นสหวิทยาการมากขึ้น เน้นการเรียนรู้ได้ตลอดชีวิต มีความใฝ่รู้ใฝ่เรียน มีทักษะการคิด มีคุณธรรมนำความรู้ มีการสนับสนุนให่เกิดการเรีนรู้อย่างเหมาะสม เต็มศักยภาพ รวมทั้งส่งเสริมให้มีปัจัจัยที่เอื้อต่อการเรียนรู้ ทั้ง ครู ผู้ปกครอง ชุมชน รวมทั้งสื่อมวลชนอีกด้วย
2) ส่งเสริมให้คนไทยเรียนรู้ตลอดชีวิตอย่างมีคุณภาพ
การจดการศึกษาที่มุ่งเน้นให้คนไทยสามารถเรียนรู้ได้ตลอดชีวิต ภายในปี 2561 ให้เน้นคุณภาพ 3 ประการ คือ
(1) พัฒนาคุณภาพและมาตรฐานการศึกษาและการเรียนรู้
(2) ได้รับโอกาสทางการศึกษาและการเรียนรู้เพิ่มขึ้น
(3) ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน
กรอบการปฏิรูปการศึกษาในทศวรรษที่ 2
ให้มีการปฏิรูปการศึกษาให้มีประสิทธิภาพ ทั้ง 3 ด้าน คือ
(1) ปฏิรูปการศึกษาและการเรียนรู้อย่างเป็นระบบ
(2) เพิ่มโอกาสทางการศึกษา
(3) ส่งเสริมการมีส่วนร่วมในการบริหารจัดการศึกษา
ทั้งนี้ เพื่อพัฒนาคนไทยให้มีคุณภาพ โดยพัฒนาผู้เรียนเป็นสำคัญ ให้เกิดคุณลักษณะ 4 ใหม่ คือ
- พัฒนาคุณภาพคนไทยยุคใหม่ ให้มีคุณลักษณะใฝ่รู้ใฝ่เรียน สามารเรียนรู้ด้วยตนเองและแสวงหาความรุ้อย่างต่อเนื่องตลอดชีวิต ริเริ่มสร้างสรรค์ มีจิตสาธารณะ มีระเบียบวินัย คำนึงถึงประโยชน์ส่วนรวม สามารถทำงานเป็นกลุ่ม มีศีลธรรม คุณธรรมที่ดีงาม
- พัฒนาคุณภาพครูยุคใหม่ โดย การพัฒนาระบบผลิตครู คณาจารย์และบคลากรทางการศึกษา และพัฒนาครูและบคลากรทางการศึกษาที่มีอยู่ให้มีคุณภาพมากขึ้น
- พัฒนาคุณภาพสถานศึกษาและแหล่งเรียนรู้ยุคใหม่ ให้สถานศึกษาบริหารจัดการอย่างอิสระ การกำกับดูแลสถานศึกษาให้มีคุณภาพ ตลอดจนการสรรหาแต่งตั้งและประเมินเป็นไปอย่างโปร่งใสปราศจากอิทธิพลจากภายนอก รวมทั้งการกำหนดขนาดของสถานศึกษา การใช้ ICT ที่สำคัญที่สุด คือการจัดสิ่งแวดล้อมในสถานศึกษา ให้มีความเหมาะสมต่อการเรียนรู้
- พัฒนาคุณภาพการบริหารจัดการใหม่ เน้นการกระจายอำนาจสู่สถานศึกษา เขตพื้นที่การศึกษา และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สร้างกระบวนการมีส่วนร่วมของทุกคน ทุกฝ่าย ทุกภาคส่วน มีระบบการบริหารจัดการตามหลักธรรมาภิบาล เป็นต้น
2. การศึกษาดูงานการจัดการศึกษาของโรงเรียนจุฬาภรณราชวิทยาลัยเลย และศึกษาความเป็นอยู่และวัฒนธรรมชุมชนในบริบท อำเภอเชียงคาน ...ผู้เขียนขอสรุปสาระสำคัญของกิจกรรมพอสังเขป ดังนี้...
โรงเรียนจุฬาภรณราชวิทยาลัย เลย เป็นกลุ่มโรงเรียนวิทยาศาสตร์ที่จัดตั้งขึ้นจากวัตถุประสงค์ของกระทรวงศึกษาธิการ เพื่อสนองพระราชประสงค์ของสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี ที่ทรงมุ่งมั่นจะส่งเสริมคุณภาพชีวิต ในด้านความเป็นอยู่และการศึกษาของเยาวชน โดยเฉพาะเยาวชนที่อยู่ห่างไกล ปัจจุบันเป็นโรงเรียนที่อยู่ในแผนและยุทธศาสตร์ สำหรับนักเรียนที่มีความสามารถพิเศษเฉพาะด้านวิทยาศาสตร์-คณิตศาสตร์ แลเทคโนโลยี โดยจัดการเรียนการสอนตั้งแต่ระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น - ตอนปลาย ประกาศจัดตั้งเมื่อวันที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2537 เปิดรับนักเรียนครั้งแรก ในปีการศึกษา 2538 และเป็นโรงเรียนประเภทสหศึกษา ทั้งประจำ และ ไป-กลับ
จุดเน้นแนวทางการจัดการศึกษาของโรงเรียน
1. เร่งรัด คุณภาพการเรียนการสอน โดยพัฒนากระบวนการเรียนรู้ที่เน้นนักเรียนเป็นศูนย์กลาง ให้ได้มาตรฐานโดยนำเทคโนโลยี มาใช้ในการดำเนินงานและเน้นการประเมินสภาพจริงอย่างเป็นระบบ
2. เสริม สร้างบรรยากาศการเรียนรู้ ให้นักเรียนได้เรียนรู้ด้วยตนเอง อย่างหลากหลายต่อเนื่อง และพัฒนาสภาพแวดล้อมให้เอื้อต่อการเรียนการสอน
3. เสริมสร้างวินัย คุณธรรม จริยธรรม อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะความรับผิดชอบ และค่านิยมที่เหมาะสมกับวิถีชีวิตไทย
4. ป้องกันและแก้ไขปัญหาสารเสพติด
5. ส่งเสริมการจัดกิจกรรมเพื่อให้นักเรียนเป็น “คนดี คนเก่ง” ทั้งนี้เพื่อให้นักเรียนได้มีส่วนร่วมในการปฏิบัติกิจกรรม ได้ร่วมคิด ร่วมทำ จนเกิดนิสัยรักการเรียนรู้