ผมเป็นครูตั้งแต่เรียนจบการศึกษาปริญญาตรี ประมาณปี 41 แต่ตลอดมาไม่เคยคิดที่จะเป็นครูเลย ผมเป็นครูอัตราจ้างอยู่ประมาณ 6-7 ปี ทำงานไปแบบเสียไม่ได้ แล้วก็ได้บรรจุในต้นปี 47 ผ่านมา 6 ปี การทำงานก็ทำงานตามหน้าที่ จนวันหนึ่งผมได้เจอหนังสือเล่มหนึ่งมีประโยคสั้นๆ เขียนไว้ว่า "จงรักในสิ่งเราทำ เมื่อไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้" ก็ทำให้ฉุกคิดขึ้นมาได้ว่า เราเป็นครูมาก็หลายปี ความรู้สึกรักในอาชีพทำไมมันมีน้อยเหลือเกิน คิดไปคิดมา จนพบว่า ที่เป็นเช่นนี้เพราะยังห่วงและยังคิดถึงอาชีพที่เราชอบและอยากทำ จึงทำให้ความเป็นครูมันไม่ก่อขึ้นในใจเสียที
วันหนึ่งมีเด็กหนุ่มเดินเข้ามาทักเมื่อผมไปตลาดในตัวเมือง "อาจารย์ครับจำผมได้ไหม แต่ก่อนที่อาจารย์สอนผมตอนอยู่ ปวช." ผมงงไปพักหนึ่ง เด็กหนุ่มพูดต่อ "แต่ก่อนผมไม่ชอบเรียนวิชาอาจารย์" ผมสอนคณิตศาสตร์ "แต่ตอนนี้ผมนั่งหน้าห้องไม่นั่งหลังห้องแล้วครับ เพราะผมเรียนวิศวะช่างยนต์ครับ" ผมฉุกคิดขึ้นมาว่า นี้คือผลผลิตของเรา และจากวันนั้นมีลูกศิษย์ที่ผมเคยสอนหลายคนได้ดิบได้ดี และกลับมาหา และหลายคนเป็นข้าราชการ บางคนเป็นครูก็มี นั้นเอง มันทำให้ผมมีความสุขมากเลยทีเดียว ความเป็นครูมันผุดขึ้นมาในสมองผม "เมื่อผมทำในสิ่งที่ผมรักไม่ได้ ผมต้องรักในสิ่งที่ผมกำลังทำ"
จากวันนั้น ผมมาโรงเรียนตั้งแต่เช้า แต่ละวันไม่เกิน เจ็ดโมงเช้า จากปกติ มาเกือบ สองโมงครึ่ง ทุกอย่างเปลี่ยนไป ซึ่งพอสรุปไดว่า
"ผมมีความสุขกับการได้มาโรงเรียน"
"ผมมีความสุขกับการตื่นขึ้นมาเป็นวันจันทร์ถึงวันศุกร์"
"ผมรู้สึกเบื่อและเหนื่อยหน่ายถ้าวันไหนไม่ได้มาโรงเรียน"
"ผมมีความสุขเมื่อเห็นรอยยิ้มของเด็กๆ และเห็นเขาเรียนหนังสือ"
"ผมมีความสุขที่ได้ให้ความรู้กับเด็กๆ ไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็แล้วแต่"
สุดท้ายผมจึงเข้าใจว่านี้คือ "ความเป็นครู ที่สร้างครู ให้เป็นครู" นั้นเอง
แล้วคุณครูทุกท่านคิดแบบผมหรือเปล่าครับ แล้วในเวลานี้ท่านคิดอย่างไร?
ไม่มีแบบทดสอบใดที่สามารถวัดความเป็นครูได้ดีไปกว่าวันเวลาที่ผ่านไปในแต่ละวัน แต่ละเดือน แต่ละปีที่ทำหน้าที่ครู
ณ วันนี้ ท่าน ว่า ที่ ผอ.อุดมการณ์ ยังเหมือนเดิมไหมคะ