เมื่อคืนวันที่ ๒๑ กว่าหนูจะเข้านอนก็ห้าทุ่มกว่า ๆ ค่ะครู
ทุกครั้งที่ตั้งใจทำอะไร สมองจะไม่หยุดคิด หยุดพิจารณา การเข้านอนจึงยากลำบากอยู่ เพราะในหัวไม่หยุดคิด ทำให้นึกถึงการนอนภาวนาที่ครูเคยพาทำ ตอนเข้าร่วมกระบวนการ จึงงัดขึ้นมาใช้
“ตามลมหายใจ แล้วก็นอนดูท้อง ไปเรื่อย ๆ”
หลับสนิท.....ขอบพระคุณค่ะครู
หนูทบทวนดูทุกครั้งที่หนูตั้งใจทำอะไรสักอย่าง ความคิดมันจะปรากฏขึ้นมาเอง เหมือนมันดันมาจากข้างใน แล้วก็คิด ๆ ๆ บางทีก็แว๊บหายไปเฉย ๆ แล้วก็โผล่มาคิดใหม่
ตื่น เช้าวันที่ ๒๒ ประมาณตีสี่ หนูก้มลงกราบสามครั้งนั่งขัดสมาธิภาวนา เป็นสิ่งที่ช่วงหลัง ๆ มานี้ดูจะคุ้นเคยสักพักค่อยลงจากเตียงไปดูแลตนเอง ประมาณตีสี่กว่า ๆ ไปวิ่งออกกำลังกาย วันนี้อาบเหงื่อค่ะครู ตั้งใจชาร์ทพลังงานให้ตนเองเพราะต้องใช้พลังเยอะในการทำปฏิบัติการให้อาจารย์ดู และตอบคำถามเกี่ยวกับการขอรับรอง
อาบน้ำเสร็จขึ้นไปกราบพระบนห้องพระ สวดมนต์ทำวัตรเช้า
อย่างที่หนูเล่าให้ครูฟังในฉบับก่อนหน้านี้ หนูเข้ารับการตรวจรับรอง ๑๗๐๒๕ แบบไม่ได้ตั้งตัว ไม่ได้เตรียมตัวเตรียมใจ ขณะที่คนอื่น ๆ เขาเตรียมกันเป็นปี ๆ ถามว่าหนูเครียด กังวล ตื่นเต้นไหม มีค่ะครู แต่มาแป๊บ ๆ จนพี่ที่ทำงานทักว่า "แทบดูไม่ออก"
แต่หนูก็สารภาพว่า
"ก็มีอยู่นะคะ แต่เหมือนกับว่า ความดีใจมันก็มี
ความดีใจที่ได้มีส่วนร่วม
ความดีใจที่ได้ แทนคุณที่ทำงาน
ความดีใจที่ได้แทนคุณพี่ ๆ ที่เมตตาสอนการทำงาน
ครั้งนี้เหมือนได้รับโอกาส
พอหนูเปิดใจให้ความดีใจหล่อเลี้ยง ความกังวล ความเครียดเลยเข้ามาได้ไม่นานค่ะครู
สิ่งที่หนูทำคือ ตั้งใจ ประคองสติให้มั่น เอาใหม่ ตอนที่ดูดสารละลายปรับปริมาตรมือสั่น หนูได้ยินเสียงข้างในที่บอกตนเองว่า
“ฉันคือ ความตื่นเต้น”
“ฉันคือ ความอยากหายตื่นเต้น”
แล้วก็รู้สึกผ่อนคลาย กลับมาที่ลมหายใจ แล้วก็ทำงานต่อไป
เครื่อง HPLC นิ่งได้เร็วกว่าปกติอย่างมหัศจรรย์เพราะตั้งแต่ทำงานวิเคราะห์มา ไม่เคยเร็วขนาดนี้
ได้ผลออกรวดเร็ว ข้อบกพร่องที่ต้องแก้ไข โดยส่วนใหญ่เป็นเรื่องเอกสาร ที่สามารถแก้ไขได้ หนูได้เรียนรู้กับสองวันนี้ว่า
“ถ้าเราไม่หนี เราจะได้กำไรกับทุกสิ่งที่เกิดขึ้น กำไรเรียนรู้ทั้งภายนอกและภายใน”
เพราะการลงมือทำปฏิบัติการครั้งนี้ หนูไม่มีความคาดหวังอะไรเลย ข้อบกพร่องในตนเองก็เห็นได้ชัดขึ้น เพราะอาจารย์มาช่วยชี้ และให้แนวทางแก้ไข ถ้าเป็นเมื่อก่อนหนูคงจะหนี ไม่มีชื่อตนเองก็คงงอน โกรธ ไม่พอใจ พาล แล้วก็จะมีคำพูดที่สะท้อนถึง โทสะ ต่อว่า ระบบการขอรับรองว่าไม่จำเป็นเพียงใด ดูเหมือนเหตุผลมาทีหลังเสมอ หนูหลบเลี่ยงสิ่ง ๆ นี้มาสามสี่ปีแล้ว แต่ครานี้มาเจอจัง ๆ ก็ประทับใจกับสิ่งที่เกิดภายในตนเองทั้ง องค์ ความรู้และการยอมรับกับตนเองถึงข้อบกพร่องที่ต้องปรับปรุงแก้ไขค่ะ
แต่ก็เห็นใครหลายคน หลบเลี่ยง หาวิธีเลี่ยง หนูไม่รู้ว่า “ท่านรู้ตัวรึเปล่า”
แต่เห็นท่านแล้วก็ยิ่ง สะท้อนใจ ตนเองในอดีตชัดเจนว่า “ไม่ต่างจากท่าน”
แท้ที่จริงไม่มีอะไร แต่คนเหล่านี้สร้างภาพไว้หลอกตนเองว่า มันน่ากลัวแล้วก็หนี ยอมรับในตนเองไม่ได้ ถ้าเป็นเมื่อก่อนหนูคงโกรธที่ท่านทำแบบนี้ หลบเลี่ยง หลบหนีทั้ง ๆ ที่เป็นคนสำคัญ เป็นคนมีอำนาจในการตัดสินใจ แต่หนูเชื่อว่า
“ทุกคน จะได้รับผลของการกระทำของตนเอง เพียงแค่ทำให้ดีที่สุดเท่านี้ก็กำไรค่ะครู”
ตกเย็นกว่าจะสรุปข้อบกพร่องสรุปงาน แล้วก็ส่งผู้ตรวจประเมินกลับก็เกือบ ๆ จะหกโมงเย็น หนูแทบหมดแรงค่ะ ร่างกายมันเหนื่อย แต่ใจก็ไหวอยู่ โทรหาน้องที่ mail มาปรึกษาคุยกันจนหนูขับรถกลับบ้าน วางสายปุ๊บหนูนั่งลงภาวนา แล้วก็เดินจงกรม ในบ้านเพราะฝนตก แต่ร่างกายอ่อนแรงมาก ๆ ค่ะ ว่าจะพักสายตาสักหน่อย แต่หนูก็หลับสลบไป
ว่าด้วยศีล
ข้อที่หนึ่ง หนูเบียดเบียนตนเองโดยการใช้ร่างกายหนัก พอทราบก็พยายามน้อมรับแล้วก็ชาร์ทพลังงานให้ตนเองด้วยการวิ่งภาวนา และประคองสติกับลมหายใจ
ข้อสอง หนูไม่ได้ลักทรัพย์ แถมครานี้ทำงานแบบไม่คำนึงถึงเวลาค่ะครู เหมือนได้คืนกำไรให้หลวงยังไงอย่างงั้น
ข้อสาม ใจจดจ่อกับการทำงานและการตรวจประเมิน ศีลข้อนี้จึงไม่ได้ถูกตรวจสอบ อืม.....แต่คนที่หนูได้ปฏิสัมพันธ์ท่านเป็นชายที่มีกิริยาคล้ายหญิง ใจหนูก็นึกย้อนสอนตนเองว่า “ถ้าหนูทำผิดศีลข้อสามเป็นนิจก็จะเป็นไม่ค่อยต่างจากท่านเท่าไหร่” เหมือนท่านมาเป็นครูสอนใจค่ะ
ข้อสี่ ข้อนี้หนูยังนินทา อืม........เหมือนเป็นการพูดเชิงตำหนิแบบลับหลังอยู่ค่ะครู แต่ไม่ได้พูดด้วยโทสะที่พุ่งกระฉูดแต่เป็นเหมือนการเรียนปรึกษาว่า เห็นตรงกันไหม แล้วเราจะช่วยกันอย่างไร ช่วยเขาอย่างไร ประมาณนี้ค่ะครู แต่เราทั้งหมดก็สรุปและเชื่อว่า
“เมื่อเวลาที่กรรมให้ผล คนหมดสิทธิ์ต่อรอง”
แม้กระทั่งตัวหนูเองก็ได้รับผลของการกระทำแห่งตนเองทั้งสิ้น ทั้งด้านบวกและด้านลบ เหมือนมันแยกกัน แต่มันก็เกื้อกูลกันค่ะครู เช่น
ตอนที่กรรมดำให้ผล หนูทำงานชุ่ย มีข้อบกพร่องต้องแก้ไขเรื่องเอกสาร แต่ด้วยที่ได้รับการบ่มเพาะนิสัยจากครู ทำให้เปิดใจรับฟังข้อบกพร่องแล้วน้อมนำมาแก้ไข หนูรู้สึกว่า ทั้งหมดมันเกื้อกูลกันเองอยู่ภายในค่ะครู
ศีลข้อห้า หนูไม่ดื่มเหล้า การที่มุ่งมั่นจดจ่อกับงาน ทำให้หลงสั้น ลืมอะไรน้อยลง ค่ะครู
กราบขอบพระคุณครูค่ะ
สวัสดี ครับ
ชอบกลวิธีการเล่าเรื่องราวมากครับ
เหมือนกับได้ร่วมอยู่ในเหตุการณ์
และขอให้กุศล จาก...
เรื่องราวที่แบ่งปัน
และแก่นการปฏิบัติตนของ
"คุณใบไม้ร้องเพลง"
จงมีความสุข และความเจริญ
เป็นกำลังใจให้นะครับ