คิดถึงตลาดโบราณศาลเจ้าโรงทอง...


ณ วันนี้ตลาดเก่าแก่แห่งนี้ที่ครั้งหนึ่งเคยเหลือแต่ซาก ได้ถูกฟื้นฟูขึ้นกลับมาอีกครั้งด้วยความร่วมมือร่วมใจของทุกๆ ฝ่าย ตลาดศาลเจ้าโรงทอง หวลกลับมามีชีวิตชีวา เป็นชุมชนที่งดงามขึ้นอีกครั้ง และยังรอผู้คนจากทั่วสารทิศมาเยือนชุมชนแห่งนี้...ตลาดโบราณศาลเจ้าโรงทอง......

 

            บ่ายสามโมงครึ่งของเย็นวันศุกร์วันหนึ่ง หลังจากโรงเรียนแถวบ้านที่ผมเรียนอยู่ตอนประถมเลิก ผมก็รีบขี่รถจักรยานกลับบ้าน มารอพี่คนโตกลับมาจากเรียนที่โรงเรียนในอำเภอ

                “ได้มาปล่าว ?” ผมรีบถามพี่ทันทีมี่มาถึง

                “ลืมว่ะ!  เดี๋ยวอาทิตย์หน้าพี่ไม่ลืมแน่”  พี่มันบอกผมเป็นครั้งที่ 3

                “โห่อะไรวะ 2 อาทิดแล้วน่ะ ลืมตลอด”  พูดไปก็ดูเหมือนน้ำตาจะคลอๆ ความฝันผมพังทะลายลงทันทีเลยครับ  ก็รอมาตั้งสองอาทิตย์แล้วอ่ะ  ตอนผมเป็นเด็กผมเป็นเด็กที่ไม่มีของเล่นครับ และผมก็ไม่ชอบเล่นของเล่นเหมือนเด็กคนอื่นๆ แต่ผมชอบปลูกต้นไม้จัดสวนเล็กๆ เลี้ยงปลา เลี้ยงหมาของผมไปเรื่อย ปลาดูเป็นสัตว์เลี้ยงที่ดูเหมือนว่าผมจะชอบมากที่สุดในเวลานั้น  ตอนนั้นผมอยากได้ปลากัดจีนมากๆ รอให้พี่ซื้อมาจากตลาดที่อำเภอก็ลืมทุกที

 

               ผมเป็นเด็กบ้านนอกมั้งครับนานๆ ครั้งถึงจะมีโอกาสได้ไปตลาดในอำเภอซักครั้ง สมัยก่อนมีรถเมล์ผ่านหน้าบ้านที่เป็นถนนลูกรังทุกวัน บ้านเรายังไม่มีรถยนต์ แม่ผมเป็นครูโรงเรียนแถวบ้านก็ขี่จักรยานไปสอน  นานๆ ครั้งถึงจะได้ตามแม่ไปตลาดในอำเภอวิเศษฯซักครั้ง  ไปแต่ละครั้งมันสนุก มีความสุขเหลือเกินในความคิดตอนเด็กๆครับ เพราะมาแต่ละที่แม่จะพามากินก๋วยเตี๋ยวไส้เนื้อในตลาดเจ้าเก่าแก่ มันดีกว่าก๋วยเตี๋ยวโรงเรียนชามละบาทมากๆ ขนมหวานเย็นชื่นใจ  และก็มีร้านขายปลาสวยงามด้วย ผมอยากจะให้โตไวๆ จะได้มาเรียนต่อมัธยมในตัวอำเภอซักที

 

                แล้ววันหนึ่งผมก็ได้มาเรียนต่อมัธยมในอำเภอจริงๆ ซักที โรงเรียนที่ผมเรียนเป็นโรงเรียนประจำอำเภอครับ ชื่อโรงเรียนวิเศษชัยชาญ “ตันติวิทยาภูมิ” ผมเป็นเด็กเรียนดีพอควรครับ พ่อแม่ผมเป็นครูแต่ก็ไม่เคยสอนการบ้านผมซักที แม่ว่าสมัยแม่เรียนตากับยายก็ไม่เคยสอน ผมได้อยู่ห้องหนึ่งจากเด็กทั้งหมดสิบห้อง รถที่นั่งมาเรียนเป็นรถสองแถวของคนแถวบ้านครับ มารับถึงหน้าบ้านเลย ทุกๆ วันอังคารจะมีตลาดนัดที่วัดนางในครับ เด็กตันติเรามักจะเรียกกันว่า นางในพลาซ่า ส่วนวันศุกร์ตอนเย็นรถจะแวะตลาดศาลเจ้าโรงทองให้พวกเราเดินซื้อของกันครั้งหนึ่ง (แต่ผมติดเรียกตลาดวิเศษครับ)

                 

          ตลาดศาลเจ้าเป็นตลาดเก่าแก่ครับ มีทั้งหมดสามตลาดติดต่อกัน คือตลาดเหนือ ตลาดกลาง และตลาดใต้ ด้านท้ายตลาดติดแม่น้ำน้อยครับ มีท่าเรือโดยสารข้ามฟากที่ไม่ใช้เครื่องยนต์ใช้แรงกลไปกลับ 1 บาท เป็นตลาดเก่าแก่ครับ ผมชอบเดินนะคนไม่ค่อยเยอะเท่าตลาดด้านหน้า ซึ่งส่วนใหญ่ในตลาดเก่าจะเป็นร้านขายยาจีน มีหลายร้านครับ ร้านขายเครื่องจักสาน ร้านเช่าหนังสือนิยาย การ์ตูน ร้านขายขนมเล็กแต่อร่อยๆ เป็นต้นไม่คึกคักเท่าด้านหน้าซึ่งส่วนใหญ่เป็นร้านที่ขายกับข้าว อาหารการกิน เสื้อผ้า ร้านขายขนมที่มีชื่อเสียงโด่งดัง  อีกมากมายจิปาถะบรรยายไม่ไหว  แต่สำหรับนักเรียนอย่างเราส่วนใหญ่ที่ชอบซื้อกันมากในเวลานั้นก็คือ ไส้กรอกหมูข้างๆ ธนาคารกรุงเทพ ร้านนี้อร่อยมากๆ แต่แพงไปนิดในความคิดผมตอนนั้น 20 บาทได้แค่ 14 ลูกเท่านั้น ลูกชิ้นปิ้ง และน้ำปั่นข้างๆ ร้านต้นมะขามช่างทอง  พอนักเรียนไปซื้อของตามใจตัวเองมากันครบก็นั่งรถกลับบ้านมีความสุขดีครับ

 

 

            จนปีสุดท้าย ผมเริ่มโตขึ้นกว่าเก่าเยอะตอนม.1 ผมตัวเล็กอยู่แถวหน้าๆ ตอนม.6 ผมอยู่ท้ายแถวล่ะครับ ผมเรียนรู้ และรู้อะไรมากขึ้น และผมก็รักตลาดศาลเจ้ามากขึ้นทุกวัน ผมเริ่มรู้ว่าตาลศาลเจ้าโรงทองนั้นไม่ได้มีดีแค่ ไส้กรอกหมู  ลูกชิ้นปิ้ง น้ำปั่นแสนอร่อย  และร้านขายปลาสวยงาม แต่มีอะไรดีๆ อีกตั้งหลายอย่าง เช่น ร้านอาหารขนมไทยโบราณที่มีขนมไทยโบราณหลายชนิดเช่น จ่ามงกุฏ ข้าวเหนียวมูล ทองเอก ข้าวตู ข้าวตัง บ้าบิ่น กระยาสารท และอีกหลายชนิด รวมทั้งลำเจียกด้วย ซึ่งจะหาทานที่ไหนไม่ได้นอกจากตลาดศลาเจ้าเท่านั้น กรรมวิธีในการทำก็แสนสุดจะพิสดารน่าประหลาดใจ ขนมครกทรงเครื่องคุณพัชรีที่หอมอร่อยเหลือหลาย  อาหารและขนมไทยจากตลาดศาลเจ้าฯ โด่งดังไปถึงเมืองบางกอกโน่น อาหารสด ผักผลไม้ เนื้อสัตว์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งปลาจากแม่น้ำหลากหลายชนิด บ่งบอกถึงความอุดมสมบูรณ์ของแขวงเมืองวิเศษไชยชาญของผมครับ

 

                นอกจากอาหารและขนมไทย ที่ตลาดศาลเจ้าฯ ยังมีร้านขายยาจีนโบราณ  ร้านขายศิลปวัตถุโบราณ เรือนไม้โบราณเก่าแก่ตามสถาปัตยกรรมจีนที่ส่วนใหญ่มีลายฉลุเป็นลวดลายต่างๆ เช่น ลายมังกร ลายดอกพุดตาล สวยงาม นักท่องเที่ยว คนที่ชอบบรรยากาศแบบเก่า อดไม่ได้ที่จะมาแวะเวียนตามหาบรรยากาศแบบนั้น ตลาดศาลเจ้าฯ มีร้านทองโบราณที่โด่งดังมาก   และเป็นที่มาของชื่อตลาดแห่งนี้ว่า ศาลเจ้าโรงทอง ก็เพราะด้วยว่าตลาดแห่งนี้มีศาลเจ้าอยู่หลายแห่งเนื่องจากแต่เดิมมีคนจีนเป็นอาศัยเป็นส่วนใหญ่  และมีร้านขายทองและโรงทำทองรูปพรรณอยู่หลายแห่ง แต่ที่เห็นจะมีชื่อเสียงมากจนถึงปัจจุบันเห็นจะเป็นร้านต้นมะขามช่างทอง ร้านนี้เป็นร้านทองที่ผลิตและทำทองรูปพรรณสวยงามและมีคุณภาพมาก ผลิตมากว่าร้อยปีแล้วล่ะครับ ราคาอาจจะสูงกว่าที่อื่นนิดหนึ่งแต่ไม่ผิดหวังหรอกครับ ทองสวยฝีมือปราณีต ซึ่งเดี๋ยวนี้มีสาขาที่ศูนย์การค้าอยุธยาพาร์ค และไปไกลถึงบางกอกโน่นน่ะครับ

 

 

                จากด้วยความที่เป็นชุมชุนตลาดเก่าแก่ มีวัฒนธรรม วิถีชีวิต แบบดั้งเดิมที่น่าสนใจ  น่าท่องเที่ยวจนหลายๆ ภาคส่วนไม่ว่าจะเป็นภาครัฐ  การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ภาคเอกชน  องค์กร มูลนิธิต่าง ๆ วางแผนพัฒนาตลาดศาลเจ้าโรงทอง ในการท่องเที่ยวเชิงวิถีชีวิตและวัฒนธรรม  ทำให้ตลาดที่ดูใกล้หมดลมหายใจการค้าเงียบเหงา เนื่องจากการตั้งห้างค้าปลีกขนาดใหญ่เกิดขึ้นในจังหวัดข้างเคียง เริ่มกลับมามีชีวิตได้ต่อไปอีกระยะหนึ่ง

 

                แต่แล้วคืนวันที่ 5ธันวาคม ราวตี 2 ของเช้าตรู่วันที่ 6 ธันวาคม 2548 ก็เกิดเหตุไฟไหม้ตลาดศาลเจ้าโรงทอง เป็นข่าวใหญ่ในหน้าหนังสือพิมพ์ทุกฉบับ และสำนักข่าวทุกช่อง รายงานเหตุการณ์ไฟไหม้ตลาดศาลเจ้าฯ ขณะนั้นผมกำลังเรียนอยู่ปี 3 วันนั้นเข้าห้องเรียนมาด้วยความสดชื่นอารมณ์ดีกับบรรยากาศยามเช้า  เพื่อนๆ ในห้องถามผมไม่รู้หรือไงตลาดที่วิเศษไฟไหม้ (ผมมีทีวีแต่ไม่ค่อยได้เปิดหรอกครับ  เล่นเน็ตอย่างเดียว) เย็น       วันศุกร์ผมเดินทางกลับบ้านทันทีครับ  ภาพที่ผมเห็นผู้คนหลายร้อยหลังเคาเรือนไม่มีที่อยู่ ร้านค้าเก่าแก ศิลปกรรมโบราณ ภาพที่เคยเห็นในอดีตความทรงจำ มลายหายไปกับพระเพลิงสิ้นครับ มูลค่าความเสียหายหลายร้อยล้านบาท แต่เทียบไม่ได้กับชุมชนเก่าแก่ที่มีวัฒนธรรมประเมินค่ามิได้ ของชาววิเศษไชยชาญเรา

 

                แม้อาคารเก่าแก่ ร้านค้ามากมายหลายหลังมอดไหม้ไปกับกองเพลิงเหลือไว้แต่ความทรงจำ  แต่ภูมิปัญญา วิถีชีวิต  วัฒนธรรมของชุมชนแห่งนี้ไม่ได้มอดไหม้ไปกับกองเพลิงด้วย

 

              ณ วันนี้ตลาดเก่าแก่แห่งนี้ที่ครั้งหนึ่งเคยเหลือแต่ซาก ได้ถูกฟื้นฟูขึ้นกลับมาอีกครั้งด้วยความร่วมมือร่วมใจของทุกๆ ฝ่าย ตลาดศาลเจ้าโรงทอง หวลกลับมามีชีวิตชีวา เป็นชุมชนที่งดงามขึ้นอีกครั้ง  และยังรอผู้คนจากทั่วสารทิศมาเยือนชุมชนแห่งนี้...ตลาดโบราณศาลเจ้าโรงทอง......ที่ยังเข้มแข็ง ดุจเดียวกับบรรพบุรุษวีรชนชาวแขวงเมืองวิเศษไชยชาญของเรา  ที่ครั้งหนึ่งเคยได้สละเลือดเนื้อปกบ้านป้องเมืองเอาไว้......

 

                                             วิเศษไชยชาญ

                             ๐  ที่กิน ถิ่นเก่า                     เป็นเหย้าเป็นย่าน

                                 มีจิตวิญญาณ                   มีชีวิตชีวา

                                 วิเศษไชยชาญ                 สืบสานรักษา

                                 โอ้ อนิจจา                      เสียดาย  เสียดาย

 

                             ๐ ความเอยความหลัง          เมื่อครั้งเคยเยือน

                               มาลับมาเลือน                 แลหาแลหาย

                              สืบเสน่ห์แผ่นดิน               สืบถิ่นทองพราย

                             สืบศักดิ์สืบสาย                  เถิดวิเศษไชยชาญ ....

                                                                  (เนาวรัตน์  พงษ์ไพบูลย์)

 

 

นกขมิ้น

22/09/53 : 15.01

               

 

หมายเลขบันทึก: 397009เขียนเมื่อ 22 กันยายน 2010 15:45 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 23:33 น. ()สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ที่มีมาให้อ่านกันนะคะ พี่ไปเยือนตลาดวิเศษมาหลายครั้งแล้วล่ะค่ะ ขนมเขาอร่อยมาก อร่อยทุกอย่าง

ทั้งข้าวเหนียวมะม่วง ขนมเกสรลำเจียก ขนมบ้าบิ่น ฯลฯ และไส้กรอกหมูข้างธนาคารกรุงเทพ รสชาติดีมาก พูดแล้วหิว ๆ อิอิ...

ลองเข้าบล็อกนกขมิ้นเข้าครัวดิครับ

ผมก็ชอบเที่ยว เพราะสิ่งที่ผมศึกษามันทำให้ต้องเที่ยว แต่ก็โอกาสน้อยนะครับ

แต่ถ้า blog นี้ ลงรูปด้วยจะดีที่สุดเลย

เน็ตช้ามากครับ โหลดไม่ขึ้นเลย มีโอกาสจะนำรูปขึ้นนะครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท