พอวารสารเล่มแรกออกมา ก็เป็นที่ฮือฮากันมากใน มอ. หาดใหญ่ ผมถือวารสารไปเที่ยวอวดคนทั่ววิทยาเขต ดร. พิเชษฐ์ วิริยะจิตรา อาจารย์สาขาเคมี คณะวิทยาศาสตร์ บอกว่าจะช่วยเอาไปเข้า database ของ Chemical Abstarct เพื่อให้เป็นที่ยอมรับของต่างประเทศ และได้เข้าจริงๆ
ไม่ทราบว่าเทวดาไหนดลใจให้ผมไปชวน ดร. ไพศาล เหล่าสุวรรณ คณะทรัพยากรธรรมชาติ ให้มาเป็นบรรณาธิการรอง น่าจะเพราะผมคิดว่าจริงๆ แล้วผมทำวารสารไม่เก่ง หรือไม่มีประสบการณ์ ได้แต่คิดๆ เอา ดูตัวอย่างจากวารสารต่างประเทศที่ผมอ่านจำนวนนับสิบยี่สิบรายชื่อ และดูตัวอย่างที่ดี และตัวอย่างไม่ดีของวารสารไทย เอามาเป็นข้อเรียนรู้และทดลองทำของเราเอง แต่ ดร. ไพศาลมีประสบการณ์ทั้งการทำหนังสือและทำวารสาร มีความรู้ภาษาไทยดีกว่าผม เป็นคนละเอียดกว่าผม
โชคดีที่ ดร. ไพศาลรับเป็นบรรณาธิการรอง เพราะว่าพอทำวารสารได้ ๓ เล่ม ยังไม่ครบปี ผมก็โดนจับตัวไปเป็นคณบดีคณะแพทยศาสตร์ ซึ่งงานหนักสุดฤทธิ์ และเครียดสุดๆ ด้วย ผมจึงลาออกจากบรรณาธิการและดร. ไพศาลเข้ารับหน้าที่แทน จริงๆ แล้ว คนที่ทำให้วารสารสงขลานครินทร์เป็นที่ยอมรับในคุณภาพในช่วงแรก คือ ดร. ไพศาลและคุณนิรันดร์
ที่จริงจะอ้างความดีเฉพาะของฝ่ายทำวารสารก็ไม่ถูกต้องนัก ต้องยกเครดิตให้ผู้บริหารมหาวิทยาลัยด้วย ไม่ว่ายุคไหน จัดงบประมาณหนุนการทำวารสารนี้อย่างไม่ติดขัดเลย ถ้าไม่ได้คนทั้งคนคือคุณนิรันดร์ และมอบหน้าที่ให้ทำวารสารอย่างต่อเนื่อง วารสารนี้ก็จะสำเร็จได้ยาก
ผมโชคดี ได้รับการยกย่องชื่อเสียงในฐานะผู้เปลี่ยนโฉม วางรากฐานของวารสารที่ประสบความสำเร็จฉบับนี้
แต่ที่โชคดีกว่า คือผมได้ ดร. ไพศาล เหล่าสุวรรณเป็นมิตรที่รักกันมาก ดร. ไพศาลมีความสามารถทางการวิจัย ทางกวี เขียนบทกวีเก่ง และเล่นโนราได้ ภายหลังย้ายไปทำงานที่ มทส. เป็นศาสตราจารย์ และเกษียณอายุงานที่นั่น
วิจารณ์ พานิช
๑ กค. ๔๙
พัทยา
ไม่มีความเห็น