กรดแลคติก


กรดแลคติก เป็นของเสียที่เกิดจากขบวนการ anaerobic metabolism หรือการหายใจ
     กรดแลคติก เป็นของเสียที่เกิดจากขบวนการ anaerobic metabolism หรือการหายใจ(การเผาผลาญพลังงาน) ที่ไม่ใช้ออกซิเจน ในกรณีที่ออกซิเจน ไม่เพียงพอ เช่นการออกกำลังกาย หรือทำงานหนักกรดแลคติก จะทำให้กล้ามเนื้อล้า แต่เมื่อพักกรดแลคติก จะถูกเผาผลาญให้พลังงานต่ออีกด้วยขบวนการ aerobic metabolism หรือการใช้ออกซิเจนเหมือนในภาวะปกตินั่นเอง ทำให้เมื่อได้พัก กล้ามเนื้อจะเมื่อยล้าลดลง เล่นต่อได้อีก   
        ถ้ามันสะสมมากๆ อาจจะทำให้เกิดอาการปวดเมื่อยครับ อีกอย่าง การ warm up และ cool down จะช่วยลดปัญหาในเรื่องการบาดเจ็บด้วย การ warm up และ cool down นอกจากจะลดกรดแลคติกที่อาจสะสมตามข้อแล้ว ยังจะช่วยยึดและกระชับกล้ามเนื้ออีกทางหนึ่งดด้วยครับ  ส่วนการกินอาหารหลังเล่นแบด ไม่ควรกินพวกแหนม และใส้กรอกอิสาน เพราะมีกรดแลคติกสูงครับ หรือระหว่างเล่นก็กินกินกล้วยครับ แบบที่นักเทนนิสชอบทำครับเพราะ ในกล้วยมี แมกนีเซียมเยอะดีครับ ทานแล้วจะเป็นตะคริวช้าลงหน่อย (แต่ระวังจุกละกันครับถ้าทานมากไป )   การออกกำลังกายให้ปลอดภัย และได้ผลดีที่สุด คือท่านจะต้องรู้จักวิธีการออกกำลังกายที่ถูกต้องและเหมาะสมกับสุขภาพของตัวท่าน นั่นคือเริ่มปฏิบัติตามขั้นตอนของการออกกำลังกายแบบค่อยเป็นค่อยไป สำหรับข้อแนะนำในการอบอุ่นร่างกายมีดังนี้ครับ

         
          1.การอบอุ่นร่างกายใช้เวลา 5-10 นาทีครับ การอบอุ่นร่างกายเป็นการเพิ่มการเต้นของหัวใจ เพิ่มอุณหภูมิของร่างกาย และเพิ่มการหายใจอย่างช้าๆ การอบอุ่นที่ได้ผลดีร่างกายจะต้องมีอุณหภูมิเพิ่มขึ้น มีเหงื่อออกซึมๆครับ
          2.การอบอุ่นร่างกายที่ดีจะต้องมีการเคลื่อนไหวของข้อโดยเฉพาะข้อที่ใช้ในการออกกำลังครับ เช่นข้อเท้า ข้อเข่า สะโพก หลัง ไหล่ ยืดกล้ามเนื้อที่ใช้ในการออกกำลังกายข้อแนะนำในการยืดกล้ามเนื้อ
          3.การยืดกล้ามเนื้อควรจะทำหลังจากการอบอุ่นร่างกายแล้วครับ
          4.การยืดกล้ามเนื้อควรยืดเฉพาะกล้ามเนื้อที่ใช้เท่านั้นครับ ถ้าเป็นแบดมินตันก็จะเป็นส่วนแขนและขาครับ  และไม่ควรมากไป เพราะจะทำให้หัวใจเต้นลดลง ควรจะเลือกท่ายืนเป็นหลักเพราะจะทำได้เร็วครับ

 
         นอกจากการอบอุ่นร่างกายก่อนการออกกำลังกายอย่างหนักหรือก่อนการแข่งขัน แล้ว ภายหลังการออกกำลังกาย และ/หรือภายหลังการ แข่งขันควรมีช่วงในการค่อยๆปรับลดระดับความหนักของการออกกำลังกายลงช้าๆ ต่อไปประมาณ 5-15 นาที ซึ่งเรียกว่า Cool down ทั้ง น ี้เพื่อให้อุณหภูมิกายค่อยๆ ลดลงระบบหัวใจและ หลอดเลือดของร่างกาย ที่ กำลังทำงาน อย่างหนัก ขณะออกกำลังกายค่อยๆ มีการปรับตัว สู่สภาวะพัก หากหยุดการออกกำลังกายอย่าง หนักทันที จะทำให้เกิดอาการหน้ามืดเป็นลมได้เนื่องจากปริมาณเลือดของ ร่างกายส่วน ใหญ่ จะ ไหลเวียน ไปยังกล้ามเนื้อ ขณะออก กำลังกาย หากหยุดออกกำลังกายทันทีทันใด จะทำให้เลือดที่ไหลเวียนกลับสู่หัวใจ น้อยลงโดย เลือด จะคั่งค้าง อยู่ที่หลอด เลือดภายในกล้ามเนื้อโดยเฉพาะกล้ามเนื้อของขา (Pooling Effect) ส่งผลให้ปริมาณเลือดที่บีบออก จากหัวใจเพอี๋ส่ง ไป ยังส่วนต่างๆ ของร่างกายลดลงโดยเฉพาะสมอง จึงทำให้เกิด อาการหน้ามืดเป็นลมได้ นอกจากนี้การ Cool down ยัง สามารถ ช่วยป้องกัน การเกิดตะคริว และอาการเจ็บปวดกล้ามเนื้อ ภายหลังการออกกำลังกายอันเนื่องมาจาก มีการคั่งค้าง ของ เสียจาก ขบวนการ เผาผลาญ ภาย ใน เซลกล้ามเนื้อได้ ดังนั้นในการออกกำลังกายหรือการแข่งขันกีฬาทุกครั้ง ควรจะ มีช่วงของการอบอุ่น ร่างกาย ก่อนออกกำลังกาย และการ Cool down ภายหลังการ ออกกำลังกาย เพื่อปรับสภาพร่างกาย ให้พร้อมต่อการออกกำลังกายอย่างหนักและ เพื่อป้องกันอันตราย/บาด เจ็บ ที่อาจ เกิด ขึ้นจากการออกกำลังกาย ส่งผลให้ นักกีฬาหรือผู้ที่ออกกำลังกายสามารถพัฒนา สมรรถภาพ ร่างกายได้อย่างมีประสิทธิภาพ และ ปลอดภัย

คำสำคัญ (Tags): #สุขภาพ อนามัย
หมายเลขบันทึก: 395515เขียนเมื่อ 18 กันยายน 2010 14:04 น. ()แก้ไขเมื่อ 15 เมษายน 2012 03:10 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (14)

อ๋อถึงว่าทำไมว่ายน้ำเสร็จแล้วปวดเมื่อยตัว ที่แท้ไม่ได้วอร์มนี่เอง

การออกกำลังการทำให้เรามีสุขภาไดี

เย็นนี้ไปออกกำลังกายดีกว่าเนอะ

ปกติเป็นคนไม่ค่อยออกกำลังกาย จากนี้ไปจะออกกำลังกายเพื่อสุขภาพค่ะ

นอนมากก็ได

ออกกำลังกายมากก็ไม่ดี

เฮ้อ!!!! ชีวิต

ว่าแล้ว ไปวอร์มก่อนไปวิ่งกันดีกว่า

ดีใจนะครับที่บทความของผมเปลี่ยนทัศนะคติการออกกำลังกายได้

หวังว่าทุกคนจะออกกำลังกายกายกันมากขึ้น และสุขภาพแข็งแรงกันทุกคนนะครับ

การออกกำลังกายเป็นผลดีต่อสุขภาพ

ดีค่ะ ปกติไม่ค่อยออกกำลังกายเลยค่ะ

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท