ประเภทของแฟลช


แฟลช

ประเภทของแฟลช

         ไฟแฟลชเป็นอุปกรณ์ที่สำคัญอย่างหนึ่งในการถ่ายภาพ ช่วยให้สามารถถ่ายภาพในที่ ๆ มีแสงสว่างน้อย หรือใน เวลากลางคืนให้ได้ภาพชัดเจน มีสีสันถูกต้องตามความเป็นจริง นอกจากนั้นสามารถใช้แฟลชเพื่อถ่ายภาพ และสร้างสรรค์ งานถ่ายภาพให้น่าสนใจ โดยใช้เทคนิคอื่น ๆ มาประกอบด้วย
หากแบ่งประเภทตามลักษณะการทำงานของแฟลชแล้วสามารถแบ่งเป็น 2 ประเภท คือ

1. แฟลชหลอด (Bulb Flash) ประกอบด้วยตัวหลอดที่ทำด้วยแก้วใสบางฉาบด้วยพลาสติคใสสีฟ้าหรือสีน้ำเงินภายในหลอดบรรจุด้วยลวดโลหะพวกอลูมิเนียม (Aluminium) หรือเซอร์โคเนียม (Zirconium) ทำเป็นเส้นเล็ก ๆ มากมาย และมีก๊าซออกซิเจนช่วยในการเผาไหม้ ภายในจะมีใส้หลอด เมื่อใส้หลอดลุกไหม้ถึงที่สุด (Peak) แล้วจะค่อย ๆ ดับลง ซึ่งความสว่าง (Flash Duration) นั้นอยู่ระหว่าง 1/200 ถึง 1/25 วินาที มีจานสะท้อนแสงเป็นตัวสะท้อน และอีกชนิดหนึ่ง เป็นแบบลูกเต๋า (Cube) ภายในบรรจุหลอดเล็ก ๆ 4 หลอดเมื่อหลอดใดทำงานตัวแฟลชจะหมุนไป นอกจากนั้นอาจมีแฟลชที่เรียงลำดับแถว เรียกว่า ฟลิปแฟลช (FlipFlash) อย่างไรก็ตามถ้าหากจะแยกช่วงเวลาของความสว่างเป็นเกณฑ์แล้ว แฟลชหลอดมีอยู่ 4 พวก คือ

          1. F (Fast Peak) มีช่วงความสว่างสั้นมากและแรงส่องสว่างค่อนข้างน้อย ความสว่างถึงจุดสูงสุดภายในเวลา 0.005-0.009 วินาที นับจากการกดสวิทช์ ดังนั้นเมื่อใช้ความเร็วกับแฟลชชนิดนี้ สามารถใช้กับความเร็วของชัตเตอร์ได้สูงถึง 1/100 หรือ 1/125 วินาที
          2. M (Medium Peak) ให้ความสว่างนานกว่าประเภทแรก และช่วงเวลาในการลุกไหม้ปานกลาง คือ ให้ความสว่างถึงจุดสูงสุดภายในเวลา 00.18-00. 24 วินาที ฉะนั้นใช้ความเร็วชัตเตอร์ได้ไม่เกิน 1/50 ปกติจะใช้ 1/60 วินาที แต่ถ้าหากอยากให้สว่างมากกว่านั้นอาจใช้ 1/30 วินาทีก็ได้
          3. S (Slow Peak) ให้ความสว่างถึงจุดสูงสุดภายในเวลา 0.03 วินาที ถือได้ว่าเป็นการลุกไหม้นานที่สุดและให้กำลังส่องสว่างสูงมากเหมาะสำหรับ การใช้กล้องในสตูดิโอ และการใช้เทคนิคในการถ่ายภาพแบบเปิดแฟลช (Open Flash) โดยไม่ต้องต่อสายแฟลชความเร็วชัตเตอร์ที่เหมาะกับแฟลชชนิดนี้ประมาณ ไม่เกิน 1/25 หรือ 1/30 วินาที
          4. FP (Focal Plane) ให้แสงในช่วงลุกไหม้อย่างสม่ำเสมอให้ความสว่างถึงขีดสูงสุด ภายในเวลา 0.016-0.018 วินาที เหมาะในการใช้กับกล้องแบบ ม่านชัตเตอร์ใช้ความเร็วชัตเตอร์ได้ 1/60 วินาที

 2. แฟลชอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Flash Strobe) ผู้ที่คิดค้นได้สำเร็จ และนำมาใช้เป็นคนแรก คือ ฮาโรลด์ อี เอดเจอร์ตัน (Dr.Harold EEdgerton) กั บผู้ร่วมงานของเขาแห่งสถาบัน MIT เขาให้ชื่อสิ่งประดิษฐ์นี้ว่า Kodatron Speed Lamp แฟลชอิเล็กทรอนิกส์ได้พัฒนามาอย่างรวดเร็วบางชนิดมีตาอิเล็กทรอนิกส์ ที่ใช้ควบคุมปริมาณของแสงให้ออกมาพอดีกับระยะการถ่ายภาพได้ซึ่งโอกาสที่จะทำให้ได้แสงไม่พอดีเกือบไม่มีเลยแฟลชอิเล็กทรอนิกส์มีขนาดให้เลือกได้ตามต้องการ และกำลังส่องสว่างแตกต่างกันไป ปกติจะมีอายุการใช้งานเกินกว่า 10,000 ครั้งขึ้นไป ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการระวังรักษา แฟลชชนิดนี้จะมีแบตเตอรี่แห้งเป็นตัวจ่ายพลังงาน ให้บรรจุลงในคอนเดนเซอร์ และทำให้แฟลชทำงาน ช่วงเวลาส่องสว่างของแสงสั้นมากประมาณ 1/500 ถึง 1/2000 วินาที
          หลอดแฟลชอิเล็กทรอนิกส์ทำด้วยแก้วควอร์ตซ์ (Quartz) ภายในหลอดบรรจุด้วยก๊าซเฉื่อย พวกซีนอน (Xenon) อาร์กอน (Argon) หรือ คริปตอน (Krypton) หรือก๊าซผสมของก๊าซดังกล่าวนั้น ภายในตัวแฟลชมีตัวเก็บประจุ (Capacitor) หรือ (Condenser) ซึ่งจะใช้แรงดันไฟฟ้าประมาณ 500-2,000 โวลท์ ในการอัดประจุเมื่อแฟลชทำงาน ทริกเกอร์อิเลคโทรด (Trigger Elec-trode) ที่อยู่ทั้ง 2 ข้างของหลอดแฟลช จะทำให้เกิดแรงคลื่นไฟฟ้าสูงออกมาผ่านก๊าซเฉื่อย และกระแสจะแตกตัวเป็นไอออน ทำให้คายพลังงานออกมาเป็นแสงส่องสว่างได้ในปริมาณแสง 4,500 ลูเมน - วินาที สำหรับแฟลชอิเล็กทรอนิกส์ขนาดปานกลาง

คำสำคัญ (Tags): #แฟลช
หมายเลขบันทึก: 393943เขียนเมื่อ 13 กันยายน 2010 23:30 น. ()แก้ไขเมื่อ 5 มิถุนายน 2012 21:54 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท