นับตั้งแต่มีโครงการประกันรายได้เกษตรกรพืชเศรษฐกิจหลัก 3 ชนิด โดยเริ่มตั้งแต่ปี 2552 มานั้นในพื้นที่ตำบลพ่วงพรมคร อำเภอเคียนซา จ.สุราษฎร์ธานี ก็มีการขึ้นทะเบียนผู้ปลูกข้าวมาตั้งแต่ปี 52 จำนวน 22 ราย และในปี 53 จำนวน 55 ราย ซึ่งเมื่อดูจำนวนผู้ขึ้นทะเบียนแล้วเพิ่มขึ้นเท่าตัว ซึ่งเป็นเรื่องที่น่ายินดีอย่างยิ่งหากเกษตรกรหันมาปลูกข้าวกินเอง จากการสอบถามพบว่าเกษตรกรส่วนใหญ่ต้องการปลูกข้าวกินเองเหลือจึงนำไปขายเนื่องจากราคาข้าวสารแพง และมีพื้นที่ว่างเปล่าในสวนยางพารา หรือสวนปาล์มน้ำมัน ที่ปลูกใหม่ สามารถหว่านข้าวไร่ได้ ซึ่งเกษตรกรบางท่านใช้วิธีหยอดลงหลุม โดยใช้ไม้ปักให้เป็นหลุมก่อนหรือบางท่านใช้จอบขุด
การใช้จอบขุดแล้วหยอดเมล็ดลงปลูก | ปลูกในสวนยางเล็ก จำนวน 2 ราย |
ข้าวสุกแล้วใกล้เวลาจะเก็บเกี่ยว | ผลผลิต |
การปลูกข้าวไร่ในภาคใต้นับเป็นภูมิปัญญาชาวบ้านซึ่งหาดูได้ยาก หากมีการส่งเสริมให้เยาวชนรุ่นใหม่ได้เรียนรู้วิธีการปลูกข้าวก็จะช่วยอนุรักษ์อาชีพทางเกษตรกรรม และยังสามารถนำไปปรับใช้กับปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงได้เป็นอย่างดี จึงน่าส่งเสริมและถ่ายทอดความรู้ต่อไป
มลทิรา เพชรรัตน์
นวส.ปฏิบัติการ
สำนักงานเกษตรอำเภอเคียนซา
สวัสดีน้อง
เมื่อก่อนบ้านเราทำข้าวไร่กินเองทั้งเพ แหละ
ใช้ไม้ ขนาดเท่าข้อมือ ทำปลายแหลม เขาเรียกไม้สักใช้สำหรับทำหลุ่มสำหรับปลูก
ที่ปลูกเขาเรียกนั่มข้าว มักจะใส่เมล็ดแตงเข้าไปด้วย ในกระบอกไม้ๆผ่
ขอบคุณมาก
กลับสู่วิถีชีวิตเดิมก็ดีนะค่ะ ไม่ต้องรีบเร่ง
ปีนี้เขาทำกันเยอะค่ะ ในตำบลพ่วงพรมครทั้งหมด 56 ราย แต่ขึ้นทะเบียนประกันรายได้ ได้เพียง 22 ราย ส่วนที่เหลือไม่ผ่านค่ะ เพราะพื้นที่ไม่มีเอกสารสิทธิ์ แต่ก็ไม่เป็นไร ได้ข้าวไปกิน ไม่รู้จะให้เจ้าหน้าที่ตำบลได้กินบ้านหรือเปล่านะ
อยากเห็น อบต. พ่วงพรมครจัดงานวันตำข้าวหม่าว
ป้องกันหญ้าอย่างไรครับ
พันธุ์ที่ปลูกเป็นพันธุ์อะไรครับ
เขาเรียกชื่อตามๆกันมาเลยระบุไม่ได้ค่ะ เขาบอกว่าเป็นข้าวขาวรวงยาวบ้าง ข้าวเหลืองบ้าง นักวิชาการเกษตรจากศูนย์วิจัยข้าวกระบี่ได้เก็บตัวอย่างไปแล้วเพื่อทดสอบพันธุ์ค่ะ