การเก็บรวบรวมข้อมูล (ตอนที่ 1)


การเก็บรวบรวมข้อมูล

     การเก็บรวบรวมข้อมูลเป็นขั้นตอนการวิจัยที่ต่อเนื่องมาจากการกำหนดคำถามการวิจัย วัตถุประสงค์การวิจัยและสมมุติฐานการวิจัย  ทั้งนี้ในขั้นตอนการเก็บรวบรวมข้อมูลจะมีประเด็นใหญ่ๆ ที่เกี่ยวข้องต้องพิจารณา ได้แก่  แหล่งข้อมูลการวิจัย  เครื่องมือและวิธีการใช้เก็บรวบรวมข้อมูล  ตลอดจนการพัฒนาและเลือกใช้เครื่องมือ  วิธีการเก็บรวบรวมข้อมูล  ซึ่งมีสาระโดยสังเขปดังต่อไปนี้

      แหล่งข้อมูลการวิจัย

      แหล่งข้อมูลการวิจัย  หมายถึง  แหล่งที่จะให้ข้อมูล หรือมีข้อมูลตามที่ผู้วิจัยต้องการ  อาจเป็นบุคคล  สิ่งของ  สัตว์ หรืออื่นๆ ก็ได้  แหล่งข้อมูลการวิจัยที่กล่าวนี้เมื่อนักวิจัยจะทำการเก็บรวบรวมก็ต้องคำนึงถึงลักษณะสำคัญสองส่วน คือ ประชากรและกลุ่มตัวอย่างของแหล่งข้อมูล

           ประชากร (Population)  หมายถึง  ทุกสิ่ง ทั้งหมดหรือทุกหน่วยของแหล่งข้อมูลที่ผู้วิจัยต้องการศึกษารวบรวม

           กลุ่มตัวอย่าง (Sample group)  หมายถึง  ส่วนหนึ่งที่เป็นตัวแทนประชากรที่ผู้วิจัยต้องการศึกษา

      ลักษณะของเทคนิควิธีการเลือกกลุ่มตัวอย่าง

           1)  การเลือกแบบเครือข่ายหรือก้อนหิมะ  เป็นการเลือกกลุ่มตัวอย่างเริ่มจากการเลือกบุคคล หรือกลุ่มที่เป็นตัวอย่างตามเกณฑ์ที่กำหนด  หลังจากนั้นให้ตัวอย่างหรือผู้เข้าร่วมการวิจัยบอกชื่อตัวอย่างเพิ่มที่คิดว่าบุคคลเหล่านั้นเป็นผู้ให้ข้อมูลในเรื่องที่ผู้วิจัยต้องการจะทราบได้เป็นอย่างดี  และให้บุคคลที่ถูกระบุชื่อหาผู้ที่คิดว่าจะให้ข้อมูลดังกล่าวต่อไปเรื่อยๆ  จนกระทั่งได้รายชื่อที่ซ้ำๆ กัน จึงยุติการเลือกตัวอย่าง

           2)  การเลือกแบบครอบคลุม  เริ่มจากนักวิจัยเลือกกลุ่มตัวอย่างตามเกณฑ์ที่กำหนด  โดยที่กลุ่มตัวอย่างมักจะเป็นชุมชนหรือองค์กรหนึ่ง  แล้วทำการศึกษารวบรวมข้อมูลตามประเด็นต่างๆ  จากทุกๆ หน่วยของกลุ่มตัวอย่าง

           3)  การเลือกแบบโควตา หรือการกระจายสูง  เป็นการเลือกกลุ่มตัวอย่างที่เป็นตัวแทนจากประชากรกลุ่มย่อยๆ ให้ครบทุกกลุ่ม  โดยเริ่มจากนักวิจัยกำหนดคุณลักษณะของกลุ่มตัวอย่างที่ต้องการซึ่งสอดคล้องกับปรากฏการณ์ที่ศึกษาเพื่อกำหนดร้อยละของกลุ่มตัวอย่างที่ต้องการแล้วจึงเลือกตามนั้น

           4)  การเลือกกรณีสุดโต่ง  เป็นการเลือกกลุ่มตัวอย่างที่มีลักษณะใดลักษณะหนึ่งตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้  โดยกลุ่มตัวอย่างจะมีลักษณะแตกต่างจากลักษณะปกติทั่วไปอย่างชัดเจน  แล้วจึงศึกษาตัวแปรต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับตัวอย่างเพื่อทำความเข้าใจ  อธิบายและเปรียบเทียบให้เห็นความแตกต่างและความเหมือนกันของปรากฏการณ์นั้นกับกลุ่มที่มีลักษณะปกติ

           5)  การเลือกกรณีตามแบบทั่วไป  มีลักษณะตรงกันข้ามกับกรณีสุดโต่ง  นักวิจัยจะเลือกตัวอย่างที่มีคุณลักษณะตามที่บุคคลส่วนใหญ่มี  นักวิจัยจะทำการกำหนดเกณฑ์คุณลักษณะ  โดยพิจารณาให้เป็นเกณฑ์ที่มีลักษณะกลางๆ

           6)  การเลือกกรณีเฉพาะ  เป็นการเลือกตัวอย่างที่มีคุณลักษณะบางประการเฉพาะตัวแตกต่างจากคุณลักษณะประชากรส่วนใหญ่

           7)  การเลือกกรณีเด่น  คือ  การเลือกกรณีรู้จัก  เลือกโดยให้ผู้ที่เกี่ยวข้องหรือผู้เชี่ยวชาญในเรื่องที่ศึกษาเสนอรายชื่อบุคคลที่ผู้วิจัยควรจะเลือกเป็นกลุ่มตัวอย่าง

           8)  การเลือกกรณีตามแบบทั่วไปในอุดมคติ  เป็นการผสมแนวคิดการเลือกกรณีตามแบบทั่วไปและการเลือกกรณีสุดโต่ง  นักวิจัยจะกำหนดคุณลักษณะของตัวอย่างที่ต้องการให้เป็นไปในลักษณะสุดโต่ง  ซึ่งเป็นคุณลักษณะตามอุดมคติ  หลังจากนั้นก็เลือกตัวอย่างที่มีอยู่ในโลกความเป็นจริงโดยพยายามให้สอดคล้องกับคุณลักษณะในอุดมคตินั้น

           9)  การเลือกกรณีเปรียบเทียบ  นิยมใช้กับงายวิจัยเชิงคุณภาพที่มีแบบแผนการวิจัยที่เรียกว่า พหุพื้นที่  ซึ่งเป็นแบบแผนการวิจัยที่ใช้กลุ่มตัวอย่างที่อยู่ในพื้นที่ต่างกันเพื่อศึกษาปัญหาเดียวกัน  และยังใช้สำหรับแบบแผนการวิจัยเชิงคุณภาพที่เรียกว่า พหุกรณี  ซึ่งเป็นแบบแผนการวิจัยที่ศึกษากับตัวอย่างตั้งแต่ 2 กรณีขึ้นไป  โดยตัวอย่างนั้นมีลักษณะที่คล้ายคลึงกันหรือร่วมกันสรุปคือการเลือกกรณีนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเปรียบเทียบผลการศึกษาจากกรณีต่างๆ เป็นสำคัญ

เอกสารอ้างอิง
รัตนะ บัวสนธ์. (2551).  ปรัชญาวิจัย (Philosophy of Research). กรุงเทพฯ. สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
อรุณี  อ่อนสวัสดิ์. (2553).  เอกสารประกอบการบรรยาย วิชา ระเบียบวิธีวิจัยขั้นสูง (390611).พิษณุโลก. มหาวิทยาลัยนเรศวร. 

หมายเลขบันทึก: 392908เขียนเมื่อ 11 กันยายน 2010 08:46 น. ()แก้ไขเมื่อ 2 พฤษภาคม 2012 08:44 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

สวัสดีครับ  ได้อ่านแล้วทบทวนความรู้ การวิจัยได้เป็นอย่างดี  ขอบคุณที่แบ่งปันครับ

นางสาวรัชฏาภรณ์ บุญประเสริฐ

ขอบคุณมากนะค่ะ สำหรับการแบ่งปัน เป็นการสรุปความรู้ที่เข้าใจง่ายดี เป็นกำลังใจให้นะค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท