ต้นเดือนกรกฎาคม ปี 2535
ผมหายตัวจากประเทศไทยไปโผล่ที่เมืองกัลกาต้าประเทศอินเดีย ดินแดนอู่อารยธรรมตะวันออก ใช้เวลาบ่มเพาะประสบการณ์อยู่ 3 ปี จึงกลับบ้านเกิดเมื่อต้นเดือนมกราคม ปี 2538
การเปิดประตูสู่อินเดียนี้ มีกัลยาณมิตรนาม กฤษณาวดีกล่าวไว้ว่า
อินเดีย คือ แดนดินถิ่นพระเจ้า
อินเดีย มี หลายเผ่าหลายศาสนา
อินเดีย มี แม่น้ำศักดิ์สิทธิ์ชื่อคงคา
อินเดีย คือ ภูผาหิมาลัย
อินเดีย คือ ที่สุดของที่สุด
อินเดีย คือ เมืองพุทธอันยิ่งใหญ่
อินเดีย มี สาวสวยกว่าประเทศใด
อินเดีย แล้งน้ำใจจึงขอทาน
อินเดีย คือ ที่สุดของปัญหา
อินเดีย คือ แหล่งภูมิปัญญามหาศาล
อินเดีย คือ บ่อเกิดศรัทธาธาร
อินเดีย คือ สุสาน ตำนาน อู่อารยธรรม .
ขณะเดินทางสู่ที่พักในตัวเมือง ท่ามกลางคลื่นมหาชนซึ่งมีหลายรูปแบบ บางคนกำลังบูชาสิ่งที่ตนเคารพมีอยู่ทุกซอกทุกมุม
พวกเขาบูชาพระเจ้าโดยเฉพาะในศาสนาฮินดู
ช่วงบ่าย 4 โมงเย็นกว่า ๆ การเดินทางโดยรถไฟของผมจะเริ่มขึ้นและเมืองพาราณสีคือปลายทางที่ผมจะไป
เพราะเป้าหมายคือ ไปเรียน ป. เอก ณ
BANARAS HINDU UNIVERSITY แห่งนั้น เดี๋ยวว่างแล้วจะเล่าให้ฟังอยากฟังมั้ยคร้าบ แฮ่ ๆ เอิก ๆ
สวัสดีครับอาจารย์หมอวิจารณ์ พานิช
ด้วยความขอบพระคุณครับ โปรดชี้แนะด้วยนะครับ เห็นผลงานท่าน อ. เยอะจัง
รักษาสุขภาพด้วยครับกระผม
ด้วยความเคารพ ,
umi
เเวะมาอ่านค่ะ ชอบเกี่ยวกับวัฒนธรรม ศาสนาของชาวฮินดู
เค้าใช้ชีวิตกันน่าค้นหาจริงๆ
ขอเรียนรู้ด้วยครับ ขอบพระคุณ
สวัสดีครับ คุณกี้
เป็นสิ่งที่น่าสนใจปรัชญาชีวิตเขานะครับ
ขอบคุณครับ
สวัสดีครับ นายประจักษ์~natadee
วาว ๆ ภาพสวยงาม ๆ
มาอ่านย้อนทวนไกลจัง
ตามหามาเจอโดยบังเอิญเลยตอบนะครับผม
อิ อิ อิ
ขอบคุณครับ