กิจกรรมปัจฉิมนิเทศหลักสูตรพี่เลี้ยงพนักงานขับรถไฟฟ้ากับงานจิตอาสาที่วัดป่าสีวลี หนองกระชาย


นอกจากจะเป็นประโยชน์ต่อการเรียนรู้และสร้างเสริมทัศนคติที่ดีแล้ว ยังเป็นการประชาสัมพันธ์องค์กรไปในตัวด้วย

 

จากบันทึกที่แล้ว (สำรวจพื้นที่ของานทำเพื่อจิตอาสากับวัดป่าสีวลีหนองกระชาย : http://gotoknow.org/blog/attawutc/390064) ที่ผมได้เล่าถึงการไปสำรวจพื้นที่ เพื่อทำกิจกรรมปัจฉิมนิเทศ สำหรับหลักสูตรพี่เลี้ยงพนักงานขับรถไฟฟ้า ด้วยกิจกรรมจิตอาสา บันทึกนี้จึงเป็นเรื่องราวต่อเนื่องจากบันทึกที่แล้ว ที่ผมจะเล่าถึงบรรยากาศการทำกิจกรรมดังกล่าว ดังต่อไปนี้ครับ

 

 

ตามกำหนดการทำกิจกรรมจิตอาสานี้คือ วันที่ 3 กันยายน 2553 ซึ่งเราได้วางแผนไว้ว่าจะมาช่วยกันเทพื้นปูน ให้กับศาลารับแขกของวัด ตัวผมเองเดินทางมาถึงที่วัดประมาณ แปดนาฬิกาเศษๆ เมื่อเดินทางมาถึงก็พบว่าทางวัดได้เตรียมอาหารไว้ให้พวกเราไว้แล้วคือ ข้าวต้มนั่นเอง ผมก็ไม่ขัดศรัทธา ตุนพลังงานไว้ก่อน ซักพักใหญ่ๆ ทีมผู้เข้าอบรมหลักก็เดินทางมาถึง พบปะทักทายเป็นที่เรียบร้อยแล้วก็ตุนพลังงานไว้ก่อนเช่นกัน หลังจากนั้นก็มาวางแผนแบ่งทีมทำงานกัน นอกจากเราจะมีงานหลักในการเทปูนแล้ว ยังมีงานทำความสะอาดศาลาปฏิบัติธรรม และช่วยเหลืองานครัวด้วย แต่กำลังหลักเราจะอยู่ที่งานเทปูน หลังจากที่เริ่มเทปูนไปได้ซักครู่หลวงพ่อก็ถามว่ามีใครเป็นงานไฟฟ้าบ้าง ผมก็พอเป็นบ้าง ก็ได้รับอาสาร่วมกับหัวหน้าห้องของผู้เข้าอบรมช่วยกันเดินสายไฟติดพัดลม ปลั๊กไฟและหลอดไฟให้ด้วย

 

 

สิ่งที่ผมได้เรียนรู้ร่วมกับพนักงานจากกิจรรมในช่วงเช้า คือ การร่วมมือร่วมใจกันทำงาน แบ่งหน้าที่ช่วยเหลือ จัดระบบงานอย่างอัตโนมัติ ที่เห็นได้ชัดอย่างเป็นรูปธรรมคือ งานก่อสร้างผสมปูน เพิ่งได้รู้สูตรการผสมปูนว่าถ้าใช้สำหรับงานนี้จะใช้ส่วนผสมของทรายในปริมาณ 24 พลั่ว และหิน 4 บุ้งกี๋ (16 พลั่ว) ต่อปูน 1 ถุง ซึ่งการผสมปูนจะเริ่มจากนำทรายและปูนมาคลุกเคล้าให้เข้ากัน ผสมน้ำให้ชุ่มแล้วหมักบ่มปูนไว้สักครู่ เพื่อให้เข้าน้ำเข้าเนื้อ พร้อมกับใส่หินลงไป จึงจะนำไปใช้งานได้ พื้นที่ในการเทปูนคาดว่ากะด้วยสายตาแล้วคิดว่าน่าจะใช้เวลาไม่เกินชั่วโมงเดียวก็เสร็จ แต่พอมาลองทำจริง ก็ใช้เวลาไปจนถึงเที่ยงกว่าๆ จึงจะเสร็จ ทั้งนี้อาจเป็นเพราะเราเทหนาเกินไปก็ได้ วันนั้นเราใช้ปูนไป 10 ถุง พอดี ผมได้อยู่ช่วยเทปูนถึงการผสมในถุงที่ 3 ก็ต้องมาช่วยงานไฟฟ้า ซึ่งก็ได้แค่เตรียมจุดต่อ ลากสาย เตรียมประกอบ พัดลม สวิตช์ และปลั๊กไฟ เท่านั้น ก็หมดเวลาแล้ว โชคดีที่มีทีมงานของบริษัทซึ่งเป็นหัวหน้างานของผู้เข้าอบรม เดินทางมาสมทบในช่วงเที่ยง จึงได้ช่วยสานต่องานต่อสายไฟจนเสร็จ เพราะช่วงบ่ายผมต้องไปทำหน้าที่วิทยากรสรุปกิจกรรมร่วมกับผู้เข้าอบรมด้วย

 

 

 

ช่วงพักอาหารกลางวันทางวัดได้เตรียมก๋วยเตี๋ยวไก่ ปอเปี๊ยะทอดไว้รอ ซึ่งก็อร่อยเป็นพิเศษ เพราะแต่ละคนก็เหน็ดเหนื่อยมาจากการแรงงานอย่างถ้วนหน้า ที่พิเศษคือ หอยหอมนึ่ง จิ้มกับน้ำจิ้ม See Food รสจัด ที่ผมได้เล่าไปเมื่อบันทึกที่แล้ว มาครั้งนี้ก็เป็นลาภปากของพวกเราที่ทางวัดได้เตรียมไว้ถึง 2 กาละมังใหญ่ๆ เลยทีเดียว เพราะหอยชนิดนี้จะออกมามากหลังฝนตกใหม่ๆ ซึ่งคืนก่อนหน้านั้นฝนได้เทลงมาอย่างหนัก ทำให้เก็บหอยได้มากตามไปด้วย

 

 

หลังจากอิ่มกับเมนูสุดประทับใจแล้ว เราก็เริ่มกิจกรรมภาคบ่ายต่อ ซึ่งก็เป็นการสรุปกิจกรรมที่ได้ทำไปในช่วงเช้า โดยให้ผู้เข้าอบรมช่วยกันคิดและช่วยกันเขียนความรู้สึกสิ่งที่ได้จากการทำกิจกรรมต่างๆ และการนำไปประยุกต์ใช้กับการทำงานให้เชื่อมโยงไปยังเนื้อหาหลัก 4 เรื่องดังนี้ คือ การบริหารจัดการ การทำงานเป็นทีม การให้บริการ และความปลอดภัย หลังจากนั้นเราก็นั่งล้อมวงคุยกัน โดยมีผมเป็นคนคอยถามกระตุ้น ชี้แนะและเชื่อมโยงเนื้อหา หลังจากนั้น ก็เป็นกิจกรรม Build อารมณ์ กับครูเศกและครูจุ๋ม ตามขั้นตอนวิธีการเดียวกันกับที่เราได้เคยใช้กับพนักงานรุ่นที่แล้ว (รายละเอียดดูที่ “กิจกรรมจิตอาสา “ขัดบ่อเต่า” กับงานปัจฉิมนิเทศหลักสูตรพี่เลี้ยงพนักงานขับรถไฟฟ้า”  : http://gotoknow.org/blog/attawutc/382005 )  

 

 

จบกิจกรรมของเราก็ต่อด้วยกิจกรรมที่ทำร่วมกับทางวัด ซึ่งเป็นการถวายปัจจัยพร้อมทั้งอาหารสิ่งของใช้สอยตามกำลังศรัทธาของแต่ละคนในรูปแบบของการถวายสังทาน วันนั้นเรารวบรวมเงินที่ได้จากการเรี่ยไรและต่อยอดเป็นจำนวนเงินถึง 4,200 บาท รวมกับที่บริษัทช่วยสมทบจากงบกลาง 2,000 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 6,200 บาท

 

 

 

ก่อนกลับท่านพระอาจารย์ยังได้แจกวัตถุมงคลเป็นที่ระลึกแก่พวกเราอีกด้วย ประกอบไปด้วย พระรูปพิมพ์ พระสิวลี รูปพิมพ์สมเด็จ ของวัดสีวลี หนองกระชายเอง ยันต์เก้ายอดสำหรับคนที่ขับรถยนต์ ที่เชื่อว่ามีไว้บูชาแล้ว ไม่มีตายโหงแน่นอน ผ้ายันต์รูปพระสิวลี และรูปพระสังข์ ตามความเชื่อของตัวแทนแห่งโชคลาภ และที่สำคัญเราได้รับแจกพระยอดขุนพล ที่ได้รับการปลุกเสกจากเกจิอาจารย์ชื่อดังหลายท่าน และเคยได้รับการพิสูจน์จากสมรภูมิภาคใต้มาแล้วว่า แม้แต่ปืนเอ็ม 16 ก็ยังยิงไม่ออก ทุกนัดที่ยิงออกมาติดคาลำกล้องหมด วันนั้นเรากลับบ้านด้วยใบหน้าอิ่มบุญ อิ่มท้อง กันถ้วนหน้า โอกาสหน้าน่าจะมาเยี่ยมเยียมที่นี่อีก ที่วัดยังมีงานให้ทำและยินดีต้อนรับตลอดเวลา ซึ่งผมก็ได้ข่าวว่า ทีมของพนักงานขับรถไฟฟ้าอีกชุดก็จะมาช่วยกันในลักษณะนี้อีกประมาณเดือนตุลาคมนี้

  

 

กิจกรรมที่ผมได้เล่ามาทั้งหมด นอกจากจะเป็นประโยชน์ต่อการฝึกอบรมแล้ว ผมคิดว่ายังเป็นการประชาสัมพันธ์องค์กรไปในตัวด้วย ที่สำคัญทำให้พนักงานมีทัศนคติที่ดีและมีความเต็มใจที่จะทุ่มเททำงานให้แก่องค์กรอย่างตั้งใจ ส่วนตัวผมเองก็ได้เรียนรู้ร่วมกับผู้เข้าอบรมด้วย

 

หมายเลขบันทึก: 392135เขียนเมื่อ 8 กันยายน 2010 12:37 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 23:30 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)

ผู้เข้าร่วมกิจกรรมได้ช่วยกันสรุปสิ่งที่ได้และแสดงความรู้สึก จากการทำกิจกรรมครั้งนี้ดังนี้ครับ

กิจกรรม TC Mentor #6 
การบำเพ็ญประโยชน์ต่อส่วนรวม ณ วัดป่าสีวลี (หนองกระชาย)
                    
                     ส่วนร่วมในกิจกรรม เป็นการบำเพ็ญประโยชน์ต่อส่วนรวม ให้สมาชิกทุกคนมีส่วนร่วมในการบริหารงานของกิจกรรมและแสดงความคิดเห็นในการปฏิบัติงาน ทำให้เกิดความคิดร่วมกระทำในการช่วยเหลือในงาน ความมีน้ำใจ  ความสามัคคี  และความเสียสละด้วยแรงกายแรงใจและทุนทรัพย์
                           TEAM  คือ การเตรียมตัววางแผนในการปรับพื้นที่เทซีเมนต์ รู้จักขั้นตอนการผสมซีเมนต์ จำนวนทราย หิน ปูน การเทพื้นและการปรับหน้าซีเมนต์  การเดินสายไฟ หลอดไฟ  จนทำให้ภาระกิจของกลุ่มสำเร็จตรงตามเป้าหมาย เนื่องจากการมีน้ำใจ  รับฟัง  ช่วยเหลือเกี้อกูล  ความรู้และความสามัคคี   ตลอดจนหน้าที่ของตนเอง   และมีความอดทนเพื่อให้งานนำไปสู่ความสำเร็จ
                           SAFETY   ปัญหาในการทำงาน มีจุดอันตรายอยู่หลายจุดและอุปกรณ์ในการทำงาน มาจาก จอบ พลั่ว และการทรงตัวของรถขนทราย น้ำจากการผสมปูน อันเป็นจุดเสี่ยงและอันตรายต่อร่างกาย ซึ่งจะต้องทำงานด้วยความระมัดระวัง หลีกเลี่ยงอันตรายที่จะเกิดขึ้นด้วยการรับฟังปัญหาจากผู้ร่วมงานที่มีประสบการณ์  จนทำให้งานเสร็จตรงตามวัตถุประสงค์ที่กำหนดได้อย่างปลอดภัย
                           SERVICE   การบริการต่อสังคมโดยไม่หวังประโยชน์และผลตอบแทน ที่ได้มาจากการเสียสละจากแรงกายแรงใจ และทุนทรัพย์
 
                      สิ่งที่ได้จากการทำกิจกรรม  การที่ได้เรียนรู้แนวคิดและจัดตั้งโครงการ  โดยมีการวางแผน หาข้อมูล และติดต่อประสานงานโครงการ เทพื้นซีเมนต์ ณ วัดป่าสีวลี (หนองกระชาย )  รวมถึง  การนำสิ่งต่างๆ  ที่ได้เรียนรู้มาวิเคราะห์เพื่อนำสิ่งที่ดีมาประยุกต์ให้เกิดประโยชน์ แก่ตนเองและองค์กร และสร้างความสามัคคีในการทำงานเป็นทีม
                      เป้าหมายของ TC Mentor #6
             เป็นตัวอย่างการปฏิบัติตนต่อเพื่อนร่วมงานที่จะนำความรู้ความสามารถที่มีอยู่ มาถ่ายทอดความรู้ ตลอดจนการประสานงานภายในกลุ่มและการให้ความร่วมมือจากบุคคลภายนอก  ซึ่งได้มีส่วนร่วมในกิจกรรมให้บรรลุเป้าหมายตามที่ตั้งวัตถุประสงค์ไว้  โดยเป็นแนวทางเพื่อนำมาพัฒนาดัดแปลงหรือประยุกต์ใช้ให้เกิดประสิทธิภาพและประสิทธิผลสูงสุดกับแผนกและองค์กร 

และนี่ก็เป็นความรู้สึกที่ตัวแทนของห้องได้สรุปออกมาครับ

"ฝนก็ตกฟ้าคะนองกองกับพื้น น้ำเคยตื้นกลายเป็นฟื้นคืนไหลหลาก แดดเคยจัดฟ้าเคยแจ่มก็พลันจาก แล้วร้องจ๊ากผ้าไม่แห้งฟ้าแกล้งกัน...นี่หว่า" เหมือนจะบ่นโทษฟ้าฝนไปเรื่อยนะครับ แต่จริง ๆ แล้วบ้านเรามันก็เป็นอย่างนี้แหละ ช่วงนี้มันหน้าฝน ยังไงก็ต้องทนกันไปเพราะฝนไม่มีทางตกทุกวันอยู่แล้ว ha ha อยู่ใต้ฟ้าจะกลัวอะไรกับฝนครับพี่น้อง...ผมคนนึงละที่ไม่กลัวฝน กลัวแต่เปียกเท่านั้นแหละ...อิอิ เปิดหัวมาก็ชุ่มฉ่ำกันเลยนะครับ ก็ต้องขอฝากผลงาน ฝากตัวฝากใจไว้ในอ้อมกอดทุกท่านที่ได้อ่านบทความของ "ปอ.ปู๋" น้องใหม่ด้วยนะครับ ก็คงเป็นผลงานชิ้นแรกที่ลงอยู่ในบล็อคนี้  ดี ไม่ดีอย่างไรก็ติชมกันได้นะครับ...พี่น้อง ก็รูดม่านปิดฉากกันไปเป็นที่เรียบร้อยเมื่อวันที่ 8 กันยายน 2553 สำหรับการอบรมหลักสูตร TC Mentor #6 ต่างก็ได้รับความรู้ เติมเต็มในส่วนที่อาจจะขาด(ความมั่นใจ)ทุกคนต่างได้รับความรู้สึกที่ดี ๆ ต่อกัน ได้เรียนรู้ซึ่งกันและกัน ได้ทำกิจกรรมร่วมกันทั้งในห้องเรียนและนอกห้องเรียน ส่วนที่จะกล่าวต่อไปนี้จะขอนำเอาความรู้สึก ความประทับใจที่ได้จากกิจกรรมนอกสถานที่ ของทีม TC Mentor #6  เมื่อวันศุกร์ที่ 3 กันยายน 2553วัด ป่าสีวลี(หนองกระชาย) ต.หนองย่างเสือ อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี ทามกลางสายฝนอันเบาบาง ชุ่มฉ่ำเย็นสบาย ผสมผสานกันระหว่างต้นไม้ที่ปกคลุมบริเวณวัดและสายฝนที่โปรยปรายลงมาตลอดทั้งวัน  

               กิจกรรมที่ TC Mentor #6 ไปทำก็คือการเทพื้นปูนศาลาเอนกประสงค์ เดินหลอดไฟเพื่อส่องแสงสว่าง ติดตั้งพัดลมเพดานที่ศาลา ก็ดูได้จากรูปภาพที่เนียบมาให้ชม ตั้งแต่เริ่มงานจนเสร็จเรียบร้อย ส่วนที่ทุกคนได้กลับออกมาจากวัดก็คือ ทุกคนมีความสุขที่ได้ทำเพื่อบำเพ็ญประโยชน์ให้แก่ส่วนรวม บำรุงพุทธศาสนาซึ่งเป็นการขัดเกลากิเลส มีน้ำใจไมตรีต่อกัน เห็นถึงความสามัคคี ร่วมไม้ร่วมมือกัน ทำงานกันเป็นทีม มีการวางแผนงาน ทำงานเป็นระบบ เป็นขั้นตอน มีเป้าหมายและวัตถุประสงค์เดียวกัน มีการแก้ไขปัญหาในขณะทำงานในพื้นฐานความปลอดภัย เกิดความสบายใจที่ได้ร่วมทำกิจกรรม ได้รับน้ำใจจากบุคคลภายนอกก็คือชาวบ้านที่มาทำอาหารเลี้ยงพวกเราเวลาทำงาน และทุกคนภูมิใจในผลงานที่สำเร็จจากแรงกายและแรงใจของพวกเรา.....เหนื่อยก็แสนจะเหนื่อยแต่ก็ยังมีรอยยิ้มต่อกันขณะทำงาน เมื่อเห็นผลงานที่ออกมา ทุกคนก็หายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้ง.......นี่แหละครับความสุขที่เกิดจากการตั้งใจทำอะไรสักอย่างแล้วสำเร็จ....เย้! ผมขอตบมือดัง ๆ ให้ทุก ๆ ท่านเลยนะครับ................................................

                ความประทับใจที่ได้รับจากกิจกรรมในครั้งนี้ ที่พวกเราทุกคนรู้สึกก็คือ
                - ประทับใจในบรรยากาศภายในวัดที่ร่มรื่น และการต้อนรับจากทางวัด
                - ประทับใจในน้ำใจของชาวบ้าน และน้ำใจของทุกคนที่ช่วยกันทำงาน
                - ประทับใจอาหาร โดยเฉพาะ หอยหอม (พี่พนมและพี่หนึ่งชอบมาก..)และน้ำดื่มที่แสนจะสดชื่น.....(ที่มาคอยบริการโดยสาวแสนสวย...อิอิ)
                และข้อความต่อไปนี้จะขอยกเอาบางความรู้สึกของสมาชิกในกลุ่มมาบอกเล่าสู่กันฟังนะครับ ขอเริ่มจากประธานที่ปรึกษา TC Mentor #6  คือพี่พนมของเราครับ  "ผมประทับใจในการเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของทีมในการทำงาน มีน้ำใจช่วยเหลือซึ่งกันและกัน"   ครับ......พี่พนมของเรา จัดว่าเป็นคนจริงใจคนหนึ่ง คิดอย่างไรก็พูดออกมาอย่างนั้น ประสบการณ์ชีวิตของพี่พนม ผมว่าน่าจะเป็นแบบอย่างของคนอีกหลายคนได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะรุ่นน้อง ๆ เอาไว้ผมจะขออนุญาติเอาประสบการณ์ชีวิตของพี่พนม มาลงให้ทุกท่านได้อ่านกันในโอกาศต่อไปนะครับ...  ส่วนอีกท่านที่ผมจะขอหยิบยกมาก็คือ หนุ่มมาดนักวิชาการ สุขุมนุ่มลึก TC ภาวัช   "ประทับใจทุกคนที่ช่วยเหลือกัน มีน้ำใจให้กัน ไม่เกี่ยงงาน ใครเหนื่อยก็พัก ก็จะมีคนมาสับเปลี่ยนหมุนเวียนกันทำหน้าที่ตลอด ก่อให้เกิดมิตรภาพอันแน่นแฟ้นในกลุ่มสมาชิกมากขึ้น"  และสุดท้ายทีเด็ดครับพี่น้อง..... เจ้าบ่าวไกรศรีครับ เขาบอกไว้ว่า "เป็นกิจกรรมที่ค่อนข้างครอบคลุม สำหรับคนทำงานอย่างพวกเรา เพราะการที่จะร่วมกันทำกิจกรรมใดกิจกรรมหนึ่ง มันติดปัญหาเรื่องต่าง ๆ หลายเรื่อง และการที่จะทำงานให้เสร็จเป็นชิ้นเป็นอันโอกาสมันน้อยมาก ๆ แต่วันนี้พวกเราทำได้ และที่ประทับใจอีกอย่างคือ.......มีคนสวยอย่าง"ครูจุ๋ม"ไปด้วย มีกำลังใจเกินร้อย....แดงใบเล่ เจไปก่อน."  เป็นไง...ทีเด็ดไหมครับเจ้าบ่าวเจ ของเรา เหนือสิ่งอื่นใดทุกสิ่งทุกอย่างจะประสบความสำเร็จได้ก็ขึ้นอยู่กับความร่วมมือ ร่วมแรงร่วมใจ มีน้ำหนึ่งใจเดียวกัน และที่สำคัญอย่างที่เจ้าบ่าวเจขอเราว่าไว้คือ กำลังใจจากคนสวย มีกำลังใจเกินร้อยครับ  เอ้...ทำไมเจ ไม่บอกว่าสาวสวยล่ะ.....ฮืมน่าคิดนะ....อิอิ   
                เสร็จงานแล้วแต่ยังไม่จบครับ ยังมีกิจกรรมทำกันต่อที่บนศาลาของวัด โดยเป็นกิจกรรมจาก TNV ที่สร้างสรรค์มาสำหรับ TC Mentor #6 สามารถเรียกน้ำตาลูกชายที่ชื่อพนมได้ คิดดูซึ้งขนาดไหนดูได้จากภาพครับ....HA HA HA  สรุปแล้วทุกท่านได้แต่สิ่งดี ๆ กลับมาอย่างมีความสุข สบายใจ หายเหนื่อยที่ได้เห็นผลงานที่ได้ทำร่วมกัน มีแต่ประโยชน์ทั้งนั้นคร๊าบ.....พี่น้อง   ก่อนลากันในฉบับนี้ ก็ต้องขอขอบคุณแทน  TC Mentor #6  ทุกท่านด้วยกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องที่ให้โอกาสกับทุกคน ให้เข้ามารับการอบรมในหลักสูตรนี้มันมีประโยชน์อย่างมา และจะไม่ทำให้ทุกท่านที่เกี่ยวข้องผิดหวัง อย่างที่ประธานที่ปรึกษา TC Mentor #6 พี่พนม ได้สัญญาไว้ที่วัดบนศาลา พวกเราจะนำไปใช้ ถ่ายทอดให้กับน้องใหม่อย่างเต็มที่ .... พบกันใหม่ในโอกาสต่อไปนะครับ.......พี่น้อง

 

 

      "ปอ. ปู๋"
  ผีแดงเบอร์ 10 
  Roony Poo. PKN.  Tc.42 B/3 
  WIROJRAT   MEESOMBAT
 

 

สมุภาพ ครับ  สมุหภาพ จาก ปัญญาสามฐาน   นำไปสู่การใช้ "สมองมนุษย์"

    ความเห็นข้างบนของผมเองครับ (ไม่ได้เข้าระบบ)

 

สมุภาพ ครับ  สมุหภาพ จาก ปัญญาสามฐาน   นำไปสู่การใช้ "สมองมนุษย์"

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท