ข้าวเหนียวถั่วดำ


เรื่องเล่า เปลี่ยนโลก จากรพ.ชุมพวง

                                                                 

เวลาประมาณ 3 นาฬิกาของเวรดึกคืนหนึ่งเป็นวันที่อากาศร้อนอบอ้าวมาก ฉันมองเห็นผู้ป่วยและญาตินอนหลับใหลไปด้วยความอ่อนล้าทำให้บรรยากาศดูเงียบสงบ แต่ฉันก็ได้ยินเสียงเครื่องปรับอากาศและพัดลมทำงานดัง หึ่ง ๆ อยู่ในขณะนั้น มันยังคงทำหน้าที่ของมันเรื่อย ๆ เหมือนเช่นฉันก็ต้องทำหน้าที่ของฉันในคืนนี้เช่นกัน คืนนี้ไม่มีผู้ป่วยหนักหรือผู้ป่วยระยะสุดท้ายที่ส่งเสียงร้องครวญครางรบกวนผู้ป่วยอื่น ดูเหมือนบรรยากาศจะเป็นใจที่จะให้ทุกคนได้พักผ่อนนอนหลับอย่างเต็มที่ในคืนนี้   หลังจากทำงานเสร็จพวกเราก็จะหาของกินในช่วงเวลานี้

 

“ใครมีมาม่าบ้าง’’ ทุก ๆคืนถ้าขึ้นเวรดึก เราจะนั่งกินมาม่า ร่วมกัน

“มีข้าวเหนียวถั่วดำอยู่ในตู้เย็น’’ ฉันนึกออกทันทีแล้วน้องผู้ช่วยพยาบาลก็เดินไปหยิบมาและอุ่นในเตาไมโครเวฟแล้วเราก็เริ่มกินกันด้วยความเอร็ดอร่อยรสชาติของข้าวเหนียวถั่วดำมีรสหวานมันกลมกล่อมอร่อยจับใจฉันยิ่งนัก

“ซื้อที่ร้านไหนวะอร่อยดีจัง.”ฉันพูดรำพึงรำพันกับตัวเองและก็นึกถึงเรื่องราวเมื่อตอนกลางวัน

“ของหวานนี้ลูกฉันซื้อมาฝากคุณหมอค่ะ’’แม่ของปี่พาทย์กล่าว ฉันมองไปเห็นตรงหน้ามีถุงขนมหวานอยู่  5 - 6 อย่างอยู่ในถุงหูหิ้วใส ๆ  น้องพยาบาลรีบเดินไปรับและยกมือไหว้ขอบคุณในน้ำใจอันดีงามของปี่พาทย์และแม่ของเขา หนึ่งในของหวานที่อยู่ในถุงฉันแอบเห็นข้าวเหนียวถั่วดำด้วย..ในความท้อแท้อ่อนแอที่สิ้นหวังของชีวิตแต่ปี่พาทย์กลับมีน้ำใจที่งดงามให้กับพยาบาลดั่งเหมือนจะเป็นกำลังใจให้พวกเราทำหน้าที่ต่อไป

ฉันมองเห็นแสงไฟที่ส่องสว่างลอดผ่านช่องประตูในห้องแยกของผู้ป่วยที่แยกโรคเพื่อป้องกันภาวะติดเชื้อ สำหรับห้องนี้นาน ๆครั้งจะมีผู้ป่วยมานอน  ปี่พาทย์ ผู้ป่วยมะเร็งเม็ดเลือดขาว อายุ 16 ปีได้เข้ามานอนในห้องนี้ตั้งแต่เมื่อวานตอนเย็น ฉันได้ให้การพยาบาลดูแลปี่พาทย์ ยังจำได้ถึงคำพูดและถ้อยคำที่อ่อนล้าหมดกำลังใจของเขา

“ผมไม่ได้ไปรักษามาประมาณ  1 ปีแล้ว หลังจากได้รับยาเคมีบำบัดครั้งแรก”

“ผมไม่อยากไปรักษากับหมอคนนี้อีก  เพราะรักษาใครก็ตายหมดทุกคน.”

“สู้หมอคนเก่าไม่ได้  เสียดายจัง ที่หมอไปเมืองนอก.”สายตาเขาเปล่งประกายไปชั่วขณะเมื่อเอ่ยชื่อหมอคนเก่าแต่พริบตาเดียวก็สลดลงและมีแววตาเศร้าสร้อยดังเดิม

“ผมไม่อยากไปรพ.นี้ ถ้าผมต้องไป ผมขอตายดีกว่า’’น้ำเสียงที่ท้อแท้สิ้นหวังแววตาที่แห้งผากไร้ซึ่งแววสดใสมันทำให้หัวใจฉันหนักอึ้งและใจหายกับประโยคที่ได้ยิน ฉันรับฟังอย่างสงบ และได้พูดคุยอธิบายถึงความจำเป็นในการรักษา เขาเข้าใจดีแต่ปฏิเสธการรักษาเพราะไม่อยากพบเจอกับแพทย์คนนี้อีก ฉันรับฟังด้วยหัวใจที่ห่อเหี่ยว

ฉันได้ส่งเวรโดยบอกเรื่องราวให้ทีมพยาบาลรับรู้และรายงานให้หัวหน้าตึกรับทราบในปัญหานี้ หัวหน้าตึกปรึกษาแพทย์เจ้าของไข้และคุยกับผู้อำนวยการในเรื่องปัญหาของผู้ป่วยที่พบและจำเป็นต้องได้รับการรักษาอย่างรีบด่วน ผู้อำนวยการรพ.ใจดีมาก ให้ผู้ป่วยไปรักษาต่อที่ รพ.ศูนย์ ในต่างจังหวัดมีรถรพ.ไปส่งพร้อมกับมีพยาบาลไปดูแลระหว่างทาง ฉันรู้สึกถึงพลังความเมตตาที่ทีมแพทย์พยาบาลมีให้ผู้ป่วยอย่างล้นเหลือ ฉันดีใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของทีมที่ได้หาแนวทางช่วยเหลือ ให้เขารู้สึกปลอดภัย รู้สึกมีคุณค่าในตัวเองและมีพลังใจต่อสู้กับโรคร้ายนี้ต่อไป

“พรุ่งนี้จะส่งตัวปี่พาทย์ไปรักษาต่อที่รพ.ศูนย์ที่ต่างจังหวัดมีพยาบาลไปด้วย1 คน”ฉันบอกกับแม่ของปี่พาทย์ แววตาที่เปล่งประกายด้วยความสุข รอยยิ้มที่สว่างสดใส ไม่ต้องบอกว่าแม่ของปี่พาทย์  เธอดีใจมากที่สุดในรอบปี เธอรีบยกมือไหว้ขอบคุณฉันในทันที “ดีใจด้วยนะคะ” ฉันพูดผ่านลำคอด้วยความรู้สึกตื้นตันใจ แม่ของปี่พาทย์ เป็นผู้หญิงที่ใช้ชีวิตต่อสู้ดิ้นรนโดยลำพังในชีวิต พ่อของปี่พาทย์ไปมีภรรยาใหม่ตั้งเขายังเด็กเวลาเจ็บป่วยก็ไม่ได้มาเหลียวแล

“หมอคะช่วยด้วยลูกฉันเหนื่อยมาก หลังถ่ายหนักเขาหายใจไม่ออก.’’ น้ำเสียงที่ร้อนรนระคนกับแววตาที่ตื่นเต้น ปนกับเสียงร้องให้โฮ…ของแม่ปี่พาทย์ ทำให้ฉันตื่นขึ้นจากภวังค์ความคิด และรีบตั้งสติวิ่งเข้าไปดู พร้อมกับผู้ช่วยพยาบาลที่เตรียมอุปกรณ์ฉุกเฉินตามไปช่วย

                “ตามหมอด่วน!”ฉันตะโกนบอกน้องพยาบาลที่อยู่อีกมุมหนึ่งของห้องผู้ป่วยรวมน้องคนนั้นวิ่งเร็วมากเพื่อโทรศัพท์บอกหมอ

ภาพที่เห็นปี่พาทย์เด็กวัยรุ่นรูปร่างอ้วน ตัวใหญ่ผิวซีดเหลืองมีเหงื่อซึมตามร่างกายใบหน้าขาวซีด ริมฝีปากเขียวคล้ำ เหนื่อยหอบนั่งกระสับกระส่ายอยู่บนเตียง สติเริ่มลางเลือนดิ้นไปมาจนฉันกลัวว่าอาจจะตกเตียงได้ ฉันรีบให้การช่วยเหลือทันที แต่ภาวะขาดออกซิเจนเริ่มตามมาฉันดูจากค่าออกซิเจนในร่างกายที่ลดลงอย่างรวดเร็ว  แพทย์วิ่งมาถึงโดยทันที…วินาทีนั้นฉันรู้สึกเสียใจมาก…ถ้าย้อนเวลาได้ฉันจะรีบให้หมอส่งผู้ป่วยไปรพศูนย์..ต่างจังหวัดให้เร็วที่สุด แต่เนื่องด้วยระบบและภาระงานที่มี รวมทั้งอาการของผู้ป่วยตอนนั้นยังดีอยู่จึงทำให้เราต้องรอจนถึงวันรุ่งขึ้น..แต่อาการผู้ป่วยตอนนี้มันทำให้ฉันคิดหนักมากเหลือเกินพร้อมกับจิตใจที่ปวดร้าว..กับสิ่งที่พบเจอ..ในขณะนี้..

                “หอบมากขนาดนี้ต้องใส่ท่อช่วยหายใจนะคะ”          แพทย์เจ้าของไข้บอกกับแม่ของปี่พาทย์

                “ต้องส่งตัวไปรักษาต่อที่รพ..ศูนย์ในจังหวัดนะคะ”ฉันอธิบายให้ญาติเข้าใจในระบบการดูแลผู้ป่วยหนักและการส่งต่อ

“ไม่ไปรพ.นี้ ถ้าจะไปผมขอตายดีกว่า”เสียงแหบแห้งส่งผ่านลำคอของปี่พาทย์พร้อมกับร่างกายที่หมดเรี่ยวแรงและทิ้งตัวลงบนเตียงนอนดังพรึบ…ความเงียบเกิดขึ้นทุกคนมองหน้ากัน แพทย์มองสบตาฉัน..  ฉันมองหน้าแม่ของปี่พาทย์ได้เห็นแววตาของเธอที่เต็มไปด้วยความลังเลหวาดหวั่นและสิ้นหวัง แม่ของปี่พาทย์ร้องให้ปานหัวใจแหลกสลาย…

                “ต้องตัดสินใจแล้วนะคะจะใส่ท่อช่วยหายใจหรือเปล่าเราจะได้ช่วยทันเวลา’’ฉันพูดออกมาในที่สุด จิตใจฉันร้อนรนเหลือเกินในช่วงเวลาที่แสนจะกดดันความรู้สึกในขณะนั้น..

แม่ของปี่พาทย์ก้มหน้าน้ำตาไหลรินพยักหน้ายอมรับกับชะตากรรมที่กำลังเกิดขึ้น  เธอทรุดนั่งลงด้วยกำลังขาที่อ่อนล้าไร้ซึ่งเรี่ยวแรงและพลังใจ เธอตัดสินใจอย่างเด็ดขาด และขอตัวออกไปจากห้องทันทีและแพทย์ก็ใส่ท่อช่วยหายใจ เสียงแม่ของปี่พาทย์ร้องให้โหยหวนอยู่หน้าประตูห้องมันยิ่งตอกย้ำความรู้สึกสลดหดหู่ในใจของฉันยิ่งนัก และแล้วสิ่งที่ฉันกลัวก็เกิดขึ้น ปี่พาทย์หยุดหายใจหลังจากใส่ท่อช่วยหายใจเสร็จ แพทย์ต้องขึ้นปั้มหัวใจให้กับปี่พาทย์ ทีมพยาบาลได้เข้ามาช่วยและทำหน้าที่ของตนเองอย่างดีที่สุด มือฉันเย็นเฉียบแต่ไม่เท่ากับผิวกายของปี่พาทย์ที่เย็นยิ่งกว่า ในระหว่างที่ปั้มหัวใจ ฉันอดคิดถึงข้าวเหนียวถั่วดำที่แสนอร่อยไม่ได้..ความหวานชื่นและรสชาติของมันยังติดอยู่ที่ปลายลิ้นและลำคอของฉันอยู่ในขณะนั้น ฉันเพิ่งกินมันจนอิ่มแล้วก็ต้องมาปั้มหัวใจให้กับคนที่ให้ข้าวเหนียวถั่วดำ..มันช่างเป็นความรู้สึกที่ขมขื่น ลำคอฉันแห้งผากน้ำตาคลอเบ้าฉันได้แต่พยายามกั้นใจไว้ไม่ให้มันรินไหลออกมา

                “หมอจะคุยกับแม่ของปี่พาทย์ไหม’’ฉันถามหมอด้วยใจที่หมดหวังและแสนเศร้า

                หมอออกไปคุยกับแม่ของ ปี่พาทย์…เธอกอดหมอแล้วร้องให้…เธอจับมือหมอแน่นบีบมือหมออย่างหนักหน่วงเปรียบเป็นที่พึ่งสุดท้ายในยามที่หัวใจเธอแหลกสลายในขณะนี้

                5 นาฬิกาของวันใหม่ ปี่พาทย์ จบชีวิตลงอย่างสงบ.ท่ามกลางความเสียใจอย่างสุดซึ้ง..ของทุกคน  ทุกคนปลอบใจตัวเอง และบอกกับตัวเองว่า “เราได้ทำดีที่สุดแล้ว”ไม่มีใครหลีกหนีความตายได้ ชีวิตเป็นของไม่แน่นอน แต่ความตายเป็นของแน่นอน นี่คือสัจธรรม.. ของชีวิต

 

                 ฉันมองร่างที่ไร้วิญญาณของปี่พาทย์ด้วยหัวใจที่หดหู่ แสงสลัวยามเช้าลอดผ่านบานเกร็ดหน้าต่างลามเลียมาทั่วร่างของปี่พาทย์ “ไปดีเถิดปี่พาทย์ เราทำดีที่สุดแล้ว.’’ ฉันบอกเขาด้วยความรู้สึกที่เศร้าเสียใจอย่างบอกไม่ถูก

                “ใครจะล้างจานให้แม่  แม่จะซื้อขนมให้ใครกิน’’เสียงร้องให้คร่ำครวญของแม่ปี่พาทย์ มันช่างสะเทือนความรู้สึกฉันยิ่งนัก ทำให้หัวใจฉันถูกบีบคั้นอย่างรุนแรงระคนเจ็บปวดตามไปด้วย… ถ้าชีวิตฉันต้องเจอแบบนี้ฉันจะทำอย่างไรดีแล้วฉันก็นึกถึงใบหน้าของลูก ๆ ที่บ้าน…และคิดถึงพวกเขาอย่างจับจิตจับใจ

 

แสงแดดยามเช้าสว่างสดใส พร้อมกับเสียงนกร้องดังเซ็งแซ่บอกถึงการเริ่มต้นของวันใหม่ของชีวิตทุกชีวิตที่ต้องมีการเริ่มต้นและสิ้นสุด ฉันมองออกไปนอกหน้าต่างเห็นท้องฟ้าที่กว้างใหญ่ แสงสีทองสว่างตาของพระอาทิตย์ ส่องแสงรำไรเข้ามาในซอกมุมของตึก แสงอาทิตย์และกลิ่นไอความสดชื่นในยามเช้าทำให้ฉันมีพลังใจที่จะก้าวเดินต่อไปเพื่อสร้างสรรค์ความดี ความงาม เพื่อดูแลช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์และสังคมต่อไป   ฉันเพิ่มพลังใจให้กับตัวเองและบอกกับตัวเองว่า  “จงเข้มแข็ง”ทุกๆ ครั้งที่ใจฉันอ่อนล้าฉันจะมองไปที่พระอาทิตย์เสมอ ทันใดนั้นสายตาของฉันก็มองไปเห็นแม่ของปี่พาทย์ นั่งร้องให้ดวงตาแดงช้ำอยู่ที่ริมระเบียงข้างซอกตึก ฉันมองภาพนั้น ด้วยความสงสารจับใจ ด้วยหัวอกของความเป็นแม่ ด้วยความเป็นเพื่อนมนุษย์ ฉันรู้สึกเห็นใจอยากช่วยเหลือให้เขาคลายความทุกข์และให้มีพลังใจต่อสู้ต่อไป นอกจากคำปลอบโยนที่มีให้ฉันจึงชงโอวัลตินอุ่น ๆไปให้แม่ของปี่พาทย์ได้ดื่ม สติของเธอเริ่มดีขึ้นและกลับมา “ปี่พาทย์เขาไปดีแล้ว เราทำดีที่สุดแล้วเขามีบุญที่ได้เกิดมา แต่บุญเขามีไม่ถึงที่จะได้ไปรพ.ศูนย์ในต่างจังหวัด”ฉันบอกกับแม่ของปี่พาทย์  เวรดึกคืนนี้จึงเป็นบทเรียนของการทำงานเป็นประสบการณ์ที่เกิดขึ้นให้ฉันได้จดจำ ความรักของแม่ ความปรารถนาดีที่มีให้กันของเพื่อนมนุษย์มันคงอยู่ในความทรงจำ ฉันมองเห็นความเอื้ออาทรของคนป่วยที่ท้อแท้สิ้นหวังในชีวิตแต่กลับมีจิตใจที่งดงามบอกให้แม่ซื้อขนมหวานมาฝากหมอ โดยเฉพาะข้าวเหนียวถั่วดำที่อร่อยที่สุด ทุก ๆครั้งที่มองเห็นข้าวเหนียวถั่วดำจะทำให้ฉันนึกถึงเรื่องราวในคืนนั้นเสมอ….จนบางครั้งฉันไม่กล้าที่จะกินข้าวเหนียวถั่วดำอีกเลย*

เรื่อง จาก เรไร เบขุนทด [email protected] รพ.ชุมพวง จังหวัดนครราชสีมา 

http://www.hi5bkk.comhttp://www.hi5bkk.comhttp://www.hi5bkk.comhttp://www.hi5bkk.comhttp://www.hi5bkk.com     http://www.hi5bkk.comhttp://www.hi5bkk.comhttp://www.hi5bkk.comhttp://www.hi5bkk.comhttp://www.hi5bkk.com นำมาเล่า

หมายเลขบันทึก: 390581เขียนเมื่อ 3 กันยายน 2010 21:55 น. ()แก้ไขเมื่อ 26 พฤษภาคม 2013 00:25 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (19)

โถ ปี่พาทย์ ตายเสียแล้ว น่าสงสารจัง

Ico64 สวัสดีค่ะ

   ถ้าขึ้นเวรแล้วมีผู้ป่วยหนัก วันนั้นจะเป็นวันที่พวกเราเป็นทุกข์ที่สุด ไม่มีใครอยากเห็นการสูญเสีย แต่จะมีซักกี่คนที่เข้าใจพวกเรา ถ้ามีการเสียชีวิตเกิดขึ้น ก็วิ่งโร่ฟ้องโน่น ฟ้องนี่ แล้วก็ไม่มีการไตร่ตรอง  บางคนอยากได้หน้ารีบออกมาด่าว่าให้เสียหาย จะมีซักกี่คนที่เข้าใจและเห็นใจพวกเราบ้าง เศร้านะ

เห็นใจทั้งผู้ป่วยและคนทำงาน

หลายๆเหตุการณ์ในการทำงานจะทำให้เรารู้สึกจดจำไปนานแสนนานและยากที่จะลืม

นั่นคือจิตวิญญาณของคนทำงานที่ทำเพื่อคนป่วยไข้

ตกใจชื่อเรื่อง ฮา แต่ต้องไปนึ่งข้าวเหนียวก่อน(ซึ้งๆ)

ตกกะใจชื่อเรื่อง ว่า ใช่น้องพรหล้า มาแนวนี้เป็นด้วย ๕ ๕ ซึ้งๆ เหมือนพี่ขาหญ๋าย ;)

 

Ico32
สวัสดีค่ะ คุณโสภณ
ปี่พาทย์ ตายอย่างสมศักดิ์ศรี เลยค่ะ
ขอบคุณนะคะ

 

Ico32
คุณยาย ขา...
เราจึงต้องมาช่วยกันถ่ายทอดเรื่องราวดีๆ ให้คนอื่น ฟังกันมากๆ นะคะ
ทำงานหนักเพื่อรั้งชีวิตพวกเขาและไม่มีใครอยากให้สูญเสียค่ะ
ขอบคุณคุณยายนะคะ

 

Ico32
หวัดดีค่ะพี่นาง
เราเห็นจิตวิญญาณของแม่ ของพยาบาล ของความเป็นมนุษย์จริงๆ เลยค่ะ
ขอบคุณพี่นางค่ะ
คิดถึงจังค่ะ

  Ico32

พี่ Poo คะ โอะ โอ๋... แนวเดิมอ่ะค่ะพี่ poo อิอิ
ว่าแต่อ.ขจิต เปลี่ยนนว รึป่าว คะ ...แซวๆๆๆ
ขอบคุณคะ
คิดถึงคะ

ซึ้งครับ

เป็นกำลังใจให้ครับ

ขอบคุณเรื่องเล่าดีที่แบ่งปันกันนะครับ

 

Ico32
พี่กาแฟคะ สองซึ้งแล้วค่ะ อิ่ม ๆๆๆ อิอิ
ขอบคุณนะคะ
  • ขอเป็นกำลังใจให้กับผู้ทำงาน ซึ่งยังต้องโดดดิ้น..ต่อไปครับ

“จงเข้มแข็ง”ทุกๆ ครั้งที่ใจฉันอ่อนล้าฉันจะมองไปที่พระอาทิตย์เสมอ"

สุดยอดเลยครับ..

ขอบคุณที่มอบประสบการณ์ดี ๆ ที่ผ่านเรื่องเล่าอันทร'คุณค่า

ขอบคุณที่ยังคงยืนหยัดในวิชาชีพเดียวกัน ถึงแม้จะอ่อนล้าแต่ก็ยังสู้ไหว....สู้ๆ....สู้ๆ....

ขอบคุณที่ทำให้รู้ว่า แม้ไม่ใช่ญาติแต่เราก็สามารถรับรู้คามรู้สึกและดูแลดุจญาติมิตรได้

ขอบคุณกับประโยคซึ้ง ๆ ที่อ่านครั้งไหนก็ทำให้เรารู้ว่า "เมื่อใดที่พระอาทิตย์ตก ย่อมมีวันที่พระอาทิตย์จะขึ้นเสมอ"

 

Ico32
ท่านพี่ เจ้าคะ ...
สุดยอดจริงๆ เลยค่ะ ชอบเหมือนกันค่ะ
ขอบคุณนะคะ ที่มาทักทาย
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท