อ่านบทแรก และ บทที่ 2 กันมาแล้ว บันทึกนี้เป็นบทที่ 3 ค่ะ นำมาฝากพร้อมคำแปล หวังว่าจะมีคนใจดีมาช่วยกันขัดเกลาให้ตรงความหมายอันงดงามของต้นฉบับเดิมอีกนะคะ บทนี้ยิ่งถอดความยากกว่าบทที่แล้วด้วยค่ะ
Nothing Should Divide Us
ไม่ควรจะมีอะไรจะมาแบ่งแยกพวกเรา
We who inherit the earth
ผู้ซึ่งเป็นทายาทแห่งโลกนี้
who cheer the new moon peaking through the womb
ผู้ซึ่งคอยต้อนรับพระจันทร์ที่ผันเปลี่ยน
who admire the green leaves of summer turning to lustrous reds and yellows
ผู้ซึ่งชื่นชมไม้ใบเขียวแห่งหน้าร้อนแปรเปลี่ยนไปเป็นสีแดงและเหลืองอันสดใส
who watch them fall to the ground cold, brown and stiff...
ผู้ซึ่งคอยเฝ้าดูใบไม้เหล่านั้นร่วงหล่นลงดินและเปลี่ยนสภาพไป
We who give birth to new life
พวกเราผู้สร้างชีวิตใหม่
who are exhilarated by the sun rising
พวกเราผู้มีความเบิกบานกับอรุณรุ่ง
who are romanced by the sun setting
พวกเราผู้มีอารมณ์สุนทรีย์กับอาทิตย์อัสดง
who dream to the floating clouds...
พวกเราผู้วาดฝันไปกับปุยเมฆ
We who have a passing mark on the future of the world
พวกเราผู้บันทึกรอยสู่อนาคตของโลกแห่งนี้
must have the same heart
ต้องมีหัวใจเป็นหนึ่งเดียวกัน
must have compassion for one another
ต้องมีความเห็นอกเห็นใจให้กัน
must have respect for one another
ต้องให้เกียรติกัน
must understand that though we have differences
ต้องเข้าใจว่าถึงแม้พวกเราล้วนแตกต่างกัน
we all want the same things
ต่างก็มุ่งหวังในสิ่งเดียวกัน
Nothing should divide us
ไม่ควรจะมีอะไรจะมาแบ่งแยกพวกเรา
We must overcome hate
เราต้องเอาชนะความเกลียด
We must overcome violence
เราต้องเอาชนะความรุนแรง
We must overcome greed
เราต้องเอาชนะความละโมบ
We must overcome fighting
เราต้องเอาชนะการใช้กำลัง
We must overcome cruelty
เราต้องเอาชนะความทารุณโหดร้าย
We must overcome all that
tears people apart
and concentrate on all that
brings people together
เราต้องเอาชนะทุกสิ่งที่ทำให้เกิดการแตกแยก และมุ่งความสนใจไปยังสิ่งที่จะเชื่อมโยงพวกเราเข้าหากัน
ชอบและขอบคุณค่ะ ที่กรุณาแปลไทย ทำให้เข้าใจความหมายมากยิ่งขึ้นค่ะ (คือดิฉันเป็นคนที่ภาษาอังกฤษไม่แตกฉานค่ะ)
ดิฉันก็เป็นคนหนึ่งที่ชอบบทกวี พอแต่งได้ แต่ชอบคัดสิ่งดีดีเก็บไว้เป็นหลัก ... บทนี้ก็เป็นบทหนึ่งของ วิสา คัญทัพ ใน "ฤดูกาล" ค่ะ ขอนำมาต่อยอดบันทึกนี้นะคะ
"เพียรสร้างความดีทีละนิด
โลกและชีวิต ก็สดใส
อันใบไม้ร่วมผลัดสลัดใบ ...
ยังถมซากก่อใบให้ดินงาม"
แหม ถ้าได้เป็น slogan ภาคอังกฤษ ก็ดีนะคะ ... ฮิ ฮิ แบบว่า แอบขออีกแล้ว
ขอบคุณ คุณจันทรรัตน์ที่แวะมาบอกเล่าความรู้สึกนะคะ
คุณหมอนนท์...ยากมากนะคะนี่ แปลไทยเป็นอังกฤษมาก็ไม่น้อยเท่าไหร่ แต่ยังไม่เคยแปลกลอนไทยเป็นภาษาอังกฤษมาก่อนเลย (เพิ่งนึกได้ค่ะ) ท้าทายดีนะคะ แต่ไม่ทราบว่าจะทำได้ดีไหม จะเก็บไว้เป็นการบ้านค่ะ (อาจจะรอนานหน่อย) ถ้ามีท่านอื่นจะช่วยได้ก็ยินดีนะคะ
สวัสดีค่ะ ขอบคุณมากนะค่ะสำหรับบทกลอนและคำคมต่าง ๆ คงได้เข้ามาบล็อกของ อ โอ๋ เพราะเป็นคนชอบอ่านบทกลอนและคำคม
ในบทนี้ คิดว่า fighting น่าจะแปลว่า การต่อสู้ มากกว่าค่ะ ถ้าหากเจอคำว่า using force จึงจะแปลว่า การใช้กำลัง
อ.กานดาคะ....อันนี้กึ่งๆนะคะ คิดว่าใช้คำว่าการต่อสู้แล้วมันดูแปลกๆก็เลยเลี่ยงไปใช้คำนี้น่ะค่ะ
ถ้ายังไงอ.กานดาช่วยลองแปลงกลอนของคุณวิสา คัญทัพ ที่คุณหมอนนท์ฝากมาให้เป็นภาษาอังกฤษช่วยกันหน่อยได้ไหมเอ่ย เขียนเป็นบันทึกใหม่ก็ได้ค่ะ แล้วพี่จะไปแจม บทนี้ที่ว่า
"เพียรสร้างความดีทีละนิด
โลกและชีวิต ก็สดใส
อันใบไม้ร่วมผลัดสลัดใบ ...
ยังถมซากก่อใบให้ดินงาม"
เป็นการบ้านที่ยังค้างอยู่ค่ะ