จรรยาบรรณของสหวิชาชีพกับการเยี่ยมบ้าน


การเยี่ยมบ้านหรือการบริการดูแลสุขภาพผู้ป่วยที่บ้าน (Home care)หมายถึง การบริหารให้มีการจัดบริการเต็มรูปแบบที่เหมาะสมสำหรับผู้ป่วยและครอบครัวรายหนึ่งๆ โดยเริ่มตั้งแต่การประเมินสภาพผู้ป่วยที่บ้าน การประสานงานกับทีมรักษาว่าจะรักษาที่บ้าน ที่โรงพยาบาล หรือส่งต่อ

การพยาบาลเป็นการปฏิบัติโดยตรงต่อบุคคล ครอบครัว ชุมชนและสังคม นับได้ว่าเป็นบริการในระดับสถาบันของสังคม ดังนั้นผู้ประกอบวิชาชีพพยาบาลจึงต้องเป็นผู้ที่มีความรับผิดชอบสูง เป็นผู้ที่ไว้วางใจได้ มีความรู้ความชำนาญในการปฏิบัติ มีจริยธรรม และจรรยาบรรณวิชาชีพ เป็นแนวทางในการประพฤติและปฏิบัติ ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยของสังคมโดยส่วนรวม
               การเยี่ยมบ้านในครั้งนี้ได้พบกับยายเป็นผู้ป่วย CVA มาประมาณ 2 ปี รูปร่างซูบผอม น้ำหนักประมาณ 20 กิโลกรัม ไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้ อาศัยอยู่ในบ้านกับตาอายุ 70 ปี ซึ่งชรามากแล้ว ภายในบ้านรกรุงรัง มีขยะและเศษอาหารเกลื่อนเต็มพื้น ทีมสหวิชาชีพประกอบด้วย แพทย์ พยาบาล นักกายภาพบำบัด ช่วยกันเก็บกวาดบ้าน ทำความสะอาดร่างกายให้ยาย ตรวจร่างกายให้ยาย  วัดความดันโลหิตได้ 98/82 mmHg P=58 /M และมีแผลกดทับขนาด 8*5 ซม. จึงตกลงกันว่าต้องพายายมารับการรักษาที่โรงพยาบาลบ้านโพธิ์  เพื่อให้ยายมีชีวิตอยู่และดีขึ้นต่อไป

สาระสำคัญ           จรรยาบรรณของสหวิชาชีพกับการเยี่ยมบ้าน

คุณประภัสสร  นิยม   คุณกนกพร  เย็นใจโรงพยาบาลบ้านโพธิ์ อำเภอบ้านโพธิ์ จังหวัดฉะเชิงเทรา

บทนำ

จรรยาบรรณวิชาชีพสำหรับพยาบาลเป็นการประมวลหลักความประพฤติให้บุคคลในวิชาชีพยึดถือปฏิบัติ สมาคมพยาบาลแห่งสหรัฐอเมริกา (The America Nurses Associations A.N.A.) ได้กำหนดสาระสำคัญของจรรยาบรรณวิชาชีพพยาบาลไว้ในข้อหนึ่ง ให้พยาบาลให้การปกป้องคุ้มครองแก่ผู้ป่วย สังคม ในกรณีที่มีการให้บริการสุขภาพอนามัยและความปลอดภัยถูกกระทำการที่อาจเกิดจากความไม่รู้ ขาดศีลธรรม จริยธรรม หรือการกระทำที่ผิดกฎหมายจากบุคคลหนึ่งบุคคลใด และต้องประกอบวิชาชีพด้วยความมีสติ ตระหนักในคุณค่าและศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์

การเยี่ยมบ้านหรือการบริการดูแลสุขภาพผู้ป่วยที่บ้าน  (Home  care)หมายถึง  การบริหารให้มีการจัดบริการเต็มรูปแบบที่เหมาะสมสำหรับผู้ป่วยและครอบครัวรายหนึ่งๆ โดยเริ่มตั้งแต่การประเมินสภาพผู้ป่วยที่บ้าน  การประสานงานกับทีมรักษาว่าจะรักษาที่บ้าน  ที่โรงพยาบาล  หรือส่งต่อการมอบหมายให้หน่วยงานหรือแผนกต่างๆ  รับผิดชอบหน้าที่ใดบ้างเพื่อการดูแลผู้ป่วยรายนั้นๆ  ร่วมกันการประเมินความต้องการด้านต่างๆ  ของผู้ป่วยที่จะสามารถปฏิบัติภารกิจประจำวันได้ตามปกติ  เช่น  หุงหาอาหารไปซื้อข้าวของ  ทำความสะอาดบ้านเรือน  ซักเสื้อผ้า  น้ำกิน  น้ำใช้  ฟืนไฟ  ความปลอดภัยของทรัพย์สินในบ้าน  เป็นต้น 

จุดประสงค์

  1. ได้เรียนรู้ร่วมกันถึงประสบการณ์การเยี่ยมบ้าน
  2. 2.              ได้ตระหนักซึ่งจรรยาบรรณวิชาชีพในการดูแลช่วยเหลือผู้ป่วย

สิ่งที่พบขณะเยี่ยมบ้าน

ทีมสหวิชาชีพในวันนั้นประกอบด้วยแพทย์ พยาบาล และนักกายภาพบำบัด ดำเนินการเยี่ยมบ้านร่วมกับเจ้าหน้าที่สอ.ในเขตรับผิดชอบ สอ.บอกว่าอยากให้ไปเยี่ยมบ้านนี้ด้วย และ บอกเพียงว่าบ้านนี้อยู่กัน 2 คนตายาย เมื่อไปถึงเห็นบ้านเป็นบ้านปูนชั้นเดียวปลูกใหม่ ในใจก็คิดว่า เยี่ยมบ้านคนมีฐานะ ไม่หนักใจทีมหรอก เพราะบ้านคนมีฐานะจะดูแลตนเองได้ดี มีอุปกรณ์มาก พอก้าวเข้าไปในบ้าน ทุกคนถึงกับพูดไม่ออก เพราะสภาพภายในบ้านสกปรก มีเศษอาหารเกลื่อนเต็มพื้น เศษผ้าอ้อมผู้ใหญ่และคราบดำ ๆ แห้งติดเต็มพื้นบ้านไปหมด มีตาออกมาถามว่ามาทำอะไรกัน เจ้าหน้าที่สอ.บอกว่าพาหมอจากโรงพยาบาลมาเยี่ยมยาย หมอก็เข้าไปไหว้ตาและแนะนำตัว ตาก็พยักหน้า และบอกว่าอยากดูยายก็ไปดูเอง  เลยได้เห็นยายอายุประมาณ 70 ปี นอนหายใจรวยรินอยู่บนเตียง สภาพผอมแห้งเนื้อติดกระดูก สวมใส่ผ้าอ้อมเปื้อนอุจจาระ และมีเสื้อขาด ๆ ห่มท่อนบนอยู่ 1 ผืน เลยคิดต่อไปอีกว่าจะต้องดูแลเปลี่ยนผ้าอ้อมที่เปื้อนให้ยายก่อน  แต่ยายยังไม่รู้จักเรา คุยเพื่อสร้างสัมพันธภาพก่อนดีกว่า เลยถามยายไปว่า ยายกินข้าวหรือยัง ยายตอบกลับมาว่าหิว เราเลยถามตาว่าให้ยายกินอะไรหรือยัง ตาบอกว่าให้กินโจ๊กไปแล้ว เค้าไม่ยอมกิน วางไว้นั่นไง  โจ๊กอยู่ข้างหัวเตียงยายนี่เอง มดขึ้นเต็มไปหมด มีเงาะเน่าอยู่ข้างกัน 1 ถุง หมอถามตาว่าทำไมบ้านเป็นแบบนี้ ตาบอกแก่แล้วทำไม่ไหว หมอถามว่าแล้วลูกไปไหน ตาบอกว่านาน ๆ เค้าจะมา แล้วเอาเงินที่ไหนใช้ ตาบอกว่าลูกเค้าให้ใช้เดือนละ 3,000 โน่น ให้คนโน้น 6,000 แล้วก็เล่าเรื่องที่ถูกพี่น้องโกงเงินเอาเงินไปหมด เราได้โอกาสเลยให้หมอออกไปชวนคุณตาคุยหน้าบ้าน แล้วเราก็จัดการกวาดบ้าน เก็บขยะ ถูพื้น  เปลี่ยนผ้าอ้อมให้ยาย เช็ดตัวเสร็จ แป้งไม่มีทา ไม่เป็นไร พยาบาลมี เอาแป้งพยาบาลไปใช้ก่อน ยายมีเบาะลม มี walker มีรถเข็นอย่างดี แต่ไม่ได้ใช้ ยายมีแผลที่ก้น ขนาด 8*5 วัดความดันโลหิตยายได้ 98/82 mmHg P=58 /M  บอกหมอ  หมอถามยายว่าไปนอนโรงพยาบาลไหม ยายบอกทันทีว่าไป   หมอตัดสินใจเดินไปบอกตาว่าจะให้คุณยายไปโรงพยาบาล ตาทำท่าทางนิ่ง ๆ ไป บอกว่าไม่มีใครไปส่ง  หมอเลยบอกว่า รถโรงพยาบาลจะมารับ ตาก็นิ่ง หมอถามว่าตาอนุญาตหรือไม่  ตาบอกว่าไม่รู้  เราเลยถามยายว่า ยายติดต่อลูกได้ไหม ยายบอกว่ายายมีโทรศัพท์อยู่หัวเตียง เจ้าหน้าที่สอ.หยิบมาโทรให้ ผลก็คือลูกคนที่ 1 ติดต่อไม่ได้ คนที่ 2 ไม่รับสาย เลยประชุมทีมกันว่า อีก 1 ชม.ถ้าติดต่อไม่ได้ยังไงก็จะให้รถโรงพยาบาลมารับ  เจ้าหน้าที่สอ.บอกว่าเคยมากับอสม.แล้วครั้งหนึ่งเพื่อมาถูบ้านเช็ดบ้านให้ตา เช็ดตัวให้ยาย แต่พอคุณตาแกรู้แกปิดบ้านล็อคไม่ให้ใครเข้าเลย  วันนี้คุณตาแกยอม เจ้าหน้าที่สอ.ดีใจมาก

บทสรุป

จากการเยี่ยมบ้านคุณยายครั้งนี้ทำให้เกิดมุมมองใหม่ในอีกมิติหนึ่งของการเยี่ยมบ้านผู้ป่วย CVA ซึ่งผู้ป่วยที่เคยช่วยเหลือตนเองได้ เป็นกำลังของครอบครัวในการประกอบกิจการ เมื่อวันหนึ่งต้องมาเจ็บป่วยไร้กำลัง ไร้ความสามารถที่จะช่วยเหลือตนเอง  ญาติก็หมดกำลังใจ  แต่สิ่งหนึ่งที่ได้เห็นจากคุณยายคือความรู้สึกที่จะมีชีวิตอยู่ ความหวังที่จะมีชีวิตแม้จะไม่มากก็ตาม

การเยี่ยมบ้านครั้งนี้ยังทำให้เราได้ตระหนักถึงศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์มากขึ้น มนุษย์ทุกคนมีความต้องการที่แตกต่างกัน และเมื่อวันหนึ่งต้องมาเจ็บป่วยไร้กำลังก็ยิ่งก่อให้เกิดความทุกข์มากยิ่งขึ้น การมองผู้ป่วยด้วยหัวใจของความเป็นมนุษย์ ทำให้เกิดพลังในความเมตตา สงสาร อยากช่วยเหลือ ให้ผู้ป่วยพ้นทุกข์ และมีชิวิตอยู่ได้อยากมีความสุขต่อไป

หมายเลขบันทึก: 387724เขียนเมื่อ 24 สิงหาคม 2010 13:47 น. ()แก้ไขเมื่อ 23 มิถุนายน 2012 02:05 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

เก่งจังเลยคะ ดีใจแทนคนไข้และญาติคะ สู้สู้นะคะ เป็นกำลังใจให้

ให้กำลังใจ ทีมเยี่ยมบ้าน ท่านเป็นทีมที่สุดยอดจริงๆ อะไรจะทำให้ชีวิตนี้มีค่ามากไปกว่าการได้ช่วยเยียวยาเพื่อมนุษย์

ศรีสมร ลำพูน

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท