30 กันยายน 2553 วันสำเร็จปริญญาแห่งความเป็นครู
ขอรำลึกถึงคุณครูผู้สั่งสอนศิษย์ ด้วยเวลาที่เปลี่ยนแปลงไป หัวใจครูไม่เคยเปลี่ยน
การแสดงมุทิตาจิต เป็นการเชิดชูเกียรติและคุณงามความดีของคุณครูที่เกษียณอายุราชการที่มีความสำคัญ มีค่าอย่างยิ่งของโรงเรียน ความต้องใจของคุณครู
ที่ได้อุทิศตน ปฏิบัติงานด้วยความวิริยะอุตสาหะ ทุ่มเทแรงกาย แรงใจและใช้ความรู้ความสามารถ ประสบการณ์ ปฏิบัติหน้าที่ในการบริหารและการสอน จนมีผลสำเร็จ
ต่อโรงเรียน เป็นประโยชน์ต่อสังคม ตลอดจนประเทศชาติ ซึ่งถือว่าเป็นปูชนียบุคคล วันนี้จึงเป็นวันที่บอกถึงความรักความผูกพัน เพราะคำว่า
"มุทิตาจิต" หมายถึง ความเป็นผู้มีใจยินดี ชื่นชมในเมื่อเห็นผู้อื่น
ได้ดีหรือได้รับความสำเร็จอย่างใดอย่างหนึ่ง เป็นอาการที่เกิดขึ้นเองในใจ
มิได้เกิดจากการบังคับ เกิดขึ้นกับจิตใจที่ปราศจากความอิจฉาริษยา
และยังเป็นหนึ่งในพรหมวิหาร 4 คือยินดีเมื่อเห็นเขาเป็นสุข
พรหมวิหาร 4 แปลว่า ธรรมของพรหมหรือของท่านผู้เป็นใหญ่ พรหมวิหารเป็นหลักธรรมสำหรับทุกคน เป็นหลักธรรมประจำใจที่จะช่วยให้เราดำรงชีวิตอยู่ได้อย่างประเสริฐและบริสุทธิ์ ได้แก่
เมตตา ความปรารถนาให้ผู้อื่นได้รับสุข
กรุณา ความปรารภนาให้ผู้อื่นพ้นทุกข์
มุทิตา ความยินดีเมือผู้อื่นได้ดี
อุเบกขา การรู้จักวางเฉย
ด้วยความรักความผูกพันที่มีให้กันและกัน ระหว่างผู้บังคับบัญชา เพื่อนร่วมงาน และศิษย์กับคุณครูผู้เป็นที่รักและเคารพ ที่เป็นได้ทั้งพ่อ แม่ พี่ และอาจต้องเป็นเพื่อนร่วมชั้นเรียนบ้างในบางครั้ง
ในขณะนี้โรงเรียนของผู้เขียนเอง มีครูผู้เกษียณอายุตามกำหนด 2 ท่าน คือ
นายธวัชชัย สีสิมมา ผู้อำนวยการโรงเรียน และนายสมหมาย อินท์ศร ครูเกษตร
และคุณครูที่ขอเกษียณก่อนกำหนดจำนวน 5 ท่าน รวมแล้ว 7 ท่านด้วยกัน
ขอบูชาคุณครูทุกท่านที่เกษียณอายุ ด้วยความเคารพในจิตวิญญาณของความเป็นครูของทุกท่าน ที่สร้างลูก ๆ (ลูกศิษย์) เป็นคนดีของสังคมอย่างมากมาย จนถึงวันนี้
แม้นว่าครูเกษียณไป แต่คำว่าครูยังอยู่ในใจของศิษย์ตลอดไปนานเท่านาน
ไม่มีความเห็น