การทำงานของข้าราชการในยุค ปี 2553 มีการปรับเปลี่ยนระบบการทำงานอย่างที่เรียกว่าพลิกแผ่นดินก็ว่าได้ สืบเนื่องจากการปฏิรูประบบราชการไทย เมื่อปี พ.ศ.2545 ซึ่งคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาระบบราชการไทย เพื่อใช้เป็นกรอบแนวทางหลักในการพัฒนาระบบราชการไทยตั้งแต่ ปี พ.ศ.2546 จนถึงปัจจุบัน และเห็นชอบให้นำการพัฒนาคุณภาพการบริหารจัดการภาครัฐ (PMQA) มาใช้ เพื่อเป็นเครื่องมือผลักดันให้การพัฒนาระบบราชการมีประสิทธิภาพและยั่งยืน เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 2548 โดยกำหนดเป็นตัวชี้วัดในมิติด้านการพัฒนาองค์กรของส่วนราชการ
จากการที่ข้าพเจ้านำเสนอให้หน่วยงานสำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดอุทัยธานี เป็นหน่วยงานนำร่องในการถ่ายทอด (Cascading) ตัวชี้วัดและค่าเป้าหมายจากส่วนราชการลงสู่ระดับบุคคล ในปีงบประมาณ พ.ศ.2552 ของจังหวัดอุทัยธานี ทำให้ต้องตั้งคำถามกับตัวเองว่า “เราจะทำได้หรือไม่” เพราะแนวทางการดำเนินงานถ่ายทอดตัวชี้วัดลงสู่ระดับบุคคลที่สำนักงาน ก.พ.ร.กำหนดมีความซับซ้อนและยังไม่ชัดเจนนัก ประกอบกับส่วนราชการยังคงยึดติดอยู่กับการทำงานในระบบเดิม ๆ และไม่ยอมรับการเปลี่ยนแปลง ฉะนั้นการจะสร้างความเข้าใจกับผู้บริหารและบุคลากรในหน่วยงาน จึงเป็นปัญหาที่ต้องนำมาขบคิดเพื่อหาทางออก
เมื่อคิดเช่นนั้น ตนเองจึงมองว่าการจะสร้างความเข้าใจกับคนอื่น เราต้องเข้าใจสิ่งนั้นอย่างลึกซึ้งว่าทำให้เกิดประโยชน์อย่างไรทั้งต่อองค์กร และบุคลากรก่อนเป็นอันดับแรก รวมทั้งลงมือปฏิบัติให้เป็นตัวอย่างได้ จึงทำการศึกษาการดำเนินการถ่ายทอดตัวชี้วัดลงสู่ระดับบุคคลอย่างจริงจัง ทำให้เข้าใจว่าการดำเนินงานดังกล่าว
เป็นการวางระบบการทำงานอย่างเป็นขั้นเป็นตอนและมีเป้าหมายในการทำงานชัดเจน ช่วยให้การทำงานมีประสิทธิภาพ และสามารถแก้ไขปัญหาที่จะเกิดขึ้นในอนาคตได้ทันเวลา โดยเริ่มจากการกำหนดสิ่งที่องค์กรต้องการให้เป็นก็คือ วิสัยทัศน์ จากนั้นการทำงานก็จะเข้าสู่ระบบคือมีการกำหนดพันธกิจ ประเด็นยุทธศาสตร์ เป้าประสงค์ของแต่ละประเด็นยุทธศาสตร์ กลยุทธ์หรือวิธีการที่จะทำให้บรรลุ เป้าประสงค์นั้นๆ ได้โดยใช้การระดมความคิด และการระดมสมองจากผู้บริหารทุกระดับและบุคลากรในหน่วยงานเพื่อให้เกิดการมีส่วนร่วมและยอมรับ ซึ่งจะทำให้บุคลากรสามารถกำหนดตัวชี้วัดตอบสนองเป้าหมายขององค์กร ทำให้บรรลุผล และสามารถเชื่อมโยงกับระบบการประเมินผลการปฏิบัติงานที่มุ่งเน้นผลงาน เกิดความโปร่งใสและเป็นธรรม ตามหลักธรรมาภิบาล ตาม พรก.การบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี พ.ศ.2546 ส่งผลให้บุคลากรมีขวัญและกำลังใจที่ดีในการปฏิบัติงานนำพาองค์กรมุ่งสู่ความเป็นเลิศตามยุทธศาสตร์การพัฒนาระบบราชการไทยได้อย่างไม่ยากเย็น
การดำเนินงานดังกล่าวจะประสบความสำเร็จได้ บุคลากรในหน่วยงานทุกระดับ โดยเฉพาะผู้บริหารต้องให้ความสำคัญ ติดตาม กำกับดูแลอย่างใกล้ชิด นำ”กระบวนการเรียนรู้และการมีส่วนร่วม”ที่เป็นหัวใจสำคัญของการทำงานพัฒนาชุมชนมาปรับใช้ให้สมกับเป็นหน่วยงานที่ส่งเสริมการมีส่วนร่วมอย่างแท้จริง
ข้อเขียนโดยคุณจิณณพัต สาครบุตร สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดอุทัยธานี
ไม่มีความเห็น