ในการ transform มหาวิทยาลัย ให้ทำงานวิชาการแนบแน่นอยู่กับภาคส่วนต่างๆ ที่เป็นชีวิตจริงของสังคม มหาวิทยาลัยจะต้องสร้างโครงสร้างด้านการจัดการขึ้นมารองรับ ดังได้กล่าวแล้วในตอนที่ ๔ ซึ่งหมายความว่า มหาวิทยาลัยจะต้องเสาะหาและพัฒนาเจ้าหน้าที่สายสนับสนุนขึ้นมาทำงานด้านนี้ ที่เป็นคนที่รักและเห็นคุณค่าของงานด้านนี้ มีทักษะในการทำงาน และเพิ่มพูนทักษะจากการทำงาน
ผมจะลองเสนอจินตนาการ ว่าเจ้าหน้าที่สายสนับสนุนงานรับใช้สังคม ของมหาวิทยาลัยควรทำอะไรได้บ้าง
• การพัฒนาฐานข้อมูล ที่อาจเรียกว่า Need Database หรือ Opportunity Database ของมหาวิทยาลัยของตน และคอยปรับให้ทันสมัยอยู่เสมอ โดยอาจร่วมมือกับมหาวิทยาลัยอื่น หรือร่วมมือกับฐานข้อมูลกลางของ สกอ. ฐานข้อมูลนี้จะช่วยให้มหาวิทยาลัยเห็นโอกาสใหม่ๆ ที่ทรงคุณค่า สำหรับทำงานรับใช้สังคม
• การทำงานสื่อสารเชื่อมโยงกับภาคีฝ่ายที่ต้องการให้มหาวิทยาลัยเข้าไปร่วมมือทำงานวิชาการ ในลักษณะที่เป็นการทำงานเชิงรุก (proactive) ไม่ใช่รอให้เขามาขอใช้บริการ (reactive) หากพูดในภาษาธุรกิจ หมายถึงการทำงานด้านการตลาด
• การจัดการงานวิจัย หรืองานบริการวิชาการ ในมุมของมหาวิทยาลัย เพื่ออำนวยความสะดวกแก่นักวิจัย/นักวิชาการ และอำนวยความสะดวกแก่หน่วยงานฝ่ายที่เป็นภาคีร่วมมือ งานส่วนนี้จะมีรายละเอียดมากมาย ทั้งด้านติดต่อสื่อสาร การติดตามงาน การเงิน การเขียนรายงาน เป็นต้น
• การอำนวยความสะดวกในการเขียนและส่งต้นฉบับไปตีพิมพ์ ใน PLoT รวมทั้งการติดตามสร้าง visibility อย่างเหมาะสมให้แก่ผลงานของหน่วยงานที่ตีพิมพ์ใน PLoT และการติดตามข้อมูลผลกระทบของผลงานต่างๆ ของหน่วยงาน ที่ตีพิมพ์ใน PLoT และที่ได้รับการยกย่องในโอกาสต่างๆ นำมาเสนอต่อผู้บริหารและสื่อสารให้รับรู้กันอย่างกว้างขวางทั้งภายในและภายนอกมหาวิทยาลัย โดยขอย้ำว่าต้องรู้จักวิธีการดำเนินการอย่างเหมาะสม ไม่มากไม่น้อยเกินไป ไม่เป็นการโอ้อวดเกินจริง หรือเป็นการโฆษณาอย่างไร้จริยธรรม
• พัฒนาขีดความสามารถของตนเองและเพื่อนร่วมงาน ในการทำความเข้าใจสาระของกิจกรรมบริการวิชาการ/วิจัย ที่มหาวิทยาลัยทำร่วมกับภาคี และพัฒนาขีดความสามารถในการสื่อสารสาระหรือเนื้อหาสำคัญออกไปทางข้อเขียน หรือในทางติดต่อกับสื่อมวลชนให้เขามาจัดทำ สกู๊ป หรือรายการพิเศษ เจ้าหน้าที่ที่มีความสามารถในระดับนี้ถือว่าเป็นบุคคลที่มีค่ายิ่ง เป็นทักษะหรือขีดความสามารถระดับสูง
• รวบรวมผลงานเด่นประจำปี และประสานงานให้มีการสรุปภาพรวม และสรุปแต่ละผลงานเด่น สำหรับลงตีพิมพ์ในรายงานประจำปีของหน่วยงาน/องค์กร และนำไปเผยแพร่ในโอกาสหรือรูปแบบอื่นๆ เช่นใน เว็บไซต์
• เสนอแนะลู่ทาง หรือโอกาสใหม่ๆ ในการทำงานรับใช้สังคมให้แก่ผู้บริหารและแก่นักวิชาการสายนี้ ในโอกาสอันควร
ตามที่เสนอมานี้ เจ้าหน้าที่สายสนับสนุนไม่ใช่เพียงผู้ทำงานตามสั่ง แต่เป็นผู้ร่วมใช้ความคิดสร้างสรรค์ เป็น Knowledge Worker
วิจารณ์ พานิช
๑๘ ก.ค. ๕๓
เรียนท่านอาจารย์หมอที่เคารพ
กระผมรู้สึกอิ่มเอมใจมากครับผม การที่เชื่อมโยงวิชาการกับชีวิตค่อยๆก่อร่างสร้างขึ้น มีสุขมากครับผม แค่ฝัน จินตนาการก็ยังรู้สึกดีครับผม รู้สึกว่ามีสุนทรียภาพในจิต ในระดับลึกมาก เหมือนฟังเพลง "น้ำตาแสงไต้" ที่ลิงค์ข้างล่างนี้ครับผม ในสภาวะที่จิตโน้มเอียงสู่ความสงบในบรรยากาศแสงจันทร์ แสงดาว สาดส่อง ในบรรยากาศที่โรแมนติก ที่มีท้องฟ้าแจ่ม ช่วงปลายฝนต้นหนาว และสัมผัสความงาม ความอ่อนโยน ความละเมียดละไมของศิลปะในระดับที่ลึกซึ้งอิ่มเอมใจเหลือประมาณครับผม ในชีวิตกระผมปลุกแรงใจหลายทาง เพลงที่งดงามกระผมก็ใช้ขจัดความขุ่นมั่วในใจได้ เพราะสร้างความอ่อนโยนในจิตในสภาวะขุ่นใจครับผม
ด้วยความเคารพครับผม
นิสิต