นา : แหล่งรวมความหลากหลายและความสมบูรณ์ทางธรรมชาติ *


ช่วงที่ผู้เขียนทำนาอยู่**  เมื่อสามสิบปีทีแล้วนั้น สภาพท้องทุ่งนามีความสมบูรณ์ตามธรรมชาติอย่างครบถ้วน เพราะอะไร  เพราะในทุ่งนานั่นเองมีทั้งสัตว์และพืชผักอยู่เต็มไปหมด สัตว์มีกุ้ง หอย ปู ปลา กบ เขียด หนู นก กระรอก กระแต พังพอน ฯลฯ

พืชผักที่มีอยู่ตามธรรมชาติก็มากด้วย เช่น หน่อไม้ กุ่ม สะเดา ผักหวาน มะยม ผักอีซึก แค มะขาม  มะรื่น มะม่วงป่า มะค่าแต้ บุก ตำลึง ผักบุ้ง ฯลฯ ผลไม้บางชนิด พุทรา ตะโกนา ยอ ไข่เน่า มะดูก ขี้อ้าย ฯลฯ แม้แต่หญ้าที่งอกงามก็ไม่ต้องกำจัด หรือทำลายด้วยวิธีที่ต้องสิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด แต่หญ้านั้นเองกลับมีประโยชน์แก่วัว-ควายอีกด้วย

                          ภาพที่ ๑ นาข้าว ห้างนา การปลูกผลไม้และการปลูกป่าตามคันนา ของชาวนาบ้านหนองบัว อำเภอหนองบัว
                          จังหวัดนครสวรรค์  ถ่ายภาพ : วิรัตน์ คำศรีจันทร์ สิงหาคม ๒๕๕๓

                          ภาพที่ ๒ แปลงเพาะกล้านาข้าว บ้านห้วยส้ม อำเภอสันป่าตอง จังหวัดเชียงใหม่ 
                          ถ่ายภาพ : วิรัตน์ คำศรีจันทร์ กรกฎาคม ๒๕๕๓

                        ภาพที่ ๓ นาข้าว บ้านรังย้อย อำเภอหนองบัว จังหวัดนครสวรรค์ นาข้าวของชาวบ้านในชนบทมักมีหนองน้ำสำหรับการปลูกพืชไว้กินตามขอบหนอง และปล่อยปลาให้เติบโต เมื่อถึงหน้าเกี่ยวข้าวก็เป็นแหล่งอาหารทั้งพืชผักและปูปลา  ถ่ายภาพ : วิรัตน์ คำศรีจันทร์ มกราคม ๒๕๕๓

ในทุ่งนามีของกินอยู่มาก เป็นแหล่งเรียนรู้ ทำมาหากินได้เกือบจะทั้งปี  ดังนั้นท้องนาจึงไม่เงียบเหงา ว่างเปล่า เวิ้งว้าง ไร้ชีวิตชีวา ในน้ำมีปลา ในนามีข้าว บนหัวเปลือก ที่โนนที่สูงก็มีพืชผัก น้ำในท้องนาก็ดื่มกินได้อย่างปลอดภัย

ความอุดมสมบูรณ์ของท้องนานั้นดูๆไปก็จะคล้าย ๆ ตลาดเลย มีของกินที่ปลอดภัยให้พ่อแม่นำกลับมาบ้าน มีปลาบ้าง ผักบ้าง และวันไหนพ่อแม่มีผลไม้จากท้องนามาฝากลูกๆหลานๆ วันนั้นก็จะทำให้เด็กๆ ได้กินของอร่อย เหมือนได้กินของจากห้างสรรพสินค้าก็ไม่ปาน

ชาวนาทุกคนจึงต้องเป็นผู้ทำกินเป็น คือถ้าผู้ชายไปนาคนเดียวก็ต้องสามารถปรุงอาหารเป็น พึ่งตนเองได้ ไม่ต้องพึ่งอาหารถุง อาหารสำเร็จรูป บางครั้งการไปนาก็จะนำข้าวสุกไปอย่างเดียว ส่วนอาหารไปหาเอาที่นาแล้วทำกินเอง  แกง หมก ปิ้ง ฯลฯ

กาลต่อมาท้องนาไม่มีสภาพดังกล่าวแล้ว กลายเป็นทุ่งนาที่เงียบเหงา  อาหารตามธรรมชาติหมดไป สัตว์น้ำก็หายไป น้ำก็กินไม่ได้ ไปนาก็ต้องซื้อกับข้าวจากตลาด นา ที่เคยมีของกินได้มากมาย ก็เหลือข้าวเพียงอย่างเดียว  

ด้วยประการฉะนี้ แหละโยม เอวัง.

...............................................................................................................................................................................

* บทความนี้เขียนและบันทึกถ่ายทอดไว้ในเวทีคนหนองบัว โดย ท่านพระคุณเจ้า พระมหาแล ขำสุข(อาสโย) ในชื่อหัวข้อเดียวกันนี้ที่ dialogue box 747 ของเวทีคนหนองบัว เพื่อให้เป็นแหล่งรวบรวมและค้นหาอ่านได้ง่าย รวมทั้งเพิ่มพูนศักยภาพการเขียนสะสมความรู้ สร้างวัฒนธรรมการอ่านและใช้ความรู้ในวิถีชีวิต ส่งเสริมให้ชาวบ้านและคนทั่วไปเข้าถึงความรู้ของท้องถิ่นที่เขียนขึ้นจากประสบการณ์ของคนจากชุมชน ผ่านระบบค้นหาความรู้และข้อมูลทางเทคโนโลยี IT บูรณาการมิติชุมชนเข้ากับเทคโนโลยีและสร้างนวัตกรรมความรู้ผสมผสาน ต่อยอดขึ้นจากพื้นฐานชนบท ซึ่งจะส่งเสริมให้ชุมชนมีภูมิปัญญาปฏิบัติในชีวิตและเป็นองค์ประกอบการก่อเกิดสุขภาวะและสังคมเข้มแข็งในชุมชน ผมจึงขอนำมารวบรวมไว้เป็นหัวข้อเฉพาะนี้อีกครั้งหนึ่ง และเพื่อให้ความเคารพในความสร้างสรรค์และมีส่วนร่วมเขียนข้อมูลความรู้จากเรื่องราวในวิถีชีวิตสะสมเป็นภูมิปัญญาสาธารณะ ผมจึงขอรักษาความเป็นต้นฉบับไว้โดยจัดย่อหน้าให้ง่ายต่อการอ่านและปรับแต่งเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

** หมายถึงผู้เขียน พระมหาแล ขำสุข (อาสโย)

หมายเลขบันทึก: 385666เขียนเมื่อ 17 สิงหาคม 2010 17:13 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 23:23 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (8)

       สวัสดีครับ  ที่บ้านคุณยังดีกว่าที่บ้านผมที่ยังมีข้าวเหลืออบู่  เพราะที่บ้านผมทั้งนาทั้งข้าวไม่มีเหลือให้เห็น   นี่คือความรันทดประการหนึ่งในภาพที่เรามองเห็นได้ว่าเราไม่สามารถทำอะไรได้นอกจากรำพึงรำพันตามประสาคนเคยอิ่มเอิบกับภาพที่ประทับใจในอดีต  ขอบคุณที่แบ่งปันครับ

  • สวัสดีครับคุณธนาครับ
  • ตอนนี้ผืนนาแถวบ้านผมหลายแห่งก็เกือบกลายเป็นบ้านเรือนและที่ทำมาค้าขายไปเยอะแล้วครับ
  • เดี๋ยวนี้ใครมีสภาพธรรมชาติอยู่ในบ้านหลงเหลืออยู่ได้ ก็จะเป็นสิ่งที่น่าหวงแหน และเป็นของหายากได้มากขึ้น-มากขึ้น เลยนะครับ

เจริญอาจารย์วิรัตน์

  • ขอบคุณอาจารย์ที่ได้แยกเรื่องนี้ มาไว้ต่างหากให้ได้ศึกษากันเป็นการเฉพาะ
  • นึกว่าที่เชียงใหม่จะไม่มีภาพแบบนี้แล้ว

เจริญพรคุณโยมธนา

  • เมื่อหลายปีมาแล้ว ได้ไปหาดใหญ่บ่อยๆ
  • เห็นหาดใหญ่แต่ละครั้ง มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วจริง ๆ
  • ด้วยหาดใหญ่เป็นเมืองท่องเที่ยว เมืองเศรษฐกิจของภาคใต้
  • ซึ่งต่างจากหนองบัว เพราะหนองบัวยังเป็นบ้านนอก ชนบท
  • แต่บ้านนอกสมัยนี้ ก็มีความเปลี่ยนแปลงไม่น้อยเหมือนกัน
  • อนุโมทนาที่เข้ามาแลกเปลี่ยนกัน

กราบนมัสการพระอาจารย์มหาแล สวัสดีอาจารย์วิรัตน์

ที่บ้านดิฉันไม่ได้ทำนามานานแล้วค่ะ ตั้งแต่ ปี ๒๕๓๘ คือตั้งแต่พ่อของดิฉันเสียไปค่ะ แต่ว่า ที่นา ของดิฉัน ยังคงเก็บรักษาไว้โดยการให้ ลูกพี่ลูกน้องทำนาและดูแลให้ค่ะ

ซึ่งเรื่องราว ต่างๆ ที่พระคุณเจ้าได้เขียนไปนั้น เกี่ยวกับนา ดิฉันได้สัมผัส เพราะได้อยู่ในทุ่งนาตั้งแต่เด็กๆ ชอบมาก หากย้อนเวลากลับไปได้ อยากให้มีวิธีการทำนาแบบเดิมๆ วิถีชีวิต แบบเดิมๆ สมัย ๓๐ กว่าปีที่แล้วยังคงอยู่ ดิฉันเป็นลูกชาวนาแท้ๆ ค่ะ และ ภูมิใจในการเป็นลูกชาวนา

ในความคิดไม่เคย คิดจะขายที่นา ค่ะ ทุกวันนี้ก็ไม่เคยคิดจะขาย ตัวดิฉันเองไม่ได้ทำนาแล้ว แต่ก็อยากให้ ญาติๆ ได้ทำกินกันไป เพื่อสืบทอดการทำนา

เมื่อปี ๒๕๕๒ ดิฉันได้พาครอบครัว ลูกๆ และสามีไปดูที่นา ไปดูบริเวณรอบที่เคยปลูกห้างนา ซึ่งตอนนี้ไม่มีห้างนาแล้ว โดยแม่ไปช่วยชี้ตำแหน่งต่างๆ

ซี่งตอนนี้ ที่นาของดิฉันได้ มีคลองชลประทาน ผ่าน ซึ่งขุดจากคลองเก่าที่เคยมีมาก่อน และ ที่นาของดิฉันไม่ไกลโรงสีไฟบัวทองและก็ สิ่งที่เกิดขี้น ที่ไม่อยากให้เกิดขี้นคือ โรงงาน แบตเตอรี่ ค่ะ

ดิฉันพยายามลงรูปที่นาที่ไปถ่ายมา แต่ลงยากจังค่ะ

อัญชัน

สวัสดีค่ะ

เพื่อนที่บ้านเขาทำนา เขาเล่าให้ฟังว่า "ท้องนาสมัยนี้เปลี่ยนแปลงไปมาก กบ เขียด ปลาน้อย ๆ ลดลง และน้ำในนาก็อันตราย เขาบอกว่าสมัยก่อนใช้ล้างภาชนะ ซักผ้าได้" ค่ะ

เรื่องเล่าของพระคุณเจ้าฯ เป็นธรรมชาติงดงามนะคะ

ท่านพระอาจารย์มหาแลมาคุยไว้นานแล้วนะครับเนี่ย
กราบนมัสการครับ

สวัสดีครับคุณอัญชนครับ คุณอัญชันมีความผูกพันชีวิตชาวนาดีครับ น่าภูมิใจ

สวัสดีครับพี่คิมครับ อย่าว่าแต่ซักผ้าเลยครับ เมื่อก่อนนี้ต้องได้กินน้ำจากนาข้าวหรือจากสระตามบ้านครับถึงจะอยู่ท้อง หากเป็นน้ำฝนก็ต้องจากหลังคาจากและโอ่งดินเผา ดื่มจากถังซีเมนต์ของน้ำประปาเมื่อก่อนนี้นั้น ต้องหัดอยู่เป็นนานเลยละครับ ทำท่าจะไม่สบายเอาเลย มันเหมือนไม่ได้กินน้ำและเฝื่อนติดปากตลอดเวลา ก็แปลกนะครับ เป็นการปรับตัวของการใช้ชีวิตในที่อยู่ที่กินกระมังนะครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท