โรคร้ายแฝงมากับฤดูฝน ภัยทีเกิดจากสัตว์ในและนอกบ้านที่เราต้องระวัง


เมื่อถึงหน้าฝนทีไร สาธารณสุขจังหวัดต่างๆ ก็เร่งออกเตือนประชาชนในทุกพื้นที่ให้ ระวัง "โรคฉี่หนู" เนื่องจากในช่วงฤดูฝน มักจะเป็นการเสี่ยง ที่ต้องลุยน้ำ หรือโคลน ที่ท่วมขัง หรือเกษตรกรที่ทำการเพาะปลูก หรือแม้แต่คนเมืองก้ประมาทไม่ได้

           วันนี้ได้อ่านข่าวไทยรัฐออนไลน์  พบเรื่องที่จะต้องนำมาแบ่งปันแก่มวลสมาชิกในชุมชน  เพราะเป็นเรื่องที่ต้องระมัดระวังในหน้าฝนเป็นหลัก

            เมื่อถึงหน้าฝนทีไร สาธารณสุขจังหวัดต่างๆ ก็เร่งออกเตือนประชาชนในทุกพื้นที่ให้ ระวัง "โรคฉี่หนู" เนื่องจากในช่วงฤดูฝน มักจะเป็นการเสี่ยง ที่ต้องลุยน้ำ หรือโคลน ที่ท่วมขัง   หรือเกษตรกรที่ทำการเพาะปลูก หรือแม้แต่คนเมืองก้ประมาทไม่ได้

            ข่าวระบุว่านพ.กฤษดา ศิรามพุช ผอ.ศูนย์เวชศาสตร์ อายุรวัฒน์นานาชาติ ให้ข้อมูลว่า "โรคฉี่หนู" หรือ "โรคเลปโตสไปโรซีส" เป็นโรคประเภทที่ติดต่อจากสัตว์มาสู่มนุษย์ชนิดหนึ่ง ซึ่งพาหะของโรคนั้น ไม่ได้พบเฉพาะใน "หนู" เพียงอย่างเดียว แต่ยังสามารถพบได้ในสัตว์อีกหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็น กระรอก วัว ควาย หมา แมว สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ฯลฯ แต่เพราะเชื้อนี้ถูกพบมากในหนู และฉี่ของหนู จึงเป็นที่มาของชื่อ "ฉี่หนู" ไปโดยปริยาย สัตว์เหล่านี้จะเก็บเชื้อโรคไว้ในไต และปล่อยเชื้อออกมาทางปัสสาวะ ซึ่งภาวะการระบาดของเชื้อ จะมีมากในช่วงหน้าฝน แต่ก็สามารถพบได้ประปรายตลอดปี


          สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมเหล่านี้ และหนู มันจะปัสสาวะโดยไม่เลือกพื้นที่  ถ้าจะถามว่าใครเข้าข่ายกลุ่มเสี่ยงที่จะเป็นโรคนี้ได้บ้าง ก็ต้องบอกว่า "ทุกคน" เข้าข่าย "กลุ่มเสี่ยง" ด้วยกันทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นสาวออฟฟิศ หนุ่มแบงก์ เศรษฐีพันล้าน นักกีฬา เกษตรกร นักท่องเที่ยว ฯลฯ เพราะเชื้อชนิดนี้จะพบได้ตามแหล่งน้ำ พื้นที่เกษตรกรรม ถนน ตรอก ซอยที่มีน้ำท่วมขัง โดยเชื้อจะเข้าสู่ร่างกายเมื่อสัมผัสกับน้ำที่มีเชื้อโรคชนิดนี้อยู่ ยิ่งถ้ามีบาดแผลเชื้อเหล่านี้ก็จะเข้าสู่ร่างกายได้ง่ายขึ้น

          เชื้อ "เลปโตสไปโรซีส" จะมีลักษณะเป็นเหมือนสว่าน  ชอนไชได้ง่ายผ่านบริเวณที่เป็นเยื่อเมือก อย่างโพรงจมูก เยื่อบุตา ทวารหนัก บาดแผลตามร่างกาย บาดแผลภายในปาก และเมื่อตัวเปื่อย เพราะแช่น้ำเป็นเวลานาน


       ผู้ร้ายจะเผยตัวเมื่อใดนั้น ก็ขึ้นอยู่กับภูมิคุ้มกันในร่างกาย หากร่างกายอ่อนแอ หรือมีภาวะเป็นโรค อย่าง เบาหวาน เอดส์  อาการของโรคก็อาจแสดงให้เห็นได้เร็ว แต่โดยปกติแล้ว เชื้อนี้จะมีระยะฟักตัวประมาณ 10 วัน

        อาการที่ปรากฏจะคล้ายกับบุคคลที่ได้รับเชื้อหวัด 2009 โดยจะมีไข้สูง เป็นหวัด ไอ เจ็บคอ ปวดเมื่อยตามร่างกาย ในบางรายอาจมีอาการคล้ายคนเป็นดีซ่าน ตาเหลือง ตัวเหลือง

แล้วจะรู้ได้อย่างไร ว่าเราเป็นโรคฉี่หนู หรือว่า หวัด 2009 กันแน่

         มีวิธีทดสอบเบื้องต้นง่ายๆ คือ  ให้บีบเบาๆ บริเวณน่องขา หรือว่าเอ็นร้อยหวายที่ข้อเท้า หากบีบเบาๆ แต่เจ็บจี๊ดขึ้นสมอง ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่า คุณเป็นโรคฉี่หนูแล้ว ขั้นต่อไป คือต้องรีบไปพบแพทย์ เพื่อทำการรักษาอย่างเร่งด่วน เพราะหากเชื้อของโรคฉี่หนูลามขึ้นสมอง หรือว่าวิ่งไปสู่ไตแล้ว อาจทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิตได้

แล้วเราจะหลีกเลี่ยงอย่างไร


          เราไม่สามารถรู้ได้เลยว่า เชื้อเลปโตสไปโรซีสปะปนอยู่ในพื้นที่ใดบ้าง ดังนั้น การป้องกันเบื้องต้น หากต้องลงไปในแหล่งน้ำ หรือย่ำโคลน ก็ควรสวมรองเท้าบู๊ททุกครั้ง ที่สำคัญหากมีบาดแผลตามร่างกายไม่ควรลงแช่น้ำขัง หรือบริเวณน้ำนิ่งโดยเด็ดขาด และเมื่อร่างกายเปียกฝน ควรรีบเช็ดให้แห้งโดยเร็ว

           สำหรับคนที่ชอบว่ายน้ำเป็นชีวิตจิตใจ ควรสังเกตลักษณะของสระน้ำที่จะลงว่าย โดยต้องเป็นสระที่ทำการเปลี่ยนน้ำบ่อยๆ สะอาด ไม่มีตะใคร่น้ำ เป็นสระที่มีการหมุนเวียนของน้ำตลอดเวลา และไม่ควรที่จะลงเล่นน้ำนานเกินไป

            ทานอาหารที่ปรุงสุกใหม่ๆ หรืออุ่นอาหารให้ร้อนก่อนรับประทาน เมื่อต้องเก็บอาหารไว้ทานในมื้อต่อไป ควรมีภาชนะฝาครอบมิดชิด จัดที่พักอาศัยให้สะอาดเรียบร้อย เพื่อไม่ให้เป็นแหล่งเพาะเชื้อโรค และเมื่อเห็นว่าที่พักอาศัยของเรากำลังจะถูกหนูบุกรุก ต้องรีบกำจัด เพื่อความปลอดภัย.

...........................................................................................................

แหล่งข้อมูล   ข่าวไทยรัฐออนไลน์และ นพ.กฤษดา ศิรามพุช ผอ.ศูนย์เวชศาสตร์ อายุรวัฒน์นานาชาติ

หมายเลขบันทึก: 384438เขียนเมื่อ 13 สิงหาคม 2010 13:12 น. ()แก้ไขเมื่อ 15 เมษายน 2012 03:08 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

เจ้าหนูนี่น่าสะพรึงกลัวครับ วิ่งบนฝ้าใต้หลังคาที่บ้าน แรมปี ใช้ถาดกาวจัดการไปวานก่อน เก็บไปได้สองตัว ครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท