10 ประเทศเนื้อหอม(ผู้อพยพเข้ามากที่สุด)


สำนักข่าว 'Reuters' ตีพิมพ์สไลด์โชว์เรื่อง 'Highest immigrant populations' = '10 ประเทศ (ที่มี) ผู้อพยพเข้าสูงสุด' หรือ "10 ประเทศเนื้อหอม (ผู้อพยพเข้าสูงสุด),

การที่ประเทศเนื้อหอมจะรับคนเข้า... ส่วนใหญ่ก็ไม่ใช่รับโดยไม่คัดเลือก คือ มักจะเลือกคนที่มีหน้าที่การงาน อาชีพเป็นที่ต้องการ หรือมีเงินก้อนมากพอ พร้อมกับมีสุขภาพดี เช่น ไม่มีไวรัสเอดส์ (HIV) ฯลฯ, ผ่านการตรวจสุขภาพแบบถี่ถ้วน และสอบภาษาเจ้าของประเทศผ่านด้วย

...

[ วิดีโอจาก 'YouTube' > ซาอุดี อาระเบียออกวีซ่าถาวร (permanent visa) ให้วิศวกรกับหมอ ]

ถ้าต้องการชมจอใหญ่... แนะนำให้คลิกที่จอภาพ จะทำให้ชมจอใหญ่ได้ที่ 'YouTube'

...

...

ออสเตรเลียที่ แม้จะไม่ติด 10 อันดับแรกก็เป็นอีกประเทศหนึ่งที่เนื้อหอม และประกาศออกมาเลยว่า เน้นสายวิทยาศาสตร์ โดยเฉพาะวิศวกร ช่างผู้ชำนาญการ และบุคลากรสุขภาพ โดยเฉพาะพยาบาล

ไทยเราน่าจะลดการผลิตบุคลากรสาขาที่ตกงาน หรือมีมากล้นให้ได้

...

ควรเน้นการ ผลิตสาขาขาดแคลนให้มาก ทั้งปริมาณและคุณภาพ เปิดหลักสูตรนานาชาติ ทำให้ไทยเป็น 'ศูนย์กลางด้านการศึกษาสุขภาพ (medical education hub)'

ทั่วโลกกำลังขาดแคลนพยาบาล-ผู้ช่วยพยาบาล-หมอฟัน-หมอหลายสาขา เช่น โรคหัวใจ เบาหวาน ฝังเข็ม ฯลฯ และหมอทั่วไปที่อยู่นอกเขตเมืองมากขึ้นเรื่อยๆ

...

และอย่าลืมพัฒนาให้คนรุ่นใหม่เก่งภาษาอังกฤษ (+/- จีน, ภาษาหลักๆ อื่นๆ ของโลก)... ถ้าเราทำได้, เราก็จะแข่งขันกับนานาชาติได้

ทางหนึ่งที่จะทำให้คนไทยเก่งภาษาอังกฤษมากขึ้นมีหลายวิธี

...

ที่ำสำคัญคือ ให้เรียนภาษาอังกฤษตั้งแต่ระดับอนุบาล 1, จัดสอบเทียบภาษาอังกฤษของไทย (คล้ายๆ TOEFL), ส่งเสริมให้ครูทุกท่านสอบเทียบภาษาอังกฤษให้ได้ภายใน 3 ปี

การส่งเสริมให้มีนักเรียนต่างชาติ หรือชั้นเรียนที่ต้องพูดอังกฤษ (ห้ามพูดไทย) เป็นมาตรการสำคัญที่จะส่งเสริมให้คนไทยเก่งภาษาอังกฤษ... ถ้าครูไทยสอนไม่ได้ เราน่าจะนำเข้าครูจากเพื่อนบ้าน เช่น ฟิลิปปินส์ พม่า ฯลฯ เข้ามาสอนภาษาอังกฤษแทน เช่น ให้เ้ข้ามาสอนได้คราวละ 2-10 ปี ฯลฯ 

...

ถ้าเราจะพัฒนาไปเป็นประเทศชั้นนำด้านการท่องเที่ยว หรือเมดิคัลฮับ (medical hub = ศูนย์กลางการรักษาพยาบาลข้ามชาติ)...

เราคงจะปฏิเสธได้ยากว่า ต้องผลิตบุคลากรสุขภาพให้มากขึ้น เื่ผื่อพยาบาล-หมอฟัน-หมอลาออก (มากๆๆๆ) แล้ว จะได้มีเหลือไ้ว้พอรักษาคนยากกันต่อไป

...

ต่อไปจะขอนำเรื่องประเทศเนื้อหอมมาเล่าสู่กันฟังครับ (ตัวเลข M = million = หน่วยล้านคน; % = ร้อยละของประชากรทั้งหมด) > [ เชิญชมภาพสไลด์ที่ 'Reuters' ]

...

(1). สหรัฐอเมริกา (USA) > เกือบ 43M = 13.5%

(2). รัสเซีย > กว่า 12M = 8.7%

(3). เยอรมนี > 10.7M = 13.1%

(4). ซาอุดี อาระเบีย > 7.2M = 27.8%

(5). แคนาดา > 7M = 21.3%

...

(6). ฝรั่งเศส > 6.6M = 10.7%

(7). สหราชอาณาจักร (UK / Britain = หมู่เกาะอังกฤษ-เวลส์-สกอต-ไอร์แลนด์เหนือ) > 6.4M = 10.4%

(8). สเปน > 6.3M = 14.1%

(9). อินเดีย > 5.4M = 0.4%

(10). ยูเครน > กว่า 5M = 11.6%

...

ถึงตรงนี้... ขอให้ท่านผู้อ่านมีสุขภาพดีไปนานๆ ครับ 

...

 > [ Twitter ]

ที่มา                                                         

  • นพ.วัลลภ พรเรืองวงศ์ รพ.ห้างฉัตร ลำปาง. 13 สิงหาคม 2553.
  • ข้อมูลทั้งหมดเป็นไปเพื่อ การส่งเสริมสุขภาพ ไม่ใช่วินิจฉัยหรือรักษาโรค ท่านที่มีโรคประจำตัวหรือความเสี่ยงต่อโรคสูงจำเป็นต้องปรึกษาหมอที่ดูแล ท่านก่อนนำข้อมูลไปใช้.
หมายเลขบันทึก: 384436เขียนเมื่อ 13 สิงหาคม 2010 13:08 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 มิถุนายน 2012 09:52 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท