knowledge management

การจัดการความรู้ เคียงคู่การพัฒนาคุณภาพงาน

 

วันนี้ ได้เข้าร่วมประชุมวิชาการประจำปี 2553 ของกรมการแพทย์ ที่โรงพยาบาลราชวิถี  ได้เห็นความชัดเจนในการจัดการความรู้ อาจารย์แพทย์หลายท่านในสังกัดกรมการแพทย์  นำผลงานพัฒนาคุณภาพที่มีกระบวนการเรียนรู้มาอย่างยาวนานและต่อเนื่องในการพัฒนากระบวนการดูแลผู้ป่วยให้มีประสิทธิภาพสูงสุด เช่น การดูแลผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง โรคไข้เลือดออก ผู้พิการ เป็นต้น

ทำให้เรารู้สึกว่า การเรียนรู้ในกระบวนการทำงาน และผลการดำเนินงานมีความจำเป็นต่อการพัฒนางานอย่างมาก โดยต้องอาศัยองค์ความรู้ตามหลักวิชาการแพทย์ที่เกี่ยวข้อง จะยิ่งช่วยให้การเรียนรู้เพื่อพัฒนางานประสบผลสำเร็จมากยิ่งขึ้น

KM มีมากมาย หลากหลายวิธี หลายท่าน เล่าหลายแบบ คงต้องกลับมามองในโรงพยาบาลของเรา ว่าแบบไหนจึงจะเหมาะสมที่สุด ซึ่งอาจได้รูปแบบที่แตกต่างออกไป ที่ผ่านมามิใช่เรื่องง่ายที่จะทำให้ใครๆมาสนใจเรื่องการจัดการความรู้  เครื่องมือมีมากมายแต่ใช้ไม่ถูก นโยบายมีแล้ว แต่มิได้นำไปปฎิบัติอย่างแท้จริง  ก็มันยากนี่น่า...

วันนี้ได้ฟังอาจารย์ท่านหนึ่งกล่าวว่า..

องค์ประกอบที่ทำให้เกิด Learning Organization คือ

1.Personal Mastery

2.Team Learning

3.Share Vision

ซึ่งโรงพยาบาลต้องค้นหาช่องทางหรือเครื่องมือที่ช่วยสนับสนุนให้เกิด LO เช่น IT-Intranet อาจช่วยได้ แต่คงต้องมองที่ผลลัพธ์ว่าเป็นอย่างไร เกิดประโยชน์ต่อผู้เกี่ยวข้องมากน้อยแค่ไหนด้วย คงไม่จำเป็นต้องลงทุนทรัพยากรเพิ่มขึ้น เพราะการเรียนรู้มิจำเป็นต้องใช้เงิน  ถ้าได้เริ่มต้นสร้างวัฒนธรรมแห่งการเรียนรุ้ในองค์กรแล้วเกิดประโยชน์จริง คงไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป...

ชุมชนนักปฏิบัติ CoPs เกิดได้ไม่ง่ายเช่นกัน โอกาสมีไม่มากที่คนทำงานเหมือนกันคล้ายกัน จะไดมาคุยกัน ภายใต้หลักการของKM ซึ่งจำเป็นต้องมีทักษะของการจัดการความรู้ รับฟังกัน และเข้าใจกัน จึงจะเกิดการเรียนรู้จริงๆ

วันนี้ อาจารย์ท่านหนึ่งกล่าวว่า ท่านเปรียบ CoPs เหมือนเก้าอี้สามขา คือ...

CoPs ใช้หลัก 3 ประการ คือ

1. สนใจในเรื่องเดียวกัน มีปัญหาร่วมกัน แสงหาบางอย่างร่วมกัน

2.มีประสบการณ์มาแบ่งปัน มีประเด็นความสำเร็จ มีเทคนิคการแก้ปัญหา

3.มีความสัมพันธ์ที่ดี  ไว้เนื้อเชื่อใจ และรู้สึกปลอดภัย