เทคนิคการสมัครงาน


ก้าวแรกแห่งความสำเร็จ

 ก้าวแรกแห่งความสำเร็จ

       ขั้นแรกผู้สมัครควรวิเคราะห์ประกาศรับสมัครงานด้วยความรอบคอบ ควรอ่านรายละเอียดให้หมด โดยเฉพาะคุณสมบัติ ความรู้ ความสามารถ ที่บริษัทฯผู้รับสมัครต้องการ รวมทั้งเงื่อนไขวิธีการรับ สมัครที่ทางบริษัทฯ นั้นๆระบุไว้ เมื่อไตร่ตรองดูแล้ว คุณมีความสนใจในตำแหน่งนั้นๆจริงๆ ก็เตรียมตัวส่ง ใบสมัครได้เลย

      แต่อย่าลืมตรวจเช็คความถูกต้อง เรียบร้อยของ Resume ของคุณก่อนนะ เพราะ Resume คือ เอกสารแสดงประวัติย่อของผู้สมัครงาน ที่บอกให้ทราบถึงประวัติการทำงาน ประวัติการศึกษา ซึ่งถือเป็นสิ่งแรกที่บริษัทจะสามารถรู้จักเราได้ ดังนั้นรายละเอียด ภายใน Resume จึงมีความสำคัญอย่างยิ่งที่ไม่ควรที่จะละเลย เพื่อที่ใบสมัครจะได้เป็นที่ต้องตาต้องใจจากทางบริษัทที่คุณสมัครมากที่สุด ข้อมูลสำคัญที่จะเป็นประโยชน์ ต่อการสมัครงานเท่านั้น ซึ่งควรมีลักษณะดังนี้

  1. ข้อมูลส่วนตัว
  2. ลักษณะของงานที่ต้องการ
  3. ประวัติการศึกษาและการฝึกอบรม
  4. ประวัติการทำงาน

       1.  ข้อมูลส่วนตัว

       ควรระบุไว้อย่างครบถ้วน ทั้ง ชื่อ-ที่อยู่ อายุ เบอร์โทรที่สามารถติดต่อได้ และควรที่จะเข้ามา อัพเดตข้อมูลส่วนนี้ทุกครั้งที่มีการเปลี่ยนแปลง เพราะถึงแม้คุณจะเป็นบุคคลที่มีคุณสมบัติเพียบพร้อม แต่หากบริษัทที่รับสมัครไม่สามารถติดต่อคุณได้ คุณก็หมดสิทธิ์ที่จะได้งาน

        2.   ลักษณะของงานที่ต้องการ

         มีผู้สมัครจำนวนไม่น้อยที่เรียนจบมาทางสาขาหนึ่ง แต่ต้องการที่จะทำงานในอีกสาขาหนึ่งแทน จึงควรระบุไว้ด้วยว่า คุณอยากทำงานสาขาอาชีพใด เพราะสำหรับ JOBSINSURE.COM ถึงคุณจะแค่เพียงกรอก Resume ทิ้งไว้เฉยๆ ก็อาจมีบริษัทในกลุ่มประกันภัยซึ่งเป็นสมาชิกของ Jobsinsure.com เกิดความสนใจในคุณสมบัติของคุณ และติดต่อเรียกตัวเพื่อเข้ารับการสัมภาษณ์เลยก็เป็นได้ ส่วนเงินเดือนที่ต้องการ ก็ไม่ควรจะสูง หรือ ต่ำจนเกินไป หรืออาจระบุว่าตามแต่จะตกลงกับบริษัทก็ได้

        3.  ประวัติการศึกษาและการฝึกอบรม

       ควรระบุให้ชัดเจนว่าคุณเจบการศึกษาจากสถาบันไหน คณะและสาขาอะไร ตลอดจนปีการศึกษา ที่จบด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณยังไม่เคยมีประสบการณ์ทำงานที่ใดมาก่อน แน่นอนว่าทาง บริษัทจะพิจารณาความรู้ ความสามารถของคุณจากผลการเรียนนี่เอง

        4.  ประวัติการทำงาน

       ส่วนนี้เป็นส่วนที่สำคัญมาก เนื่องจากคนที่เคยมีประสบการณ์ทำงานมาก่อนย่อมได้เปรียบกว่า นักศึกษาจบใหม่อยู่แล้ว เพราะประสบการณ์เป็นสิ่งแสดงให้เห็นถึงความ
สามารถของเราได้เป็นอย่างดี การเขียนประวัติการทำงานที่ดี ควรเป็นข้อความสั้นๆ ดึงดูดใจ เน้นความถนัด ความสามารถพิเศษ และประสบการณ์ที่เป็นประโยชน์กับตำแหน่งงานที่จะสมัคร ตลอดจนทักษะ ความสามารถพิเศษต่าง ๆ เช่น สามารถใช้คอมพิวเตอร์โปรแกรมใดได้บ้าง, พิมพ์ดีดคล่อง, ขับรถยนต์ได้ หรือมีรถยนต์ส่วนตัว พร้อมใช้ในงาน ความสามารถทางด้านภาษา ฯลฯ แต่จะต้องโฆษณาตนเอง ในแง่มุมที่เป็นจริงเท่านั้น นอกจากนี้ยังมีเกร็ดเล็กๆน้อยๆอีกมากมาย เช่น

     * ขยันเข้ามาอัพเดตข้อมูล Resume ของคุณเองให้บ่อยยิ่งขึ้น เพื่อที่ Resume ของคุณจะได้ Update อยู่ตลอดเวลา
     * ทุกครั้งที่มีการส่งใบสมัคร Online ควรจดรายละเอียดเก็บไว้ดู เพื่อกันลืมว่าคุณได้ส่งใบสมัครไปยังบริษัทใด ในตำแหน่งใดแล้วบ้าง
     * ไม่ควรส่งใบสมัครหลายๆตำแหน่ง ในบริษัทเดียวกันเด็ดขาด เพราะทางบริษัทฯจะไม่ทราบได้เลยว่าคุณต้องการสมัครในตำแหน่งใดกันแน่ และยังทำให้ดูเหมือนคุณ ไม่มีความสนใจในตำแหน่งงาน ดังกล่าวจริงจังอีกด้วย
     * หากคุณได้รับการติดต่อให้ไปสัมภาษณ์ ควรไปก่อนเวลานัดอย่างน้อย 15-30 นาที หรือหากคุณไม่สามารถไปตามนัดได้ ก็ควรจะโทรแจ้งยกเลิกการนัดหมายให้เรียบร้อย
เพื่อเป็นการรักษามารยาทที่ดี
     * หากคุณได้งานตรงใจแล้ว และไม่ต้องการที่จะเปลี่ยนงานใหม่อีก ก็ควรลบ Resume ของคุณออกเสีย เพื่อลดความเข้าใจผิดจากบริษัทฯอื่นๆ ว่าคุณยังคงหางานอยู่

 

.... เพียงคุณปฏิบัติตามข้อแนะนำข้างต้นเท่านี้ โอกาสที่คุณจะได้งานจากบริษัทที่คุณคาดหวังไว้ก็กำลังรอคุณแล้ว แต่ถึงแม้คุณจะไม่ได้รับการคัดเลือก ก็ยังมีอีกหลายบริษัทที่กำลังรอคอยคุณ อย่างน้อยเราก็ชนะคู่แข่งในด้าน ความพร้อมไปหลายก้แล้ว...

หมายเลขบันทึก: 381584เขียนเมื่อ 4 สิงหาคม 2010 15:07 น. ()แก้ไขเมื่อ 17 พฤษภาคม 2012 01:22 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

อืมๆ เทคนิคมันใช้ได้จริง

เพราะเราจะปเข้าที่ทำงานที่ไหนก็ต้อง

เตรียมพร้อมทุกอย่าง

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท