ขอบคุณสำหรับสาระดีๆ เพื่อการมีชีวิตอยู่ร่วมกันครับ
สวัสดีคะท่าน ผศ. อ.นุ
ยินดีต้อนรับท่านอาจารย์มากคะที่ให้เกียรติ์มาแวะเยี่ยมเยียนอ่านบันทึกนี้
ขอบพระคุณมากนะคะ
ขอบคุณวิธีการใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันในสังคม
ต้องคิดรอบๆด้านและเอาใจใส่ต่อผู้อื่นให้เหมือนกับที่ดูแลตนเองครับ
ขอบคุณครับ
สวัสดีค่ะ
เข้ามแวะทักทายตอนดึกๆๆๆค่ะ
นอนหลับฝันดีนะคะ
ขอบคุณค่ะ
ได้ข้อคิดดีๆ ให้กลับมาดิคและปฏิบัติค่ะ..
ขอบคุณนะคะ :-)
เป็นทั้งข้อคิดเป็นทั้งแนวทางในการมีชีวิตร่วมกันอย่างสันติและมีความสุข
ใช้สมาธิศีลและปัญญาเป็นเครื่องนำทางชีวิต เห็นด้วยทุกประการครับ
มาส่งความสุขกับคนเพศเดียวกับแม่ครับ
สวัสดีคะคุณ ชัยพจน์
แน่นอนที่สุดคะ เราไม่ได้อยู่คนเดียวในโลก ทุกชีวิตจึงมีความสำคัญเท่ากันหมดคะ
คนอื่นก็มีชีวิตและความคิดรักในตนเหมือนเรา สังคมจึงต้องอยู่กันด้วยธรรมะคะ
ปฏิบัติต่อกันด้วยธรรมะที่ต่างมีอยู่คะ
ขอบคุณมากนะคะ
สวัสดีคะคุณ KRUDALA
แหม..นอนดึกหมือนกันนะคะ
อ่านเรื่องต้นไผ่ของคุณแล้วเห็นภาพติดใจมากคะที่เขียนได้ธรรมชาติจริงๆ
มีโอกาสจะไปเที่ยวเหนือคะ หลงไหลธรรมชาติและวัฒนธรรมประเพณีมากคะ
หลับฝันดีเช่นกันนะคะ
สวัสดีคะคุณ Baby
ยินดีที่ได้รู้จักคะ และยินดีที่ได้ยินคำกล่าวว่าได้ข้อคิดจากบันทึกนี้
แวะมาใหม่อีกนะคะ ขอบคุณมากคะ
สวัสดีค่ะ...
มาอ่านบันทึก "การใช้ชีวิตอยู่ร่วมกัน" ค่ะ... การใช้ชีวิตคู่ หรือ อยู่ร่วมกันในสังคม เป็นเรื่องละเอียดอ่อนค่ะ...อยู่ที่ว่าเราจะทำให้คนอื่นเดือดร้อนหรือเปล่า...ถ้าเราคิดว่าเราทำดีที่สุดแล้ว คนอื่นไม่ได้เดือดร้อนเพราะเรา...เท่านี้ เราก็อยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขแล้วค่ะ...
สวัสดีคะคุณ ตฤณระพี
ความเข้าใจซึ่งกันและกันคือความสุขของชีวิต
ไม่ว่าจะอยู่ร่วมกันในฐานะใดทำหน้าที่นั้นให้บริบูรณ์ด้วยธรรมย่อมได้รับผลแห่งธรรมนั้นๆคะ
ศีลสมาธิปัญญาที่กล่าวนั้นทำให้การอยู่ร่วมกันในสังคมอย่างสงบสันติสุขคะ
สวัสดีคะคุณ เบดูอิน
ความสุขสากลที่ส่งมารับด้วยความยินดีคะ
คุณทำงานหนักเพื่อสังคมมาตลอดเวลาเป็นสิ่งที่น่ายกย่องนะคะ
เป็นความดีที่มีคุณค่าที่คุณมอบให้กับโลก
ขอเป็นกำลังใจคะ
อ่านแล้วรู้สึกร่ำรวยความสุขขึ้นมาทันใดครับ
สวัสดีคะ อาจารย์ บุษยมาศ
อาจารย์ให้ความเห็นเป็นข้อคิดของการอยู่ร่วมกันทั้งชีวิตคู่และชีวิตในสังคมที่เป็นประสบการณ์น่าสนใจมากคะ
การที่เราไม่ทำให้สังคมเดือดร้อนเป็นสิ่งสำคัญและจำเป็นของการใช้ชีวิตร่วมกัน
บางครั้งก็ต้องอดทนต่อสิ่งที่แก้ไขได้ยากของคนคนนั้นด้วยนะคะ ทำใจไว้คะ
ขอบคุณคุณ ทิมดาบ มากนะคะที่แสดงความเห็นให้เจ้าของกระทู้ต้องอมยิ้มที่คุณมีความรู้สึกเช่นนั้น
สวัสดีคะคุณ บุษรา
การอยู่ด้วยกันในสังคมอย่างมีความสุข หลายท่านอาจบอกว่าต้องเรียนรู้ซึ่งกันและกัน
นั่นเป็นเพียงองค์ประกอบของหลักการประสานการอยู่ร่วม
โดยแท้แล้วหากต่างฝ่ายต่างมีธรรมะเข้ามากันและยึดหลักความพอใจในชีวิตตามอัตภาพแล้วก็อยู่ด้วยกันเป็นสังคมที่มีความสุขได้คะ
สวัสดีครับ คุณกานต์
ขอบคุณสำหรับสาระความรู้ในเชิงธรรมะต่อการใช้ชีวิตอยู่ร่วมกัน
รู้สึกดีและขอบคุณครับ ที่แบ่งปันให้อ่านธรรมะจากคนมีธรรมะในใจ ทำให้นึกถึงคำพระท่านว่า "ตถตา = มันก็เป็นเช่นนั้นเอง" ชีวิตเรา ชีวิตท่าน มันก็เป็นเช่นนั้นเอง ชีวิตที่อุดมไปด้วย "เมตตาธรรม" ก็ย่อมจะประสบแต่ "ความสุข" ครับ สาธุ...
เป็นความคิดที่ดีมากเลยค่ะ
เหมือนเตือนสติอย่างไงก็ไม่รู้
ได้ข้อคิดหลายอย่างเลยครับขอบคุณมากครับ