พ.อ.พญ. ฐิติพร รัตนพจนารถ
วิทยาลัยแพทยศาสตร์พระมงกุฎเกล้า
หมอหนูอยากหาย หนูจะไปดูแลพี่ พี่หนูเป็นมะเร็ง
เธอพูดกับฉันแล้วน้ำตาก็ทะลักออกมา ก่อนหน้ามีเหตุการณ์ระหว่างฉันกับญาติเธอที่ทำให้ฉันจี๊ด แต่เมื่อได้ฟังประโยคนี้แล้วความจี๊ดมันหายวับไปทันที ในครอบครัวที่คนหนึ่งเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย อีกคนหนึ่งต้องผ่าตัดตาครั้งที่สองมันจะเครียดขนาดไหน ฉันเข้าใจทันทีว่าทำไมญาติเธอถึงพูดกับฉันแบบนั้น
ความเจ็บป่วยของเธอทำให้เราได้พบกันอีกหลายครั้ง หลังตรวจเสร็จเราจะคุยกันเรื่องพี่สาวของเธอ พี่เป็นมะเร็งปอดกำลังให้เคมีบำบัด พี่ไม่ได้แต่งงาน เป็นแรงสำคัญที่ช่วยดูแลกิจการของทางบ้านและดูแลหลานหลานที่อยู่ร่วมกันเป็นครอบครัวใหญ่ ทุกคนยังทำใจไม่ได้ว่าพี่เหลือเวลาอีกไม่นานนัก ฉันให้คำแนะนำเธอบางเรื่องและเธอก็กลับมาเล่าให้ฉันฟังว่าเธอได้ทำอะไรบ้าง มันกลายเป็นส่วนหนึ่งของการมาตรวจตาไปเลย
ช่วงใกล้ตรุษจีน เธอเล่าให้ฟังว่าปกติที่บ้านจะรวมญาติไปรับประทานอาหารด้วยกันทั้งครอบครัว เป็นการฉลองที่ทำกันมาทุกปี ปีนี้พี่สาวคงจะไม่ไปซึ่งถ้าพี่ไม่ไปงานนี้ก็จะล้มเลิกไปโดยปริยาย ฉันแนะนำว่าให้เปลี่ยนมาเป็นรับประทานอาหารที่บ้านแทน และใช้โอกาสนี้ทำกิจกรรมร่วมกัน เช่น การกล่าวชื่นชมพี่สาวเธอ ฉันรู้ว่ามันไม่ง่ายสำหรับครอบครัวคนจีนที่ไม่ค่อยจะพูดเรื่องความรู้สึกก ันแต่อย่างน้อยใ ห้ หลานหลานได้พูดก็น่าจะดี
หมอ พี่หนูปวดทรมานมาก หนูไม่รู้จะช่วยเขายังไงดี หนูสงสารเขา มันทรมานจนบรรยายไม่ถูก
ฉันให้เธอยืมจุลสาร “อาทิตย์อัสดง” ฉบับ การดูแลความเจ็บปวด เล่าให้ฟังถึงการใช้ดนตรี การชวนพูดคุย การทำกิจกรรมที่ดึงความสนใจ การสัมผัส การนวด และบอกเธอว่าอย่างน้อยที่สุดสิ่งที่เธอทำได้ก็คือ การอยู่เป็นเพื่อนพี่สาวเธอ
แว่บหนึ่งฉันนึกถึงหนังสือ Gesundheit!: Bringing Good Health to You, the Medical System, and Society through Physician Service, Complementary Therapies, Humor, and Joy (ชื่อยาวอย่างนี้จริงจริง ) เขียนโดย คุณหมอ Patch Adam ผู้ก่อตั้ง gesundheit institute ( gesundheit- ภาษาเยอรมันแปลว่า good health) ที่ West Virginia ฮอลลีวูดเคยเอามาสร้างเป็นหนังแสดงโดย Robin William มีตอนหนึ่ง Patch ถามคนไข้ที่เป็น ankylosing spondylitis ที่ปวดหลังมากปวดตลอดเวลาว่า มีช่วงเวลาไหนที่เขาไม่ปวดบ้างไหม
เขาคิด
และตอบว่ามี มันคือช่วงเวลาที่เขานั่งดูอาทิตย์อัสดง
จนวันหนึ่งเธอมาบอกทั้งน้ำตาว่าพี่สาวเธอเสียแล้วอย่างสงบ เธอถามว่าถ้าเธอจะบริจาคเงินพิมพ์หนังสือเกี่ยวกับการดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้ายได้ที่ไหน ฉันตอบเธอและเสริมด้วยว่ามีอีกหลายวิธีนอกเหนือจากการบริจาคเงิน เช่น การเป็นอาสาสมัคร ผ่านไปหลายเดือนเธอกลับมาเล่าว่าได้ไปตรวจโรคที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งและเห็นว่ามีกิจกรรมอาสาข้างเตียงจึงไปเข้าร่วมกับเขาด้วย
“รู้สึกดีมากๆ เลยหมอ”
“หมอรู้ไหม หนูไปเล่าให้ที่บ้านฟังว่า หนูโชคดีมากเลยที่ได้มาเจอหมอ (ทั้งที่ฉันรักษาตาเธอไม่หาย) และหมอก็โชคดีมากที่ได้มาเจอหนู”
ฉันยิ้ม
ครึ่งแรกน่ะฉันไม่รู้แต่ครึ่งหลังคงจะจริง
Download ต้นฉบับ
เรื่องเล่างดงาม เรียบง่าย และให้ความรู้สึกดีมากเลยครับ
ขอบคุณครับ อ.บัว ^^