เครื่องวัดความก้าวหน้า การทำวิปัสสนา


เครื่องวัดความก้าวหน้า การทำวิปัสสนา

เครื่องวัดความก้าวหน้า การทำวิปัสสนา

การทำสมาธิวิปัสสนา ขณะทำบางคนว่ารู้สึกมีความสุข บางคนตัวลอยได้ หรือถึงกับรู้สึกถึงความรู้สึกคนอื่น เห็นแสงวูบวาบ สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่ต้องการจากการทำวิปัสสนาใช่หรือไม่ วันก่อนได้ฟังธรรม จากพระอาจารย์ คึกฤทธิ์ โสตฺถิผโล ที่หอประชุมพุทคยา

มีคนตั้งคำถามเรื่องนี้ขึ้นมาท่านอาจารย์ได้ตอบ

สรุปใจความดังนี้

การว้ดหรือการดูความก้าวหน้าในการเจริญวิปัสสนา จะรู้ได้อย่างไรว่า ตนเองมีความก้าวหน้าดีแล้วหรือยัง(อย่าพยายามรู้คนอื่นให้รู้ตนเอง ไม่ต้องวัดคนอื่นให้วัดตนเอง)

ต้องพิจารณาว่า

1.สิ่งที่ดูง่ายๆก็คือ ขณะมีมีสิ่งกระทบใจนั้น เราสามารถดูแล้วปล่อยว่างได้เร็วแค่ไหน ยิ่งเร็วยิ่งดี เช่น เพียงกระพริบตา เราก็สามารถปล่อยว่างอารมณ์ที่มากระทบใจได้แล้ว อย่างนี้จึงถือว่าทำถูกทางแล้ว

2.ศีลเรามีศีลสมบูรณ์แล้วหรือยัง ถือว่าพิจารณาได้ง่ายๆ หากศีล 5 ยังไม่ครบเลย บ่งว่าการทำวิปัสสนาก้าวหน้าได้หรือไม่

3.ยกตัวอย่างเรื่องคุณสมบัติของโสดาบัน แล้วไล่เรียงว่าในแต่ละข้อเข้าถึงแล้วหรือยัง

ก็ต้องไปดูคุณสมบัติของพระโสดาบันแล้วลองไล่ดู

นึกไปคิดมาก็มีหลายความคิดผุดขึ้น ในจิต ในสมองของเรา

หลายท่านมีความก้าวหน้าในการเจริญวิปัสสนา

หลายท่านคิดว่ามีความก้าวหน้าในการเจริญวิปัสสนา

แต่หลายท่านไม่คิดแต่ก็มีความก้าวหน้า

หากว่าการก้าวหน้ามีหรือไม่ ย่อมไม่อยู่ที่การคิดนั้นหรือเห็นอย่างนั้น

หากแต่ถ้าความก้าวหน้านั้นมีอยู่ ย่อมมีอยู่ด้วยตัวของสิ่งนั้นเอง

ลงท้ายเพิ่มเติม

คุณสมบัติของพระโสดาบัน
              (๑) ในหมวดอกุศลกรรมบท ๑๐ ละได้ ๖ ตัวเด็ดขาดเป็นสมุจเฉทคือ
                      -ปาณาติบาต,   การฆ่าสัตว์
                      -อทินนาทาน,  ลักทรัพย์
                      -กาเมสุมิจฉาจาร,  ผิดประเวณี
                      -มุสาวาท, พูดเท็จ
                      -ปิสุณาวาจา, พูดส่อเสียด คือยุแยงตะแคงรั่วให้คนที่รักกันแตกสามัคคีกัน
                      -มิจฉาทิฏฐิ, เห็นผิดจากทำนองคลองธรรม
              (๒) ในหมวดอุปกิเลส ๑๖ จะละได้ ๖ ตัวเด็ดขาด คือ
                      -มักขะ, ลบหลู่หรือสบประมาทคุณความดีความสามารถบุคคลอื่น
                      -ปลาสะ, ตีเสมอ ยกตนเทียมท่าน
                      -อิสสา, ริษยาความดี ความสำเร็จ สมบัติ ของบุคคลอื่น
                      -มัจฉริยะ, ตระหนี่ถี่เหนียว
                      -มายา, เจ้าเล่ห์ไม่จริงใจ
                      -สาเถยยะ, โอ้อวด  
              (๓) ในหมวดนิวรณ์ ๕ ละได้ ๑ ตัวเด็ดขาด คือ วิจิกิจฉา(ความสงสัยลังเล),  ในวิสุทธิมรรคยังเพิ่มเติมอีกว่า ละ  กุกกุจจะ(ความรำคาญจิต) ได้อีกตัว
               (๔) ในหมวดศีล ๕ ละ ๔ ข้อแรกได้เด็ดขาดซ้ำกับในอกุศลกรรมบถ ๔ ข้อแรก
                -พระโสดาบันจะเชื่อมั่นหนักแน่นในพระรัตนตรัยและกฏแห่งกรรมไม่ยอมเปลี่ยนใจแม้ว่าจะถึงตายก็ยอมตาย
                -ถ้าปุถุชนมาบวชแล้วฝึกจนบรรเป็นพระโสดาบัน ก็จะไม่ยอมลาสิกขาไปเป็นเพศคฤหัสถ์อีก,  แต่ถ้าบรรลุในเพศคฤหัสถ์ก็แล้วแต่จะบวชหรือไม่ก็ได้

 

 

หมายเลขบันทึก: 377634เขียนเมื่อ 22 กรกฎาคม 2010 09:11 น. ()แก้ไขเมื่อ 10 เมษายน 2012 08:04 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท