เมื่อเด็กนิเทศ คุยกับเด็ก MBA ...เรื่องการศึกษาในปัจจุบัน...


Appreciative Inquiry : การศึกษาไทยในสายตาคนรุ่นใหม่

สวัสดีครับชาว G2K ทุกท่าน

บทความในวันนี้เกิดขึ้นด้วยความบังเอิญครับ

เมื่อเด็กนิเทศ กับเด็ก MBA มาเจอกันบนเครือข่าย Online

หรือที่สังคมรู้จักกันดีในชื่อของ Facebook และบังเอิญว่า

เด็กนิเทศคนนั้นได้เปิดประเด้นเรื่องการศึกษาขึ้นมา...

ทำให้เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ขึ้นระหว่างเรา 2 คนครับ เลยอากเอามาแบ่งปันกัน

เรื่องราวจะเป็นอย่างไรนั้น... ตามเอิร์ทมาเลยครับ ^^



B = เด็กนิเทศ ,E=เด็ก MBA

B :  ความรู้มากๆๆ บางทีเหมือนกำแพงอิฐที่เรียงตัวสูง

ความรู้สูง กำแพงสูง ความรู้รอบด้าน ก็เหมือนกำแพงสูงรอบตัว

บางครั้งมันอาจทำให้มองออกไปไม่เห็นอะไร

นอกจากอิฐที่ตนเอง ก่อขึ้นมา ..


E :
เปรียบได้กับการศึกษาของประเทศไทย

ชอบแต่ยัดอิฐยัดหิน โดยคิดว่าเป็นการปลูกฝังรากฐานที่ดีให้กับเด็ก

แต่ที่ไหนได้ กำแพงเหล่านั้น กลับเป็นตัวปิดกั้นจินตนาการของพวกเขา

และในท้ายที่สุด เด็กไืทยก็จะคิดค้นอะไรใหม่ๆไม่เป็น

เพราะตามเขามาตั้งแต่เด็ก ไม่มีโอกาสได้คิดริเริ่มอะไรเลย ^^


B : เพราะเรียน จากความรู้ ของ หลักสูตร แต่การต่อยอดความรู้จากตัวเองและ

จินตนาการ นั้นยังห่างไกลนัก นึกถึง กาลิเลโอ นักวิทยาศาสตร์ อินดี้ ที่มีความคิดไม่เหมือนคนอื่น

ที่คิดว่า โลกกลม แล้ว โดนต่อต้าน จนทุกวันนี้ เราก้อต่าง เห็นแล้วว่าโลกมันกลมจิงๆ


E :
ช่ายๆ... แล้วลองสังเกตดูดิ นวัตกรรมในโลกใบนี้

ส่วนใหญ่เกิดจากความบังเอิญ+จินตนาการทั้งนั้น แต่นักวิชาการไทย

มันแต่คิดว่าทุกอย่างต้องพิสูจนืก่อนถึงจะใช้ได้ เอิร์ทว่ามันไม่ถูกเท่าไหร่

ดูอย่าง นิวตั้นซิ ถ้าวันนั้นแอปเปิ้ลไม่บังเอิญตกมาใส่หัวเขา

เราคงไม่มีกฏแรงโน้นถ่วงมาใช้... จริงป่ะ ^^


B : สังคม เรา ก็อย่างที่เห็น การศึกษาๆๆ  ชอบประโยคหนึ่งมากๆในหนังเรื่องหนึ่งจำไม่ได้แล้ว

ผู้หญิงบอกว่าแต่เธอ เรียนไม่จบนะ จะรับเธอทำงานได้เหรอแล้ว นายจ้างก็บอกว่า แต่คุณมีความสามารถ

โอ้ย โดนมาก เป็นคำที่หายากในสังคมบ้านเรา


E : เรื่อง หนีตามกาลิเลโอ... เอิร์ทก็ชอบเหมือนกัน ^^

นางเอกเปงสถาปนิก... แล้วเรียนไม่จบ เอางานไปโชว์

แล้วเจ้าของบริษัทชอบเลยจะจ้าง นางเอกเลยพูดประโยคนี้มา

ชอบที่นายจ้างตอบ.. "ปริญญาไม่ สำคัญหรอก งานของคุณมีคุณภาพก้พอแล้ว"


B : ความคิดที่ว่า จบไปงานอะไร ถูกปลูกฝังมาตลอด จนลืมไปว่า เรา ต้องการ อะไร หัวใจเราถามหาอะไร


E : เคยคิดกันไหมครับว่า...

เด็กไทยเรียนตามค่านิยมของสังคมมากกว่าสิ่งที่ตนเองชอบจริงๆ

สิ่งนี้เกิดจากสังคมไทยเราให้ความสำคัญกับเงินมากเกินไปครับ

จนทำให้ลืมไปว่า เงินเป้นเพียงแค่ส่วนเดียวในชีวิตเท่าั้นั้น ไม่ใช่ทั้งหมด

เด้กหลายๆคน เรียนไปไม่รุ้ว่าไอสิ่งที่เรียนนั้นใช้ทำอะไรได้บ้าง

บางคนไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเรียนอะไรอยู่ ขอแค่ได้กระดาษแผ่นหนึ่งมา

เพื่อที่จะให้ทำงานได้เท่านั้น มันปลูกฝั่งกันผิดๆมาตั้งแต่รากฐานแล้วละครับ


B : ไม่ต้องเคยคิดหรอกคะ คิดสิคะ ก้ออย่างที่เห็น ประเทศเรา สิ่งแรกที่ควรทำคือ

พัฒนาความเป็นอยู่ คุณภาพชีวิต ส่วนความเจริญทางวัตถุ ที่เราเร่งๆๆทำอยู่นั้น ยังไง

ก็ ไม่ได้ช่วยให้ คนพัฒนาขึ้นมาหรอก ทุนนิยม ครอบงำ หลายสิ่งหลายอย่าง มีอิทธิพลเหนือ ความรู้มนุษย์เเล้ว


E : อีกอย่าง... อันนี้ประสบการณ์ตรงจากที่ฝึกงานตอนปี 3 เลยครับ

สิ่งที่เราเรียนๆกันอยู่เนี่ย... มันใช้งานไม่ได้จริงในโลกของการทำงาน

เราต้องไปเรียนรู้ทุกอย่างใหม่หมด... จนทำให้เอิร์ทกิดข้อสงสัย

ว่าเราจะเรียนไปทำแมวน้ำอะไรวะ ทั้งๆที่ท้ายที่สุดเราก้ต้องไปเรียนรู้

เพิ่มเติมจากที่ทำงาน จากสถาณการณ์จริงอยู่ดี ซึ่งสิ่งนี้การศึกษาไทยขาดครับ

เราเรียนรู้ทุกอย่างจากตำรา... จนขาดในเรื่องของ Work Shop

กับสถานการณ์จริงๆ... ทำให้เด็กๆไม่สามารถนำความรู้ที่มีอยู่

มาปรับ/ประยุกต์ใช้ได้... ทีนี้คำถามต่อมาก็คือ พวก 4.00 เพราะท่องจำมาสอบ

กับ 2.00 ที่มีประสบการณ์ทำโน้นนี้นั้น แบบไหนกันแน่ที่เด็กไทยควรจะเป็น ?


B : ก้อบอกแล้วไงคะ โลกเรา ไม่ได้ขาดเเคลนคนเรียนเก่ง แต่ขาดเเคลน คนดี เหอๆเกี่ยวกันไหมนิ

ความคิด & ทัศนคติ  สุดท้าย .... ลงมือทำ

รู้เรียนเอาปริญญาสูงๆ แต่ไม่รู้จักยกพฤติกรรมให้สูง สะท้อน ใครหลายคน ในสังคมเรา


ครับ... การสนทนาของเรา 2 คนก็จบลงเท่านี้ สะท้อนเรื่องราวไว้หลายมุมทีเดียว

เอิร์ทเลยอยากนำมาแบ่งปัน แต่นี่เป็นเพียงการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ของเรา 2 คนเท่านั้นนะครับ

แล้วคุณละคิดยังไง ^^

 

Credit : Rootbeer Rootbeer Nanami's Wall @Facebook

*** ข้ออภัยถ้าใช้ภาษาผิดหลักทางวิชาการ เพราะผมก็อปมาจากต้นฉบับครับ ***

หมายเลขบันทึก: 376608เขียนเมื่อ 19 กรกฎาคม 2010 00:15 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 23:14 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)

น่าสนใจดีนะคะ แนวคิดกับความเป็นจริง มักไม่เหมือนกัน
เรียนทฤษฎีเมื่อจบแล้วไปผจญกับโลกภายนอกพบกับความเป็นจริงในโลกกว้างใหญ่
จะพบว่ามักไม่เป็นไปตามที่เราคิดนะคะ
โลกเพ้อฝันสวนทางกับโลกแห่งความเป็นจริงนะคะ
จึงต้องศึกษาอีกมากคะ ไม่ควรยึดติดกับความคิดของตนคะ

ขอบคุณมากค่ะ ได้แนวความคิด ที่แปลกอีกค่ะ

สวัสดีครับ

gannigar >>> ขอบคุณที่แวะมาครับ... ก็เป็นอีกแง่มุมหนึ่งของเรา 2 คนที่อยากจะแบ่งปันครับ คุยกนเล่นๆ กลายเป็นมีสาระ และสะท้อนแง่มุมแปลกๆ เอิร์ทเลยอยากเอามาแบ่งปันกัน นานๆจะมีเด็กรุ่นใหม่คิดตรงกับผม ^^

ครูอ้อย แซ่เฮ >>> ครับ... แปลกแต่จริง ที่มีคนคิดคล้ายๆผมครับ เลยอยากนำมาแบ่งปันกันว่านี้ก็เป็นอีกความคิดเห็นหนึ่งของวัยรุ่นในสังคมครับ ^^

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

แสดงความคิดเห็น แลกเปลี่ยนกันได้เต็มที่เลยนะครับ ^^

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท