เมื่อสักสามสี่วันก่อน ทีมงานบัณฑิตวิทยาลัยโทรมาว่ามีหนังสือเชิญไปเป็นกรรมการนวัตกรรม ก็ยังงงๆ ครับ เพราะไม่รู้ที่มาที่ไปของงานนี้เลย จึงต้องขอให้แสกนแล้วก็เมลมาให้อ่านหน่อย ซึ่งก็จังหวะดีครับ เชิญมาในวันว่างพอดี ฮือ จะว่าวันว่างก็คงไม่ได้หรอก เพราะตั้งใจจะให้เป็นวันของการนั่งทำวิทยานิพนธ์ แต่สุดท้ายมีคนนัดให้ทำงานทุกทีเลย ฮา
การเชิญครั้งนี้ค่อนข้างแปลกครับ หนึ่งไม่มีการทาบทามก่อน สองคือส่งหนังสือไปที่บัณฑิตวิทยาลัย ไม่ใช่ที่คณะศิลปศาสตร์และสังคมศาสตร์ แสดงว่าน่าจะรู้จักสาขาวิชาชีพครูค่อนข้างดี พอดูรายละเอียดก็พบว่ามาจากวิทยาลัยอิสลามศึกษา มอ.ปัตตานีครับ แต่ก็อดสงสัยไม่ได้ว่าใครเชิญ น่าจะไม่ใช่คนที่เชิญปกติๆ แต่ก็เอาเถอะไปแล้วกัน แต่งานนี้เชิญทั้งวันครับ แล้วบังเอิญอีกว่า ผมนัดแบบไม่เป็นทางการกับ อ.สุกรี หลังปูเต๊ะไว้ว่าจะไปเปิดบัญชีธนาคารสำหรับงานวิจัยและพบปะแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับที่ปรึกษาที่มาจาก กทม.หนึ่งท่านครับ ซึ่งผมคิดเอาว่า ผมน่าจะปลีกเวลาจากการเป็นกรรมการชุดดังกล่าวมาทำภารกิจที่นัดกับอ.สุกรีได้ (ไม่รู้อะไรทำให้มั่นใจขนาดนั้น)
วันนี้เดิมตั้งใจจะออกจากบ้านเช้าๆ หน่อย แต่ก็ทนลูกๆ อ้อนให้ขับรถไปส่งที่โรงเรียนไม่ได้ เลยโทรแจ้งรถโรงเรียนว่าไม่ต้องมารับ ไปส่งเอง สุดท้ายกว่าจะออกจากยะลาได้ก็แปดโมงกว่า งานนี้ดีที่ระหว่างทางรถไม่เยอะครับ ไม่ต้องรีบก็ทำเวลาได้ดี (อัลฮัมดุลิลลาห์)
ได้ไปใช้บริการตึก วอศ.หลังใหม่ซักทีครับ ไปถึงก็ต้องงงเป็นธรรมดาครับ ห้องไหนหว่า เพราะสภาพตึกบอกได้เลยครับว่าใหม่เอี่ยม ดังนั้นป้ายต่างๆ ก็ไม่ค่อยพร้อมเท่าไร ดีว่าแค่หยุดเดินนิดเดียว ก็มีนักศึกษาเข้ามาถามอย่างเอื้อเฝื่อและสุภาพว่าจะมาทำอะไร แล้วก็บอกทางไปให้ครับ ฮือ อันนี้ต้องบอกว่า ผมชอบบุคลิกการให้บริการ การให้ความช่วยเหลือแบบนี้ของนักศึกษา วอศ.นี้จริงๆ ครับ เป็นสิ่งที่ วอศ.สร้างมาได้ทุกรุ่นทุกสมัยไม่เคยเปลี่ยน (พูดได้ในฐานะศิษย์เก่าครับ) ส่วนตัวยังรู้สึกว่า ผมยังทำไม่สำเร็จที่ มอย.
เข้าไปในห้องนำเสนอผลงานนวัตกรรมด้านการเรียนการสอนอิสลามศึกษา ก็เจอเจ้าภาพครับ ดร.อะหมัด ยี่สุนทรง (เดาว่าพิมพ์นามสกุลท่านผิด) แล้วในเวลาไม่ช้าก็เปิดพิธีโดย ผอ.วอศ. รศ.ดร.อิสมาแอ อาลี แล้วก็เริ่มนำเสนอผลงานเลยครับ ผมบอกได้เลยว่าผมชอบงานชิ้นแรกที่นำเสนอมาก เป็นชุดฝึกทักษะภาษาไทยแบบบูรณาการ
ถ้าโดยความรู้สึกละก้อ ผมให้คะแนนเต็มเลย แต่บังเอิญเกณฑ์การให้คะแนนมันบังคับว่า คะแนนที่ให้เฉพาะในประเด็นการนำเสนอ ไม่ได้พิจารณาตัวนวัตกรรมที่นำเสนอ อันนี้ผมเข้าใจว่าทีมงานเขาเข้าใจผิดหรือเปล่า แต่ก็ทำงัยได้ครับ เขาให้มาแบบนี้ก็ต้องทำไปตามข้อกำหนด
(หัวข้อนี้ในชุดแบบเรียน ตรงกับประเด็นที่เราอภิปรายในกิจกรรมกียามุลลัยเมื่อวานเลยครับ)
ผลงานชิ้นนี้ ผมเดาเล่นๆ ว่า กว่าจะทำเสร็จน่าจะหลายปี ซึ่งพอถามคนนำเสนอก็จริงๆ ครับ ออกมาเป็นชุดฝึกเลยครับใช้เวลาหลายปีมาก แต่ทำได้น่าประทับใจจริงๆ ฮือ แต่ผมรู้สึกว่า ผมเคยอ่านงานวิจัยเรื่องนี้มาแล้วครับ รู้สึกจะสนับสนุนงบโดย สกว. โหนดอิสลามศึกษาฯ เพียงแต่ไม่เคยเห็นตัวผลงาน เห็นแต่ตัวงานวิจัย
งานนวัตกรรมชิ้นที่สอง เป็นการใช้โปรแกรมและอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ที่เรียกว่า multipoint โปรแกรมนี้ช่วยให้ครูสามารถแปลงเอาโปรแกรมนำเสนอมาสร้างเป็นเกมและสอนให้กับเด็กจำนวนมาก เพราะแยกเม้าส์ออกได้อีกหลายตัว ผมให้คะแนนเป็นอันดับสองครับ เพราะผมคิดว่ามันทำง่ายกว่าชิ้นแรก ที่สำคัญอันนี้เวลาเอาไปใช้ในห้องเรียนจริง ยังใช้ได้ลำบาก เพราะจำนวนเด็กมันจะมากกว่าจำนวนเม้าส์ที่อุปกรณ์นี่จะใช้งานได้
ออ. แต่ต้องยอมรับครับว่า การนำเสนอทำได้ดี เพราะเอาเด็กนักเรียนจริงมาสาธิตให้ดูเลย คนในห้องประชุมเลยพากันลุ้นนักเรียนเล่นเกมกันยกใหญ่ ได้ไปอีกบรรยากาศหนึ่ง
งานชิ้นต่อๆ ไปอีกสามชิ้นเป็นการวิจัยแบบฝึกทำวิจัยของ นศ.ปี 5 คุรุศาสตร์อิสลามครับ ก็ให้กำลังใจครับ ถือเป็นการศึกษา ผิดพลาดบ้างเรื่องปกติ หน้าที่ของกรรมการคอมเม้นท์ก็เพื่อปรับปรุงพัฒนา
สรุปว่า กรรมการส่วนใหญ่เขาให้ multipoint ได้รับรางวัลที่หนึ่งครับ เขาก็แว้ปมาถามผมว่าคิดงัย ผมก็แล้วแต่เสียงส่วนใหญ่ครับ ปรากฏออกจากห้องประชุม คนได้รับรางวัลที่หนึ่ง แวะมาทักทายแล้วก็ถามว่า อาจารย์จำผมไม่ได้เหรอครับ ผมลูกศิษย์ ป.บัณฑิตของอาจารย์นะครับ เรียนเทคโนกับอาจารย์ด้วย ความจริงงานนี้ผมจะเสนอสองชิ้นครับอีบุ๊คกับที่เสนอไป แต่สุดท้ายก็เสนออย่างเดียว อือ จำไม่ได้จริงๆ เลยต้องถามว่า ปีไหน กลุ่มไหน ได้รับคำตอบว่า 52 กลุ่ม 6 อือ ปีที่แล้วเอง ทำไมผมจำไม่ได้เลย แต่แม่นๆ ว่า ปีที่แล้วสอนกลุ่ม 6 แน่ๆ ดีนะที่จำไม่ได้ ไม่งั้นจะรู้สึกว่าความยุติธรรมในตัวกรรมการอาจจะหายไปก็ได้ ฮา
ออ. ตอนเริ่มพิธีการ ผมถึงกับตกใจครับ เพราะพิธีกรบอกว่า มีกำหนดการบรรยายเรื่องนวัตกรรมการจัดการเรียนการสอนอิสลามศึกษา โดย อ.จารุวัจน์ สองเมือง ฮือ ฟังไปก็คิดไป ทำไมผมอ่านหนังสือเชิญไม่จบอีกแล้วหรือเนี๊ยะ สุดท้ายพอถึงคิวจริงๆ ไม่ใช่การบรรยายครับ แต่เป็นการให้ความเห็นโดยรวมของโครงการครับ ฮือ โล่งอก
ภารกิจเสร็จตั้งแต่ช่วงเช้าตามคาดครับ ช่วงบ่ายเลยเป็นการเริ่มต้นงานวิจัยที่มี อ.สุกรี หลังปุเต๊ะ เป็นหัวหน้าทีมครับ ซึ่งเราเรียกชื่อย่อโครงการวิจัยนี้ว่า comsist โดยนัดกันว่าจะไปขอคำปรึกษาจากที่ปรึกษาโครงการครับ รศ.ดร.อิสสระ จากจุฬาฯ ซึ่งวันนี้ท่านมาทำภารกิจอยู่ที่ วอศ.พอดิบพอดี คุยเสร็จ ปรากฏเห็นกรรมการอีกท่านหนึ่งมาร่วมงานนี้ด้วย คือ ดร.ปรีดา ประพฤติชอบ จาก ม.ขอนแก่น เลยขอเวลาท่านนั่งพูดคุยขอคำแนะนำต่อโครงการเลย งานนี้ต้องเรียกว่าจะจังหวะเหมาะเจาะจริงๆ ครับ เสียดาย อ.สุกรี ติดภารกิจขอตัวกลับไปก่อน เพราะหลังจากท่านกลับผมก็เจอะกับที่ปรึกษาอีกท่าน ฮือ หัวหน้าโครงการไม่อยู่เลยไม่ได้ขอคำปรึกษาเกี่ยวกับโครงการ ฮิฮิ
กลับมาถึงบ้าน รู้สึกปวดหัวมาก เลยเอนตัวนอนบนเปลครับ ปรากฏเริ่มจากเตาฟิกมานอนข้างบอกว่าเป็นหมอนให้อาบีย์ก่อน แล้วก็ตามมาด้วยอิลฮาม ท้ายสุดคือฟัจญรีน ข้างๆ เต็มหมดแล้วจึงนอนบนห้องอาบีย์เสียเลย งานนี้จึงต้องเรียกอุมมีย์มาช่วยถ่ายรูปไว้ให้หน่อย
คืนนี้เป็นการเปิดเช็คเมล เจอจดหมายเชิญอีกฉบับ ฮือ ทำไมช่วงนี้คนเชิญแต่ละคนเหมือนจะรู้ใจผมจริงๆ เพราะเป็นประเด็นที่ผมอยากพูดจริงๆ ที่สำคัญเชิญมาตรงวันว่างพอดี (แฮะ หรือว่าไม่ว่าง ผมเพิ่งนึกออก ฮือ ทำงัยดีละพลาดอีกแล้ว) งานนี้เชิญผมคุยเรื่องสิ่งที่ผมอยากเห็นจากปอเนาะ ให้เวลาผมชั่วโมงเต็มๆ เลยขอว่าหาอีกสักท่านได้มัยครับ เอาแบบเสวนาก็ได้ ไม่ค่อยอยากพูดคนเดียวในประเด็นเชิงความเห็นเป็นชั่วโมง ปรากฏได้คำตอบเสนอชื่อคนขึ้นเวทีมาอีกหนึ่งท่าน สุดยอดจริงๆ เสียดายว่าพอประสานงานท่านกลับไม่ว่างครับ เสียดายจัง
ไม่มีความเห็น