ดิฉันบรรจุเป็นครูครั้งแรกเมื่อปี 2534 ที่โรงเรียนมัธยมวัดมกุฏกษัติย์ กทม.
ปี 2535 ย้ายกลับไปบ้านเกิดสอนที่โรงเรียนร้อยเอ็ดวิทยาลัย สอนวิชาคณิตศาสตร์ ขณะนี้รวมเป็นเวลา 19 ปี เมื่อย้อนอดีตถึงการสอนใน 5 ปีแรกดิฉันคิดว่าตัวเป็นครูที่สอนคณิตศาสตร์ได้ยังไม่ดีพอ เนื้อหายังไม่แม่นยำ การควบคุมดูแลนักเรียนในขณะที่สอนเป็นไปด้วยความยากลำบากยิ่งจำนวนนักเรียนต่อห้องมีจำนวนมาก เฉลี่ยห้องละ 55 คน บางครั้งนักเรียนก็เล่นกันในขณะสอน คุยกันเสียงดังแข่งกับการสอนของครู กว่าจะหมดคาบเรียนดิฉันเหนื่อยทั้งกายและใจไม่มีความสุขในการสอน แต่ต้องอดทนสอนตามหน้าที่ให้หมดไปเป็นวันๆ
เมื่อประสบการณ์ในการสอนมากขึ้น ดิฉันพยายามเก็บเกี่ยวประสบการณ์ในทุกๆเรื่องที่เกี่ยวกับการสอน การสร้างบุคลิกภาพที่ทำให้เด็กเกรงใจแต่กล้าที่จะเข้าหาเปิดใจทั้งด้านการเรียนและอื่นๆ แต่อีกสิ่งหนึ่งที่เป็นเรื่องสำคัญที่ครูหลายท่านมองข้ามคือการการสร้างเจตคติที่ดีต่อวิชาคณิตศาสตร์และตัวผู้สอนสิ่งนี้ละคือตัวช่วยที่ทำให้ดิฉันพ้นทุกข์ในการสอนเด็ก ดิฉันค้นพบว่าในการพบเด็กครั้งแรกชั่วโมงแรกของการสอนดิฉันไม่ได้สอนเนื้อหา ไม่ได้แจกจุดประสงค์รายวิชา แต่ดิฉันจะอบรมนักเรียนเกี่ยวกับการเป็นคนดี การทำความดี ความรับผิดชอบในหน้าที่ การกตัญญูต่อพ่อ แม่ ครู อาจารย์ วิธีปฏิบัติตัวให้เป็นผู้มีความพร้อมในการเรียนโดยยึดความมีสติ ฟังและถามในขณะเรียน ซึ่งคำพูดที่ดิฉันจะบอกกับนักเรียนในแต่ละรุ่นคือ " ถ้าไม่อยากยากจนต้องทำตนให้ฉลาดโดยการตั้งใจเรียนหนังสือ หากยอมที่จะอดทน ขยัน ลำบาก มีความพยายามใน 10 ปีให้ได้ แล้วชีวิตที่เหลืออีก 60 ปีข้างหน้าเธอจะสบาย"
" ครูขอให้นักเรียนมั่นใจได้เลยว่าครูจะสอนพวกเธอให้เต็มความสามารถ ขอเพียงแต่เธอต้องมีสติ ตั้งใจเรียน ในขณะที่ครูสอน แล้วเธอรอดูผลว่าในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าเธอจะเรียนอย่างมีความสุขเพราะเธอเป็นผู้รู้ที่แท้จริง" คำพูดเหล่านี้มันสามารถเปลี่ยนแปลงชีวิตนักเรียนที่ไม่ค่อยสนใจการเรียนให้หันกลับมาสนใจการเรียน และนักเรียนที่เก่งอยู่แล้วยิ่งมีความตระหนักในหน้าที่มากขึ้น
ไม่ว่าดิฉันจะไปที่ใดหากนักเรียนหรือผู้ปกครองของนักเรียนที่ดิฉันเคยอบรมสั่งสอนเขาจะเข้ามาทักทายด้วยความปราบปลื้มยินดีเสมอ หากเจ็บไข้ได้ป่วยลูกศิษย์ที่เป็นหมอหรือพยาบาลจะเข้ามาแนะนำดูแลโดยไม่ต้องขอร้องหรือบอกกล่าว ส่วนลูกศิษย์ที่พอเอาตัวรอดได้ไม่ว่าจะเจอครูที่ใดก็จะรีบยกมือไหว้ทักทายครูเสมอ ในเวลานี้ดิฉันมีความสุขมากในการสอน นักเรียนก็มีความสุขที่ได้เรียนกับครู เพราะต่างฝ่ายต่างก็ปรับตัวเข้าหากัน ซึ่งความสุขความสำเร็จของทั้งครูและนักเรียนเป็นเพราะดิฉันใช้หลักการต่อไปนี้
1. ต้องแน่นแม่นยำในเนื้อหา
2. มีเหตุผลกับนักเรียน
3. มีความยุติธรรมให้ความสำคัญกับนักเรียนทุกคน
4. ใกล้ชิด กำกับ ติดตาม ดูแล แนะนำ ช่วยเหลือนักเรียนที่มีปัญหา
5. ให้กำลังใจในการเรียนกับนักเรียนเป็นประจำ
6. มีอารมณ์ขันในบางช่วงบางจังหวะที่สอน
7. ทำให้นักเรียนเกรงใจ แต่ไม่ใช่เกรงกลัว
8. มีความเมตตา จริงใจ และพยายามมองเด็กในแง่ดี
9. สร้างกฏกติกาข้อตกลงในทางปฎิบัติที่เป็นไปได้ในด้านระเบียบ วินัยและความรับผิดชอบระหว่างผู้เรียนและผู้สอน
10. ไม่ด่า ไม่บ่น แต่ให้อบรมสั่งสอนแทน
11. สอนอย่างเต็มความสามารถ (หากจะเหนื่อยก็คุ้มค่ากับชีวิตความเป็นครู)
" ครูต้องสอน คอยชี้แนะเด็ก ไม่ควรปล่อยเด็กเรียนรู้ตามลำพัง "
สวัสดีครับคุณครู
ชั่วโมงแรกที่น่าประทับใจ สร้างเจตคติที่ดีต่อการเรียนมาก
เด็กที่มีผลการเรียนที่ไม่โดดเด่น จะตั้งใจเรียนมากขึ้นเพราะกำลังใจจากคุณครู
เด็กเหล่านี้ยังมีอีกเป็นจำนวนมาก ที่ครูอีกหลาย ๆ ท่านต้องเข้าใจ
ขอบคุณมากครับ
ขอบคุณคะ คุณเลิศฤทธิ์ ที่ให้ความสนใจเข้ามาอ่าน และแสดงความเห็น
ถ้าเด็กศรัทธาครู เขาจะรู้สึกอยากเรียนอยากสอบถาม
คุณครูถือว่าเป็นยอดครู คงได้รับเลือกเป็นครูดีที่หนูรักแน่นอนครับ
ขอเป็นกำลังใจครับ