หมวกกันน็อก


ที่น่าสนใจที่เห็นว่าต่างกับบ้านเราชัดเจน คือ เขาขับขี่จักรยานยนต์โดยสวมหมวกกันน็อกกัน ๑๐๐%

 

 

หมวกกันน็อก 

            ที่อินโดนีเซียประชากรมีมากถึง ๒๓๐ ล้านคน มากเป็นอันดับสี่ของโลก รองจากจีน อินเดีย และสหรัฐอเมริกา โดยเฉพาะที่จาการ์ต้าที่เป็นเมืองหลวงมีมากถึง ๑๒ ล้านคน มีความเจริญคล้ายกรุงเทพฯ มีตึกสูงสมัยใหม่ที่ผุดขึ้นมาท่ามกลางชุมชนแออัด ที่เห็นได้อยู่ทั่วไป การเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจที่เมืองใหญ่โตเอา โตเอา คนจนในเมืองก็จะมากขึ้นเป็นเงาตามตัว ช่องว่างทางเศรษฐกิจสังคมระหว่างชนชั้นก็จะกว้างขึ้น  การเติบโตแบบทุนนิยมแบบปลาใหญ่กินปลาเล็กมักจะนำมาสู่ปัญหาสังคม ปัญหาการกระจายรายได้ที่เป็นธรรม เป็นโจทย์ที่รัฐบาลประเทศต่างๆต้องขบคิดและแก้ปัญหาอย่างจริงจัง จึงจะทำให้สังคมเป็นสังคมที่น่าอยู่ของคนทุกคน

            จาการ์ต้า รถติดพอๆกับที่กรุงเทพฯ การจราจรก็วุ่นวาย มีทั้งรถยนต์และจักรยานยนต์วิ่งกันขวักไขว่ ผมไปประชุมที่บันดุง ห่างจากจาการ์ต้าไปประมาณ ๑๕๐ กม. ก็เป็นเมืองใหญ่เช่นกันแต่เล็กกว่าจาการ์ต้า ประชากรน้อยกว่าและเจริญน้อยกว่า ทั้งสองแห่งนี้ก็วุ่นวายคล้ายบ้านเรา แต่ที่น่าสนใจที่เห็นว่าต่างกับบ้านเราชัดเจน คือ เขาขับขี่จักรยานยนต์โดยสวมหมวกกันน็อกกัน ๑๐๐%” เลยทีเดียว ที่บอกว่า ๑๐๐%นี่ไม่ได้เวอร์เพราะ เห็นมากับตา                        ผมพยายามหาคนที่ไม่สวมหมวกกันน็อกเนี่ยหาไม่เจอไม่ว่าจะเป็นคนขับหรือผู้โดยสาร เห็นแล้วอดสะท้อนใจไม่ได้ว่า หลายประเทศเขาทำได้ “เมื่อไหร่หนอบ้านเราจะเป็นอย่างนี้บ้าง”

รถติด

 

ตึกใหญ่โตกลางชุมชนแออัด

รอรับคนจน..ข้างโรงแรมห้าดาว

หมวกกันน็อก ๑๐๐%

 

มาดูเมืองไทยบ้าง...นี่อยู่ใกล้ๆศาลากลางจังหวัด....หมวกน่ะมี แต่ถือเอาไว้ไม่ใส่ กลัวผมเสียทรงมากกว่าเสียชีวิต

หมายเลขบันทึก: 375374เขียนเมื่อ 15 กรกฎาคม 2010 15:48 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 23:13 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (6)

คุณปรีดาครับ ผมก็ได้ข่าวมาเช่นนั้นนานแล้ว เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง คราวนี้ได้รับรู้ซ้ำอีกพร้อมภาพ เชื่อแล้วเกือบเต็ม 100 สำหรับบ้านเรา อยู่ที่การบังคับใช้กฎหมาย ที่....ย่อหย่อน...ทุกเรื่อง ยกเว้นการใช้เพื่อการขูดรีด รีดไถ เกิน 100 ครับ

ขอบคุณสำหรับความเห็นครับอาจารย์

น่าจะรณรงค์ "ทำอะไรมีวินัยคือไทยแท้" นะครับ และบังคับใช้กฎหมายจริงจัง ไม่ใช่จับเพื่อ......อย่างที่อาจารย์พูดมาครับ

ภาพสุดท้าย ดูบ้านเขาแล้วมองกลับมาบ้านเราบ้าง...เฮ้อ!!

สวัสดีค่ะอาจารย์

หมวกกันน็อค บ้านเราเอาไว้ใช้เมื่อตำรงจจะตรวจค่ะเรียกว่ากันตำรวจ

ค่านิยม คำนี้น่าจะเป็นสิ่งที่จะเป็นคำตอบ

เมื่อก่อนคนอายที่จะคาดเข็มขัดนิรภัย แต่ตอนนี้คนส่วนมากคนก็คาดเข็มขัดกันแล้ว

สำหรับหมวกกันน็อคถ้ารณรงค์จริงๆโดยเฉพาะในกลุ่มวัยรุ่น

สร้างค่านิยมเรื่องความปลอดภัย กฏหมายเข้มงวดก็คงจะดี

และเอาดาราวัยรุ่นมาช่วยโปรโมตอีกทาง ทำอย่างต่อเนื่อง หวังว่าคงมีคนทำจริงจังนะคะ

สวัสดีครับ  เรื่องหมวกกันน็อคนี่ ผมมีเริ่องเล่าครับ  ปีที่แล้วผมนำสามเณรนักเรียนไปประกวดาทงวิชาการของสามเณรที่เรียนในโรงเรียนปริยัติธรรมสายสามัญ สังกัดสำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติ  ผมจะไม่บอกว่าจังหวัดไหนนะครับ แต่เป็นจังหวัดที่มีพรธาตุเจดีย์ครับ  ผมเห็นคนขับขี่จักรยานยนต์ผ่านพระธาตุเจดีย์ตลอดวัน  แต่ไม่พบใครเลยแม้แต่คนเดียวที่สวมหมวกกันน็อก  ผมก็ว่าแปลก คิดไปอีกมุมผ่านพระธาตุเจดีย์เขาไม่ต้องสวม  ครูอาจารย์ที่ไปด้วยกันคุยกันเรื่องนี้ พอเข้ามาผ่านเมืองก็มีน้อยมาก   คิดอีกมุมที่นั่นคงจะไม่ค่อยมีอุบัติเหตุก็อาจเป็นได้  แต่ที่จังหวัดบ้านผมตำรวจตั้งด่านจับครับ  ขับรถยนต์ไม่คาดเข็มขัดนิรภัยก็โดนเช่นกัน  เพราะเขามีการรณงค์อย่างต่อเนื่องครับ

      ขอบคุณที่คุณนำสาระนี้มาแบ่งปันทำให้ผมได้นำสิ่งที่ได้เห็นมาเล่าให้อ่านกันด้วย  ขอบคุณ

ผมเห็นด้วยว่าเรื่องการบังคับใช้กฎหมายเป็นเรื่องสำคัญ และจะทำให้อุบัติเหตุลดลง หากเกิดอุบัติเหตุความรุนแรงก็ลดลงเช่นกัน งานนี้ตำรวจช่วยได้/ครูก็ช่วยได้

สำหรับเรื่องพระธาตุหรือความเชื่อใดๆก็คงจะช่วยไม่ได้แน่นอนครับ ขนาดพระท่านยังสอนเลยว่า "ความประมาทเป็นหนทางแห่งความตาย" งานนี้พระช่วยได้ก็ตอนสวดส่งวิญญาณนั่นแหละ

ขอบคุณสำหรับเรื่องที่ได้นำมาแลกเปลี่ยนกันครับ ช่วยกันเตือนคนรอบข้างให้ตระหนัก ถือว่าช่วยกันทำบุญครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท