บทความภาวะผู้นำ โดย นงคราญ แก้ววงษา


บทความ

                                                บทความที่  3

                                  ความล้มเหลวคือแม่ของความสำเร็จ

 ท่านประธาน ธนินท์มักกล่าวกับผู้บริหารและผู้ร่วมงานในเครือฯ อยู่เสมอว่า
"คนที่จะเป็นผู้บริหารระดับสูงไม่ควรมองที่ จุดด้อยของคนอื่น แล้วมองแต่จุดเด่นของตัวเอง เพราะว่าถ้าพยายามมองจุดด้อยของคนอื่น ก็จะคิดว่าตัวเองเก่งอยู่ทุกครั้ง ทุกทีไป  จึงไม่ได้มีความพยายามปรับตัว  เราต้องมองจุดเด่นของคนอื่น   แล้วหาทางใช้จุดเด่นของเขาให้เป็นประโยชน์  จึงสามารถทำงานใหญ่ได้"
                โดยท่านถือหลักการในการบริหารคนและองค์กรที่น่าสนใจอย่างยิ่งว่า
"องค์กรที่ดีต้องประกอบด้วยคน 4 รุ่นคือ รุ่นอายุ 50 ปี รุ่นอายุ 40 ปี รุ่นอายุ 30 ปี และรุ่นอายุหนุ่มสาวที่เพิ่งจบการศึกษา เพราะคนเราต้องเกิด แก่ เจ็บ ตาย เก่งอย่างไรก็ต้องมีวันหยุด เมื่อหยุดแล้วจะหาใครมาทดแทน เราต้องมีการสร้างคนอีก 3 รุ่นลงมารองรับไว้ก่อน"
                 ท่านประธาน ธนินท์ มีเหตุผลว่าธุรกิจจะดำเนินไปได้หรือขยายตัวได้และจะสำเร็จหรือไม่อยู่ที่คน ทุกอย่างล้วนมาจากคน เงินก็มาจากคน เทคโนโลยีก็มาจากคน
"ผมถือว่าคนเป็นทรัพยากรสำคัญที่ล้ำค่าอันเป็นหัวใจของทุกองค์กร  เราจึงต้องมีคนที่มีความรับผิดชอบสูง  มีความมานะพยายาม  มีความรู้ความสามารถ  และมีความซื่อสัตย์สุจริตอยู่ในองค์กรให้มากๆ จึงจะสามารถนำองค์กรหรือบริษัทไปสู่ความสำเร็จได้"
                 หากบริษัทอยากจะเจริญก้าวหน้าอย่างไม่สิ้นสุด  ก็ต้องพัฒนาคนไม่มีที่สิ้นสุดเช่นกัน ต้องสร้างคนให้มีคุณภาพ   เมื่อมีประสิทธิภาพก็เกิดประสิทธิผลในการทำงาน   ซึ่งสร้างประโยชน์ทั้งต่อบริษัท และสังคม ไม่มีอะไรที่ให้สังคมได้ดีที่สุดเท่ากับการพัฒนาบุคลากรให้มีความสามารถ   ท่านประธานจึงให้ความสำคัญกับคนที่มีความรับผิดชอบสูง มีความอดทนเยี่ยม มีความซื่อสัตย์สุจริต และมีความขยันหมั่นเพียรก่อนเหตุผลคือ หาก "คน" มี 4 ประการแรกแล้ว สามารถพัฒนาตัวเองให้เป็นคนเก่งได้
               "มนุษย์เราทุกคนมีความสำเร็จอยู่ในตัวเองทั้งนั้น ชีวิตคนทุกคนต้องมีจุดเด่นที่สามารถนำพาชีวิตไปสู่ความสำเร็จได้   แต่ที่สำคัญที่สุดก็คือ อย่าเป็นคนที่เหลิง หลงตัวเองว่าเก่ง เพราะวันนี้เก่ง   พรุ่งนี้อาจจะไม่เก่งก็ได้   อาจจะมีคนเก่งกว่าเราก็ได้   และถ้าเราเหลิงจะมีแต่ถอยหลัง อย่าลืมว่าโลกของเรามีแต่จะก้าวไปข้างหน้า"
               ผู้บริหารที่จะประสบความสำเร็จนั้น นอกจากตัวเองจะมีความรู้   มีความสามารถในการตัดสินใจอย่างถูกจังหวะ    รวมถึงมองการณ์ไกลแล้วยังต้องได้รับความร่วมมือจากพนักงานในระดับปฏิบัติการอย่างเต็มความสามารถ   นั่นคือการเป็นเจ้านายที่ดีต้องอย่าทำตัวเหมือน "นก" แต่ให้เป็นเหมือน "หนอน"เพราะการทำตัวเหมือน "นก" ก็มักแต่ชอบบินสูงอยู่บนฟากฟ้า คิดว่าตัวเองเหนือผู้อื่นอยู่ตลอดเวลา    ซึ่งบางครั้งก็อยู่สูงเกินไป   จนมองไม่เห็นความเป็นไปบนพื้นดินและการที่ ซี.พี.แตกบริษัทย่อย แบ่งกลุ่มธุรกิจออกไป เช่น กลุ่มธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรม   กลุ่มเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ   กลุ่มธุรกิจเมล็ดพันธุ์ ปุ๋ย และเคมีเกษตร กลุ่มธุรกิจการค้าระหว่างประเทศ ฯลฯ นั้นก็เป็นวิธีการกระจายอำนาจ   กระจายหน้าที่ความรับผิดชอบ   กระจายความเสี่ยง   และการสร้างคน
                     "ผมมองคนอื่นว่าเก่งกว่าผมเสมอ   ผมไม่เคยมองใครว่าเก่งสู้ผมไม่ได้   สำหรับคนที่ทำงานกับเรา   ผมยึดหลักว่าจะต้องเปิดโอกาสให้เขาแสดงความสามารถ   เมื่อใครแสดงความสามารถออกมาเราจะต้องส่งเสริมสนับสนุนเขาให้มีตำแหน่งสูงๆ ขึ้นไป   เราต้องพยายามรักษาเขาให้อยู่กับเรานานที่สุด   เราจะต้องสร้างคนที่มีความสามารถให้เกิดขึ้นมากๆ"
                     นอกจากนี้ ท่านประธานยังยึดคติพจน์ "ความล้มเหลวคือแม่ของความสำเร็จ"
                      "ผมชอบคนที่ทำงานเสียหายแล้วรู้ว่าเสียหายอย่างไร และผมจะให้โอกาสเขาแก้ตัวใหม่ แต่ถ้าทำเสียหายแล้ว   บอกว่าทำดีที่สุดแล้ว   ทำถูกต้องแล้ว   แถมยังโยนความผิดไปให้คนอื่น  คนอย่างนี้ผมไม่กล้าใช้ให้ทำงานอีกต่อไป"
                      ยิ่งการจะทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จนั้น ท่านประธาน ธนินท์ยังมีมุมมองที่น่าสนใจ
                    "การที่จะทำอะไรให้สำเร็จ   อย่าเพิ่งไปคิดว่า เรามีกำไรเท่าไหร่   เราจะได้ผลประโยชน์อะไร เราน่าจะคิดว่างานชิ้นนี้เรามีโอกาสทำได้ดีที่สุดหรือเปล่า  แล้วทำสำเร็จได้หรือไม่ เราจะทำงานชิ้นนี้ให้ดีที่สุด   เราต้องทำให้ดีกว่าคนอื่น   แล้วความสำเร็จจะตามมา"

(จากส่วนหนึ่งใน "มุมคิด" เรื่องคนของ "ธนินท์" ซึ่งหยิบมาจากหนังสือ "36 กลยุทธ์ ธนินท์  เจียรวนนท์"  เรียบเรียงโดย วิจักษณ์ วรบัณฑิตย์ )

 สรุปและการนำไปใช้

                ผู้บริหารที่จะประสบความสำเร็จ  จะต้องเป็นผู้มีความรู้ความสามารถในการตัดสินใจ  มองการณ์ไกล  ต้องมองคนอื่นว่าเก่งกว่าเราเสมอ  เปิดโอกาสให้คนอื่นได้แสดงความสามารถอย่างเต็มศักยภาพ  มองหาจุดเด่นของเขา และใช้จุดเด่นของเขาให้เป็นประโยชน์   สร้างคนที่มีความสามารถให้เกิดขึ้นมากๆในองค์กร  และนอกจากนั้นต้องได้รับความร่วมมือจากพนักงานในระดับการปฏิบัติอย่างเต็มความสามารถ

                การที่จะทำอะไรให้สำเร็จ  จะต้องคิดว่างานที่เราทำนั้นมีโอกาสทำได้ดีที่สุดหรือเปล่า  แล้วทำให้สำเร็จได้หรือไม่   และจะต้องทำงานนั้นให้ดีที่สุด  ทำให้ดีกว่าคนอื่น   โอกาสที่จะประสบความสำเร็จนั้น ไม่ยากเลย

 

 

 

หมายเลขบันทึก: 374760เขียนเมื่อ 13 กรกฎาคม 2010 19:35 น. ()แก้ไขเมื่อ 15 เมษายน 2012 03:05 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

สวัสดีค่ะ

"ความล้มเหลวคือแม่ของความสำเร็จ"

และ

การที่จะทำอะไรให้สำเร็จ   อย่าเพิ่งไปคิดว่า เรามีกำไรเท่าไหร่   เราจะได้ผลประโยชน์อะไร เราน่าจะคิดว่างานชิ้นนี้เรามีโอกาสทำได้ดีที่สุดหรือเปล่า  แล้วทำสำเร็จได้หรือไม่ เราจะทำงานชิ้นนี้ให้ดีที่สุด   เราต้องทำให้ดีกว่าคนอื่น   แล้วความสำเร็จจะตามมา"

อ่านแล้วโดนจริงจริงค่ะ

ขอบคุณสำหรับบันทึกดีดีนะคะ

ขอบคุณค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท