ธรรมหรรษา
รศ.ดร. พระมหา หรรษา นิธิบุณยากร

Peace Building


      วันนี้ (๗ กรกฎาคม ๒๕๕๓) ผู้เขียนได้รับนิมนต์จากศูนย์จอนห์ พอลเพื่อแนวคิดทางสังคมคาธอลิก มหาวิทยาลัยเอแบค โดยการประสานงานของอาจารย์รัสมี ไปทำหน้าที่เป็นวิทยากรอภิปรายร่วมในหัวข้อเรื่อง "Peace Building" หรือ "การสร้างสันติภาพ" โดยมีนิสิตนักศึกษาให้ความสนใจเข้ารับฟังประมาณ ๒๐๐ ท่าน ซึ่งวิทยากรประกอบด้วยผู้แทนจากศาสนาอิสลาม ศาสนาคริสต์ ศาสนาบาไฮ และผู้เขียนในฐานะผู้แทนของศาสนาพุทธ

       "Peace" มาจากศัพท์ในพระพุทธศาสนาว่า "Santi" หรือ "สันติ" แปลว่า "ความสงบ"  ความสงบในบริบทของโลกุตระ หมายถึง "นิพพาน" คือ "สภาพจิตที่ไม่ถูกรบกวน หรือครอบงำด้วยความโลภ ความโกรธ และความหลง"  และความสงบในความหมายของโลกิยะ หมายถึง "สภาพที่คน หรือกลุ่มคนในสังคม หรือองค์กรอยู่ร่วมกันอย่างปกติสุขโดยไม่เบียดเบียดกัน รักกัน ปรารถนาต่อกัน และเอื้อเฟื้อเกื้อกูนซึ่งกันและกัน"

         ยิ่งกว่านี้ ความสงบในความหมายที่สอง บุคคลหรือกลุ่มบุคคลสามารถขัดแย้งกันทางผลประโยชน์ ข้อมูล ความคิด ค่านิยม โครงสร้าง และความสัมพันธ์กันได้ ตราบเท่าที่ความขัดแย้งดังกล่าวไม่พัฒนาไปสู่การแสดงออกด้วยความรุนแรงจากบุคคลหรือกลุ่มบุคคลด้วยการด่า วิวาท และทำร้ายร่างกายซึ่งกันและกันตั้งแต่บาดเจ็บจนถึงเสียชีวิต

        สันติหรือความสงบ  ผู้เขียนได้จำแนกออกเป็น ๒ ประเภท กล่าวคือ สันติภาพภายนอก และสันติภาพภายใน

        (๑) สันติภาพภายนอก  เป็นสภาพที่บุคคลหรือกลุ่มบุคคลสามารถขัดแย้งกันทางผลประโยชน์ ข้อมูล ความคิด ค่านิยม โครงสร้าง และความสัมพันธ์กันได้ ตราบเท่าที่ความขัดแย้งดังกล่าวไม่พัฒนาไปสู่การแสดงออกด้วยความรุนแรงจากบุคคลหรือกลุ่มบุคคลด้วยการด่า วิวาท และทำร้ายร่างกายซึ่งกันและกันตั้งแต่บาดเจ็บจนถึงเสียชีวิต ในทางกลับกัน สันติภาพภายนอกเป็นสภาพที่กลุ่มคนในสังคมช่วยเหลือ เคารพ และให้เกียรติซึ่งกันและกัน

        (๒) สันติภาพภายใน  เป็นสันติภาพที่มีอยู่ และเกิดขึ้นภายในใจของบุคคลใดบุคคลหนึ่ง ที่เปี่ยมล้นด้วยความรู้ ตื่น และเบิกบาน ในขณะเดียวกัน ดวงจิตของบุคคลที่มีสันติภายในจะปราศจากการครอบงำของกิเลสในลักษณะต่างๆ เช่น ความเคียดแค้น เกลียดชัง ความอยากโดยไร้ขีดจำกัด และความลุ่มหลงมัวเมาในลาภ ยศ สรรเสริฐ และวัตถุต่างๆ

         สันติภาพที่แท้จริง (True Peace) เกิดขึ้นจากภายในใจเท่านั้น เราไม่สามารถค้นหาสันติภาพเช่นนี้จากภายนอกใจของเรา และสันติภาพเช่นนี้มิเคยเลือนหายไปจากใจของเรา แต่เพราะจิตของเราสับสน วุ่นวาย ไร้ภาวะความสงบ เราจึงไม่สามารถค้นพบ "สันติภาพที่แท้จริงที่ซ่อนอยู่ภายในใจ"

         คำถามมีว่า "จำเป็นหรือไม่ที่เราจะต้องสร้างสันติภาพ" ตอบว่า ในการสร้างสันติภายในใจของเรานั้น ไม่มีความจำเป็นแต่ประการใดที่เราจะต้องสูญเสียเวลาไปสร้าง เพราะสันติภาพเช่นนี้ดำรงอยู่ภายในใจของเราอยู่ตลอดเวลา มิได้เลือนหายไปจากใจของเราแม้แต่เสี้ยววินาที ฉะนั้น เมื่อใดก็ตามที่เรามีสติ รู้เท่าทันสรรพสิ่งที่เกิดขึ้นตามความเป็นจริงทั้งในขณะคิด พูด หรือกระทำ เราก็จะพบว่าสันติภาพที่ยิ่งใหญ่ซ่อนตัวอยู่ภายในใจของเรานี่เอง

         อย่างไรก็ดี ในการสร้างสันติภาพภายนอกนั้น มีความจำเป็นอย่างยิ่งที่บุคคลหรือกลุ่มบุคคลที่อยู่ร่วมกันในสังคมจะต้องช่วยกันสร้างจรรโลงให้เต็มไปบรรยากาศที่ดีงาม ฉะนั้น กรอบเบื้องต้นในการสร้างสันติภายนอกเช่นนี้  เราอาจจะนำหลักศีล ๕ มาเป็นเครื่องมือ กล่าวคือ ไม่เบียดกัน รักกัน เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ เคารพในสิทธิ ทรัพยากร และคู่ครองของบุคคลอื่น การเจรจาพาทีด้วยถ้อยคำเชิงบวก และการมีสติไม่ลุ่มหลงมัวเมาในวัตถุหรือสิ่งเสพ หากมนุษยชาติปฏิบัติตนตามครรลองของศีล ๕ สังคมมนุษย์ก็จะอยู่ไม่ไกลจากสันติภาพภายนอก

หมายเลขบันทึก: 372846เขียนเมื่อ 7 กรกฎาคม 2010 20:43 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 23:10 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (16)

นมัสการค่ะ

 เมื่อใดก็ตามที่เรามีสติ รู้เท่าทันสรรพสิ่งที่เกิดขึ้นตามความเป็นจริงทั้งในขณะคิด พูด หรือกระทำ เราก็จะพบว่าสันติภาพที่ยิ่งใหญ่ซ่อนตัวอยู่ภายในใจของเรานี่เอง

โยมท้องฟ้า

สันติภาพที่ยิ่งใหญ่ซ่อนอยู่ภายในใจของเรานี่เอง อย่าเสียเวลาตามหา หรือรอคอย ค้นพบได้ที่ใจของเราที่นี่ เดี๋ยวนี้

กราบนมัสการพระอาจารย์

  • สันติภาพเป็นหนทางเเห่งความสงบ
  • ความสงบคือหนทางเเห่งความสุขครับ

โยมพีธากร

ขออนุโมทนาขอบคุณที่เข้ามาช่วยสรุปและต่อองค์ความรู้

นมัสการพระคุณท่าน

สันติภาพควรเกิดขึ้นกับทุกผู้คนขอรับ

ท่านผอ. พรชัย

ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมและแบ่งปันความรู้

นมัสการหลวงพี่ บรรยายเป็นภาษาอังกฤษใช่ไหมครับ เพราะดูจากผู้เข้าร่วมแล้วมีหลายสัญชาติมากๆๆ

ท่าน ดร.ขจิต

ถูกต้องตามที่อาจารย์สังเกตเห็น เป็นการสัมมนาแบบ Interfaith Dialogue จึงมีผู้เข้าสัมมนาจากหลายศาสนาและภาษา  วันนี้ถ้ามีกิจกรรมแบบนี้อีกจะรีบเชิญอาจารย์เพื่อร่วมแลกเปลี่ยนด้วยกัน

นมัสการพระอาจารย์

  •   สันติภาพเริ่มที่ใจของทุกคน ทุกชน ทุกหมู่เหล่า  เป็นภาพที่งดงาม ต่างฝันถึงครับผม

กราบนมัสการครับผม

 นิสิต

เจริญพร โยมนิสิต

นับเป็นแง่มุมที่การนำเสนอมุมมองที่ดี ในอีกมิติหนึ่ง สันติภาพมีอยู่ และดำรงอยู่ในใจของพวกเราทุกรูป ทุกนาม เพียงเพราะ "จิตวุ่น" เราจึง "ไม่เห็นฝุ่นของสันติภาพ"

นมัสการเจ้าค่ะ

ดิฉันไม่เรียนต่อแล้ว

ขอบคุณที่ถามถึงเจ้าค่ะ

นมัสการลา

กราบนมัสการพระอาจารยื

สันติ= มองตนเองมากกว่าผู้อื่น..

..อาจเป็นเพราะ "มนุษย์" นั้นแตกต่าง........(อย่างไรก็ดี ในการสร้างสันติภาพภายนอกนั้น มีความจำเป็นอย่างยิ่งที่บุคคลหรือกลุ่มบุคคลที่อยู่ร่วมกันในสังคมจะต้องช่วยกันสร้างจรรโลงให้เต็มไปบรรยากาศที่ดีงาม)

ท่านจาตุรงค์ครับ

สันติแบบมองตนเองออก บอกตัวเองได้ ใช้ตัวเองเป็น นับเป็นสันติแบบพุทธโดยแท้ สันติที่เน้นการรู้ ตื่น และเบิกบาน แต่โดยมากเรามักไปคิดถึงสันติภาพภายนอกที่ไม่ยั้งยืน และเปลี่ยนแปลงไปตามบทบาทและสถานการณ์  ฉะนั้น สันติภาพภายนอกอาจจะต้องสร้างขึ้นมาให้สอดรับกับสถานการณ์ แต่สันภาพภายในไม่ีจำเป็นต้องไปสร้าง เพราะมีอยู่ และเป็นอยู่ภายในใจของเราอยู่แล้ว

ด้วยสาราณียธรรม

สันติภาพหรือสันติวิธีอยู่ที่ไหน การแสวงหาสันติภาพเป็นสิ่งที่มนุษย์เรียกร้อง แต่ไม่ขับเคลื่อนอย่างจริงจัง ผมศึกษางานท่านอาจารย์แล้วรู้สึกประทับใจ เป็นกำลังใจให้พระอาจารย์ครับ

เจริญพร โยมไม่แสดงตน

อนุโมทนาขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมเยียน และให้กำลังใจ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท