วิถีทางขนมหัวล้าน


ขนมหัวล้านเป็นขนมที่หาซื้อทานได้ทางภาคใต้ของไทย หน้าตาก็เหมือนขนมต้มนะ เพียงแต่เค้าไม่คลุกมะพร้าวแต่ใช้กะทิราดแทน ไส้มี ๒ แบบ คือไส้หวานและเค็ม

ขนมไทย เป็นเอกลักษณ์ด้านวัฒนธรรมประจำชาติไทยอย่างหนึ่งที่เป็นที่รู้จักกันดี เพราะเป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นถึงความละเอียดอ่อนประณีตในการทำ ตั้งแต่วัตถุดิบ วิธีการทำ ที่กลมกลืน พิถีพิถัน ในเรื่องรสชาติสีสัน ความสวยงาม กลิ่นหอม รูปลักษณะชวนรับประทาน ตลอดจนกรรมวิธีการรับประทาน ขนมแต่ละชนิด ซึ่งยังแตกต่างกันไปตามลักษณะของขนมชนิดนั้นๆ ขนมไทยที่นิยมทำกันทุกๆ ภาคของประเทศไทย ในพิธีการต่างๆ เนื่องในการทำบุญเลี้ยงพระ ก็คือ

ขนมจากไข่ และมักถือเคล็ดจากชื่อและลักษณะของขนมนั้นๆ งานสิริมงคลต่างๆ เช่น งานมงคลสมรส ทำบุญวันเกิด หรือทำบุญขึ้นบ้านใหม่ ส่วนใหญ่ก็จะมีการเลี้ยงพระกับแขกที่มาในงาน เพื่อเป็นสิริมงคลของงานขนมก็จะมีฝอยทอง เพื่อหวังให้อยู่ด้วยกัน ยืดยาวมีอายุยืน ขนมชั้น ก็ให้ได้เลื่อนขั้นเงินเดือน ขนมถ้วยฟูก็ขอให้เฟื่องฟู ขนมทองเอกก็ขอให้ได้เป็นเอก เป็นต้น

 ขนมหัวล้าน

       ขนมหัวล้านเป็นขนมที่หาซื้อทานได้ทางภาคใต้ของไทย หน้าตาก็เหมือนขนมต้มนะ เพียงแต่เค้าไม่คลุกมะพร้าวแต่ใช้กะทิราดแทน ไส้มี ๒ แบบ คือไส้หวานและเค็ม (เตรียมไส้ล่วงหน้าก่อนได้หลายวัน)

เครื่องประกอบไส้แบบหวาน:

มะพร้าวทึนทึกขูด        ๕        ถ้วยตวง

น้ำตาลปี๊บ ๒ ถ้วยตวง (เพิ่มได้หากชอบหวาน)

น้ำกะทิ ๑ ถ้วย                     เกลือ ๑ ช้อนโต๊ะ

น้ำสะอาด ๑ ถ้วย ไม่ใช้น้ำก็ได้ ถ้าน้ำตาลเหลวพอแล้ว

ตัวแป้ง

        แป้งข้าวเหนียว ๕๐๐ กรัม          น้ำอุ่น ๑ ถ้วย (ถ้าไม่พอเติมได้อีก)

กะทิสำหรับราดขนม

          หัวกะทิ ๔ ถ้วย           น้ำตาลทราย ๑ ถ้วย     เกลือ ๑ ช้อนชา

วิธีทำ ล้างถั่วเขียวเลาะเปลือกแล้วให้สะอาด แช่น้ำไว้อย่างน้อยสามชั่วโมง (แช่ค้างคืนก็ดี) นำถั่วที่แช่แล้วไปนึ่งในลังถึงให้สุก แล้วบดถั่วให้ละเอียด นำถั่วที่บดละเอียดแล้วใส่ในหม้อ พร้อมกับ กะทิและน้ำตาล เกลือ กวนส่วนผสมให้เข้ากันจนเหนียวขนาดปั้นได้จึงยกลงจากเตา พักไว้ให้เย็น แล้วค่อยปั้นเป็นก้อนกลมเล็กๆเตรียมเอาไว้เป็นไส้ จากนั้นนวดแป้งข้าวเหนียวด้วยน้ำอุ่น นวดจนแป้งไม่ติดมือ แล้วปั้นเป็นก้อนๆเตรียมไว้ห่อไส้หลังจากห่อไส้ซะให้เรียบร้อย แป้งหนาจะห่อได้ง่ายๆ ระหว่างที่ห่อไส้นั้นก็จะต้มน้ำรอได้เลย น้ำที่ต้มใส่เยอะๆ ห่อไส้เสร็จจะได้เอาขนมไปต้มในน้ำเดือด วิธีจะดูว่าขนมสุกหรือไม่นั้น ให้สังเกตว่าขนมลูกที่สุกจะลอยน้ำ ตักขนมที่สุกแล้วขึ้นมาใส่ถ้วยราดด้วยกะทิ รับประทานได้เลย หวานขาดเค็มยังไงก็เติมเอาอีกทีอาจจะชอบรสชาติที่ไม่เหมือนกัน

หมายเลขบันทึก: 372825เขียนเมื่อ 7 กรกฎาคม 2010 19:26 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 พฤศจิกายน 2012 11:52 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

สวัสดีค่ะครู พักนี้ครูหายไปจากหน้าจอนานจัง หนูรีขอ อนุญาติ นำลิงค์ไปแชร์นะคะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท