เป็นที่ทราบและยอมรับกันทั่วไปว่า ยุคนี้เป็นยุคของโลกแห่งการเปลี่ยนแปลงทั้งทางด้านเศรษฐกิจ สังคม การเมือง เทคโนโลยีฯ และเป็นที่ทราบกันทั่วไปว่า ในการที่จะบริหารองค์การ บริหารกิจการสหกรณ์ให้ประสบความสำเร็จด้วยดี จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีผู้นำที่มีความรู้ที่ทันสมัยอยู่เสมอ มีจริยธรรมคุณธรรม มีเหตุ มีผลและมีวิสัยทัศน์สามารถสร้างภุมิคุ้มกัน ให้กับทีมงานและองค์การได้เป็นอย่างดี และมีภาวะผู้นำที่เป็นเลิศ จนมีคำกล่าวว่า ภาวะผู้นำขับเคลื่อนองค์กร
ปัญหาของการพัฒนาสหกรณ์ในประเทศไทย ปัญหาหนึ่งคือ ขีดความสามารถของผู้นำสหกรณ์ที่เหมาะสมกับสภาพการเปลี่ยนแปลงของโลกในปัจจุบันและอนาคต ที่จะเป็นพลังขับเคลื่อนองค์การของผู้นำซึ่งจะต้องมีความรู้ด้านการจัดการสมัยใหม่ การบริหารเชิงกลยุทธ์ องค์ความรู้ด้านการจัดการทรัพยากรที่จำเป็นในการบริหารองค์การและการพัฒนาภาวะผู้นำอย่างต่อเนื่อง ให้พร้อมรองรับการแข่งขันและการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อมทางการบริหาร อันจะส่งผลให้ผู้นำสหกรณ์สามารถสร้างขีดความสามารถในการขับเคลื่อนองค์การให้ไปสู่ความสำเร็จได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ด้วยเหตุผลและความจำเป็นดังกล่าว มูลนิธิพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ระหว่างประเทศจะร่วมกับสันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทยจัดหลักสูตรผู้นำสหกรณ์ขั้นสูงรุ่นที่ 5 ระหว่างวันที่ 8 กรกฎาคม-9 ตุลาคม 2553 ณ สันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทย
ผู้เข้าร่วมโครงการมี 50 ท่านประกอบด้วย
1. ผู้นำสหกรณ์ ได้แก่ ประธานกรรมการ กรรมการหรือผู้ตรวจสอบกิจการ ประมาณร้อยละ 45
2. ฝ่ายจัดการสหกรณ์ ได้แก่ ผู้จัดการสหกรณ์ รองผู้จัดการ หรือผู้ช่วยผู้จัดการ ประมาณร้อยละ 45
3. ฝ่ายราชการหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประมาณร้อยละ 10
ในจำนวน 50 ท่าน มีสุภาพสตรีเข้าร่วมโครงการ ประมาณร้อยละ 15
ภาพบรรยากาศการเรียนรู้
ภาพบรรยากาศงานบายศรีสู่ขวัญ (8-07-53)
ภาพบรรยากาศงานเลี้ยงช่วงค่ำ (8-07-53)
ขอบคุณ Dr.มากครับที่ได้ให้ข้อมูลต่างๆโดยทั่วกัน ขอบคุณครับ
สวัสดีครับอาจารย์ และเพื่อน ผนส.5
ขอต้อนรับ ผนส.5 ด้วยความยินดีเป็นอย่างยิ่ง
นพคุณ ยังเอี่ยม ผนส.2
ยินดีด้วยครับสำหรับ ผนส.5 ทุกคน เสียดายที่ไม่ได้ร่วมงานเปิด ผนส.5 โอกาสหน้าคงได้เจอกัน
หนุ่มเมืองชาละวัน
ผู้จัดการสหกรณ์การเกษตรปักธงชัย จำกัด
สรุปปฐมนิเทศ โดย ดร.สุวิชัย ศุภรานนท์ ผู้อำนวยการสันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทย ในวันที่ 8 กรกฎาคม 2553
เปิดโครงการ “วิสัยทัศน์ การพัฒนาผู้นำสหกรณ์ยุคใหม่” โดย ศ.ดร.จีระ หงส์ลดารมภ์
เรียงลำลัดความสำคัญใฝ่รู้ ตั้งใจในการใฝ่เรียนรู้
สรุป Workshop
ยกตัวอย่างเรื่องผู้นำกับการสร้างมูลค่าเพิ่ม และการที่จะดำเนินการให้เป็นรูปธรรม
กลุ่ม 1 นำเสนอโดย ผู้แทนธกส.
1.เมื่อปีที่แล้วได้คุยกับผู้จัดการสหกรณ์อีสานถามเกี่ยวกับปัญหา ธกส.มีลูกค้า 5 ล้านคน แต่สหกรณ์มี 1.5 ล้าน อยากให้สหกรณ์รับลูกค้าไปบริการบ้าง
ดร.จีระ
ต้องทำให้ลูกค้าเพิ่ม
ควรหาทางร่วมมือกับสหกรณ์การเกษตร
กลุ่ม 1 นำเสนอโดย ผู้แทนธกส.
2. สร้างมูลค่าเพิ่มสหกรณ์ร้านค้า เช่น บริการส่งสินค้าภายในจุฬา
เราควรมี Commission ให้ผู้ซื้อ เช่นเงินปันผล
ดร.จีระ
ไม่ควรให้เซเว่นมาเข้ามหาวิทยาลัย
ควรจับมือกับไปรษณีย์ในการส่ง
กลุ่ม 2 นำเสนอโดย ผู้แทนสหกรณ์จังหวัดกำแพงเพชร
1.นำเสนอนวัตกรรมใหม่ สหกรณ์มักนำเข้าทรัพยากรภายนอกมาบริหาร เช่น บุคคล
อยากเชิญดร.จีระไปเป็นที่ปรึกษา
เราอยากนำจุดเด่นของแต่ละที่มาช่วยบริหาร
ดร.จีระ
ปรึกษาผมทางโทรศัพท์ก็ได้
ถ้าอยากทำสหกรณ์ข้ามประเทศหรือเซ็นสัญญากับเขาก็ได้
กลุ่ม 2 นำเสนอโดย ผู้แทนสหกรณ์จังหวัดกำแพงเพชร
2.ทำโครงการหนึ่งคนหนึ่งหมื่นเงิน ส่งเสริมการประหยัด เช่น เรื่องพลังงาน
ดร.จีระ
ถ้าลดต้นทุน แต่ผลตอบแทนเพิ่ม สหกรณ์ก็มีพลัง
กลุ่ม 3 นำเสนอโดย ผู้แทนสหกรณ์ร้านค้ามหาวิทยาลัยบูรพา
สร้างมูลค่าเพิ่มโดยเพิ่มเวลาทำงานของสหกรณ์ร้านค้า
สร้างเพิ่มมูลค่าทางเกษตร โดยให้ผ่านมาตรฐานไอเอสโอ
มีนวัตกรรมใหม่ในการสร้างมูลค่าเพิ่ม
ดร.จีระ
เราจะมีบรรยายเรื่อง นวัตกรรมและความคิดสร้างสรรค์
หลักสูตรนี้เป็นนวัตกรรม
ต้องมีความคิด เปลี่ยนเป็นโครงการ และทำสำเร็จ
ควรเชื่อมโยงกระทรวงพาณิชย์ในการส่งออก
สหกรณ์ร้านค้าต้องแข่งกับอตก. ควรส่งสินค้าเกษตรไปขายที่เอ็มโพเรี่ยม
ควรดูด้านการขายด้วย
กลุ่ม 3 นำเสนอโดย ผู้แทนสหกรณ์ร้านค้ามหาวิทยาลัยบูรพา
ทำเครือข่ายให้ครบวงจร สหกรณ์เรามีหลายประเภท เราก็เป็นเครือข่ายข้ามสหกรณ์ ช่วยเหลือกันแบบไม่เป็นทางการ
ดร.จีระ
กฎหมายข้ามสหกรณ์ยุ่งมาก ควรแก้
Informal ต้องมีค่านิยมร่วมกัน สร้างเครือข่าย ไว้ใจ และสร้างสังคมการเรียนรู้
กลุ่ม 4 นำเสนอโดย ผู้แทนสหกรณ์ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
สินค้าเกษตร เช่น ข้าวหอมมะลิก็มีการปรับปรุงโดยทำแพ็คเกจส่งออกนอก
เชื่อมระหว่างสหกรณ์ที่ส่งข้าว
ดร.จีระ
ทำแล้วต้องมีมาตรฐาน
กลุ่ม 4
เรามีปัญหาการจัดการระบบข้อมูลระบบสหกรณ์ แม้ว่ามีกฎหมายเดียวกัน
อยากให้ใช้ระบบเดียวกันทั่วประเทศเหมือนธกส.ทำ
ดร.จีระ
ผมจะหาบริษัทไอทีมาช่วย
ดีมากที่จะทำระบบ share ข้อมูล
กลุ่ม 5 นำเสนอโดย ผู้แทนชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย
จะมีโครงการเชื่อมโยงธุรกิจระหว่างสหกรณ์ ให้ชุมนุมสหกรณ์ร่วมมือกันหาตลาดรวมถึงตลาดต่างประเทศด้วย เราเป็นตัวกลางเชื่อมโยง ตอนนี้เราติดต่อกับประเทศในตะวันออกกลาง เน้นสินค้าผักผลไม้
ดร.จีระ
ดีมาก
กลุ่ม 5
จะระดมทุนจัดเก็บเงินออมให้เด็ก จะมีเงินเข้ามาในระบบมากขึ้น
แต่มีปัญหากฎหมาย เด็กเป็นสมาชิกสมทบไม่ได้
กลุ่ม 6
เราแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ใช้สวัสดิการดึงดูดสมาชิก
กลุ่ม 7
เราจะตั้งจุดรับซื้อน้ำมันปาล์มเพื่อช่วยเกษตรกรให้ได้ราคาที่ไม่ถูกกด
ดร.จีระ
สหกรณ์เกษตรควรสนใจเรื่องลูกค้า
กลุ่ม 7
ข้าวหอมมะลิได้รางวัลแต่ไม่มีตลาดต่างประเทศ จึงประชุมการค้าภายในเรื่องเส้นทางการค้า จะเปลี่ยนเป็นส่งออกข้าวเหนียวผ่านสะพานที่นครพนมไปที่จีน เวียดนาม
กลุ่ม 8
สมาชิกยังขาดความเข้าใจในเรื่องการเป็นสมาชิกสหกรณ์ ต้องให้ความรู้เขาก่อนปล่อยกู้
เราจัดหลักสูตร 1 วันให้สมาชิก กรรมการต้องรู้เรื่องสหกรณ์มาก
เรายังขาดการมีส่วนร่วมของสมาชิก ควรจะแก้ปัญหานี้
ดร.จีระ
สหกรณ์ต้องทำเรื่องการศึกษาตลอดเวลา
ควรทำเรื่องวินัยการออมและวินัยการเงิน
กลุ่ม 9
สหกรณ์ไม่เคยรวบรวมมันสำปะหลัง แต่สมาชิกปลูกมาก เราจึงตั้งลานรับซื้อ แต่เราแปรรูปไม่ทัน จึงจับมือกับคู่ค้าในลานใหญ่ๆ โดยทำข้อตกลงว่า ต้องมีความไว้วางใจในการซื้อขาย สหกรณ์ไม่รับผิดชอบน้ำหนัก เป็นการสร้างความพอใจให้สมาชิก
มันสำปะหลังกำแพงเพชรมีดินติดมาก สหกรณ์จึงทำเครื่องร่อนดินออกแล้วฝานเพื่อเพิ่มมูลค่า
สร้างความสัมพันธ์
ทักษะการคิดนอกกรอบ
“ให้ความรัก ก่อนให้ความรู้”
สิ่งที่ต้องปรับคือ การกล้าที่จะพูดและกล้าแสดงออก
ปัญหาเรื่องความรู้ การคิด ความอดทน แก้ไข
2 สิ่งที่ใฝ่รู้เรียนรู้ คือ
อยากเห็นขบวนการสหกรณ์ ดำเนินงานตามอุดมการณ์สหกรณ์สากล
ความร่วมมือ ร่วมแรง ร่วมใจ
อ่านทุกเรื่องที่เกี่ยวข้อง
สร้างเครือข่ายการเรียนรู้ร่วมกัน
สิ่งสำคัญที่มีอำนาจต่อการใฝ่รู้
ความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะทำเพื่อให้บรรลุความต้องการนั้น
i am very happy for training in this cause.
ต้องใช้คอมพิวเตอร์ (Internet)ให้มากขึ้น
วิธีการปรับความรู้ ต้องหมั่นศึกษาค้นคว้าในสิ่งที่ตนเองยังไม่รู้ ไม่เห็น
ศึกษาหาแนวคิดให้มากและสังเคราะห์ให้ได้ประโยชน์
สร้างปัญญาและความอดทน
การมุ่งมั่นในแนวคิดที่ดีและสามารถปฏิบัติได้
ความตั้งใจในการเรียนรู้
เรียงลำดับความสำคัญการใฝ่รู้เป็นเรื่องที่ 1 (สำคัญที่สุด) แล้วจะทำสำเร็จ
แนวคิดในการเปลี่ยนแปลงการบริหารองค์กร
การมีมนุษยสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน
องค์ความรู้ใหม่ๆที่ไม่เคยรู้ที่อื่นมาก่อน
การสร้างเครือข่ายการเรียนรู้ ด้านข้อมูลจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
อยากพัฒนาสหกรณ์โดยคณะกรรมการ พนักงานและสมาชิก
อยากจะพัฒนาสหกรณ์ให้เป็นสหกรณ์ดีเด่นแห่งชาติ
เปิดใจรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่นมากขึ้นกว่าเดิม
ตั้งจุดมุ่งหมายในสิ่งที่จะทำให้ได้และศึกษาค้นคว้า ทำให้สำเร็จ
ปรับในการใฝ่รู้ การสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่องค์กร เช่น การ Packing
จับประเด็น
เปิดรับฟังความคิดเห็นของแต่ละบุคคลด้วยใจเป็นกลาง
ปัจจุบันพิมพ์ดีดไม่เป็น ไม่ค่อยสันทัดในการใช้คอมพิวเตอร์
ผมจะขยันใฝ่รู้ให้มากขึ้น มีการพัฒนาตนเอง ตลอดเวลา ทั้งในและนอกตำรา
ทำอย่างไรจะทราบแนวความคิดของสกก.ในการพัฒนาระบบสหกรณ์
ต้องการรู้เรื่อง กฏหมายสหกรณ์ระหว่างประเทศ
อยากบริหารสหกรณ์แบบมืออาชีพ
สิ่งที่สำคัญที่สุดในการใฝ่รู้
การขยันศึกษาข้อมูลตลอดเวลา
ใฝ่รู้โดย ???? ให้มาก และคิดคำตอบในใจล่วงหน้าเพื่อ check เหตุผล คำตอบของผู้อื่น
นำความรู้ ความคิด ไปพัฒนาองค์กรให้ดีที่สุด
ต้องเอาจริงเอาจังต่อการเรียนรู้ตลอดเวลา
การใฝ่รู้ เอาชนะอุปสรรค
"อ่านหนังสือให้มากขึ้น"
ไม่รู้อะไรให้ถามและต้องฝึกการเรียนรู้เช่นไม่รู้ว่า Blog ต้องศึกษาเรื่อง IT ให้มากและสอบถามเพื่อนให้มาก
เพิ่มความอดทนต่อแรงกดดัน
ตั้งใจรับฟังบรรยาย ศึกษา วิเคราะห์ รวบรวมแนวคิด
สวัสดีครับอาจารย์ และเพื่อนพี่น้อง ผนส.รุ่น 5 ทุกรุ่น
นพคุณ ผนส.2
ต้องการดูข้อมูลรุ่น 1 ,2, 3 และ 4 ตาม ลิงค์ไปเลยครับ
http://gotoknow.org/blog/chiraacademy/295677 รุ่น 1
http://gotoknow.org/blog/chiraacademy/193426 รุ่น 2
http://gotoknow.org/blog/leadersship/238209 รุ่น 2
http://gotoknow.org/blog/chiraacademy/231359 รุ่น 3
http://gotoknow.org/blog/chiraacademy/295678 รุ่น 4
สวัสดีครับ อาจารย์จิระ และเพื่อนๆ ผนส. รุ่น 5 ทุกท่าน ดีใจที่ได้เข้าฝึกอบรมหลักสูตรนี้ครับ
ยินดีต้อนรับ ผนส. รุ่นที่ 5 ทุกท่าน
เสาะแสวงหาข้อมูล ร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ข้อมูลทางวิชาการด้านสหกรณ์
หรือติดต่อ ติดตามความเคลื่อนไหวกับสถาบันพิทยาลงกรณฯ (สพว.)
ได้ที่.....
http://gotoknow.org/blog/pittayalongkorn/http://www.facebook.com/home.php?sk=lf#!/profile.php?id=100001057064811
ห้องสมุด : http://112.121.134.50:81/library/
website : www.clt.or.th เข้า menu สถาบันพิทยาลงกรณและวิชาการ หรือ ห้องสมุดพิทยาลงกรณ
& fax. 0 2241 1229, 0 2241 4839
0 266 9354 - 63 ต่อ 1010, 1008, 1033, 1015, 1016
สรุป ระเบียบ/กฎหมายสหกรณ์ที่ผู้นำสหกรณ์ควรรู้ โดย อัยการปรเมศวร์ อินทรชุมนุม ในวันที่ 9 กรกฎาคม 2553
ถ้าประธานลาออก แล้วให้รองประธานทำงานแทนจนครบวาระได้ไหม
ตอบ ไม่ได้ ต้องมีประธานอยู่ ถ้ามีการโต้แย้ง กรรมการที่เหลือจะมีความผิด
จำนวนเงินหุ้นที่สมาชิกมีกับสหกรณ์ จะหักลบหนี้ได้ไหม
ตอบ ได้ ต้องหักก่อนเมื่อสมาชิกลาออกโดยต้องระบุเป็นข้อตกลงไว้ในใบสมัครสมาชิก
1.ขอขอบคุณท่านรัฐมนตรีอลงกรณ์ พลบุตร ที่กรุณามาเป็นประธานที่ประชุม ขอชมเชยที่ท่านมองเรื่องสหกรณ์ชัดเจนและตรงประเด็น โดยเฉพาะการสร้างมูลค่าเพิ่ม
2. ผมมีความรู้สึกประทับใจและภูมิใจในเรื่องงานเลี้ยงรับรองทั้งรุ่น 1 – 5 ได้ผนึกกำลังของสหกรณ์ให้เป็นปึกแผ่นและเป็นที่ยอมรับกันใน ธนาคารแห่งประเทศไทย ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศและกระบวนการและองค์กรอื่นๆ
3. ผมได้เห็นคุณภาพของผู้เข้าร่วมรุ่น 5 ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นคนรุ่นใหม่ที่เห็นการกระตุ้นการเรียนรู้ของท่านให้มีศักยภาพเป็นเลิศ
และช่วงที่ผมส่ง Blog เป็นเวลาประมาณบ่าย 3 โมงของวันที่ 2 ซึ่งมีผู้สนใจคลิก เข้าไปแล้ว 128 คน ซึ่งเป็นเรตติ้งที่สูงมาก ภายในเวลาไม่ถึง 24 ชั่วโมง
จึงอยากให้ทุกท่านใช้การเรียนรู้แบบนี้และการใช้ Face book ของสันนิบาตสหกรณ์ร่วมด้วย
โดยสรุป แต่ละครั้งที่ผ่านไป ให้คิดว่าได้อะไรบ้าง และในวันแรกที่ทุกคนสรุปเรื่องการสร้างมูลค่าเพิ่ม ขอให้ทุกคนเป็นแนวทางที่ได้รับมาปรับใช้ในการทำงาน เป็นที่สิ่งที่ขอฝากไว้ด้วยครับ
สรุป ผมขอต้อนรับทุกท่านอีกครั้งหนึ่งและขอขอบคุณทีมงานสันนิบาตสหกรณ์ที่ทำงานร่วมกับทีมงานของเรา สร้างบรรยากาศการเรียนรู้ของเรา
จีระ หงส์ลดารมภ์
สรุป การสร้างและบริหารทีมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ โดย รศ.ดร.มนตรี บุญเสนอ
ในวันที่ 9 กรกฎาคม 2553
วันที่สองของการฝึกอบรมมีความรู้สึกที่ดีขี้นและได้รับความรู้จากอาจารย์ทั้งสองท่านและรู้เรืองกฏหมายมากขึ้นเพื่อที่จะได้นำไปใช้ในการทำงานที่สหกรณ์ต่อไป
สองวันที่ผ่านมา รู้สึกภาคภูมิใจมากที่ได้รับการคัดเลือกเข้ารับอบรมหลักสูตรผู้นำสหกรณ์ขั้นสูง รุ่นที่ 5 และถือโอกาสอันสำคัญในครั้งนี้เก็บเกี่ยวความรู้และประสบการณ์ตลอดหลักสูตรเพื่อนำไปพัฒนาตนเองและสหกรณืให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
การที่ได้มีโอกาสในการเรียนรู้จากผู้รู้จริง จากคณาจารย์ผู้ประสานความรู้ในหลักสูตร "ผู้นำสหกรณ์ขั้นสูง รุ่นที่ 5"
ผ่านมา 2 วันถือได้ว่าพวกเรารุ่นที่ 5 ได้เติมพลังความคิดสร้างสรรค์ และเรียนรู้ที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเองเป็นลำดับแรก
พร้อมทั้งแสวงหาความรู้ใหม่เพื่อนำไปประยุกต์ใช้กับงานทีเราทำและชีวิตประจำวัน ได้อย่างดียิ่ง
ยินดีต้อนรับเข้าสู่กระบวนการสร้างมิตร แลกเปลี่ยนเรียนรู้นะคะ
ในนามของผนส.4 จาก ธ.ก.ส. เห็นประโยชน์ของขบวนการสหกรณ์
จึงได้เสนอธนาคารให้สนับสนุนเงินช่วยให้รับ ผนส.เพิ่มขึ้น
จากรุ่นละ 40 คน เป็น 50 คน ทั้งรุ่น 5 และ รุ่น 6 ที่จะตามมา
และขอส่งพนักงาน ธ.ก.ส. เข้ามาร่วมเป็นเครือข่าย
จากรุ่นละ 1 คน เป็น 4 คน
ท่านมีปัญหา ข้อข้องใจ เกี่ยวกับการบริการของเรา
กรุณาสะท้อนผ่าน ทั้ง 4 ท่านมาได้เลยค่ะ
แดง
ช่วงแรกของการพัฒนาผู้นำสหกรณ์ขั้นสูง รุ่นที่ 5 บรรยากาศโดยทั่วไปดีมาก ทุกท่านให้ความร่วมมือ ด้วยการมีอายุ 34 ปีเท่ากัน ไม่มีตำแหน่งหน้าที่ เพื่อมีโอกาสรับความรู้แบบเติมอย่างไม่รู้จบ แลกเปลี่ยนเรียนรู้ สนับสนุนส่งเสริมกันและกันแบบมีเครือข่ายด้วยการใช้ IT
ทีมงาน สพว.ขอเป็นกำลังใจให้ทุกท่าน ผ่านเกณฑ์การประเมินครับ
ขอบคุณสันนิบาตสหกรณ์ฯ
ขอบคุณธ.ก.ส. ที่สนับสนุนปัจจัยสำหรับให้ได้มีโอกาสศึกษาและเข้ามาแลกเปลี่ยนเรียนรู้
โดยเฉพาะอย่างยิ่งทำให้สามารถรับผู้นำฯเข้าร่วมโครงการได้เพิ่มอีก ๑๐ คน เป็น ๕๐ คน
และขอบคุณอาจารย์และวิทยากรทุกท่านที่ได้สละเวลามาให้ความรู้แก่พวกเราค่ะ
ศิริวรรณ
ขอขอบคุณสันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทย และคณะกรรมการบริหารและพัฒนาหลักสูตร โครงการพัฒนาผู้นำสหกรณ์ ที่ทำให้กระผมได้รับโอกาสเข้ารับการอบรม เรียนรู้จากคณาจารย์ผู้มีความรู้ ความชำนาญ จากการเข้ารับการเรียนรู้ครั้งแรก ทำให้กระผมเองรับรู้ได้ว่า ตัวเองยังด้อยมาก ซึ่งจะต้องขอรับการถ่ายทอด อบรมจากอาจารย์อีกมาก และคิดว่าหลักสูตรนี้เป็นหลักสูตรการเรียนรู้ที่มีคุณค่ามาก
สรุป สหกรณ์: ทฤษฎีและปฏิบัติ โดย ดร.ปรีชา สิทธิกรณ์ไกร ในวันที่ 10 กรกฎาคม 2553
คุณค่าสหกรณ์ คือ
หลักการสหกรณ์สากล
จุดมุ่งหมายสหกรณ์
วิถีสหกรณ์
แนวปฏิบัติของสหกรณ์
แนวทางปฏิบัติส่งเสริมการออม
กรอบธุรกรรมสหกรณ์
ภาพบรรยากาศเรียนรู้ 9 ก.ค. 53
ภาพบรรยากาศการเรียนรู้ 10 ก.ค. 53
การบรรยายเรื่อง การประยุกต์ใช้แนวคิดหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงกับงานสหกรณ์ โดย ดร.ธันวา จิตต์สงวน ในวันที่ 10 กรกฎาคม 2553
คำถาม
สหกรณ์ออมทรัพย์มีปัญหา ทำอย่างไรให้สมาชิกมีวินัยในการออม
คำตอบ
ต้องทำแผนที่ให้เขาดูว่าจ่ายอะไรบ้าง จ่ายอะไรมากเกินไป สำรวจข้อมูลสมาชิกรายบุคคล ใครมีรายจ่ายมากกว่ารายรับ ใช้สีระบุอาการ แดงคืออาการหนัก เหลืองคืออาการปานกลาง เขียวคือดีที่สุด
ให้สีแต่ละสีแนะนำกัน เช่นเขียวแนะนำแดง ว่าทำอย่างไร
สวัสดีครับอาจารย์ และเพื่อน ผนส. ทุก ๆ ท่าน
ข้าพเจ้า นายอานุภาพ กระจ่างแจ้ง ขอส่งรายงานการย่อสรุป ทรัพยากรมนุษย์พันธุ์แท้ บทสนทนาว่าด้วยการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ของนักคิดและนักปฏิบัติแห่งยุค
หนังสือ “ทรัพยากรมนุษย์พันธุ์แท้” จัดเป็นช่องทางที่สำคัญอีกช่องทางหนึ่งในการเผยแพร่ความสำคัญของทรัพยากรมนุษย์ต่อสังคม โดยนำบุคคลที่ทรงคุณค่า และได้รับการยอมรับนับถืออย่างกว้างขวางทั้สองท่านในเรื่องทรัพยากรมนุษย์ ทั้งด้านเป็นผู้นำทางความคิด ผู้บุกเบิก และปฏิบัติ คือ คุณพารณ อิศรเสนา ณ อยุธยา และ ดร.จีระ หงส์ลดารมภ์ มานำเสนอในรูปแบบของการสนทนา ทั้งบทสนทนา โดยตรงจากท่านทั้งสอง และบทสนทนาจากผู้ใกล้ชิดและผู้ร่วมปฏิบัติงาน ทำให้อ่านได้สาระได้รับสาระครบถ้วนและชวนติดตามเนื้อหาในหนังสือเล่มนี้ ผู้จัดจัดเป็น 5 ช่วงหลักๆ ดังนี้
1. เรื่องของสองแชมป์
กล่าวถึงความเชื่อและศรัทธาและความมุ่งมั่น ของคน 2 คน วัยที่แตกต่างกัน การทำงานอยู่คนละที่แต่มีจุดเป้าหมายเดียวกัน มุ่งมั่นในเรื่อง “คน” ผู้บริหารต้องทำหน้าที่เป็นทั้งผู้ฝึกสอนและพี่เลี้ยง พัฒนาผู้ใต้บังคับบัญชาให้เรียนรู้ และให้แสดงออกอย่างเต็มที่ รู้จักการทำงานเป็นทีม และสนับสนุนให้มีการศึกษาและพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง ทั้งสองท่านจึงเน้นการพัฒนารูปแบบใหม่ ภายใต้แนวคิด Constructionism เพื่อสร้างความพร้อมให้เด็กไทยก้าวสู่การเป็นพลเมืองโลกอย่างสมบรูณ์ที่สุดเท่าที่จะเป็นได้ นั่นคือ จะต้องคล่องแคล้วใน 3 เรื่อง ได้แก่ ภาษาไทย ภาษาอังกฤษ และเทคโนโลยี
2. คัมภีร์คนพันธุ์แท้
ช่วงที่บอกถึงแนวทางในการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ตั้งแต่ เรื่องปรัชญาของทรัพยากรมนุษย์ที่ว่า “คน ถือเป็นสินทรัพย์ที่สำคัญที่สุดขององค์กร” การพัฒนาโดยมุ่งเน้นการเรียนรู้พร้อมทั้งกลยุทธ์ในการสร้างความเป็นเลิศให้องค์กรจากแรงจูงใจ คุณพารณ แนวคิดว่า จะต้องกำหนดออกมากก่อนว่า คนเก่ง คนดี คืออะไร จะได้ไปในทางเดียวกัน ได้ออกมา 4 ข้อ คือ เก่ง 4 ดี 4 คือ เก่งงาน เก่งคน เก่งคิด และ เก่งเรียน ท่าน ดร. จีระ แนวคิดว่า คิดเป็น ก้าวเป็น แล้ว “ ดี 4” คือ ประพฤติดี มีน้ำใจ ใฝ่ความรู้ คู่คุณธรรม สามารถนำไปปฏิบัติได้ง่าย
3. จักรวาลแห่งการเรียนรู้
การเรียนรู้จากการพัฒนาองค์กร โดยเน้นการขยายผลการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์สู่
ประชาชนโดยให้ประชาชนเป็น Good learner มีความสามารถในการเรียนรู้และสามารถเรียนรู้ได้ตลอดชีพ ดร.จีระ มักจะเสนอ ทฤษฎี 3 วงกลม ดังนี้
1. วงกลมที่ 1 เรื่อง Context หรือ บริบท พูดถึงเรื่อง IT ว่ามีความสำคัญการ
บริหารทรัพยากรมนุษย์ต้องใช้ระบบสารสนเทศมากขึ้น การจัดการระบบข้อมูลพื้นฐาน การทำงานแบบ Process และการจัดองค์กรที่เหมาะสม เรียกว่าเป็นการ บริบทของการบริหารทรัพยากรมนุษย์
2. วงกลมที่ 2 เรื่องภาวะผู้นำ นวัตกรรม การบริหารเวลา ซึ่งมีประโยชน์ เรียกว่า
เป็นทฤษฎีเพิ่มศักยภาพของคน ซึ่งไม่ได้วัดจากจบที่ไหน จะต้องดูว่าทรัยพากรมนุษย์จะต้องมี Competencies อย่างไร
3. เป็นหลักที่ดี คนเราจะสำเร็จในงานได้ดีต้องมองว่างานทุกอย่างเป็นงานที่ท้าทาย ต้องมีแรงบันดาลใจ วงกลมนี้พูดถึงเรื่องการใช้หลัก PM- Personnel management ให้เกิดจริง
4. สูตรเพิ่มผลผลิต
เป็นการมองภาพที่กว้างขึ้น สร้างศักยภาพการแข่งขันระดับประเทศ ด้วยการพัฒนาทรัพยากรเป็นสำคัญโดยต้องการร่วมมือจาก 4 องค์กรใหญ่ คือ ภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคนักวิชาการและแรงงาน
5. ทรัพยากรมนุษย์พันธุ์แท้
เป็นการสรุปโดยตอกย้ำถึงความเชื่อและแนวทางการทำงานมุ่งมั่นพัฒนากรมนุษย์
พวกเราชาว ผนส.5 คงกลับถึงบ้านแล้วทุกคน จากที่ได้เข้ารับการอบรมร่วมกันสามวันคิดว่ามีประโยชน์กับพวกเรามาก จากวันแรกที่
อาจารย์ ดร.จิระ ได้กระตุ้นให้พวกเราได้จุดประกายทางความคิดให้เป็นคนที่ใฝ่หาความรู้พร้อมทั้งการคิดหามูลค่าเพิ่ม วันที่สองได้รับความรู้ด้านกฏหมายจากอัยการปรเมศวร์ ทำให้ทราบกฏหมายที่มีประโยชน์และเกี่ยวข้องกับสหกรณ์มากขึ้น
ท่าน รศ. ดร. มนตรี บุญเสนอ การสร้างและบริหารทีมงาน การทำงานเป็นทีม ความเหมาะสมของทีมงาน มีวิธีการสอนที่ให้เราได้ฝึกไปด้วย
สวัสดีครับ ผมดีใจครับที่มีโอกาศเข้ารับการอบรม ผนส 5 ครั้งนี้ สามวันในการเรียนครั้งที่หนึ่ง ในการเข้ารับการเรียนรู้พร้อมกับเพื่อนๆพี่ๆ ท่านอาจารยหลายท่านให้ความสนใจ โดยเฉพาะครูใหญ่ จีระ ท่านให้ความสนใจดีมากๆ อยากให้ทุกคนคิดเป็น นำเอาความรู้ที่ได้ไปใช้กับองค์กรที่ต้นสังกัดส่งมาให้เร็วสุด ผมเชื่อว่าการนำเอาความรู้และประสบการณ์ครั้งนี้ไปใช้ จริงๆได้ผลแน่นอนครับ
หนังสือ“ทรัพยากรมนุษย์พันธุ์แท้” ให้ความรู้และเกิดจิตนาการในการศึกษา การที่เราจะเริ่มต้นพัฒนาอะไรก็แล้วแต่ ที่สำคัญต้องพัฒนาคนก่อน "ความรู้คืออำนาจ จะสร้างชาติต้องสร้างคน" การสร้างคนใช่ว่าจะสร้างโดยการเรียนรู้ที่เก่งเสมอไป เรื่องไอคิวครับมันต้องพัฒนาไปพร้อมๆกับ อีคิวด้วย การทำงานเก่ง ประสานคนได้ คิดริเริ่มดี และต้องมีคุณธรรมประจำใจด้วย ถ้าเป็นผู้บริหาร คงต้องใช้หลัก 3 ก เก่ง เก่งคิดคิดเรื่องใหม่ๆไอยู่เสมอ กล้า กล้านำเสนอ กาล รู้จักหวะเวลาควรทำช่วงไหนอย่างไร การบริหารนอกเเหนือจากการมีคุณธรรม/จริยธรรมแล้ว เรื่องของใจต้องมาด้วยคือต้องมีหลัก 5 ใจ ใจจริง ใจกล้า ใจกว้าง ใจถึง และใจร่าเริง
เรื่องการสื่อสาร ภาษามีความสำคัญอย่างยิ่งไม่ใช่ว่าพูดได้แต่ภาษาไทยเท่านั้น หลักๆคือต้องมีการเรียนรู้ตลอดเวลา ด้านการสื่อสารในระบบ ไอที นั้นสำคัญยิ่งต้องฝึกฝนตลอดเวลาอย่าล้าหลัง
คนเป็นตัวขับเคลื่อนที่สำคัญที่สุดในการพัฒนาองค์กร "การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์"จะต้องเป็นเป้าหมายหลักในการพัฒนาในทุกระบบของประเทศ ครับ
ต้อม รุ่งโรจน์
จากการให้ความรู้ในครั้งแรกของวิทยากร มี 2 สิ่งที่ ผนส.5 ควรปฎิบัติ
1.อ่านหนังสือ“ทรัพยากรมนุษย์พันธุ์แท้” แล้วสรุปว่า ได้ประโยชน์ในการพัฒนาคน และระบบสหกรณ์อย่างไร ทำอย่างไรจึงจะสำเร็จ (นำเสนอทาง BLOG และ facebook)
2. เรื่อง "ผู้นำกับการสร้างมูลค่าเพิ่ม" ในช่วงเวลา 4 เดือนที่รับความรู้ ให้ยกตัวอย่างมา 2 เรื่องที่จะทำให้เป็นรูปธรรม
สวัสดี เพื่อนๆ ผนส.5 ทุกคนนะครับ ยินดีด้วยกับเพื่อนๆที่อ่านหนังสือจบแล้ว แต่ผมเพิ่งอ่านได้แค่ครึ่งเล่มแต่คิดว่าอีก 2วันคงได้โพสข้อความขึ้นมาตอบคำถามท่านอาจารย์ ส่วนเพื่อนๆคนไหนที่ยังอ่านไม่ครบเหมือนผมก็ให้กำลังใจนะครับ
ยังอ่านไม่จบเหมือนกันค่ะ
แต่อาจารย์บอกให้ส่งการบ้านภายในวันที่ 15 ไม่ใช่เหรอคะ??
test 12345
ต้องการ link ผนส. ทุกรุ่น คลิ๊กตามไปเลยครับ
http://gotoknow.org/blog/chiraacademy/295677 รุ่น 1
http://gotoknow.org/blog/chiraacademy/193426 รุ่น 2
http://gotoknow.org/blog/leadersship/238209 รุ่น 2
http://gotoknow.org/blog/chiraacademy/231359 รุ่น 3
“ ทรัพยากรมนุษย์พันธุ์แท้ ” ของท่าน พารณ อิศรเสนา ณ อยุธยา และ ท่านอาจารย์ ศ.ดร.จีระ หงส์ลดารมภ์ นักคิดและนักปฏิบัติในขบวนการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ซึ่งพอได้อ่านและศึกษาแล้วทำให้เราได้เห็นความสำคัญในทรัพยากรมนุษย์ เกิดความมุ่งมั่นที่เมื่อกลับไปสหกรณ์แล้ว ต้องเริ่มผลักดันให้มีพัฒนาบุคลากรทั้งคณะกรรมการดำเนินการ เจ้าหน้าที่ ตลอดจนสมาชิก เพื่อความมั่นคง ยั่งยืน และสร้างมูลค่าเพิ่ม ปัญหาคือเราจะต้องเริ่มต้นอย่างไร วิธีการปฏิบัติจะถูกต้องและบรรลุวัตถุประสงค์หรือไม่ เราคงไม่ต้องเริ่มต้นจากศูนย์ ควรต่อยอดสิ่งที่ปราชญ์ด้าน HR ท่านได้บอกไว้ คือ 4 L’s ,กฎของ Peter Senge เพื่อการสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ , 2 R’s และ 2 I’s
สวัสดีวันอังคาร
วันนี้วันที่ 13 แล้วนะ
ผนส.5 ทุกคนอย่าลืมส่งการบ้านภายในวันที่ 15
อ่านยังไม่จบเรยอ้ะ
วันนี้13แล้ว ผมเจ็บตาครับ เป็นกะลังจัยให้ทุกท่านคับ
สวัดีครับ เพื่อน ผนส.5 ทุกๆท่าน
ผมกำลังอ่านหนังสือ"ทรัพยากรมนุษย์พันธุ์แท้" ของอาจารย์ ดร.จิระ หงส์ลดารมภ์ และท่านพารณ อิสรเสนา ณ อยุธยา อยู่ครับ แต่ยังไม่จบครับ หนังสือแบบนี้ต้องค่อยๆอ่าน เพราะต้องคิดตามไปด้วย คาดว่าจะส่งการบ้านได้ทันวันที่ 15 ครับ
หวังว่าเพื่อนๆทุกท่านคงสบายดี และส่งการบ้านทันเวลา แล้วพบกันวันที่ 23 ก.ค.ครับ
ศิริชัย ออสุวรรณ (ผนส.5)
สวัสดีครับ เพื่อน ผนส.5 ทุกๆท่าน
ผมกำลังอ่านหนังสือ"ทรัพยากรมนุษย์พันธุ์แท้" ของอาจารย์ ดร.จิระ หงส์ลดารมภ์ และท่านพารณ อิสรเสนา ณ อยุธยา อยู่ครับ แต่ยังไม่จบครับ หนังสือแบบนี้ต้องค่อยๆอ่าน เพราะต้องคิดตามไปด้วย คาดว่าจะส่งการบ้านได้ทันวันที่ 15 ครับ
หวังว่าเพื่อนๆทุกท่านคงสบายดี และส่งการบ้านทันเวลา แล้วพบกันวันที่ 23 ก.ค.ครับ
ศิริชัย ออสุวรรณ (ผนส.5)
เรียน ผนส.5 ทุกท่าน
ฝากพิจารณาบุคคลที่จะมาเป็น
ประธานรุ่น รองประธาน ปฎิคม เหรัญญิก เลขานุการ
เลือกตั้งวันที่ 23 ก.ค.53 นี้
ข้อคิดจากการอ่าน “ทรัพยากรมนุษย์พันธุ์แท้” นักพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ทั้งสองท่านมีแนวความคิดในแง่มุมที่เหมือนกัน คือ ให้ตระหนักถึงทรัพยากรที่สำคัญที่สุดขององค์กร นั่นก็คือ "มนุษย์" และมีแนวทางการพัฒนาที่มุ้งเน้นการเรียนรู้ กลยุทธ์การสร้างความเป็นเลิศจากแรงจูงใจ การขยายการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์สู่ภาคประชาชนที่มีความสามารถการเรียนรู้ได้ตลอดชีวิต ในมุมมองที่ว่าคน คือ กลไกสำคัญในการดำเนินการทุกกิจกรรมให้ประสบความสำเร็จ ไม่ใช่เพียงกลไกหลักคือผู้บริหารเท่านั้นที่จะต้องเก่ง บุคลากรทุกคนในองค์กรจะต้องร่วมแรงร่วมใจกันอย่างเต็มความสามารถด้วย ดังนั้นในแต่ละองค์กรจึงจำเป็นต้องมีผู้ที่จะมาทำหน้าที่บริหารจัดการเรื่องต่าง ๆ ทางด้านทรัพยากรบุคคลที่มีคุณภาพ เพื่อคอยดูแลให้บุคลากรสามารถทำงานได้อย่างมีความสุข และเกิดผลผลิตที่เป็นไปตามเป้าประสงค์ขององค์กรที่ตั้งไว้ ต้องมีคุณสมบัติที่ดีดังนี้
1. เป็นบุคคลที่น่าเชื่อถือ ต้องเป็นแบบอย่างที่ดีและเป็นที่พึงของพนักงาน ปฏิบัติตนได้ถูกต้องตามกฎระเบียบขององค์กร และยึดมั่นในจรรยาบรรณวิชาชีพอย่างเคร่งครัด เพราะผู้คุ้มกฎไม่ควรทำผิดกฎระเบียบเสียเอง จึงจะเกิดความเคารพนับถือ และศรัทธาจากพนักงาน
2. สนใจและเปิดใจรับความรู้รวมทั้งวิทยาการใหม่ๆ ต้องทันสมัยทันต่อเหตุการณ์ ติดตามความเปลี่ยนแปลงของโลกและวิทยาการใหม่ ๆ อยู่เสมอ และเก็บเกี่ยวความรู้ต่าง ๆ เพื่อนำมาแนะนำและพัฒนาองค์กรและการทำงานของคนในองค์กร ฉะนั้น จึงเปรียบเสมือนผู้รู้ประจำองค์กร มีหน้าที่เป็นที่ปรึกษาและให้คำแนะนำในการทำงาน รวมถึงในเรื่องอื่น ๆ ที่มีผลเกี่ยวเนื่องต่อการทำงานแก่บุคลากรในองค์กรด้วย
3. มีความกล้าในการแสดงความคิดและตัดสินใจ ผู้ที่จะนำพาบุคลากรทั้งองค์กรให้ดำเนินตามกรอบ กฎระเบียบที่เหมาะสม จะต้องมีความกล้า กล้าที่จะนำเสนอความแปลกใหม่ เพื่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ดีขึ้น ซึ่งรวมถึงการเปลี่ยนแปลงวัฒนธรรมขององค์กร และวัฒนธรรมความคิดของพนักงานให้ถูกต้องเหมาะสมกับการดำเนินธุรกิจ
4. ระเอียดรอบคอบและชอบสังเกต นอกจากต้องรอบรู้ในเรื่องข่าวสารภายนอกแล้ว ยังต้องช่างคิดสังเกตความเป็นไปภายในองค์กรด้วย ว่าคนในองค์กรคนใดกำลังมีปัญหาคับข้องใจเกี่ยวกับการทำงาน เกี่ยวกับเพื่อนร่วมงาน หรือหัวหน้างานตรงจุดไหนหรือไม่ เพื่อที่จะได้คอยดูแลและแก้ไขปัญหาของคนได้ตรงจุด
5. มีความรวดเร็ว สามารถตอบสนองความต้องการของคนในองค์กรได้อย่างฉับไว เมื่อมีปัญหาสามารถขอคำปรึกษา หรือดำเนินการเรื่องการขอเบิกเงินสวัสดิการ ควรรีบดำเนินการอย่างกระตือรือร้น ให้นักงานได้รับรู้ถึงความห่วงใย และเอาใจใส่ที่คุณมีอย่างจริงใจ
6. ส่งเสริมความสุขในองค์กร สร้างสรรค์กิจกรรมหรือโครงการดี ๆ ให้คนในองค์กรได้มีส่วนร่วมทางความคิด และทำกิจกรรมร่วมกัน จัดอบรมเพื่อให้ความรู้ พัฒนาทักษะความสามารถในการทำงานของแต่ละแผนก รวมทั้งจัดกิจกรรมเพื่อส่งเสริมการทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ และไม่ลืมที่จะหาเวลาทำกิจกรรมสนุก ๆ เพื่อให้ความบันเทิงผ่อนคลายจากความเครียด อีกทั้งยังเป็นการสร้างขวัญกำลังใจในการทำงานได้เป็นอย่างดี
ถ้าองค์กรทั้งระบบคือร่างกาย คนในองค์กรคงเปรียบเสมือนเซลล์ หากทุกเซลล์แข็งแรง ร่างกายแข็งแรง ความคิดสร้างสรรค์และการพัฒนาก็จะเกิดขึ้น
ในฐานะของข้าราชการกรมส่งเสริมฯ จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องแสวงหาความรู้ใหม่ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการพัฒนาของสหกรณ์ รวมถึงให้คำปรึกษาปัญหาที่เกิดขึ้นกับสหกรณ์(ในเบื้องต้น) การอ่านหนังสือเล่มนี้ ก่อให้เกิดความคิดการส่งเสริมสหกรณ์ในรูปแบบใหม่ ต้องปลูกฝังให้สมาชิกรักองค์กรโดย ปลูกฝังแนวทางการพัฒนาคุณภาพชีวิตสมาชิกสหกรณ์ สมาชิกมีความสุข องค์กรเข้มแข็งการพัฒนาองค์กรคือผลที่จะตามมา ฝ่ายบริหาร ฝ่ายจัดการและฝ่ายส่งเสริมต้องใช้หลักการของนักพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ที่ดี ทั้ง 6 ข้อข้างต้น
จากการได้อ่านหนังสือ ทรัพยากรณ์มนุษย์พันธ์แท้ ได้ข้อสรุปตรงกัน ทั้งคุณพารณ อิศรเสนา ณ อยุธยาและ ดร.จีระ หงส์ลดารมภ์ คือการให้ความสำคัญของคน เป็นทรัพยากรณ์ที่สำคัญที่สุดในองค์กร ตรงกับหลักคิดของสหกรณ์ที่ให้ความสำคัญของคนก่อนเงินถึงแม้ว่าเงินก็มีความสำคัญ และสิ่งที่เห็นว่าทุกคนที่ได้อ่านหนังสือ การพัฒนาทรัพยากรณ์มนุษย์ ของ ดร.จีระ หงส์ลดารมภ์ ต้องให้คความสำคัญอย่างยิ่งคือ การพัฒนาคนในองค์กร โดยต้องให้ความสำคัญในการพัฒนาบุคคลากรณ์ในทุกระดับตั้งแต่ระดับผู้บริหาร หัวหน้างาน และระดับปฏิบัติการ เพราะความสำเร็จขององค์กรณ์ต้องอาศัยความรู้ ความสามารถ ประสบการณ์ และความร่วมมือร่วมใจของทุกคนในองค์กร ดังนั้นบุคคลกรณ์ทุกระดับจะต้องได้รับการพัฒนา เพื่อจะได้รู้เหมือนกัน พูดภาษาเดียวกัน ที่สำคัญทุกคนต้องรู้ถึงเป้าหมายขององค์ร่วมกันและใช่กลยุทธ์เพื่อบรรลุเป้าหมายและความสำเร็จขององค์กร
สิ่งที่จะนำมาใช้ในการพัฒนาทรัพยากรณ์มนุษย์ในสหกรณ์ของเราก่อนอื่นต้องถามตัวเองว่าเราให้ความสำคัญกับการพัฒนาคนในสหกรณ์มากน้อยเพียงใด ทำอย่างไรถึงได้ คนเก่ง คนดี ตามหลักของคุณ พารณ อิศรเสนา ณ อยุธยา คือ เก่ง 4 ดี 4 ซึ่งจะเกิดประโยชน์กับสหกรณ์เป็นอย่างยิ่ง
ร้านสหกรณ์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จำกัด จัดงานครบรอบ 50 ปี ณ ศาลาพระเกี้ยว เมื่อวันที่ 14-16 กรกฎาคม 2553 โดยมี รศ.ทพ.นพ.ดร.สิทธิชัย ทัดศรี รองอธิการบดีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นประธานในพิธีเปิด ร่วมด้วยผู้มีเกียรติจากกรมส่งเสริมสหกรณ์ สมาชิกรุ่นก่อตั้ง คณาจารย์ สมาชิกสหกรณ์ และสหกรณ์ต่างๆ เข้าร่วมแสดงความยินดี ได้แก่ชุมนุมรานสหกรณ์แห่งประเทศไทย จำกัด โดย นายสมชาย ทองพันธ์อยู่ รองประธานฯ (ผนส.5) ร้านสหกรณ์ผู้ปฏิบัติงานการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย จำกัด นายนพคุณ ยังเอี่ยม รองประธานฯ นายกฤษณะ อัมพวานนท์ ผู้จัดการ (ผนส.2) สหกรณ์ออมทรัพย์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จำกัด รศ.ดร.สวัสดิ์ แสงบางปลา ประธานสหกรณ์ฯ (ผนส.4) โดยมีนายเจนวิทย์ อภิชัยนันท์ ผู้จัดการร้านสหกรณ์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จำกัด (ผนส.5) ให้การต้อนรับ
ส่งการบ้านอาจารย์ครับ..
จากการอ่านหนังสือพอที่จะสรุปได้ว่า เป็นการสะท้อนแนวคิและประสบการณ์ในเรื่องของทรัพย์ยากรมนุษย์โดยผ่ายนักคิดและนักปฏบัติ 2 คนที่มีวิธีคิดและจุดหมายปลายทางที่ชัดเจน โดยบุคลากรทั้งสองต่างแสดงให้เห็นแนวคิดในการบริหารคน ซึ่งถือว่าเป็นทรัพย์สินอันทรงคุณค่าไม่น้อยไปกว่าทรัพย์สินอื่นใดในองค์กร เพราะไม่ว่ากิจกรรมใดจะสำเร็จหรือไม่ย่อมประกอบไปด้วยคนเช่นกัน จึงทำให้เห็นได้ชัดว่าคนสามารถที่จะพัฒนาได้เท่าที่กำหนดโดยอาศัยการเรียนรู้ ศึกษา ฝึกฝน พร้อมทั้งปฏิบัติถึงแม้ว่าจะสำเร็จหรือไม่ก็ตาม ประสบการณ์ทั้งหลายจะถูกหล่อหลอมให้เกิดเป็นทักษะเกิดองค์ความรู้ในการรับมือกับเหตุการณ์ในภายภาคหน้าได้อย่างแยบคาย แต่ทั้งนั้นทรัพยากรที่มีค่าต้องประกอบไปด้วยคุณธรรม จริยธรรม ที่ดีจึงจะสรรสร้างสิ่งที่ดีออกมาได้ ท้ายที่สุดของความสำเร็จของบุคคลทั้งสองคงไม่ใช่เงินทอง หรือเกียรติภูมิอันใด แต่เป็นสิ่งที่ทั้งสองต่างคิดว่าจะสามารถเอาภูมิความรู้ที่มีอยู่คืนให้กับสังคมได้มากน้อยเพียงใด การที่จะทำให้เกิดเป็นรูปธรรมและยั่งยืนคือต้งออกมาในรูปของการให้การศึกษา ซึ่งจะสามารถสร้างคนให้มีวิธีคิดที่ถูกต้องและเป็นธรรมมากขึ้นเรื่อยๆและต่อเนื่อง จากการอ่านทำใผมในฐานะที่เป็นกรรมการบริหารได้เห็นข้อคิดในการเอาประสบการณ์ของท่านทั้งสองนำมาพัฒนาสหกรณ์ฯ เพราะจากการวิเคราะห์แล้วทำให้เห็นไดว่าสหกรณ์ฯ ยังคงไม่สามารถนำเอาสารมารถของพนักงาน และกรรมการมาใช่ประโยชน์ได้อย่างเต็มกำลัง และยังขาดองค์ความรู้ใหม่ในการพัฒนาองค์กร ดังนั้นจากการอ่านทำให้มีแนวทางในการแก้ไขในเรื่องต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการร่วมงานกันเป็นทีมโดยมีองค์กรเป็นที่ตั้ง ให้เขารู้สึกเหมือนเรือแข่งที่ทุกคนต้องเป็นทีม เพื่อนำพามาซึ่งชัยชนะร่วมกัน และอีกหลายอย่างที่ท่านทั้งสองต่างนำเอาประสบการณ์มาแบ่งปันเพื่อให้เป็นแนวทางในการทำงาน ................
อนุวรรตน์ อิ่มสมบูรณ์ ผนส.5
เนื่องจากทรัพยากรมนุษย์ถือว่ามีความสำคัญมากว่าทรัพยากรอื่นใด เพราะมนุษย์เป็นได้ทั้งผู้สร้าง ผู้พัฒนา และผู้ทำลาย ดังนั้น เพื่อเป็นการยกระดับทรัพยากรมนุษย์ รวมทั้งเห็นคุณค่าของการทำงานขององค์กรและส่วนรวม จึงจำเป็นต้องมีการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์อยู่เสมอได้รับประสบการณ์และความรู้ใหม่ นำกลับไปพัฒนาองค์กรและสังคมที่ตนมีส่วนร่วม สหกรณ์เป็นองค์กรที่ประกอบด้วยบุคคลหลายฝ่าย ซึ่งมารวมตัวกันขึ้นเพื่อดำเนิน กิจกรรมร่วมกันทางธุรกิจและสังคม โดยมีฝ่ายบริหาร ฝ่ายจัดการ สมาชิกและหน่วยงานอื่นๆ ที่สนับสนุนและเกี่ยวข้องซึ่งต้องมีการประสานงานกันโดยตลอด แต่ละฝ่ายล้วนมีบทบาทและหน้าที่แตกต่างกัน แต่ละฝ่ายประกอบด้วยบุคคลซึ่งมีความสามารถแตกต่างกัน มีศักยภาพแตกต่างกัน ดังนั้น ผู้นำองค์กรของสหกรณ์จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องศึกษาหาข้อมูลด้วยวิธีการต่าง ๆ เพื่อให้ทราบถึงความแตกต่างในแต่ละบุคคลของผู้ร่วมงาน เพื่อให้เกิดการพัฒนาคน พัฒนางาน ควบคู่กันไปดังนี้ 1. ผู้นำองค์กร ต้องมีศักยภาพสูง มีความคิดริเริ่ม มีวิสัยทัศน์ มองไกล มองลึก และกว้าง คนมีวิสัยทัศน์ ย่อมมีสมองที่สามารถคิดริเริ่มในสิ่งแปลก ๆ ใหม่ ๆ และทันเหตุการณ์ มีภาวะผู้นำ มีความสามารถในการบริหารจัดการกับคน และการสร้างศรัทธา กล้าเผชิญหน้ากับ ความล้มเหลว และสามารถบริหารความเสี่ยงได้ 2. สภาพแวดล้อมขององค์กรที่เอื้ออำนวยต่อการทำงาน การจัดองค์กรให้มีความเหมาะสมคล่องตัว เน้นการทำงานแบบมีกระบวนการการใช้ระบบสารสนเทศ หรือเทคโนโลยีเข้ามาช่วยเสริมประสิทธิภาพ 3.. สมรรถนะหรือทักษะ ความสามารถของบุคลากรในองค์กร ซึ่งหมายถึง การพัฒนาสมรรถนะในด้านต่าง ๆ แก่บุคคลในองค์กรให้มีความพร้อมที่จะทำงานอย่างเต็มที่ โดยไม่มองเห็นงานเป็นภาระ การทำงานถือเป็นความสุข เรียกว่าเป็นทฤษฏีเพิ่มศักยภาพของคนซึ่งไม่ได้วัดว่าจบจากที่ไหน แต่ต้องดูว่าบุคลากรในองค์กรที่เราต้องการจะต้องมีสิ่งเหล่านี้ - ทักษะ ความรู้ที่ต้องเพิ่มเติมเกี่ยวกับการทำงานในหน้าที่ - ความรู้ที่มีประโยชน์ต่อองค์กร , การทำงานเป็นทีม - มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ - มีความรู้รอบตัว สามารถแสวงหาโอกาสและหลีกเลี่ยงความเสี่ยงต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นได้ - มีจริยธรรมและคุณธรรม 4. การสร้างแรงจูงใจ คือ เมื่อองค์กรน่าอยู่ คนมีศักยภาพ ที่สำคัญคือสร้างแรงจูงใจให้อยากทำงานให้องค์กรอย่างเต็มที่ การสร้างแรงจูงใจนั้นทำได้ในรูปแบบที่เป็นตัวเงิน เช่น การให้โบนัส การขึ้นเงินเดือน การให้สวัสดิการ ที่ไม่เป็นตัวเงิน เช่น การยกย่องให้เกียรติ การชมเชย การมอบหมายงานที่ท้าทาย จากที่กล่าวมาข้างต้นนี้ หากผู้นำสหกรณ์สามารถนำมาบูรณาการและปรับใช้ในการบริหารจัดการสหกรณ์ จะทำให้สหกรณ์ประสบความสำเร็จตามเป้าหมายที่กำหนดไว้
สันติ ขจรเวชไพศาล ขอส่งรายงานการย่อสรุป ทรัพยากรมนุษย์พันธุ์แท้
หนังสือ “ทรัพยากรมนุษย์พันธุ์แท้” เป็นหนังสือที่นำเสนอในรูปแบบของการสนทนา ทั้งบทสนทนา โดยตรงจากท่านทั้งสองท่าน และบทสนทนาจากผู้ใกล้ชิดและผู้ร่วมปฏิบัติงาน โดยนำบุคคลที่ทรงคุณค่า และได้รับการยอมรับนับถืออย่างกว้างขวางทั้งในเรื่องทรัพยากรมนุษย์ ทั้งด้านเป็นผู้นำทางความคิด ผู้บุกเบิก และปฏิบัติ คือ คุณพารณ อิศรเสนา ณ อยุธยา และ ดร.จีระ หงส์ลดารมภ์ ในหนังสือเล่มนี้
1. เรื่องของสองแชมป์
กล่าวถึงเป้าหมายเดียวกันของคน 2 คน ที่มีวัยที่แตกต่างกัน แต่มีความเชื่อความศรัทธาและความมุ่งมั่น ในเรื่องของการสร้าง คน ซึ่งทั้งสองมีแนวคิดที่ว่า คนเป็นสมบัติที่มีค่าที่สุดขององค์กร คุณภาพคน รู้จักการทำงานเป็นทีม มีความจงรักภักดีและมีวินัย ทั้งสองท่านจึงเน้นการพัฒนารูปแบบใหม่ ภายใต้แนวคิด Constructionism เพื่อสร้างความพร้อมให้เด็กไทยก้าวสู่การเป็นพลเมืองโลกอย่างสมบรูณ์ที่สุดเท่าที่จะเป็นได้ นั่นคือ จะต้องคล่องแคล้วใน 3 เรื่อง ได้แก่ ภาษาไทย ภาษาอังกฤษ และเทคโนโลยี จากลูกศรชีวิตเส้นบนเส้นแรก สู่เส้นล่างในวันนี้เต็มไปด้วยแง่มุม แง่คิด อันเฉียบคมราวไม่มีที่สิ้นสุดที่สำคัญคือเป็นภูมิปัญญาจากผู้รู้ที่ประกาศตัวเสมอว่าเขาไม่ใช่ปราชญ์ ไม่ใช่เพราะเขาสองคนไม่รู้ หากแต่เพราะคนทั้งคู่เป็นผู้ใฝ่เรียนรู้ยังคงกระหายกับการแสวงหาความรู้อย่างไม่รู้จักอิ่ม
2. คัมภีร์คนพันธุ์แท้
เป็นการกล่าวถึงแนวทางในการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ปรัชญาของทรัพยากรมนุษย์ที่ว่า “คน ถือเป็นสินทรัพย์ที่สำคัญที่สุดขององค์กร” ด้วยการพัฒนาคน โดยมุ่งเน้นการเรียนรู้ (Learning) ที่ไม่ใช่เป็นการฝึกอบรม (Training) พร้อมทั้งบอกถึงกลยุทธ์ในการสร้างความเป็นเลิศให้องค์กรจากแรงจูงใจ แรงจูงใจที่โดดเด่น คือ การมีจุดร่วมที่ผู้บริหารมีใจตรงกัน มีศรัทธาซึ่งกันและกัน สิ่งสำคัญอีกอย่างหนึ่งคือ อยู่ที่จิตใจคน ถ้าจิตใจสงบ บรรยากาศดีรวมถึงแง่ของความเป็นมิตร เป็นทีมเวิคร์ เราก็ทำงานได้ดี เราอาจสรุปได้ว่า คนไม่ได้ต้องการผลตอบแทนที่เป็นเงินทองอย่างเดียว แต่ยังต้องการผลตอบแทนทางใจด้วย คุณพารณ กับความเชื่อที่ว่า คนที่สามารถพาองค์กรให้ประสบความสำเร็จได้นั้น จะต้องทั้งเก่งทั้งดี ฉะนั้น คุณพารณ จึงมีแนวคิดว่า จะต้องกำหนดออกมากก่อนว่า คนเก่ง คนดี คืออะไร จะได้ไปในทางเดียวกัน ได้ออกมา 4 ข้อ คือ เก่ง 4 ดี 4 คือ เก่งงาน เก่งคน เก่งคิด และ เก่งเรียน ท่าน ดร. จีระ กับแนวคิดว่า คิดเป็น ก้าวเป็น แล้ว “ ดี 4” คือ ประพฤติดี มีน้ำใจ ใฝ่ความรู้ คู่คุณธรรม สามารถนำไปปฏิบัติได้ง่าย
3. จักรวาลแห่งการเรียนรู้
ในช่วงนี้เป็นการเน้นการขยายผลการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ โดยให้เราเป็น Good Learner มีความสามารถในการเรียนรู้ และสามารถเรียนรู้ได้ตลอดชีวิต การพัฒนาคุณภาพของคน จำเป็นต้องพัฒนาในทุก ๆ ด้าน เป็นผู้ทรงคุณภาพที่สามารถเรียนรู้กระบวนการชี้นำตัวเองและผู้อื่นให้เป็นมนุษย์ที่พัฒนาแล้ว เป็นมนุษย์ที่เรียนรู้วิธีการที่จะเป็นคนเก่ง คนดี มีความสุขด้วยตนเอง คือ ต้องเป็นคนเรียนรู้อยู่ตลอดเวลา เพื่อทำให้โลกทัศน์กว้างยิ่งขึ้น คุณภาพด้านการศึกษาเป็นปัจจัยสำคัญต่อคุณภาพทรัพยากรมนุษย์โดยตรง การพัฒนาการศึกษาภายใต้แนวคิด Constructionism ที่ให้”ผู้เรียน” เป็นศูนย์กลางของการเรียนรู้ โดยต้องมีคุณสมบัติ 3 ประการ คือ 1) ความคล่องแคล่วในภาษาไทย ภาษาอังกฤษ 2) เทคโนโลยี 3) คุณธรรม
ดร.จีระ ท่านได้เสนอ ทฤษฎี 3 วงกลม ดังนี้
วงกลมที่ 1 เรื่อง Context คือบริบทของการบริหารทรัพยากรมนุษย์ สภาพแวดล้อมขององค์กร การจัดองค์กรให้มีความเหมาะสม เน้นการทำงานแบบ กระบวนการ การใช้ระบบสารสนเทศ หรือ IT เข้ามาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ
วงกลมที่ 2 เรื่อง Competencies คือ สมรรถนะ หรือ ทักษะความสามารถของบุคลากรในองค์กร ซึ่งหมายถึง การพัฒนาสมรรถภาพในด้านต่างๆ แก่บุคคลากรในองค์กรให้มีความพร้อมที่จะทำงานได้อย่างเต็มที่
วงกลมที่ 3 เรื่อง Motivation คือการสร้างแรงจูงใจ คือ เมื่อองค์กรน่าอยู่แล้ว คนมีศักยภาพแล้ว ที่สำคัญคือเขามีแรงจูงใจให้อยากทำงานให้เราอย่างเต็มที่หรือไม่
4) สู่การเพิ่มผลผลิต
ทั้ง 2 ท่าน มีความคิดเห็นตรงกันเกี่ยวกับ การเห็นคุณค่าของคน คนเป็นสมบัติที่มีค่าที่สุดขององค์กร “คุณภาพของคน” กับ “การเพิ่มผลผลิต”(Productivity Improvement) มีความสัมพันธ์กันในการนำองค์กรไปสู่ความสำเร็จ การสร้างศักยภาพการแข่งขันระดับประเทศ ด้วยการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ให้มีความรู้ ความสามารถเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งผู้บริหารจะต้องทำหน้าที่เป็นทั้งผู้ฝึกสอนและพี่เลี้ยงผู้ใต้บังคับบัญชา เพื่อให้เขาสามารถเรียนรู้และสามารถปลดปล่อยความรู้ความสามารถของเขาออกมาอย่างเต็มที่ ด้วยการส่งเสริมการทำงานเป็นทีม และสนับสนุนให้มีการศึกษาและพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง
ประกาศให้ทราบโดยทั่วกันครับ
ทีมงาน สพว.ได้รับแจ้งทาง โทร.จาก ผนส.อนุวรรตน์ ว่า "ยางอะไหล่รถยนต์หาย" ในการมาเข้าอบรมครั้งแรก หาก ผนส.ท่านใดมีกรณีเดียวกันนี้ ช่วยแจ้งให้ทราบพร้อมหมายเลขทะเบียนรถของท่าน เพื่อประกอบการแจ้งความต่อไปครับ (ขอบคุณมากครับ)
วีรศักดิ์ สงเคราะห์ ผนส.5
จากการอ่านหนังสือสรุปใจความสำคัญได้ว่า พารณ อิศรเสนา ณ อยุทธยา กับ ดร.วีระ หงส์ลดารมภ์คน 2 วัย 2 คน ที่มีความเชื่อ ความมุ่งมั่น ความศรัทธาในการสร้างคนให้มีค่าที่สุดขององค์กร โดยการพัฒนาคน มุ่งการเรียนรู้ การทำงานเป็นทีมที่ดี มุ่งเน้นการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ในทุกๆด้าน ไม่ว่าจะเป็นสภาพแวดล้อม ความสามารถของบุคคลากร และการสร้างแรงจูงใจ
ในการพัฒนาสหกรณ์ คน เป็นเรื่องสำคัญไม่ว่าจะคณะกรรมการ เจ้าหน้าที่ และที่สำคัญที่สุดคือ สมาชิกผู้เป็นเจ้าของสหกรณ์ จะต้องมีความรักในองค์กร เจ้าหน้าที่ต้องมุ่งเน้นการให้บริการที่ดีต่อสมาชิก คณะกรรมการต้องปกป้องผลประโยชน์ของสมาชิกและของสหกรณ์เป็นหลักใหญ่
สวัสดีวันที่ 15 ค่ะ เพื่อนๆๆๆๆๆๆๆๆๆรุ่นอายุ 34 ทุกๆท่าน
การบ้าน
เมื่อท่านอ่านหนังสือ "ทรัพยากรมนุษย์พันธุ์แท้" แล้ว
ให้แต่ละท่านสรุปว่า ได้ประโยชน์ในการพัฒนาคนในสหกรณ์ หรือ ระบบราชการ อย่างไร?? และ ทำอย่างไร? จึงจะสำเร็จ
ส่งทาง BLOGภายในวันที่ 15 กรกฎาคมค่ะ
สรุปจากการอ่านหนังสือทรัพยากรมนุษย์พันธุ์แท้ได้แนวดิดหลายแนวทางที่จะนำไปปฎิบัติกับสหกรณ์การเกษตรลานสัก จำกัด
คนเป็นเพียงต้นทุน การผลิต คน ต่างหากคือ ผลกำไร ที่แท้จริงขององค์กร หากได้รับการดูแลเอาใจใส่เพิ่มศักยภาพโดยการพัฒนาอย่างจริงจัง สม่ำเสมอและเป็นระบบเช่นเดียวกับสหกรณ์ฯ คนในสหกรณ์มีทั้งหมด 3 ฝ่าย คื่อสมาชิก คณะกรรมการ และฝ่ายจัดการ การที่จะพัฒนาสหกรณ์ฯ โดยการวัดผลคือต้องมุ่งเน้นพัฒนาคนทั้ง 3ฝ่าย จึงจะทำให้สหกรณ์มีความยั่งยืนระยะยาว และทั้ง 3 ฝ่าย ต้องเป็นคนดีและคนเก่ง คนเป็นสมบัติที่มีค่าที่สุดขององค์กร ปัจจัยสำคัญอีกอย่างหนึ่งในการทำให้การเพิ่มผลผลิตประสบความสำเร็จก็คือความจงรักภักดีและความมีวินัยของคนในองค์กร ซึ่งก็โชคดีที่วัฒนธรรมองค์กร โดยที่สหกรณ์ต้องให้ทั้ง 3 ฝ่ายรู้บทบาท หน้าที่ ของตนเอง โดยนำหลักการอุดมการณ์สหกรณ์มาปลูกฝังเพื่อสร้างความจงรักภักดีต่อองค์กรให้มาก การเป็นผู้บริหารถือเป็นยุดทองของการวางระบบเรื่องการพัฒนาบุคคลกร ภายใต้แนวดิด การพัฒนาบุคลากร ภายใต้แนวคิด การพัฒนาบุคลากรเป็นการลงทุน(Investment) ของบริษัท ที่ไม่ใช่ต้นทุน (Cost) แต่คนเป็นทรัพยากรที่มีความสำคัญสูงสุด ที่ต้องมีการเอาใจใส่ดูแล หมั่นพัฒนาให้เพิ่มพูนความรู้ความสามารถอยู่ตลอดเวลา โดยกำหนดบทบาทของผู้บริหาร จะต้องเป็นผุ้ที่ต้องขับพลังและอัจฉริยภาพของบุคลากรในทุกระดับองค์กร คนเป็นสมบัติที่มีค่าที่สุดขององค์กร ซึ่งผู้บริหารจะต้องทำหน้าที่เป็นทั้งผู้ฝึกสอนและพี่เลี้ยง พัฒนาผู้ใต้บังคับบัญชาตลอดเวลาเพื่อให้เขาสามารถเรียนรู้และสามารถปลดปล่อยความรู้ความสามารถของเขาออกมาอย่างเต็มที่ ด้วยการส่งเสริมการทำงานเป็นทีมและสนับสนุนให้มีการศึกษาและพัฒนา ตนเองอย่างต่อเนื่อง การทำงานที่ดีคือการทำงานที่เอาความสามารถของคนแต่ละคนมารวมกันแล้วปรับตัวได้ดีและมีทุนที่4 หรือ Happiness Capital (ทุนแห่งความสุขและสมดุล)มากกว่าคนอื่น สำหรับผมจะไม่รบทุกสนาม แต่จะรบเฉพาะสนามที่ผมต้องการรบเท่านั้น
ส่วนมากบริษัทอื่นๆ จะให้รางวัลลูกค้า แต่ไม่ได้ให้ความรู้ จะให้ความด้วย เหล่านั้คือการพัฒนาคนไม่ใช่แต่พนักงาน แต่จะพัฒนาไปถึงผู้ที่เกี่ยวข้องในธุรกิจด้วย คนไม่ได้ต้องการผลตอบแทนทีเป็นเงินทองอย่างเดียว แต่ยังต้องการผลตอบแทนทางใจด้วย สหกรณ์ฯก็ได้นำแนวความดิดว่าต้องให้ความรู้แก่สมาชิกและกรรมการและฝายจัดการด้วย และการสหกรณ์ได้ให้ผลตอบแทนเป็นค่าจ้างและเงินปันผล แต่สหกรณ์ต้องให้ความห่วงใยแก่สมาชิกด้วยเช่นสร้างสวัสดิการเช่นของขวัญวันแรกเกิดของบุตรสมาชิกและการให้สวัสดิการค่าตรวจสุขภาพประจำปี สร้างสวัสดิกการโดยมีการทำประกันชีวิตให้กับสมาชิก และการสร้างแรงจูงใจให้กับเจ้าหน้าที่สหกรณ์ ฯ มีหลายส่วน และการสร้างแรงจูงใจทางลบน้อยคื่อความขัดแย้งน้อย การเล่นพวกน้อยสิ่งกระตุ้นมี 2 อย่าง คือแบบบวก และแบบลบ และมีการบริหารการบุคคลแบบระบบคณะกรรมการคือให้หัวหน้าสายต่างๆเข้ามาร่วมกันดูแลคน และดูแลระบบการบุคคล เรื่องอื่นๆ เช่น QC เป็นการทำงานแบบทีม และการทำงานเป็นทีมเป็นสิ่งที่ทำให้องค์กรประสบความสำเร็จคือ ไม่ไช่ว่าเอาคนเก่งเข้ามาแล้วทำอะไรอยู่คนเดียว มันก็ไม่ได้เกิดความรู้สึกเป็นเจ้าของบริษัท แต่การทำงานเป็นทีมจะเกิดจิตสำนึกในการเป็นเจ้าของมากๆ เพราะเราได้มีส่วนที่จะตัดสินใจในการดำเนินการของบริษัท การทำงานเป็นทีมอาจจะช้า กว่า จะหาความเห็นร่วมกันได้ แต่ก็มีข้อดีมากกว่า เช่นเดียวกับการบริหารงานในสหกรณ์ฯ เนื่องจากสมาชิกต้องมีจิตใจสำนึกอยู่เสมอว่าเราคือเจ้าของสหกรณ์จึงนำพาสหกรณ์ไปสู่ความก้าวหน้าแบบยังยืนต่อไป
แนวดิดเชิงความเชื่อและศรัทธาถึงปัจจัยที่จำเป็นต่อการพัฒนาทรัยากรมนุษย์ให้ประสบผลสำเร็จ ประกอบด้วย 4 ประการ
1. ปัจจัย คุณภาพของคน บริษัทสามารถคัดเลือกคนเข้าทำงานด้วยระบบ ความชอบธรรมหรือ MERT อย่างนี้ ก็เท่ากับองค์กรได้เมล็ดพันธุ์ดี มีเนื้อผ้าดี จะพัฒนาปรุงแต่งอย่างไรก็คงประสบความสำเร็จโดยง่าย
2. ปัจจัย ผู้บริหารระดับสูงของบริษัท ผู้บริหารระดับบนของบริษัทจะต้องมีความเชื่อว่า การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์คือหลักการทางธุรกิจที่สำคัญยิ่ง จะทำให้เกิดความร่วมมือ ร่วมใจกันเป็นหนึ่งเดียวและในการฝึกอบรบพนักงานทุกๆ ระดับของบริษัท จะต้องทำทั่งทั้งองค์กร จะได้ไม่เกิดความเหลื่อมล้ำ ไม่เลือกที่รักมักที่ชั่ง และเป็นการให้โอกาสคนทุกคนได้อย่างเท่าเทียมกัน
3.ปัจจัย ทัศนคติของฝ่ายจัดการ การพัฒนาฝึกอบรมไม่ใช่ค่าใช้จ่ายที่ต้องสูญเสียไปแต่แท้จริงแล้วเป็นการลงทุนในระยะยาว หรือ Long Term Imvestment ที่จะคืนทุนให้องค์กรในระยะยาว การลงทุนในเรื่องคน ไม่จำเป็นที่จะต้องเห็นผลตอบแทนในทันที่เสมอไป เพราะผลการพัฒนาฝึกอบรมหลายอย่างเป็นการสะสมทักษะทีละเล็กที่ละน้อยซึ่งอาจไม่ได้นำมาใช้ในการทำงานประจำวันในทันที การสะสมทักษะนี้ เป็น Learning Curve และสะสมทางจิตใจแของพนักงานด้วย เมื่อเจาเห็นบริษัทดูแลเอาใจใส่พัฒนาเขา เขาก็จะมีจิตใจที่จะอุทิศตัวเองเพื่องานของบริษัท ซึ่งเป็นผลประโยชน์ร่วมกันต่อไป
4. ปัจจัย การปลูกฝังให้พนักงานพัฒนาตนเอง การอบรมทั้ง3 ฝ่าย โดยองค์กรมีหน้าที่กำหนดนโยบายและวางแผน รวมทั้งออกค่าใช้จ่าย ส่วนผู้บริหารหรือผู้บังคับบัญชามีหน้าที่คอยดูแลว่าพนักงานผู้ใดต้องการพัฒนาฝึกอบรมให้เข้ามี Value เพิ่มขึ้น ด้านพนักงานนั้น มีหน้าที่เอาใจใส่ต่อการพัฒนาฝึกตนเอง หาความรู้ หาประสบการณ์ จากการพัฒนาฝึกอบรมนั้นๆ ให้มากที่สุด
สรุป แนวดิดและทฤษฎีเพื่อการพัฒนา "ทรัพยากรมนุษย์ของ" ของ ด.ร.จีระ นำมาให้กับสหกรณ์ทั้ง 10 แนวดิดเพราะสหกรณ์มีทรัพยากรมนุษย์ทั้งพัฒนา มีด้วยกัน 3 ฝ่าย 1. สมาชิก 2. คณะกรรมการดำเนินการ 3. ฝ่ายจัดการ ถ้านำ 10แนวดิดมาใช้ในสหกรณ์ฯจะทำให้สหกรณ์เติบโตแบบยังยืนและพัฒนาประเทศไทยให้มีความกินดีอยู่ดีแน่นนอน
ทรัพยากรมนุษย์พันธ์แท้ กล่าวถึง ความสำเร็จของมนุษย์ที่มีความสำคัญเหนือกว่าทรัพย์อื่นใด ทรัพยากรมนุษย์จึงต้องมีการพัฒนาด้วยเช่นกัน ในองค์กรของสหกรณ์ประกอบด้วยบุคคลหลายฝ่าย ที่ต้องมาประสานงานร่วมกัน ฉะนั้น ผู้นำสหกรณ์จะต้อง พัฒนาในองค์กรอยู่ตลอดเวลา พร้อมทั้งพัฒนาตัวผู้นำเองด้วย กล่าวโดยสรุปว่า ปรัชญาในการพัฒนาบุคคลในองค์กรนั้นที่สำคัญคือ ความเชื่อมั่นในคุณค่าของคน ให้มีความรู้สึกว่าพนักงานคือคนในครอบครัวของเรา และความรับผิดชอบที่จะทำให้ทรัพยากรมนุษย์ขององค์กรมีทั้ง ราคาและคุณค่าที่สอดตล้องกัน อย่างไรก็ดี คุณค่าที่ถูกทำให้เพ่มขึ้นในทรัพยากรมนุษย์ จะขึ้นอยู่กับว่าเราดูแลใส่ใจและพัฒนาพวกเขาอย่างถูกทางหรือไม่ ถ้าเราสามารถเรียนรู้ที่จะมีทักษะความเชี่ยวชาญในการจัดการกับคนแล้ว ย่อมสามารถที่จะดึงเอาศักยภาพของพวกเขาออกมาให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับองค์กรได้ พนักงานก็มีความรู้สึกภูมิใจที่ได้มีส่วนร่วมในการบริหารองค์กรของเขาในเมื่อพนักงานมีความต้องการเหมือน ๆ กัน กับพวกเราที่เป็นผู้จัดการ ความสำเร็จขององค์กรจึงเกิดขึ้น องค์กรใดก็ตามลงทุนในเรื่องของคนมากขึ้นเท่าไหร่ องค์กรนั้น ยิ่งต้องการให้ทรพัยากรมนุษย์ของเขาอยู่กับองค์กรเดิมมากขึ้นเท่านั้น
ทรัพยากรมนุษย์พันธ์แท้ กล่าวโดยสรุปว่าสินทรัพย์ที่สำคัญสูงสุดขององค์กรก็คือคน แต่ว่าจะต้องเป็นทรัพยากรมนุษย์ชนิดใหม่ ที่เป็นคนงานที่มีความรู้ ไม่ใช่เป็นคนงานแบบไหนก็ได้ เพราะในสภาพเศรษฐกิจแบบนี้ทุกองค์กรดูเหมือนกำลังทำสงครามกันในเรื่องของความสามารถในการบริหารจัดการกับคน ทำอย่างไรให้บุคคลากรในองค์กรได้มีส่วนร่วมในการทำงานที่ทำให้เขาเห็นว่า เขาเป็นคนหนึ่งที่มีความสำคัญต่อองค์กร ผู้นำองค์กรต้องมีวิสัยทัศน์กว้างไกล มองลึก สามารถวิเคราะห์ศักยภาพของุบุคคลในองค์กรให้ได้ว่า คนไหนควรได้รับการเพิ่มพูนความรู้ในด้านใดให้เหมาะสมกับความสามารถและตำแหน่งหน้าที่ รวมทั้งสร้างแรงจูงใจให้กับทุกคนโดยไม่แยกว่า เป็นคนเก่ง เป็นคนดี เพราะคงไม่มีบุคคลใดทังเก่งและดี แต่ขอให้มีคุณธรรม มีความซื่อสัตย์ และจงรักภักดีต่อองค์กร การบริหารคนในสายตาของนักจัดการผู้นำที่ดีต้องบริหารให้องค์กรอยู่รอด สำหรับสังคมไทยแล้วยังมีความเป็นพี่เป็นน้อง เป็นเครือญาติ ยังคงมีอยู่ ถ้าผู้นำองค์กรไม่ระมัดระวังความรู้สึกของคนซึ่งไม่เก่ง คนเหล่านั้นจะไม่มีความสุข และท้ายที่สุดจะเกิดปัญหาขึ้นกับองค์กร ผู้นำองค์ต้องคิดเสมอว่าการสร้างให้คนมีความสามารถในการเรียนรู้ได้มากขึ้น เป็นการพัฒนาคน องค์กรใดก็ตามไม่สร้างบรรยากาศการเรียนรู้ไม่ให้โอกาสในการทำงานที่ท้าทายเพื่อความก้าวหน้า ไม่มีการพัฒนาและฝึกอบรม วันหนึ่งพนักงานก็คงไม่อยากอยู่กับองค์กร
ผมได้อ่านหนังสือ “ทรัพยากรมนุษย์พันธ์แท้”จบลงอย่างชนิดที่เรียกว่า ม้วนเดียวจบ ยอมรับว่าหนังสือเล่มนี้อ่านแล้ววางไม่ลง มีเรื่องราวชวนติดตามอยู่ตลอดเวลา ที่สำคัญมีเนื้อหาสาระที่ผมอยากรู้ และมีหลายเรื่องที่ผมยังไม่เคยรู้ และขอเรียนว่าผมสามารถนำความรู้นี้ไปปฏิบัติให้เกิดประโยชน์อย่างยิ่งต่อองค์กร และคนในองค์กร ได้อย่างแน่นอน
ในหนังสือเป็นชีวประวัติและผลงานของนักทรัพยากรมนุษย์ดีเด่น 2 ท่าน คือท่านพารณ อิศรเสนา ณ อยุธยา และ ดร.จีระ หงส์ลดารมภ์ ซึ่งแม้ว่าจะมีอายุต่างกันถึง 21 ปี แต่มีสิ่งที่เหมือนกันคือ ความรู้ ความสามารถ และความโดดเด่น ในเรื่องของการให้ความสำคัญกับการพัฒนาคนในองค์กร ซึ่งผู้เขียนคือ ดร.จิระ หงส์ลดารมภ์ ได้ถ่ายทอดไว้ในหนังสือเล่มนี้ อย่างครบถ้วนสมบูรณ์ และผมขอหยิบยกขึ้นมาบางเรื่อง เพื่อเป็นการยืนยันว่า สามารถนำไปใช้พัฒนาคน และระบบสหกรณ์ ได้อย่างไร
ท่านพารณ อิศรเสนา ณ อยุธยา มีหลักคิดว่า คนเป็นสมบัติที่มีค่ามากที่สุดขององค์กร และคนคือผลกำไร ไม่ใช่ต้นทุน จึงควรพัฒนาองค์กรโดยให้ความสำคัญกับการพัฒนาคนในองค์กร การพัฒนาคนต้องทำอย่างจริงจัง สม่ำเสมอ และเป็นระบบ และปลูกฝังว่า การเข้ารับการฝึกอบรมคือการทำงานอย่างหนึ่ง ระดับล่าง ควรใช้เวลาฝึกอบรมปีละ 7 วัน ระดับกลางและบน 10 วัน (7-10-10) และใช้งบประมาณ 2% ของ pay roll เพื่อลงทุนในด้านฝึกอบรม ท่านยังมีแนวคิดว่า ปัจจัยที่จำเป็นต่อการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ให้ประสบความสำเร็จประกอบด้วย 4 ปัจจัยหลัก คือ 1.คุณภาพของคน 2.ผู้บริหารระดับสูงของบริษัท 3.ทัศนคติของฝ่ายจัดการ 4.การปลูกฝังให้พนักงานพัฒนาตนเอง และยังกล่าวถึงเรื่องของ “คนเก่ง-คนดี”ว่ามี 4 ข้อ คือ “เก่ง 4 ดี 4”
เก่ง 4 ได้แก่ เก่งงาน เก่งคน เก่งคิด และเก่งเรียน
ดี 4 ได้แก่ ประพฤติดี มีน้ำใจ ไฝ่ความรู้ คู่คุณธรรม
ซึ่งตรงกับปัญหาและความต้องการของขบวนการสหกรณ์ในปัจจุบัน คือปัญหาในเรื่องขององค์ความรู้ และการเสริมสร้างคนดีให้องค์กร เราจึงควรให้ความสำคัญในการฝึกอบรมบุคลากรในสหกรณ์ให้มากขึ้น จัดเป็นประจำทุกปี เน้นคุณภาพ และทำให้เป็นระบบ และดูแลเข้าถึงจิตใจบุคลากร เพื่อให้ได้ คนดี-คนเก่ง เข้าสู่ขบวนการสหกรณ์
ดร.จีระ หงส์ลดารมภ์ ท่านเป็นนักเศรษฐศาสตร์ที่ให้ความสำคัญเรื่อง”คน” ท่านมีความเชื่อความศรัทราในระบบการเรียนรู้ (Learning) มากกว่าการอบรมเชิงปฏิบัติ (Training) นอกจากนั้นแล้วท่านยังเป็นผู้ก่อตั้ง”สถาบันทรัพยากรมนุษย์”แห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่านมีเครือข่ายความสัมพันธ์ (Network) กว้างขวางทั้งในและนอกประเทศท่านคิดค้นทฤษฏีเกี่ยวกับทุนมนุษย์จากประสบการณ์เรียกว่า ทฤษฏี 8K’s และ 5K’s (ใหม่) ดร.จีระฯ เชื่อว่าการสร้างทรัพยากรมนุษย์ต้องเสียโอกาสในวันนี้ เพื่อจะได้รับผลตอบแทนในวันหน้า
อีกทฤษฎีหนึ่งที่ดร.จีระ มักจะนำมาเสนออยู่เสมอคือ ทฤษฎี 3 วงกลม
“วงกลมที่ 1”เรื่อง Context พูดถึงเรื่องสภาพแวดล้อมขององค์กรที่เอื้ออำนวยต่อการทำงาน เน้นการทำงานแบบ process การใช้ IT เข้ามาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ
“วงกลมที่ 2 ” เรื่อง Competencies คือ สมรรถนะ หรือ ทักษะความสามารถของบุคลากรในองค์กร หมายถึงการพัฒนาสมรรถนะในด้านต่างๆ แก่บุคลากรในองค์กรให้มีความพร้อมในการทำงานได้อย่างเต็มที่ ซึ่งหมายความรวมถึง การมีองค์ความรู้ ภาวะผู้นำ วิสัยทัศน์ ความคิดริเริ่ม มีความรู้รอบตัว สามารถแสวงหาโอกาส และหลีกเลี่ยงความเสี่ยงต่างๆที่เกิดขึ้นได้
“วงกลมที่ 3 ” เรื่อง Motivition คือการสร้างแรงจูงใจ คือเมื่อองค์กรน่าอยู่แล้ว คนมีศักยภาพแล้ว ที่สำคัญคือเขามีแรงจูงใจอยากจะทำงานให้เราอย่างเต็มที่หรือไม่ การสร้างแรงจูงใจเช่น การขึ้นเงินเดือน การให้โบนัส การชมเชย การมอบหมายงานที่ท้าทาย ฯลฯ
จากทฤษฎี 3 วงกลมนี้ ในกรณีของสหกรณ์มีความเหมาะสมในการนำไปเป็นแนวทางการปฏิบัติ หากผู้นำของสหกรณ์ใดได้พัฒนาบุคลากรในสหกรณ์ได้อย่างครบถ้วน สหกรณ์นั้นจะมีความเข้มแข็ง อย่างยั่งยืน
ในช่วงท้ายของหนังสือ ท่านพารณ อิศรเสนา ณ อยุธยา และ ดร.จีระ หงส์ลดารมภ์ ได้กล่าวถึง ปรัชญาการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ บันไดแห่งความเป็นเลิศ ความจงรักภักดี กลยุทธ์แรงจูงใจ และอุดมการณ์ในการพัฒนาการศึกษาของท่าน และตามที่ท่านได้กล่าวว่า “ถ้าคนไทยมีความสามารถในการเรียนรู้ เรียนรู้ด้วยตัวเองได้ และเรียนรู้อยู่ตลอดชีวิต เราก็สามารถที่จะสู้กับคนทั้งโลกได้” ทำให้ผู้อ่านเกิดแรงจูงใจอย่างแรงกล้าที่จะขอเป็นคนหนึ่งที่จะนำความรู้จากหนังสือเล่มนี้ ไปเป็นแนวทางในการทำงาน สืบต่อไป
ขอคารวะ ท่านพารณ อิศรเสนา ณ อยุธยา และ ดร.จีระ หงส์ลดารมภ์
“สองทรัพยากรมนุษย์พันธ์แท้”
ด้วยความเคารพ จาก
ศิริชัย ออสุวรรณ (ผนส. 5)
เมื่อผมได้อ่านหนังสือทรัพยากรมนุษย์พันธุ์แท้แล้วพบว่าเป็นหนังสือที่น่าสนใจมาก โดยปกติผมจะชอบอ่านหนังสือแนวธุรกิจอยู่แล้ว แต่เล่มนี้เป็นเรื่องที่มีประสบการณ์จริงของ 2 ผู้ที่มีประสบการณ์ด้านทรัพยากรบุคคล คือ ท่านพารณ และ ดร.จีระ
ผมเคยทำงานอยู่ปูนซีเมนต์ไทย องค์กรที่มีปรัชญาในการดำเนินงานข้อหนึ่งว่า "เชื่อมั่นในคุณค่าของคน" ได้ยินพวกพี่ๆ พูดถึงท่านพารณว่าเป็นผู้ที่มีความสามารถในการบริหารสูงมาก โดยเฉพาะด้านการบุคคล โดยเฉพาะงานทางด้านการบุคคลที่ท่านวางรากฐานมาเป็นอย่างดี ส่วน ดร.จีระ ก็ได้ยินผลงานเป็นอย่างมากมาจากงานเขียนของท่านและการอบรมต่างๆ โดยเฉพาะหลักสูตรผู้นำสหกรณ์ขั้นสูงที่ผ่านมาแล้วถึง 4 รุ่น และเป็นความปลื้มใจผมที่ได้มีโอกาสมาเรียนในรุ่นนี้
ในการอ่านหนังสือเล่มนี้พบว่าคนเป็นทรัพยากรที่มีคุณค่ามากขององค์กรที่จะต้องพัฒนาไปทั้ง ทางด้านความสามารถและคุณธรรมโดยมีขั้นตอนและตัวอย่างต่างๆ ในการพัฒนาต่างๆ ควบคู่กันไป โดยการพัฒนางานและพัฒนาคน
การพัฒนาพนักงานในสหกรณ์นั้น โดยทางผมในฐานะ ผู้จัดการต้องเข้าไปมีส่วนร่วมในการพัฒนาเป็นอย่างมาก โดยจะอาศัยสิ่งที่หนังสือเล่มนี้สอนอันได้แก่ การปลูกฝังพนักงานให้เก่งเรื่องงาน พัฒนาการใช้ทักษะ โดยส่งเสริมให้สหกรณ์เป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ มีการแบ่งปันข้อมูล นำความผิดพลาดในอดีตมาเป็นประสบการณ์เรียนรู้ร่วมกัน อันจะเป็นการประหยัดเวลาในการทดลองผิดทดลองถูกของแต่ละคน และจะให้พนักงานอาวุโสเป็นครูมากขึ้น ในการถ่ายทอดประสบการณ์ทำงานให้กับพนักงานใหม่ๆ ส่งเสริมให้พนักงานรักและผูกพันกับองค์กร
ส่วนในเรื่องการพัฒนาคนให้เป็นคนดีนั้น คงใช้วิธีให้ทางพนักงานเข้าใจในแนวคิดและอุดมการณ์สหกรณ์ มีจิตอาสาที่จะทำงานสหกรณ์โดยคำนึงถึงประโยชน์ของหมู่สมาชิก และพยายามจัดกิจกรรมที่พัฒนาคุณภาพจิตใจ เช่น การทำบุญหรือบำเพ็ญประโยชน์ต่อสังคมร่วมกัน และมีการสนับสนุนพนักงานที่ทำความดีเพื่อเป็นขวัญและกำลังใจ
โดยวงการสหกรณ์ที่ผ่านมาในอดีตมักประสบปัญหา เช่น ได้คนเก่งแต่ไม่ดี มาบริหารงานก็ทุจริต ส่งผลให้สหกรณ์เกิดความเสียหาย หรือได้คนดีแต่ไม่เก่ง ก็ยากที่จะบริหารงานภายใต้การแข่งขันที่รุนแรงเช่นปัจจุบันนี้ได้ ผมเลยมองว่าความเก่งและความดีต้องไปคู่กันเพื่อให้สหกรณ์สามารถพัฒนาได้อย่างยั่งยืน เป็นแหล่งที่สามารถทำประโยชน์ให้กับสมาชิกและสังคมได้ครับ
ทรัพยากรมนุษย์พันธุ์แท้
จากการที่ได้ทำความรู้จักกับหนังสือเล่มนี้มา 5 วัน อ่านไป ทำความเข้าใจไปกับสาระและแนวคิดพร้อมวิธีการปฏิบัติของ HR.CHAMPIONS ทั้งสองท่านแล้วทำให้เกิดแรงบันดาลใจและคล้อยตามความเชื่อที่ว่า "คน เป็นทรัพย์สินที่มีค่ามากกว่าทรัพย์สินอื่นใดในสหกรณ์ สหกรณ์จะประสบความสำเร็จได้ ต้องเริ่มจากการพัฒนาคนก่อน"
แนวคิดการที่จะพัฒนาคนในสหกรณ์
1. พัฒนาสมาชิกสหกรณ์
2. พัฒนากรรมการสหกรณ์
3. พัฒนาเจ้าหน้าที่สหกรณ์
4. พัฒนาครอบครัวของสมาชิกสหกรณ์
5. พัฒนาผู้ที่เกี่ยวข้องทำธุรกิจกับสหกรณ์
6. พัฒนาบุคลากรในขบวนการสหกรณ์
6. พัฒนาผู้คนในสังคม/ชุมชน ที่อยู่รอบๆสหกรณ์
ในฐานะฝ่ายจัดการของสหกรณ์ ในขั้นนี้จึงขอเสนอแนวความคิดการพัฒนาเจ้าหน้าที่สหกรณ์ก่อน
1. นำเสนอและทำความเข้าใจต่อคณะกรรมการและสมาชิกสหกรณ์ว่า การพัฒนาและ/หรือการฝึกอบรมให้แก่เจ้าหน้าที่เป็นการลงทุนในระยะยาวไม่ใช่ค่าใช้จ่าย เป็นการสร้างมูลค่าเพิ่ม(Value Added)ให้แก่เจ้าหน้าที่ ซึ่งจะเป็นกำลังสำคัญส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนสหกรณ์ให้ก้าวไปข้างหน้า
2. จัดทำแผนการให้การศึกษาอบรมแก่เจ้าหน้าที่ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว เสนอเข้าเป็นส่วนหนึ่งของแผนพัฒนาสหกรณ์ ระยะสั้นกำหนดให้เจ้าหน้าที่ทุกคน ทุกตำแหน่ง มีโอกาสได้รับการศึกษาอบรม(ภายนอก)อย่างน้อยคนละไม่ต่ำกว่า 1 หลักสูตรต่อปี ระยะยาว เสนอให้สหกรณ์จัดทุนการศึกษาให้เจ้าหน้าที่ศึกษาต่อในระดับที่สูงขึ้น ปีละ 2 ทุน ในระดับปริญญาตรี 1 ทุน และปริญญาโท 1 ทุน
3. เสนอจัดตั้งงบประมาณการฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ โดยกำหนดไว้ปีละ 1%ของค่าใช้จ่ายเงินเดือนเจ้าหน้าที่ และเสนอให้ใช้ทุนสาธารณประโยชน์จัดเป็นทุนการศึกษาต่อให้แก่เจ้าหน้าที่ปีละ 2 ทุน ปริญญาตรีและปริญญาโท
4. จัดฝึกอบรมแก่เจ้าหน้าที่ทุกคนเป็นประจำปี อย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง จัดฝึกอบรมโดยร่วมกันกับสหกรณ์ที่เป็นภาคี ปีละ 1 ครั้ง จัดส่งเจ้าหน้าที่อย่างน้อย 50% ไปเข้าร่วมกิจกรรมกับชมรมเจ้าหน้าที่ระดับภาคอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง จัดบรรยายให้ความรู้เฉพาะเรื่องที่เห็นว่าน่าสนใจ เช่น กฎหมายฟอกเงิน กฎหมายที่ดิน เรียนสนทนาภาษาอังกฤษ ฯลฯ ตามสมควร
5. จัดแข่งขันทักษะความสามารถของเจ้าหน้าที่เกี่ยวกับการใช้งานอุปกรณ์สำนักงาน เช่น ทักษะการพิมพ์ ทักษะการคำนวณ จัดสอบแข่งขันความรู้เกี่ยวกับสหกรณ์และบริการต่างๆของสหกรณ์ ฯลฯ เพื่อกระตุ้นให้เจ้าหน้าที่มีความตื่นตัว ใฝ่รู้อยู่เสมอ
6. จัดโครงการประกวดเจ้าหน้าที่ดีเด่นประจำปี มีเงินรางวัลและเกียรติบัตร มอบในวันครบรอบก่อตั้งสหกรณ์ทุกๆปี (13 มกราคม)
7. จัดให้เจ้าหน้าที่มีโอกาสไปศึกษาดูงานในหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในสหกรณ์ต่างๆทั้งในประเทศและต่างประเทศตามสมควร เพื่อเป็นการเปิดโลกทัศน์
8. จัดโครงการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ โดยเชิญวิทยากรมืออาชีพมาถ่ายทอดความรู้และประสบการณ์ให้แก่เจ้าหน้าที่สหกรณ์
<สิ่งที่ได้จากหนังสือทรัพยกรมนุษย์พันธุ์แท้>
ในการพัฒนาองค์กรไม่ว่าจะเป็นสหกรณ์หรือราชการก็ตาม คนเป็นสิ่งที่มีค่าที่สุดขององค์กร เนื่องจากตนเป็นตัวจักรสำคัญในการขับเคลื่อนที่สำคัญที่สุด ที่จะทำให้องค์กรประสบความสำเร็จเจริญก้าวหน้า ซึ่งต้องมีคุณสมบัติที่เป็นคนเก่ง (เก่งงาน เก่งคน เก่งคิด เก่งเรียน) และเป็นคนดี (ประพฤติดี มีนำใจ ใฝ่ความรู่ คู่คุณธรรม) จึงต้องมีแผนในการพัฒนาคนให้มีความรู้ความสามารถเพิ่มขึ่นอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามคนที่จะประสบความสำเร็จจะต้องเป็นคนที่พัฒนาตนเองโดยการรียนรู้ตลอดเวลา ขวนขวายใฝ่รู้เพื่อสร้างสมประสบการณ์ มีเครือข่าย (ไม่ทำงานคนเดียว) มีความคิดสร้างสรรค์ กล้าคิดนอกกรอบ ในขณะเดียวกันต้องมีระเบียบวินัย มีคุณธรรม ยึดมั่นในศึลธรรม ให้ความสำคัญกับเป้าหมายและคุณภาพการทำงาน และต้องไม่ลืมที่จะต้องใส่ใจและตอบแทนสังคมเมื่อมีโอกาส เช่นที่อาจารย์ทั้ง 2 ท่านได้นำความรู้และประสบการณ์ที่สั่งสมไว้มาถ่ายทอดเพื่อให้เกิดคนเก่งและดี เพื่อเป็นรากฐานที่ดีในการพัฒนาประเทศในรุ่นต่อไป
นอกจากนี้องค์กรมีส่วนสำคัญที่จะทำให้เกิดคนเก่งและดี และให้คนเหล่านี้จงรักภักดีต่อองค์กร เพื่อสร้างให้เกิดความเจริญอย่างยั่งยืน ไม่ว่าจะเป็นราชการหรือสหกรณ์ก็ตาม โดยมีปัจจัยที่สำคัญคือ 1. การสร้างวัฒนธรรมองค์กร ได้แก่ ความซื่อสัตย์ มีวินัย
2. ให้การอบรม/พัฒนาคนอย่างสมำเสมอ เพื่อทันสมัย 3. ให้สวัสดิการที่จำเป็น 4. ให้ผลตอบแทนทางใจ เช่น การชื่นชม การให้ความไว้วางใจ 5. สร้างความสัมพันธ์แบบพี่น้อง ดูแลทั้งเรื่องงานและเรื่องส่วนตัว เพื่อให้มีความรู้สึกรักใคร่ผูกพันช่วยเหลือซึ่งกันและกันกัน 6. สนับสนุนให้มีการควบคุมดูแลกันเอง อันเป็นการป้องกันความเสียหาย/ทุจริต 7. มีความยุติธรรม ทั้งในการเลื่อนเงินเดือน/ ตำแหน่ง 8. ให้ทุกคนมีส่วนร่วมในการตัดสินใจ เพื่อเกิดความภูมิใจ และรับผิดชอบ 9. มีระบบบริหารงานบุคคลที่ดี ให้คนมีความพึงพอใจในงานที่ได้รับมอบหมาย 10. ให้งานที่ท้าทายและมีโอกาสก้าวหน้า เพื่อดึงศักยภาพในตัวเขามาใช้ให้เกิดประโยชน์
เรียน อาจารย์จีระ ที่เคารพ
ผมขอสรุปประโยชน์ในการพัฒนาคนจากหนังสือของอาจารย์ว่าเป็นหนังสือที่มุ่งเน้นการพัฒนาคนไปสู่การพัฒนาองค์กรโดยให้ความสำคัญของคนเป็นอันดับแรก ซึ่งก็อาจมองได้ว่าคนเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนสหกรณ์ ภายใต้แนวคิดการพัฒนาบุคลากรเป็นการลงทุนของสหกรณ์ที่ไม่ใช่ต้นทุน แต่คนเป็นทรัพยากรที่สำคัญที่สุดที่ต้องการการเอาใจใส่ดูแล หมั่นพัฒนาให้เพิ่มพูนความรู้ความสามารถอยู่ตลอดเวลา เพื่อทำให้คนในสหกรณ์เป็นสมบัติที่มีค่าที่สุดของสหกรณ์
การที่จะทำให้การพัฒนาคนได้สำเร็จต้องสร้างแรงจูงใจ หรือ Motivation ซึ่งเป็นกลยุทธ์ที่สำคัญ เพราะแรงจูงใจมีอิทธิพลต่อคนในบทบาทหน้าที่ ที่จะขับเคลื่อนทรัพยากรมนุษย์ไปสู่ความสำเร็จทุกด้าน ต่อไป
ณฐกร แก้วดี
เรียน อาจารย์ ดร.จีระ หงส์ลดารมภ์
ก่อนอื่น กระผมต้องกราบขออภัยจากท่านอาจารย์ ที่ส่งการบ้านช้ากว่าที่อาจารย์กำหนด คือ ภายในวันที่ 15 กรกฎาคม 2553
ซึ่งหลังจากกลับจากอบรมฯผนส.5 (8-10 กค.53) วันเดินทางกลับกระผมกลับโดยรถโดยสารประจำทาง ขณะนั่งรอรถ กระผมได้
อ่านหนังสือ "ทรัพยากรมนุษย์พันธุ์แท้" มานั่งอ่านแต่ยังไม่จบ กลับถึงบ้านได้มีเวลาอ่านหลังเลิกงาน จากการได้อ่านหนังสือเล่มนี้
แล้ว ได้รับความรู้ แนวคิด เนื้อหาสาระที่กระผมยังไม่รู้ อยากรู้ และมีหลายเรื่องที่กระผมยังไม่เคยรู้ ซึ่งสามารถนำความรู้ไปปรับใช้
ให้เกิดประโยชน์อย่างยิ่งต่อองค์กร หรือสหกรณ์ หรือแม้แต่ในครอบครัวด้วย
จากหนังสือ "ทรัพยากรมนุษย์พันธุแท้" ทั้งท่านพารณ อิศรเสนา ณ อยุธยา และท่านอาจารย์ ดร.จีระ หงส์ลดารมภ์ ได้ถ่ายทอด
ความรู้ ความสามารถ ประสบการณ์ที่มีประโยชน์ต่อผู้ที่ได้อ่านหนังสือเล่มนี้เป็นอย่างยิ่ง
จากการอ่านหนังสือสรุปได้ใจความสำคัญในการพัฒนาคนในสหกรณ์ ว่า "หัวใจของการพัฒนาองค์กร คือ คน" กล่าวคือ คนเป็น
สมบัติที่มีค่ามากที่สุดขององค์กร การพัฒนาองค์กร ไม่ว่าจะเป็นระบบสหกรณ์ ระบบราชการให้เจริญก้าวหน้าจะต้องพัฒนาคน โดย
การเรียนรู้(Lernning) ซึ่งอาจารย์กล่าวว่า คนไม่มีแก่เกินเรียน รวมทั้งการทำงานเป็นทีมด้วย
ด้วยความเคารพอาจารย์พารณ อิศรเสนา ณ อยุธยา และอาจารย์ ดร.จีระ หงส์ลดารมภ์
เกษม ศรีเกื้อกลิ่น ผนส.5
สวัสดีเพื่อนๆ ผนส.5 ทุกคนครับ
วันนี้คงมีมีใครที่ยังไม่ส่งการบ้านนะครับ ผมเชื่อว่าถ้าทุกคนที่ได้อ่านหนังสือของอาจารย์ไม่ว่าจะมากหรือน้อยต่างก็ได้รับประโยชน์จากหนังสือเล่มนี้อย่างแน่นอนในการนำไปพัฒนาตัวเองและองค์กร ผมรู้สึกไม่ผิดหวังเลยที่พยายามเข้ามาเรียนในหลักสูตรนี้ให้ได้ ผมคิดว่าคงมีอีกหลายท่านที่คิดเหมือนผม วันศุกร์หน้าเจอกันนะครับ ผมมีความกระหายที่จะได้รับความรู้ใหม่ๆจากอาจารย์ผู้สอนทุกท่าน แล้วพบกัน ..บาย.....
อนุวรรตน์ อิ่มสมบูรณ์ ผนส.5
หนังสือทรัพยากรมนุษย์พันธุ์แท้ จากบทสนทนาของ พารณ อิศรเสนา ณ อยุธยา และจีระ หงส์ลดารมภ์ สรุปได้ว่าทั้ง 2 ท่าน มีประสบการณ์และเส้นทางเดินอันยาวนานที่มุ่งไปที่เป้าหมายอันเดียวกันคือการมุ่งมั่นในเรื่อง"ทรัพยากรมนุษย์"โดยทั้ง 2 ท่านเห็นว่า"คนเป็นสมบัติที่มีค่าที่สุดขององค์กรยิ่งกว่าเครื่องจักร เครื่องมือ โรงงาน ฯลฯ เพราะคนเป็นผู้มาเสนอแนะเวลามีปัญหาคนก็มาช่วยแก้ไขปัญหา จะมองหาธุรกิจใหม่ก็ต้องใช้คน เพราะฉะนั้นถ้าเรามีการบริหารคนให้ได้แล้ว ธุรกิจก็จะเจริญก้าวหน้าได้ดี เพราะคนจะมีแต่คุณค่าเพิ่มขึ้นทุกๆปีจากประสบการณ์ที่มากขึ้น แต่วัตถุจะมีคุณค่าลดลงทุกปีจากค่าเสื่อมที่เกิดขึ้น"คุณพารณ พูดถึง"เก่ง 4 ดี 4 คือ เก่งงาน เก่งคน เก่งคิด และเก่งเรียน ส่วนดี 4 คือ ประพฤติดี มีน้ำใจ ใฝ่ความรู้ คู่คุณธรรม"จึงพยายามสร้างคนแบบ Constructionism ทฤษฎีสร้างสรรค์ด้วยปัญญา คนเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ จึงต้องเรียนรู้และใฝ่รู้ไม่สิ้นสุด "ถ้าคนไทยมีความสามารถในการเรียนรู้ เรียนรู้ด้วยตนเองได้และเรียนรู้อยู่ตลอดชีวิต เราก็สามารถที่จะสู้กับคนทั้งโลกได้"
ส่วน ดร.จีระ มีความเห็นว่าคนเป็นปัจจัยสำคัญของธุรกิจ องค์กรที่ยอมลงทุนเรื่องคนถึงไปได้สวย และได้คิดค้นทฤษฎีเกี่ยวกับทุนมนุษย์ คือ"ทฤษฎี 8K's และ 5K's (ใหม่),ทฤษฎี 3 วงกลม,4L's และมักพูดถึงการสร้างนวัตกรรมใหม่และมีทฤษฎีการสร้างฐานความรู้สู่มูลค่าเพิ่ม และได้มอบบันไดแห่งความเป็นเลิศไว้ 4 ขั้น ง่ายๆคือ
1.ลองทำอะไรที่เริ่มจาก
Good ideas---Action---สู่ผลสำเร็จ
(Plan,Do,Chcek,Act)
2.อย่าทำอะไรโดยไม่มมี Priority (คือต้องมี Focus)
3.ทำโดยให้มี Participation ของทุกคนทุกระดับ
(คือการสร้างวัฒนธรรมการทำงานเป็นทีม)
4.ทุกโครงการต้องมีผู้เป็นเจ้าของ (คือมี Ownership)
สำหรับการนำไปใช้งานสหกรณ์นั้น ผมมีความเห็นว่า สมาชิกสหกรณ์เกิดจากการรวมตัวกันเพื่อช่วยเหลือซึ่งกันและกัน จึงมีความเข้าใจและไว้วางใจกันสูง เรียกว่ามีความเป็นพี่น้องสูง เราดำรงความเป็นพี่น้องนี้ได้นานเท่าใด? เพราะเมื่อนานไปองค์กรใหญ่ขึ้นความเป็นพี่น้องมักน้อยลงมีการเมืองเข้ามาแทรก ถ้าการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ โดยเฉพาะด้านจิตสำนึก ทำได้ดีเราก็จะยังคงมีความเป็นพี่น้องกันได้ตลอดไป สหกรณ์ก็จะเข้มแข็งเป็นที่พึ่งเป็นเพื่อน เป็นที่ที่มีความรู้สึกเป็นของเราเอง ไม่มีใครแย่งจากเราไปได้ ผมจึงคิดว่า ควรพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ใน 2 ด้าน พร้อมๆกันไป คือพัฒนาคนที่จะก้าวขึ้นมาเป็นกรรมการในวันข้างหน้าให้มีประสิทธิภาพและความก้าวหน้า แบบเก่ง 4 ดี 4 โดยใช้ทฤษฎี 3 วงกลม ในการวาง Context เพิ่ม Competencies และสร้าง Motivation ส่วนอีกด้านหนึ่งควรพัฒนาสมาชิกสหกรณ์ให้มีความรู้คู่คุณธรรมสามารถใช้ชีวิตแบบมีสติตามหลักศาสนาพุทธ และบริหารจัดการสหกรณ์แบบสมาชิกมีส่วนร่วมมากที่สุด (Participative Management) ในการสร้างเครือข่ายและติดต่อแสดงความเห็นผ่านระบบ IT แบบ Social Network
จากหนังสือทรัพยากรมนุษย์พันธุ์แท้ เป็นการกล่าวถึงการพัฒนาองค์กรให้ประสบความสำเร็จได้ด้วยการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ซึ่งถือว่าคนเป็นสินทรัพย์ที่สำคัญที่สุดขององค์กร คนเป็นสมบัติมีค่าที่สุดขององค์กร ความสำเร็จและความก้าวหน้าขององค์กรจะเกิดขึ้นได้ก็ด้วยคน จึงต้องมีการพัฒนาคน ให้มีความรู้ความสามารถเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ โดยมุ่งเน้นการเรียนรู้ และนำความรู้ความสามารถของคนออกมาใช้อย่างเต็มที่ มุ่งเน้นในการดูแลคนในองค์กรตั้งแต่เริ่มเข้าทำงานจนเกษียณอายุการทำงาน รวมถึงครอบครัวของเขาด้วย สร้างแรงจูงใจ ด้วยผลตอบแทนที่เป็นเงินและไม่ใช่เงิน "คนไม่ได้ต้องการผลตอบแทนที่เป็นเงินทองอย่างเดียว แต่ต้องการผลตอบแทนทางใจด้วย"
ในระบบสหกรณ์ และระบบราชการ หากต้องการพัฒนาองค์กรให้ประสบความสำเร็จ และมีความเจริญก้าวหน้า ควรนำแนวทางในการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ พัฒนาคนมาปรับใช้กับองค์กรควบคู่ไปกับการพัฒนางาน เพราะความสำเร็จของงานอยู่ที่คน
รู้สึกประทับใจ ผนส.รุ่นพี่ (1-4) เป็นอย่างมากที่มาให้การต้อนรับอย่างอบอ่น อยากจะขอบคุณมาหลายวันแล้ว แต่ไม่มีความรู้ในเรื่องของการส่งข้อความต้องให้น้อง ๆ ในที่ทำงานช่วยสอนให้ ขอขอบคุณรุ่นพึ่จากใจอีกครั้งค่ะ
น้อง ผนส.รุ่น5
ผมได้อ่านหนังสือ เรื่อง ทรัพยากรมนุษย์พันธุ์แท้ ซึ่งเป็นบทสนทนา การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ของคุณพารณ อิศรเสนา ณ อยุธยา กับ อาจารย์ สิ่งที่ได้ที่จะนำมาใช้มีมากมาย แต่สิ่งที่จะนำมาใช้ในการพัฒนา สหกรณ์ออมทรัพย์การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ซึ่งผมเห็นว่า เป้าหมายของสหกรณ์ฯ เน้นที่จะให้สมาชิกอยู่ดีกินดีมีคุณภาพที่ดีขึ้น ซึ่งจะต้องขึ้นอยู่กับตัวสมาชิกเป็นหลัก จะต้องรู้จักออม รู้จักใช้เงินที่ได้จากการกู้สหกรณ์ไปใช้ให้เกิดผลประโยชน์ของสมาชิกและครอบครัว และดำเนินการให้สหกรณ์ฯ เป็นองค์กรสวัสดิการของสมาชิก อีกทั้งต้องการให้ ตัวสหกรณ์เองมีความมั่นคง ยั่งยืน สหกรณ์จะสำริดตามเป้าหมายดังกล่าว ขึ้นอยู่กับบุคคลสามกลุ่มด้วยกัน
สิ่งหนึ่งที่อยู่ในหนังสือ ซึ่งอาจารย์ใช้ดำเนินการในการพัฒนาบุคคลกรคือ บันไดแห่งความเป็นเลิศซึ่งประกอบไปด้วย
ใน 7 ข้อนั้นในขณะนี้ที่ผมสามารถดำเนินได้คือ ข้อ 1 และ ข้อที่ 3 ซึ่งจะนำไปใช้ในการพัฒนาให้เจ้าหน้าที่สหกรณ์ มีความรู้ความสามารถมีสมรรถนะในการทำงาน สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสหกรณ์ได้ และอีกอย่างหนึ่งซึ่งสามารถใช้ได้เลย คือแนวทางของอาจารย์ในเรื่องการนำความสามารถของคนแต่ละคนมารวมกันเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดในการดำเนินงาน
เรียน ศ.ดร.จีระ หงส์ลดารมภ์
ผมขอส่งรายงานสรุปจากหนังสือ “ทรัพยากรมนุษย์พันธ์แท้” และการพัฒนาสหกรณ์มาให้อาจารย์พิจารณาครับ
รศ.ปรากรม ประยูรรัตน์
ผู้นำสหกรณ์ขั้นสูง รุ่นที่ 5
หนังสือทรัพยากรมนุษย์พันธ์แท้ มีหลักการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ที่สามารถนำมาใช้ได้ 80-90 เปอร์เซ็นต์ เนื่องจากยังมีวิธีการและหลักการที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาอีกหลายอย่างที่ต้องค้นคว้าหาเทคนิคใหม่ ๆ อีก จากหนังสือนี้พอสรุปได้บ้างว่า การพัฒนาคนจำเป็นต้องพัฒนาตั้งแต่เกิดไปจนกระทั่งตาย พัฒนาในทุกช่วงอายุ (เด็ก วัยรุ่น กลางคน ผู้สูงอายุ) พัฒนาในหน้าที่ แต่ละหน้าที่ในการงาน พัฒนาคนในการรับผิดชอบต่อสังคม ประเทศชาติ และพัฒนาการมีส่วนร่วมของสังคมโลก การพัฒนาคนต่าง ๆ เหล่านี้ ต้องเน้นไปในด้าน คนเก่ง คนดี มีคุณภาพ คงไม่ใช่พัฒนาเพื่อได้คนเก่ง คนเลว อย่างแน่นอน
หนังสือได้กล่าวถึงการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์หลายแง่หลายมุมมอง แต่พอประมวลมุมมอง ได้โดยแบ่งเป็นหัวข้อ คือ
1. คุณสมบัติของผู้บริหารที่จะไปพัฒนาที่จะไปพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ต้องพร้อมทุกๆ ด้าน ดังนี้
1.1 ต้องเป็นต้นแบบที่ดี
1.2 ต้องมองคนในแง่บวก สุภาพ มีเมตตา ทำมากกว่าพูด
1.3 ต้องมีความอดทน กัดไม่ปล่อย (ทำระยะยาวได้)
1.4 ต้องมุ่งมั่นถึงความสำเร็จ
1.5 ต้องเป็นคนดี คนเก่ง มีความสามารถ
1.6 ต้องมีความประพฤติดี มีน้ำใจ ใฝ่ความรู้ คู่คุณธรรม
1.7 ต้องเป็นคนเอาจริงเอาจัง มีกลยุทธ์และการวางแผนเป็นระบบ
1.8 ต้องเป็นคนเห็นความสำคัญของคน(ทรัพยากรมนุษย์)
1.9 ต้องเป็นคนเห็นความสำคัญของการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์
1.10 ต้องให้ความสำคัญพนักงาน(ดูแลความเป็นอยู่)
1.11 ต้องตรงต่อเวลา
1.12 ต้องใจกว้าง รับฟังความคิดเห็นของคนอื่น
1.13 ต้องทำการบ้าน มีความอดทน
1.14 ต้องมีจิตใจดี พื้นฐานดี
1.15 ต้องมีระเบียบ วินัย
1.16 ต้องมีความซื่อสัตย์ สุจริตทั้งการคิดและการกระทำ
1.17 ต้องอุทิศตัวต่อองค์กรอย่างจริงใจ
1.18 ต้องมีความจงรักภักดีต่อองค์กร
1.19 ต้องมีจริยธรรม
1.20 ต้องใฝ่ใจในการเรียนรู้ตลอดเวลา
1.21 เห็นประโยชน์ส่วนรวมมากกว่าส่วนตัว
1.22 ต้องจริงจัง จริงใจต่อคนอื่น
1.23 ต้องทำงานเป็นทีมได้
1.24 ต้องมีความคิดริเริ่ม มีวิสัยทัศน์ มองไกล มองลึก มองกว้าง
1.25 ต้องติดตามทันต่อการเมือง เศรษฐกิจและสังคม
1.26 ต้องเป็นนักวิชาการหรือส่งเสริม นักวิจัยเพื่อพัฒนา รวมทั้งการถ่ายทอดความรู้ไม่ปิดบัง และมีเทคนิคการถ่ายทอดที่ดี
2. วิธีการสร้างการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์
2.1 ให้การศึกษา อบรม ให้ความรู้ สร้างองค์กรแห่งการเรียนรู้
2.2 ปลูกฝังบุคลากร (แนวคิด ความรู้ด้านทรัพยากรมนุษย์)
2.3 สร้างความสามารถ สร้างแรงจูงใจ
2.4 สร้างความยอมรับ
2.5 สร้างระบบพี่เลี้ยง เพื่อให้อุ่นใจ
2.6 สร้างระบบควบคุมกันเอง ควบคุมโดยสังคม
2.7 สร้างจรรยาบรรณในองค์กร
2.8 สร้างวัฒนธรรมองค์กร
2.9 สร้างสภาพแวดล้อมดี บรรยากาศดี ใจสงบ
2.10 สร้างบรรยากาศการเรียนรู้ดี
2.11 สร้างคนทุกระดับ ระดับล่าง กลาง บน
2.12 สร้างคนทุกอาชีพ
2.13 สร้างคนในอายุต่าง ๆ กัน
2.14 สร้างความเป็นธรรมในองค์กรให้โปร่งใส ยุติธรรม
2.15 สร้างทีมเวิร์ค ทำงานเป็นทีม (คนเก่ง คนไม่เก่ง)
2.16 สร้างโปรแกรมการจัดการ (บริหารกลยุทธ์ การบริหารทรัพยากรบุคคล ให้ความรู้ทันสมัย ที่บริหารงานได้)
2.17 สร้างความรัก จงรักภักดี เพื่อสร้างผลผลิต
2.18 สร้างส่วนทีเป็นการประเมินผลของการพัฒนาคน
3. อุปกรณ์การสร้างทรัพยากรมนุษย์
3.1 เงินควรมีการลงทุนเรื่องของการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ให้มาก โดยเฉพาะงบประมาณที่เหมาะสมเพียงพอ คิดถึงทรัพยากรมนุษย์อย่างจริงใจ (เงินไม่สำคัญเท่ากับจิตสำนึกของคนที่ให้ความร่วมมือ)
3.2 ทุนการศึกษาระดับสูงขึ้น ทุนอบรมและสัมมนาฯลฯ
3.3 ทีมงาน ต้องพร้อมและเป็นคนดี คนเก่ง เอาจริงเอาจัง
3.4 การสร้างโอกาสรวมทั้งมีส่วนร่วมให้สังคมเพื่อพัฒนาทรัพยากรมนุษย์
4. ผลที่ได้รับจากการทรัพยากรมนุษย์
4.1 ได้สร้างคนให้เก่งงาน เก่งคน เก่งคิด เก่งเรียน มีความสุข
4.2 ได้สร้างคนดีที่ต้องการ ใฝ่การเรียนรู้ตลอดชีวิต
4.3 ได้สร้างคนเก่ง (ความสามารถ ความยอมรับ)
4.4 ได้เป็นผู้มีศักยภาพ(มีความรู้ ค้นคว้าหาความรู้ ให้ความรู้)
4.5 ได้ผู้บริหารเห็นความสำคัญของการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์อย่างถ่องแท้มากขึ้น และเกิดมูลค่าเพิ่มในตัวมนุษย์
4.6 ได้สร้างคนให้มีคุณธรรมและจริยธรรม
4.7 ได้ผู้บริหารพันธุ์ใหม่ที่มีความพร้อมทุกด้าน
5. การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ให้ได้ผลดี ต้อง
5.1 ต้องเห็นคุณค่าของทรัพยากรมนุษย์
5.2 ต้องยอมรับทรัพยากรมนุษย์
5.3 ต้องมีกลยุทธ์
5.4 ต้องเอาจริงเอาจัง
5.5 ต้องเห็นความสำคัญของทรัพยากรมนุษย์
5.6 ต้องผสมผสานกัน เห็นพ้องต้องกันของคนทุกคน
6. คุณภาพของการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์
หน่วยงานต่าง ๆ ของทางราชการและองค์กรรัฐและเอกชนยังย่ำอยู่กับที่ ไม่มีการพัฒนานาให้ดีขึ้นในทุกด้านมีแต่ทรุดลงโดยตลอด ทั้งมีปัจจัยหลายประการที่เป็นผลให้เกิดขึ้น
6.1 การเมืองเข้ามาครอบงำ ล้วงลูก เพื่อหวังผลประโยชน์ส่วนตัว มากกว่าประโยชน์ส่วนรวม
6.2 ข้าราชการพนักงาน ของรัฐและเอกชน ยังมีความโลภ หลง ต่อผลประโยชน์ส่วนตัวมากกว่าส่วนรวม มองเห็นเงินเป็นปัจจัยหลัก จนไม่สามารถคิดถึงความดี ความถูกต้องต่อการพัฒนาองค์กร
6.3 การพัฒนาองค์กร มักคิดแต่เรื่องของการต้องใช้เงิน ต้องมีเทคโนโลยี การบริหารจัดการมากเกินไป ไม่คิดถึงเรื่องการพัฒนาคน
6.4 การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ให้ได้ผลดี ทันต่อความเจริญของโลก ผู้บริหารทุกระดับ ตั้งแต่รัฐบาลจนกระทั่งหน่วยงานเล็ก ๆ รวมทั้งเอกชนต้องตระหนักถึงความสำคัญในเรื่องทรัพยากรมนุษย์ซึ่งมีผลต่อการพัฒนาประเทศและพัฒนาโลก และจะทำให้ทุกระดับพัฒนาไปได้
7. คุณภาพทรัพยากรมนุษย์
เนื่องจากคนไม่ได้รับการให้ความรู้ ไม่มีความรู้ ความเข้าใจต่อการทำงาน และคนก็ไม่ยอมพัฒนาด้วยตนเอง ทำให้ความเสื่อมถอยของชีวิต ทั้งด้านความรู้และความดีหมดไปและยังไม่สนใจการแสวงหาความรู้ด้วย ซึ่งเป็นเหตุให้มีคุณภาพลดลงเป็นผลให้การต่อสู้ในยุคโลกาภิวัฒน์ไปได้ช้า โดยเฉพาะประเทศไทย คนไทยมีการพัฒนาตัวเองน้อยลง คุณภาพการศึกษาก็ด้อยคุณภาพลง ความจริงขณะนี้คือ การเรียนจบ ป.4 ควรอ่านหนังสือ เขียนหนังสือได้ดี แต่ปัจจุบัน ป.4-ม.3 มีเปอร์เซ็นต์สูงที่ยังอ่านหนังสือไม่ออก เขียนไม่ได้ และ ม.8 (มศ.5) สมัยก่อนสามารถทำงานตามหน่วยงานของรัฐ หรือตามองค์การต่าง ๆ ได้อย่างดี มีคุณภาพและมีความรับผิดชอบ แต่ปัจจุบันผู้ที่จบ ม.6 ปริญญาตรี ปริญญาโท ทำงานไม่เป็น คิดไม่เป็น วิเคราะห์ไม่เป็น ส่วนครูและผู้บริหารสถานศึกษา ไม่มีความรู้จริงด้านวิชาการ และการสอน ส่วนผู้บริหารไม่มีความรู้ด้านบริหาร ละเลยไม่สนใจการแก้ปัญหา ซึ่งเห็นได้ชัดเจนว่าการศึกษาหรือการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ตกต่ำลงอย่างมาก ทำให้ทรัพยากรมนุษย์ตกต่ำตามลงไปอีกมาก สิ่งต่างๆ เหล่านี้เกิดขึ้นในช่วงระยะ 10-20 ปีที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบันนี้ ความตกต่ำยังคงตกต่ำอยู่ ยังไม่มีทีท่าทีจะดีขึ้น
การแก้ไขต้องมีการสร้างวัฒนธรรมการเรียนรู้ใหม่ของบุคลากรทุกระดับ ตั้งแต่เด็กแรกเกิดไปจนกระทั่งอุดมศึกษา โดยที่หาผู้บริหารที่เอาจริงเอาจังมาพัฒนา รวมถึงบุคลากรในสถานศึกษา และคนในครอบครัวต้องเป็นคนดี คนเก่ง ที่ตระหนัก พัฒนาตนเองใหม่และคิดถึงผลประโยชน์ประเทศชาติมากประโยชน์ส่วนตัว
8. บทสรุป
ปัจจุบันหน่วยงานราชการ เอกชน ขาดแคลนทรัพยากรมนุษย์ที่มีคุณภาพในทุกๆด้าน เช่น เทคโนโลยี การบริหาร IT การเงินธนาคาร คุณภาพด้านภาษา ฯลฯ ซึ่งช่องว่างดังกล่าวเป็นผลต่อการพัฒนาประเทศ ทำให้ไม่สามารถก้าวทันต่อประเทศที่พัฒนาแล้วหรือประเทศใกล้เคียงเช่นสิงคโปร์และมาเลเซีย เป็นต้น
ดังนั้น การลงทุนด้านการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์หรือพัฒนาคนย่อมเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดที่ควรดำเนินการอย่างเร่งด่วน ทรัพยากรมนุษย์ที่ควรสร้าง เพื่อพัฒนาองค์กร ประเทศชาติได้แก่ การปลูกฝังให้เป็นวัฒนธรรมของการมีปรัชญาของการบริหาร และการอยู่ร่วมกันให้มีความสุข มีวิสัยทัศน์ การศึกษาเรียนรู้ตลอดชีวิต การเพิ่มผลผลิตให้องค์กร การใช้เทคโนโลยี คุณภาพชีวิต การมีธรรมะประจำใจ เป็นต้น
การพัฒนาคนกับการเพิ่มผลผลิต ซึ่งนำไปสู่ความสำเร็จ การสร้างผลผลิต แต่ปัจจุบันทางด้านนี้อาจผิดเพี้ยนไปบ้าง กล่าวคือ อยู่ในสภาพที่เกินความสมดุล ตัวอย่าง เช่น ลงทุนน้อย กำไรมาก หรือการกอบโกยสิ่งไม่ควรได้ ทำให้ขาดดุลยภาพได้ ดังนั้น จึงต้องมีปรัชญาของทรัพยากรมนุษย์ให้ถูกต้อง และต้องดึงสภาพดังกล่าวให้เข้ามาอยู่ในดุลยภาพให้ได้
การพัฒนาคนให้มีคุณภาพก็พอทำได้ แต่ต้องให้กำลังแรงมาก ที่จะมาฉุดหรือลากขึ้นมา โดยต้องมีความตั้งใจจริง ตั้งใจสูง จึงประสบความสำเร็จได้
9. แนวทางการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ในสหกรณ์เพื่อพัฒนาสหกรณ์
ถ้าจะกล่าวถึงการพัฒนาสหกรณ์ให้ดีขึ้น ต้องพิจารณาสิ่งทีเป็นพื้นฐานของสหกรณ์ก่อน เช่น ความเข้าใจหลักการสหกรณ์ วิธีการสหกรณ์ คุณค่าสหกรณ์ อุดมการณ์สหกรณ์ ความหมายของสหกรณ์ นอกจากนี้ยังต้องรู้ทรัพยากรมนุษย์ของคนในสหกรณ์ว่าอยู่ในระดับใด เป็นต้น ถ้าเข้าใจและมีข้อมูลพื้นฐานอยู่แล้ว จึงสามารถจะพัฒนาสหกรณ์ได้
สิ่งที่เป็นปัญหามากที่สุดขณะนี้ คือบุคลากรทุกฝ่ายส่วนใหญ่ไม่เข้าใจพื้นฐานงานสหกรณ์อย่างแท้จริง ระบบสหกรณ์ หลักการสหกรณ์ รวมทั้งการดำเนินการธุรกิจของสหกรณ์แต่ละประเภท ดังนั้นจึงจำเป็นต้องพัฒนาคนในทุกระดับเสียใหม่โดยวิธีการศึกษาเรียนรู้ด้วยตนเอง ฝึกอบรม สัมมนาวิชาการ เพื่อให้คนของสหกรณ์มีคุณภาพ เป็นคนดี คนเก่ง มีความสามารถ ได้รับการยอมรับ มีความรู้ มีความซื่อสัตย์สุจริตทั้งความคิดและการกระทำ ทำงานเป็นทีม ไม่แตกแยก แย่งชิงตำแหน่งในทุกระดับ เป็นต้น
รศ.ปรากรม ประยูรรัตน์
ผู้นำสหกรณ์ขั้นสูง รุ่นที่ 5
เรียนท่านอาจารย์ ดร.จีระ หงส์ลดารมภ์
จากการได้อ่านหนังสือสรุปได้ว่า เป็นการสะท้อนแนวความคิดและประสบการณ์ของอาจารย์พารณ อิศรเสนา ณ อยุธยา และ ดร.จีระ หงส์ลดารมภ์ นักคิดและนักปฏิบัติ 2 ท่าน ที่มีวิธีคิดและจุดหมายที่คล้ายกัน โดยทั้ง 2 ท่าน ต่างแสดงให้เห็นแนวคิดในการบริหารบุคลากร ซื่งถือได้ว่าเป็นทรัพยากรที่มีคุณค่าสูงสุดเพราะคนเป็นสมบัติที่มีค่าที่สุดขององค์กร
ซึ่งดิฉันมีความประทับใจในทฤษฎี 3 วงกลม
วงกลมที่ 1 เรื่อง Context คือ บริบทของการบริหารทรัพยากรมนุษย์ พูดถึงเรื่องสภาพแวดล้อมขององค์กรที่เอื้ออำนวยต่อการทำงาน การจัดองค์กรให้มีความเหมาะสม คล่องตัว เน้นการทำงานแบบ process การใช้ระบบสารสนเทศ หรือ IT เข้ามาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ
วงกลมที่ 2 เรื่อง Competencies คือสมรรถนะ หรือ ทักษะความสามารถของบุคลากรในองค์กร ซึ่งหมายถึง การพัฒนาสมรรถนะในด้านต่าง ๆ แก่บุคลากรในองค์กรให้มีความพร้อมที่จะทำงานได้อย่างเต็มที่ อาจารย์จีระมองว่า Competencies ที่
สำคัญในการทำงานยุคใหม่ ประกอบด้วย 5 เรื่องสำคัญ ๆ ประกอบด้วย
.Functional Competency คือ ทักษะหรือความรู้ที่เราต้องเพิ่มเติมเกี่ยวข้องการทำงาน เช่น วิศวกร ต้องฝึกเรื่องช่าง บัญชีก็ต้องฝึกเรื่องบัญชี เป็นต้น
.Organizational Competency คือ มีความรู้ที่มีประโยชน์ต่อองค์กร เช่น การศึกษาเรื่อง Reengineering, Six Sigma, การปรับองค์กร, TQM, วัฒนธรรมองค์กร, การทำงานเป็นทีม, การสร้างองค์กรแห่งการเรียนรู้
.Leadership Competency คือ มีภาวะผู้นำ ซึ่งจะต้องเน้นเรื่อง การสร้างวิสัยทัศน์ (Vision) ความสามารถในการบรหารจัดการกับคน (People Skill) และการสร้างศรัทธา (Trust)
.Entrepreneurial Competency คือมีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ มีความคิดในเชิงผู้บริหาร กล้าเผชิญหน้ากับความส้มเหลว และสามารถบริหารความเสี่ยงได้
.Macro and Global Competency คือ มีความรู้รอบตัว มองภาพใหญ่ของการทำงานในอนาคตได้ รู้ทันเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น และมากระทบกับตัวเรากับการทำงานทั้งในระดับประเทศและระดับโลก สามารถแสวงหาโอกาส และหลีกเลี่ยงความเสี่ยงต่าง ๆที่เกิดขึ้นได้
ในวงกลมที่ 2 นี้ เรียกว่าเป็นทฤษฎีเพิ่มศักยภาพของคน ซึ่งไม่ได้วัดว่าจะจบจากที่ไหน แต่จะต้องดูว่าทรัพยากรมนุษย์ที่เราต้องการจะต้องมี Competencies อย่างไร
วงกลมที่ 3 เรื่อง Motivation คือ การสร้างแรงจูงใจ คือ เมื่อองค์กรน่าอยู่แล้วคนมีศักยภาพแล้ว ที่สำคัญคือเขามีแรงจูงใจให้อยากทำงานให้เราอย่างเต็มที่หรือไม่ ?
การสร้างแรงจูงใจทำในรูปแบบที่เป็นตัวเงิน และไม่เป็นตัวเงิน ที่เป็นตัวเงินก็ เช่น การขึ้นเงินเดือน การให้โบนัส การให้สวัสดิการในรูปแบบต่าง ๆ ที่ไม่เป็นตัวเงินก็เช่น การยกย่องให้เกียรติ การชมเชย การมอบหมายงานที่ท้าทาย การมีส่วนร่วม การมีความโปร่งใส การทำงานเป็นทีม ฯลฯ
และทานอาจาย์ได้สะท้อนให้เห็นถึงแนวความคิดที่ควรเปิดโอกาสให้คนที่มีศักยภาพ และให้โอกาสในการทำงานโดยไม่จำเป็นต้องดูเรื่องอาวุโส
ประมาณว่า ทำอย่างไร ให้ได้ใจ ถ้าได้ใจ แล้วอะไร ก็ได้มา
ถ้าไม่ได้ใจ สิ่งที่ได้มา ก็ไม่ดี
อาจารย์ค่ะ ดิฉันต้องขออภัยด้วยนะค่ะที่ส่งการบ้านช้ากว่ากำหนด เพราะดิฉันไม่มีความรู้ในเรื่องของการส่งข้อความ เช่น เดี่ยวกับพี่ยุวดี และขณะนี้ก็ได้รับความอนุเคราะห์จากน้อง ๆ ในที่ทำงานช่วยสอนให้ ดีใจค่ะเพราะว่าเปิดเน็ตได้แล้ว ปกติไม่เคยสนใจที่จะใช้เลยค่ะ ถ้าไม่เป็นเพราะอาจารย์ดิฉันคงใช่ไม่เป็นแน่
ขอขอบพระคุณท่านอาจารย์เป็นอย่างสูงค่ะ
นางเจริญศรี โสระมัด ผนส. รุ่นที่ 5
บทสรุป
การพัฒนาคนในองค์กรสหกรณ์
เนื่องทรัพย์กรมนุษย์ถือว่ามีความสำคัญมากกว่าทรัพย์กรอื่นใด เพราะมนุษย์เป็นได้ทั้งผู้สร้าง ผู้พัฒนา และผู้ทำลายทรัพยากรอื่นๆ เพื่อเป็นการยกระดับทรัพยากรมนุษย์ รวมทั้งเห็นคุณค่าของการทำงานขององค์กรและส่วนรวม จึงจำเป็นต้องมีการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์อยู่เสมอเพื่อที่จะได้รับประสบการณ์และความรู้ใหม่ นำกลับไปพัฒนาองค์กรและสังคมที่ตนมีส่วนร่วม
สหกรณ์เป็นองค์กรที่ประกอบด้วยบุคคลรายฝ่าย ซึ่งมารวมตัวกันเพื่อดำเนินกิจกรรมร่วมกันทางธุรกิจและทางสังคม โดยมีฝ่ายบริหารและฝ่ายจัดการ สมาชิกและหน่วยงานอื่นๆ ที่สนับสนุนและเกี่ยวข้องซึ่งต้องมีการประสานงานกันโดยตลอด แต่ละฝ่ายล้วนมีบทบาทและหน้าที่ต่างกัน และในแต่ละฝ่ายประกอบด้วยบุคคลซึ่งมีความสามารถที่ต่างกัน มีศักยภาพต่างกัน ดังนั้น ผู้นำองค์กรของสหกรณ์จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องศึกษาหาข้อมูลด้วยวิธีต่างกันเพื่อให้ทราบถึงความแตกต่างกันในแต่ละบุคคลของผู้ร่วมงานเพื่อให้เกิดการพัฒนาคน พัฒนางาน ควบคู่กันไป
ปัจจัยที่สำคัญเหนือสิ่งอื่นใด คือ การดูแล คน อย่างดี เพราะมีแนวคิดว่าคนเป็นสิ่งที่มีค่าที่สุดขององค์กรงานจะสำเร็จได้ด้วยคน อีกอย่างหนึ่งในการทำงานคือการเพิ่มผลผลิตประสบความสำเร็จก็ คือ ความจงรักภักดีและความมีวินัยของคนในองค์กร เมื่อมีความเข้าใจร่วมกันและเห็นพ้องต้องกันแล้วก็ทำกันอย่างพร้อมเพียงให้บรรลุเป้าหมายอย่างรวดเร็ว
1.ผู้นำองค์กร ต้องมีศักยภาพที่สูง มีความคิดริเริ่ม มองการไกล มองลึก และกว้าง เป็นคนที่มีวิสัยทัศน์ มีความคิดริเริ่ม และทันต่อเหตุการณ์ มีความสามารถในการบริหารจัดการ และสร้างศรัทธา สามารถบริหารจัดการได้
2.สภาพแวดล้อมขององค์กรที่เอื้ออำนวยต่อการทำงานการจัดองค์กรให้มีความเหมาะสมคล่องตัว เน้นที่การทำงานอย่างมีระบบและมีกระบวนทัศน์ในการใช้ระบบสาระสนเทศ หรือใช้เทคโนโลยีเข้ามาเสริมให้มีประสิทธิภาพ
3.สมรรนะหรือทักษะ ความสามารถของบุคลากรในองค์กร หมายถึงการพัฒนาในด้านต่างๆแก่บุคคลในองค์ให้มีความพร้อมที่จะทำงานอย่างเต็มที่ โดยไม่มองเห็นงานเป็นภาระ ทำงานอย่างมีความสุข เรียกว่าเป็นทฤษฎีเพิ่มศักยภาพของคนซึ่งไม่ได้วัดว่าจบจากไหน แต่ดูว่าบุคลากรในองค์กรที่เราต้องการที่จะต้องให้มี คือ
ทักษะ ความรู้ที่ต้องเพิ่มเติมเกี่ยวกับการทำงานในหน้าที่ที่รับผิดชอบ
ความรู้ เพื่อที่จะได้มีประโยชน์ต่อองค์กร และการทำงานเป็นทีม
ความคิด ควรที่จะต้องมีความคิดริเริ่ม ความคิดสร้างสรรค์
ความรู้ จะต้องมีความรู้รอบตัว สามารถแสวงหาความรู้ใหม่ๆ เข้ามาเพื่อจะนำมาพัฒนาองค์กร
การสร้างแรงจูงใจ เมื่อองค์หน้าอยู่ คนมีศักยภาพ ที่สำคัญคือการสร้างแรงจูงใจให้กับเจ้าหน้าที่เพื่อที่เขาจะได้ทำงานให้กับองค์กรอย่างเต็มที่ เป็นในแบบตัวเงิน หรือมิใช่ตัวเงิน คือการยกย่องให้เกียรติการชมเชย เป็นต้น
จากที่กล่าวมา หากผู้นำสหกรณ์สามารถนำมาบูรณาการและปรับใช้ในการบริหารจัดการสหกรณ์จะทำให้สหกรณ์ประสบผลสำเร็จ และสำฤทธิ์ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้
สมคิด ศรีพยัคฆ์ ผนส.รุ่นที่ 5 [email protected]
จากการที่ได้อ่าน “ทรัพยากรมนุษย์พันธุ์แท้” สรุปได้ดังนี้ ทั้งคุณพารณ อิศรเสนา ณ อยุธยา และดร.จีระ หงส์ลดารมภ์ ที่มีความเชื่อ ความศรัทธา และมุ่งมั่นในเรื่องของมนุษย์ตรงกัน คือความตระหนัก ถึงทรัพยากร ที่สำคัญที่สุดขององค์กร คือ คน เป็นกลไกในการดำเนินกิจกรรมให้ประสบความสำเร็จ คือ
3. มีการกำหนดเป้าหมายขององค์กร สร้างกลยุทธ์เพื่อเป็นแนวทางในการดำเนินไปสู่เป้าหมาย และกระจายจากกลยุทธ์ไปสู่แผนระดับปฏิบัติการ โดยกลยุทธ์และแผนในแต่ระดับและแต่ละส่วนงานต้องสอดคล้องประสานกัน เพื่อให้บรรลุเป้าหมายในส่วนงานของตนและเป้าหมายในส่วนงานของตนและเป้าหมายรวมขององค์กรด้วย
4. ให้พนักงานทำงาน อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล ซึ่งต้องใช้การประสานงาน การติดต่อสื่อสารที่ดี การจูงใจในการทำงาน ผู้บริหารต้องมีภาวะผู้นำที่เหมาะสม ลดความขัดแย้งและตรึงเครียด
5. มีความกล้าในการแสดงความคิดและตัดสินใจ ต้องมีวิสัยทัศน์กว้างไกล ที่จะเป็นผู้นำพาองค์กรให้ก้าวหน้ายิ่งขึ้นไป
การพัฒนาโดยมุ่งเน้นการเรียนรู้พร้อมทั้งกลยุทธ์ในการสร้างความเป็นเลิศให้องค์กร จากแรงจูงใจ แรงจูงใจที่โดดเด่น คือการมีจุดร่วมที่ผู้บริหารมีใจตรงกัน มีความศรัทธาซึ่งกันและกัน และความร่วมมือร่วมใจของทุกคนในองค์กร เพราะฉะนั้นบุคลากรในองค์กรทุกระดับจะต้องได้รับการพัฒนา เพื่อให้บรรลุเป้าหมาย และองค์กรณ์ก็จะประสบความสำเร็จ
สรุปการพัฒนาคน จากหนังสือทรัพยากรมนุษย์พันธุ์แท้
การพัฒนาทรัพยากรในองค์กรถือว่าเป็นการลงทุนอย่างหนึ่งขององค์กร ซึ่งถือได้ว่าเป็นการลงทุนระยะยาว เมื่อเรานำมาคิดเป็นค่าเสื่อมแต่ละปี ถือว่ามีต้นทุนในแต่ละปีที่ไม่สูงมาก การพัฒนาทรัพยากรบุคคลจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ผู้บริหารองค์กร และคนในองค์กรจะต้องมองเห็นและมีแนวคิดเป็นทางเดียวกันเพื่อพัฒนาองค์กรของตนเองให้สู่การแข่งขันที่สูงขึ้นซึ่งจำเป็นอย่างที่จะต้องพัฒนาคนภายในองค์การให้มีศักยภาพเพื่อการแข้งขันในระดับสากล
โดยในเนื้อหาในหนังสือนั้น ท่านอาจารย์พารณฯ และท่านอาจารย์จีระ ได้เขียนเล่าไว้โดยละเอียดมาก พอสรุปถึงปัจจัยสำคัญที่จะส่งเสริมการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ให้ประสบผลสำเร็จดังนี้
อาจารย์ พารณฯ ท่านมีแนวคิดให้องค์กรสร้างโอกาสให้พนักงานได้ศึกษาเรียนรู้งานอยู่ตลอดเวลา แสดงความกระตือรือร้นเมื่อได้เห็นผลงานของลุกน้องออกมาดี เวลาชมให้ชมต่หน้าคนอื่นๆ สร้างวัฒนธรรมการใช้ชีวิตแบบ “ งานนำหน้าชีวิตส่วนตัว” สร้างความจงรักภักดีให้เกิขึ้นในองค์กร เจ้านายกับลูกน้องต้องไม่ขัดแย้งกัน ให้ทุกคนมีส่วนคิดร่วมกัน แลกเปลี่ยนความรู้ และทักษะ ที่มีอยู่ในความสามารถของแต่ละคน องค์กรจะต้องพัฒนาคนเพื่อเพิ่มศักยภาพของคนภายในองค์กร ในการตอบสนองความต้องการของลูกค้าในระดับสากล
การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ในสหกรณ์นั้นยังไม่สัมฤทธิผลเท่าที่ควร เพราะขาดปัจจัย และองค์ประกอบหลายด้าน ซึ่งถ้าจะประยุกร์ใช้หลักการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ให้ประสบผลสำเร็จ ของบริษัท เครือซีเนต์ไทย ที่ประกอบด้วย 4 ปัจจัยหลักได้แก่
ปัจจัยหลักทั้ง 4 ประการนี้สามารถนำมาใช้กับการพัฒนาทรัพยากรมนษย์ในสหกรณ์ได้ แต่อาจจะมีข้อจำกัดอยู่บ้างในสองปัจจัยแรก เนื่องจากว่าสังคมสหกรณ์ โดยเฉพาะสหกรณ์ในภาคการเกษตร เป็นสังคมแบบชาวบ้านของไทย ยังมีระบบอุปถัมภ์อยู่ ประกอบกับผลตอบแทนที่จะให้กับคนที่มีคุณภาพ ก็มีจำกัดด้วย ในส่วนของผู้บริหารระดับสูงนั้น คือคณะกรรมการ โดยสหกรณ์ในภาคการเกษตร คณกรรมการก็มาจากเกษตรกร ซึ่งก็มีข้อจำกัดเรื่องความรู้การบริหาร การจัดการระบบงาน
ศุภกร ชูเกษม
ผนส.รุ่นที่ 5
เรียน คุณศุภกร /คุณรุ่งโรจน์ /คุณศิริพงษ์
เชิญร่วมกิจกรรมเชื่อมโยงธุรกิจในระบบสหกรณ์ ของ ธ.ก.ส.นครราชสีมานะคะเป็นโครงการของพี่เอง
อยากใช้เครือข่ายของ ผนส.ทุกรุ่นให้เกิดความร่วมมืออีกทางหนึ่งด้วยค่ะ
แดง
ผมอ่านหนังสือ CEO โลกตะวันออก ฉบับเข้มข้น ของคุณ ก่อศักดิ์ ไชยรัศมีศักดิ์ คำสอนของ ขงเบ้ง ที่ให้ความสำคัญกับการศึกษาและการพัฒนาตนเอง น่าจะมีประโยชน์เลยนำมาเพื่อให้พวกเราได้อ่าน
..จริยวัตรแห่งวิญญูชน สงบจิตเพื่อฝึกฝนอบรมตน สะกดความทะยานอยากเพื่อบ่มเพาะคุณธรรม หาก ลุ่มหลงในกิเลสก็มิอาจแจ้งในปณิธาน หากมินิ่งสงบ ก็มิอาจคิดการณ์ไกล อันว่าการศึกษานั้นต้องการความสงบสงัดจึงจะก่อให้เกิดปัญญา หากไม่ทุ่มเท ศึกษา ก็ยากจะพัฒนาความสามารถ หากจิตไม่สงบพอ ก็ไม่อาจศึกษาอย่างได้ผล เกียจคร้านเฉื่อยชา ก็ไม่อาจเข้าถึงแก่นแท้ของความรู้ ร้อนรนกระวนกระวายก็จะขาดวิจารณญาณ แต่ละขวบปีผ่านไปโดยรวดเร็ว ความแน่วแน่ของปณิธานถดถอยลงทุกวัน ประหนึ่งใบไม้แห้งร่วงโรย จนก้าวไม่ทันโลก จากนั้นแม้จะพร่ำรำพันอยู่ในความยากไร้ โอกาสที่ดีในชีวิตก็ไม่หวนคืนกลับมา..
คารวะ 1 จอกค่ะ
สวัสดีครับ ผนส.5
ผมได้อ่านบทความที่เพื่อน ผนส.5 เขียนเกี่ยวกับ HR น่าสนใจและมีประโยชน์มาก มีหลายท่านเห็นแต่ชื่อ นึกภาพไม่ออก ต้องกับไปเปิด slide แนะนำตัว ผมไม่แน่ใจว่า ลำดับที่ 37 คุณศิริศักดิ์ หลงวิจิตร ลงภาพผิดหรือเปล่าน่าจะเป็นภาพของลำดับที่ 3 คุณวีรศักดิ์ สงเคราะห์ ขอให้ฝ่ายฝึกอบรมช่วยตรวจสอบด้วยนะครับ
เรียน ท่านอาจารย์จีระ
ผมต้องขอโทษที่ส่งงานล่าช้า เนื่องจากผมไปราชการศึกษาดูงานที่จังหวัดกระบี่ และจังหวัดภูเก็ต เมื่อสัปดาห์ก่อน
นายมาโนช วรรณบุตร นักวิชาการสหกรณ์ชำนาญการ สำนักงานสหกรณ์จังหวัดลพบุรี
จากการอ่านหนังสือ “ทรัพยากรมนุษย์พันธุ์แท้” (บทสนทนาว่าด้วยการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ของนักคิดและนักปฏิบัติแห่งยุค)
ได้ประโยชน์ในการพัฒนาคนในสหกรณ์หรือระบบราชการ พอสรุปตามความเห็นของข้าพเจ้าได้ ดังนี้
การพัฒนาคนทั้งในระบบราชการและในสหกรณ์ต้องตั้งเป้าหมายว่าจะพัฒนาให้ไปสู่จุดใดจึงจะนับได้ว่าประสบความสำเร็จ และต้องมีความเชื่อว่า คนของเราสามารถพัฒนาตนเองให้ไปถึงจุดนั้นได้ มีศรัทธา และส่วนร่วมในการพัฒนาด้วยใจ พัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มศักยภาพในการปฏิบัติ พร้อมทั้งรักษาคนของเราไว้ให้อยู่กับเราต่อไป โดยให้ได้รับทั้งค่าตอบแทน ความเจริญก้าวหน้าในหน้าที่ มีความมั่นคง และสวัสดิการต่าง ๆ จนถึงความสุขสบายของครอบครัว อย่างยั่งยืน และยุติธรรม
ในส่วนของการปฏิบัติจะต้องร่วมกันปฏิบัติในทุกภาคส่วนและทุกระดับชั้นตั้งแต่ระดับผู้ปฏิบัติจนถึงผู้บริหาร
มีประโยชน์ในการพัฒนา เพราะ
- สหกรณ์นำระบบราชการมาใช้มีกฏระเบียบมากมายการทำงานเลยชัดต่อกฏระเบียบ
- คนไทยมีนิสัยที่ไม่เป็นระเบียบ การเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วทำให้เปลี่ยนแปลงตัวเองได้ยาก
- การที่จะทำงานให้สำเร็จผู้นำต้องมีความเข้มแข็งอดทนนำการเปลี่ยนแปลงให้ทันยุคทันสมัย
- ผู้นำต้องคอยดูแลและเป็นห่วงเป็นใย เจ้าหน้าที่และลูกน้องคอยทักทายให้กำลังใจปัญหาของลูกน้องและช่วยแก้ปัญหา
นายทักษิณ ผนส5
มีประโยชน์ในการพัฒนา เพราะ
- สหกรณ์นำระบบราชการมาใช้มีกฏระเบียบมากมายการทำงานเลยชัดต่อกฏระเบียบ
- คนไทยมีนิสัยที่ไม่เป็นระเบียบ การเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วทำให้เปลี่ยนแปลงตัวเองได้ยาก
- การที่จะทำงานให้สำเร็จผู้นำต้องมีความเข้มแข็งอดทนนำการเปลี่ยนแปลงให้ทันยุคทันสมัย
- ผู้นำต้องคอยดูแลและเป็นห่วงเป็นใย เจ้าหน้าที่และลูกน้องคอยทักทายให้กำลังใจปัญหาของลูกน้องและช่วยแก้ปัญหา
เรียน ท่านอาจารย์จีระ
ผมต้องขอโทษที่ส่งงานล่าช้า เนื่องจากผมไปราชการศึกษาดูงานที่จังหวัดกระบี่ และจังหวัดภูเก็ต เมื่อสัปดาห์ก่อน
นายมาโนช วรรณบุตร นักวิชาการสหกรณ์ชำนาญการ สำนักงานสหกรณ์จังหวัดลพบุรี
จากการอ่านหนังสือ “ทรัพยากรมนุษย์พันธุ์แท้” (บทสนทนาว่าด้วยการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ของนักคิดและนักปฏิบัติแห่งยุค)
ได้ประโยชน์ในการพัฒนาคนในสหกรณ์หรือระบบราชการ พอสรุปตามความเห็นของข้าพเจ้าได้ ดังนี้
การพัฒนาคนทั้งในระบบราชการและในสหกรณ์ต้องตั้งเป้าหมายว่าจะพัฒนาให้ไปสู่จุดใดจึงจะนับได้ว่าประสบความสำเร็จ และต้องมีความเชื่อว่า คนของเราสามารถพัฒนาตนเองให้ไปถึงจุดนั้นได้ มีศรัทธา และส่วนร่วมในการพัฒนาด้วยใจ พัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มศักยภาพในการปฏิบัติ พร้อมทั้งรักษาคนของเราไว้ให้อยู่กับเราต่อไป โดยให้ได้รับทั้งค่าตอบแทน ความเจริญก้าวหน้าในหน้าที่ มีความมั่นคง และสวัสดิการต่าง ๆ จนถึงความสุขสบายของครอบครัว อย่างยั่งยืน และยุติธรรม
ในส่วนของการปฏิบัติจะต้องร่วมกันปฏิบัติในทุกภาคส่วนและทุกระดับชั้นตั้งแต่ระดับผู้ปฏิบัติจนถึงผู้บริหาร
ข้อคิดนักสหกรณ์ จาก ผนส.5
มีถ้วยคำอมตะประโยคหนึ่งกล่าวไว้ ก่อนที่ฟ้าจะประธานภารกิจอันยิ่งใหญ่ให้แก่ใคร จักต้องเคี่ยวกรำผู้นั้นอย่างหนักหนาสาหัดเสียก่อน ฟ้าอาจจะ ลองใจ หรืออาจจะอยาก ลองของ ถ้าคุณคือของแท้ ก็จะสามารถผ่านด่านการทดสอบอันแสนทรหดมาได้ และแล้วก็มาถึงจุดที่คุณปารถนา ก้าวมาสู่สถานะผู้นำสูงสุดขององค์กร เมื่อมีอำนาจอยู่ในมือ คุณควรตระหนักและระมัดระวังตลอดเวลาว่า อำนาจเป็นตัวกัดกร่อนความดี จึงต้องคอยตรวจสอบตัวเองว่าได้ให้ความสำคัญกับทีมงานและให้เกียรติทีมงานอย่างพอเพียงไหม เพราะความสำเร็จของงานเกิดจากกลุ่มไม่ใช่ตนเองคนเดียว ที่สำคัญแม้จะเป็นผู้มีอำนาจสูงสุดในองค์กร ก็ไม่มีสิทธิ์ใช้อำนาจอย่างไรเหตุผล ทั้งยังต้องพร้อมจะเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ อยู่ตลอดเวลา เพราะโลกในปัจจุบันหมุนเร็วเหลือเกิน
คุณบุญชัยนำรูปมาโพสต์เพื่อจะเตือนเพื่อนๆผนส.5 เรื่องการเลือกประธานรุ่นวันศุกร์นี้ใช่รึเปล่าคะ??
ขอนำเสนอเพื่อนๆพิจารณาล่วงหน้าค่ะ
1. ประธาน เสนอ คุณศิริชัย ออสุวรรณ (ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย จำกัด)
2. รองประธาน เสนอ พ.ต.อ.บุญชัย ฤาชัยสา (สหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจแห่งชาติ จำกัด)
3. รองประธาน เสนอ คุณกังวาล เนียมสุวรรณ (ธ.ก.ส.)
4. เหรัญญิก เสนอ คุณเจริญศรี โสระมัด (สหกรณ์การเกษตรขาณุวรลักษบุรี จำกัด)
5. เลขานุการ เสนอ คุณเจนวิทย์ อภิชัยนันท์ (ร้านสหกรณ์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จำกัด)
6. ที่ปรึกษา เสนอ รศ.ปรากรม ประยูรรัตน์ (ร้านสหกรณ์มหาวิทยาลัยบูรพา จำกัด)
พบกันวันศุกร์นะคะ
ศิริวรรณ ปัญญาธรรม
สวัสดีค่ะเพื่อนๆ ผนส 5 ทุกท่านดิฉันกำลังหัดใช้เมลค่ะ วันนี้มีเวลาเปิดเน็ดเห็นน้องสาว
คนสวยเสนอชื่อผู้นำรุ่นก่อนใคร ต้องขอชมว่าสมกับเป็นผู้บริหารจริงๆ และต้องขอขอบ
ใจมากที่ให้เกียรติพี่ โดยเสนอให้เป็นเหรัญญิก โดยความคิดเห็นส่วนตัวแล้วพี่ว่าน้อง
ศิริวรรณ เหมาะสมที่สุดค่ะ เพราะน้องแคลวคลองว่องไว้ดีค่ะ คิดถึงนะค่ะ วันศุกร์เจอ
กันค่ะ สวัดดีค่ะ
ดูจากรูปและรายชื่อที่นำเสนอแล้ว ผมมีความคิดเห็นว่าตำแหน่งเลขา น่าจะเหมาะสำหรับ คุณศิริวรรณ ปัญญาธรรม เพราะเป็นตำแหน่งที่สำคัญที่จะต้องประสาน ติอต่องาน เหมาะสำหรับคนที่มีความคล่องแคล้วว่องไว อย่าง คุณศิริวรรณ
สวัสดีครับ เพื่อน ผนส.5
วัตถุประสงค์ที่ผมเอารูปมาลง เผื่อว่าอาจจะมีประโยชน์กับเพื่อน ผนส. 5 ที่ต้องการความสะดวกในการค้นหาภาพของเพื่อนๆ เท่านั้นครับ และขอขอบคุณ ศิริวรรณ ปัญญาธรรม ที่เสนอ แต่ผมคิดว่าตำแหน่งรองประธาน น่าจะเป็นระดับท่านประธานของสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน หรือสหกรณ์เดินรถ และทาง ธกส. ครับ ส่วนตำแหน่งเลขาฯ ผมเห็นด้วยกับคุณสันติ ขจรเวชไพศาล และพี่เจริญศรี โสระมัด ว่าน่าจะเป็นคุณศิริวรรณ ปัญญาธรรม ครับ
สวัสดีเพื่อนๆ ผนส.5 ทุกคน
ผมดีใจนะครับที่เห็นพวกเราติดต่อสื่อสารกัน และต่างก็ให้เกียรติกันและกัน ให้สมกับเป็นรุ่นที่ทุกคนอยากเข้ามาเรียน
เดี๋ยวพรุ่งนี้เราเจอกันคงได้ข้อสรุป ผมว่าพวกเราคงไม่มีปัญหาในการคัดเลือกคนขึ้นมาเป็นประธานรุ่น แล้วพบกันครับ
อนุวรรตน์ อิ่มสมบูรณ์ ผนส.5
สวัสดีค่ะ เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ผนส.5 ทุกท่าน
เจตนาแรกที่เสนอชื่อพี่ๆน้องๆทั้ง 6 ท่านเป็นกรรมการรุ่นนั้น มีที่มาที่ไปนะคะ
1. ประธานรุ่น เหตุผลที่เสนอ “คุณศิริชัย ออสุวรรณ” (ประธานกรรมการชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย จำกัด) ก็เนื่องจากเห็นว่าท่านเป็นผู้มีวิสัยทัศน์กว้างไกล มีมนุษยสัมพันธ์ดีเข้ากันได้กับทุกกลุ่ม ทั้งกลุ่มจากสก. / สอ./ สน. / สร./ สค. / ฯลฯ เป็นผู้มีน้ำใจ มีวินัยการทำงานดี มีศักยภาพสูงเหมาะจะเป็นผู้นำที่ดี
2. รองประธานฯ เสนอ 2 คน คือ คุณบุญชัย (กรรมการ สหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจแห่งชาติ จำกัด) และคุณกังวาล (ผอ.กองธุรกิจสถาบัน ธกส.) ทั้งสองท่านเป็นระดับผู้บริหาร จากหน่วยงานต่างกัน คือ ธกส. และ สหกรณ์ออมทรัพย์ จะได้ความหลากหลายทางความคิดและแนวปฏิบัติ ทั้งสองท่านเป็นผู้มีมนุษยสัมพันธ์ ดี เข้ากับเพื่อนๆได้ดี ที่สำคัญ ทั้งสองท่านอยู่กทม. น่าจะเป็น CENTER ให้กับเพื่อนๆ ผนส.5 ได้ดี
3. เลขานุการ เสนอน้องเจนวิทย์ (ผู้จัดการร้านสหกรณ์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จำกัด ) เนื่องจากเห็นว่าเป็นผู้จัดการ ไม่มีวาระดำรงตำแหน่ง อยู่ยาวววววววว งานของรุ่นฯน่าจะต่อเนื่อง น้องเค้าเป็นคนหนุ่มรุ่นใหม่ไฟแรง (เป็นแชมป์แฟนพันธุ์แท้แสตมป์ไทยด้วย – อันนี้ไม่น่าจะเกี่ยว แต่อยากบอกให้รู้เฉยๆ) อันนี้ก็มาจากสหกรณ์อีกประเภทนึง สหกรณ์ร้านค้านะคะ
4. เหรัญญิก เห็นว่าน่าจะเป็นผู้หญิง น่าจะเก็บเงินเก่ง (เข้าข้างพวกเดียวกันเองไปนิดนึง) แล้วก็น่าจะต้องเป็นหญิงเก่ง กล้าคิด กล้าพูด กล้าทำ ที่ผ่านมาก็ปิ๊งคุณเจริญศรี (ผู้จัดการสหกรณ์การเกษตรขาณุวรลักษบุรี จำกัด) นี่ละค่ะ ทราบมาว่าคุณเจริญศรีฯเนี่ย ท่านเป็นสมาชิกสมัชชาแห่งชาติด้วย – เห็นมั๊ยล่ะคะ ไม่ธรรมดาใช่ป่ะล่ะ???
5. เสนอตำแหน่งที่ปรึกษาเพิ่มมาอีกคน อาจารย์ปรากรม (ประธานฯร้านสหกรณ์มหาวิทยาลัยบูรพา จำกัด) ท่านนี้ไม่ธรรมดานะคะ ที่อื่นนิสิตเค้าจะเป็นประธานฯและกรรมการสหกรณ์ แต่ที่นี่อาจารย์เป็นประธานฯ แสดงว่าต้องได้รับการยอมรับในประสบการณ์และความคิดจากนักศึกษาและคณาจารย์ที่เป็นสมาชิก นอกจากนี้ ในอีกสถานะหนึ่ง อาจารย์ปรากรมยังเป็นสมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ มศว. อีกด้วย เห็นมั๊ยล่ะคะประสบการณ์ในสหกรณ์อย่างน้อยก็ 2 ประเภทแล้ว และยังประสบการณ์จากวัยวุฒิของท่านอีกซึ่งน่าจะมากกว่าคนอื่นๆ
ขออภัยนะคะ เสนอความเห็นมากหน่อย เพราะค่อยๆนึก ค่อยๆพิมพ์ ซ้อมมือไปด้วย คือถ้าเจอหน้ากันวันศุกร์อาจไม่ค่อยกล้าวิจารณ์กันซึ่งๆหน้า กลัวคนถูกวิจารณ์เค้าจะเขินอ่ะค่ะ
ขออภัยทั้ง 6 ท่านที่เสนอชื่อโดยยังไม่ได้ขออนุญาตนะคะ ชื่นชมจริงๆค่ะ
ศิริวรรณ
ขอต่ออีกนิดนะคะ
เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ผนส.5 ท่านอื่นๆไม่ต้องน้อยใจนะคะ แต่ละคนสุดยอดทั้งนั้น
ไม่งั้นคงไม่ได้รับคัดเลือกเข้ามาเป็นนักเรียนรุ่น 5 หรอก จริงไหมคะ??แต่ศิริวรรณอาจยังไม่รู้แค่นั้นเอง
สวัสดี เพื่อนๆ ผนส.5
ยิ่งเห็นการนำเสนอของคุณศิริวรรณ ยิ่งยอมรับในความสามารถเพราะมีการศึกษารายละเอียดของผู้เข้าอบรมมาเป็นอย่างดี
น่าเป็นเยี่ยงอย่าง ผมว่าคุณสมบัตินี่น่าจะต้องเอามาใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อพวกเราในรุ่นด้วย ยินดีอย่างยิ่งที่ได้เรียนรุ่นเดียวกัน
อนุวรรตน์ อิ่มสมบูรณ์ ผนส,5
ยินดีเช่นกันค่ะ คุณอนุวรรตน์
สวัสดีครับ....เพื่อน ผนส.รุ่น 5 เราจะได้ไปดูงานกันแล้ว ขอให้เตรียมตัวให้พร้อมนะ กับการศึกษาดูงาน
ควรมีการเตรียมตัวในการศึกษาดูงาน ในสถาบันที่เราไปดูงาน และเตรียมคำถามไปให้พร้อมถ้าให้ดีก็น่าจะมีการสรุปคำถามสักหน่อยก็จะดี จะได้ประโยชน์ร่วมกัน
สุรพล ชัยมาลา (โม่ง)
ผมเปิดบล็อคแล้วครับ แสดงความคิดเห็นมาได้เลย
สรุป โลกาภิวัตน์: ผลกระทบและการเตรียมพร้อมเชิงรุกและรับ โดย ดร.เฉลิมพล เกิดมณี วันที่ 23 กรกฎาคม 2553
สรุปการพัฒนาคน จากหนังสือทรัพยากรมนุษย์พันธุ์แท้
การพัฒนาทรัพยากรในองค์กรถือว่าเป็นการลงทุนอย่างหนึ่งขององค์กร ซึ่งถือได้ว่าเป็นการลงทุนระยะยาว เมื่อเรานำมาคิดเป็นค่าเสื่อมแต่ละปี ถือว่ามีต้นทุนในแต่ละปีที่ไม่สูงมาก การพัฒนาทรัพยากรบุคคลจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ผู้บริหารองค์กร และคนในองค์กรจะต้องมองเห็นและมีแนวคิดเป็นทางเดียวกันเพื่อพัฒนาองค์กรของตนเองให้สู่การแข่งขันที่สูงขึ้นซึ่งจำเป็นอย่างที่จะต้องพัฒนาคนภายในองค์การให้มีศักยภาพเพื่อการแข้งขันในระดับสากล
โดยในเนื้อหาในหนังสือนั้น ท่านอาจารย์พารณฯ และท่านอาจารย์จีระ ได้เขียนเล่าไว้โดยละเอียดมาก พอสรุปถึงปัจจัยสำคัญที่จะส่งเสริมการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ให้ประสบผลสำเร็จดังนี้
1.ผู้บริหารระดับสูงขององค์กร จะต้องเห็นความสำคัญในการพัฒนาคน และต้งมีส่วนร่วในการวางแผน การตรวจสอบ และการประเมินผล
2.ทัศนคติที่ดีของฝ่ายจัดการทุกระดับ จะต้องมีจิตสำนึกในการพัฒนาคนในองค์กรร่วมกันทุกระดับชั้น
3.การปลูกฝังพนักงานพัฒนาตนเอง และต้องอุทิศตนให้ได้รับผลประโยชน์สูงสุดจากการฝึกอบรม
อาจารย์ พารณฯ ท่านมีแนวคิดให้องค์กรสร้างโอกาสให้พนักงานได้ศึกษาเรียนรู้งานอยู่ตลอดเวลา แสดงความกระตือรือร้นเมื่อได้เห็นผลงานของลุกน้องออกมาดี เวลาชมให้ชมต่หน้าคนอื่นๆ สร้างวัฒนธรรมการใช้ชีวิตแบบ “ งานนำหน้าชีวิตส่วนตัว” สร้างความจงรักภักดีให้เกิขึ้นในองค์กร เจ้านายกับลูกน้องต้องไม่ขัดแย้งกัน ให้ทุกคนมีส่วนคิดร่วมกัน แลกเปลี่ยนความรู้ และทักษะ ที่มีอยู่ในความสามารถของแต่ละคน องค์กรจะต้องพัฒนาคนเพื่อเพิ่มศักยภาพของคนภายในองค์กร ในการตอบสนองความต้องการของลูกค้าในระดับสากล
การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ในสหกรณ์นั้นยังไม่สัมฤทธิผลเท่าที่ควร เพราะขาดปัจจัย และองค์ประกอบหลายด้าน ซึ่งถ้าจะประยุกร์ใช้หลักการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ให้ประสบผลสำเร็จ ของบริษัท เครือซีเนต์ไทย ที่ประกอบด้วย 4 ปัจจัยหลักได้แก่
1.คุณภาพของคน
2.ผู้บริหารระดับสูง
3.ทัศนคติของฝ่ายจัดการ
4.การปลูกฝังให้พนักงานพัฒนาตัวเอง
ปัจจัยหลักทั้ง 4 ประการนี้สามารถนำมาใช้กับการพัฒนาทรัพยากรมนษย์ในสหกรณ์ได้ แต่อาจจะมีข้อจำกัดอยู่บ้างในสองปัจจัยแรก เนื่องจากว่าสังคมสหกรณ์ โดยเฉพาะสหกรณ์ในภาคการเกษตร เป็นสังคมแบบชาวบ้านของไทย ยังมีระบบอุปถัมภ์อยู่ ประกอบกับผลตอบแทนที่จะให้กับคนที่มีคุณภาพ ก็มีจำกัดด้วย ในส่วนของผู้บริหารระดับสูงนั้น คือคณะกรรมการ โดยสหกรณ์ในภาคการเกษตร คณกรรมการก็มาจากเกษตรกร ซึ่งก็มีข้อจำกัดเรื่องความรู้การบริหาร การจัดการระบบงาน
ศุภกร ชูเกษม
ผนส.รุ่นที่ 5
เรียน ดร.จีระ
หนังสือของอาจารย์ มีรูปแบบการเขียนที่แปลกใหม่ เปรียบเทียบพฤติกรรม ความคิด การกระทำ ของบุคคลสำคัญ 2 คน ได้อย่างเหมาะสม ทำให้รู้ได้ว่า คนเก่ง คนดี มีความรู้ ความสามารถ เขาจะทำให้ประโยชน์ให้สังคมยังมีอยู่ คนยุคใหม่โดยเฉพาะเยาวชนสมควรที่เขาจะยึดถือเป็นแนวปฏิบัติในชีวิต ซึ่งจะช่วยกันสร้างสรรค์สังคมไทยให้เจริญรุ่งเรืองเร็วขึ้นอย่างแน่นอน
แม้ว่าผมจะเริ่มอาวุโสมากขึ้น จะพยายามนำแนวคิดแนวปฏิบัติไปใช้ให้เป็นประโยชน์ทั้งแก่ตนเอง สังคม และประเทศชาติสืบไป
ส่งการบ้านอาจารย์....
ทรัพย์ยากรมนุยษ์เป็นทรัพยากรที่มีคุณค่าอย่างยิ่ง ดังนั้นจึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีการพัฒนาหาความรู้ใหม่อยู่เสมอ เพื่อพัฒนาตนเองและสังคมที่ตนมีส่วนร่วม สหกรณ์เป็นอีกองค์กรหนึ่งที่มีความสำคัญในการดำเนินชีวิตของคนไทย ซึ่งมีการรวมกันเพื่อดำเนินกิจกรรมร่วมกันใช้กฏกติการ่วมกัน มีระเบียบแบบแผนมีการรวมกันซื้อรวมกันขาย กำไรแบ่งกันตามสัดส่วนของสมาชิก
ดังนั้นคณะกรรมการจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะมีความรู้มีการพัฒนาตนเองอยู่เสมอ มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ มีวิสัยทัศน์ที่ดี มีภาวะผู้นำ มีความสามารถในการบริหารงาน มีการตัดสินใจ มุ่งการเรียนรู้ มีการทำงานเป็นทีม มุ่งเเน้นการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ในทุกๆด้าน มุ่งเน้นให้สมาชิกมีความรักองค์กร เจ้าหน้าที่ต้องให้บริการที่ดีแก่สมาชิก คณะกรรมการจะต้องปกป้องผลประโยชน์ของสมาชิกและของสหกรณ์เป็นสำคัญ
ดังนั้นความสำเร็จของมนุษย์ถือว่ามีความสำคัญเหนือกว่าทรัพย์สินอันใด ถ้าสังคมสหกรณ์มีบุคลากรที่ประสบความสำเร็จมีความตั้งใจจริง มีความรักองค์กร สหกรณ์นั้นจะประสบความสำเร็จเป็นที่พึ่งพาของมวลสมาชิกได้
วัฒนศักดิ์ จังจรูญ ผนส,5
ส่งการบ้านอาจารย์....
เรียน ศ.ดร.จีระ หงส์รดารมณ์
ผมได้อ่านหนังสือของอาจารย์แล้ว รู้สึกประทับใจในการนำเสนอให้ผู้อ่านได้เกิดแนวคิด ที่จะฝึกฝน
ให้ตนเองเป็นคนคิดดี ทำดี และพูดดี อันจะเป็นประโยชน์ต่อตนเองและสังคม อยากจะขยายผล บอกต่อ
ให้เพื่อน ๆ ได้อ่าน และมอบให้ห้องสมุดโรงเรียน เด็ก เยาวชน ได้ศึกษาต่อไป
คำนึง โสตถิอุดม
เลขท่ ๔๔
การประยุกต์แนวคิดทางการตลาดกับงานสหกรณ์ โดย คุณโตสิต วิสาลเสสถ์ ในวันที่ 23 กรกฎาคม 2553
ช่วงถาม-ตอบ
ถาม ในการบริหารธุรกิจสหกรณ์ปัจจุบันควรทำอย่างไร
ตอบ ต้องอยู่กับปัจจุบันให้ได้ ผมมองสินค้าเป็นคน ต้องมีบุคลิกและการกระทำชัด ต้องอยู่กับปัจจุบันให้ได้ เช่น ปรับตัวเขากับเทคโนโลยีและสภาพแวดล้อมให้ได้ มองถึงอนาคต
Workshop คิดสหกรณ์ในฝัน นำเสนอแผนการตลาดเพื่อให้คนรู้จักสหกรณ์ของคุณ
กลุ่ม 4 สหกรณ์ contract farming “Farmer Market”
กลุ่ม 8 สหกรณ์การเกษตรนวัตกรรมจำกัด
โตสิต
กลุ่ม 7 ร้านสหกรณ์บางแสนจำกัด ในมหาวิทยาลัย
โตสิต
กลุ่ม 3 สหกรณ์บริการนวดแผนไทยจำกัด
โตสิต
กลุ่ม 2 สหกรณ์ชุมชนบ้านอยู่สุข
กลุ่ม 5 สหกรณ์เจ็ดสีรุ้ง
กลุ่ม สหกรณ์อเมซซิ่งไทยแลนด์
โตสิต
กลุ่ม 10 สหกรณ์บริการสปาสบายจำกัด
กลุ่ม 6 ร้านสหกรณ์ผลไม้ไทยจำกัด
โตสิต
ผลการลงคะแนนจากความชอบของลูกค้า
อันดับที่ 1 กลุ่ม 3 สหกรณ์บริการนวดแผนไทย จำกัด ได้ 14 คะแนน
อันดับที่ 2 กลุ่ม 2 สหกรณ์ชุมชนบ้านอยู่สุข ได้ 8 คะแนน
อันดับที่ 3 กลุ่ม 4 สหกรณ์ contract farming “Farmer Market” ได้ 6 คะแนน
ผลการเลือกตั้งประธานรุ่นผนส.5
ศิริชัย ออสุวรรณ
ส่งงานอาจารย์ ดร.เฉลิมพล
ตามที่สมาชิกกลุ่มที่ 4และ 8 ได้รับมอบหมายในหัวข้อวิกฤตการณ์น้ำมัน.........
ทางกลุ่มมีแนวทางในการจัดสรรงบประมาณประเทศ ที่มีอยู่ 10,000 ล้าน ดังต่อไปนี้
1. ในส่วนของงบประมาณเพื่อนำเข้าน้ำมัน จะใช้ในส่วนนี้ เพียง 3,000 ล้าน เพื่อให้เพียงพอต่อการใช้อย่างประหยัดและเพื่อเป็นประโยชน์ต่อคนหมู่มากเท่านั้น
2. .ในส่วนของการนำเข้ายารักษาโรค ก็จะใช้งบประมาณในส่วนนี้ ประมาณ1,500 ล้าน เพื่อใช้รักษาและป้องกันโรคและเป็นการรักษาไว้ซึ่งทรัยากรทางมนุษย์
3. ในส่วนของงบประมาณในส่วนของความมั่นคงก็ยังจะคงไว้ 1,000 ล้าน เพื่อป้องกันปัญหาวิกฤตการการแย่งชิงและรักษาไว้ซึ่งความสงบในบ้านเมือง
4. ในส่วนของงบประมาณในด้านการศึกษา จะให้เพิ่มขึ้นเป็น 4,500 ล้าน เพื่อนำมาศึกษาพลังงานทดแทนเพราะเนื่องจากเกิดวิกฤตทางนำมันอยู่แล้ว ดังนั้นจึงมีความจำเป็นที่จะต้องให้น้ำหนักในส่วนี้มากขึ้นเพื่อเป็นการแก้ปัญหาในระยะยาว
รายงานโดยสมาชิกกลุ่ม 4 และ 8
ภาวิณี ตุวยานนท์
อดิศักดิ์ ฟักแฟง
สมคิด ศรีพยัคฆ์
ชัยณรงค์ กัณหา
อนุวรรตน์ อิ่มสมบูรณ์
สุมาลัย รักเขตรการ
ณฐกร แก้วดี
วัฒนศักดิ์ จังจรูญ
ศิริชัย ออสุวรรณ
มานะ สุดสงวน
เรียน ผนส. 5 ทุกท่าน
คืนวันเสาร์นี้ เวลาตี 1 โปรดติดตามชมรายการโทรทัศน์ สู่ศตวรรษใหม่ ช่อง NBT
มีข่าวโครงการผนส. 5 ออกด้วย
ส่งงาน ดร.เฉลิมพล
สมาชิกกลุ่ม
๑ นายมาโนช วรรณบุตร
๒. นายจิตติ เจียมเจือจันทร์
๓. นายศุภกร ชูเกษม
๔. นายสามารถ เอี่ยมวงษ์
๕. นางศิริวรรณ ปัญญาธรรม
๖. นายอัมพร เลิศกิจเจริญไพศาล
ปัญหาเรื่องความสามารถเชิงบริหาร
๑. อะไรคือสาเหตุของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น /อะไรคือสิ่งที่ทำให้ลูกทั้งสองต่างกัน / อะไรคือสิ่งที่ทำให้ลูกชายเปลี่ยนไป
ตอบ
๑.๑ พ่อแม่ไม่มีเวลาอบรมดูแลให้ความอบอุ่น
๑.๒ การที่ลูกชายอยู่ในสภาพแวดล้อมไม่ดี ถูกเพื่อนชักนำไปในทางไม่ดี
๑.๓ วัฒนธรรมคนไทย ลูกคนเล็กจะได้รับการตามใจ (ลูกเทวดา) ทำให้เป็นเด็กเอาแต่ใจ ก้าวร้าว ไม่มีความเกรงใจใคร
๑.๔ ภาวะอารมณ์ขณะตั้งครรภ์ ตอนท้องลูกคนแรก พ่อแม่มีความพร้อมมากกว่า มีเวลาดูแลเอาใจใส่มากกว่า ตอนท้องลูกคนที่สองอาจมีภาวะเครียดเนื่องจากภาวะเศรษฐกิจในครอบครัว ต้องมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น พอมีลูกสองคน พ่อแม่ต้องทำงานให้มากขึ้นจึงอาจไม่มีเวลาพอจะดูแลเอาใจใส่
๒.การแก้ไข
๒.๑ พ่อและแม่ต้องจัดสรรเวลาสำหรับครอบครัวให้มากขึ้น พูดคุยรับฟังปัญหา ไม่ซ้ำเติมลูกชาย แต่พร้อมช่วยแก้ไขปัญหา
๒.๒ สร้างบรรยากาศความเป็นครอบครัวสุขสันต์ มอบหมายหน้าที่ให้ช่วยกันรับผิดชอบงานในบ้าน มอบพี่สาวช่วยดูแลด้วย
๒.๓ จัดเวลาอยู่ร่วมกันพร้อมหน้าครอบครัว ทำกิจกรรมร่วมกัน เช่นทำอาหาร ทำสวนครัว
เลือกตั้งประธาน และ เลขา คิดให้ดี ๆ
คิดกันให้ดีก่อนเลือก โปรดเลือกคนที่มีเวลา โดยเฉพาะ ประธานกับเลขา ที่ต้องมีเวลา และมีความทุ่มเท เสียสละ สามารถที่เชื่อมโยงเครือข่ายภายในรุ่นได้เป็นอย่างดี สามารถเชื่อมโยงกับรุ่นพี่ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ การเลือกกรรมการ ไม่ใช่เป็นประธานแค่รุ่น พอจบออกไป ต้องทำงานร่วมกัน กับ ผนส. ทุกรุ่น รวมถึงสันนิบาติ สำคัญที่สุด
คิดให้ดีก่อนเลือก อย่างน้อยน่าจะดูใจกันอีกสักระยะหนึ่งจะรู้ว่าใครเหมาะสมที่จะเป็นประธาน และเลขา รุ่นค่ะ
จาก ผนส. รุ่นพี่ มีประสบการณ์
เครดิตยูเนียน เรียน อ.จิระที่เคารพ
ผมได้มีโอกาสเข้าร่วมโครงการ พัฒนาผู้นำสหกรณ์ขั้นสูงทำให้มีโอกาสได้เป็น ศิษย์ของท่านอาจารย์ นับเป็นความโชคดีของสหกรณ์ เครดิตยูเนี่ยนพระหฦทัยเชียงใหม่จำกัด ที่จะได้นำวิชาความรู้ที่จะได้รับตลอดกระบวนการเรียนรู้ทั้งในห้องเรียนและ นอกห้องเรียนมาประยุกต์ใช้เพื่อให้สหกรณ์เป็นสนามแห่งการเรียนรู ปฏิบัติธรรม ผ่านทางกิจกรรมเศรษฐกิจโดยมีคนเป็นเป้าหมายสูงสุดและมีเงินเป็นเครื่องมือ เพื่อสร้างความสุข ความเจริญของชีวิตแต่ละคน กลุ่ม และชุมชนตลอดจนประเทศชาตฺต่อไป
ผมได้อ่านหนังสือ ทรัพยากรมนุษย์พันธุ์แท้ แล้วทำให้มีกำลังใจและความมุ่งมั่นที่จะทำให้สหกรณ์เป็นพื้นที่ของผู้ขาดโอกาสทางสังคม เป็นเวทีแห่งการเรียนรู้และเป็นเวทีแห่งการแบ่งปํนในระหว่างเรามนุษย์ด้วยกัน บทเรียนและประสบการจากท่านทั้งสองจะเป็นแนวทางสำหรับผมและคณะกรรมการในการปรับปรุงและพัฒนา ทรัพยากรมนุษย์ในองค์กรตามทฦษฎี 2R s โดยการเริ่มต้นจาก Reality มองความจริง และ Relevance ตรงประเด็น เพื่อการมองปัญหา และการเรียนรู้ ที่ผ่านมาเรามองปัญหาและหาทางแก้ไขเป็นคราวๆไป ไม่มีการเรียนรู้ หาสาเหตุ และหาทางป้องกันทำให้ไมทราพถึงความจริงที่อยู่เบื้องหลัง แก้ปัญหาโดยคณะกรรมการ ขาดการมีส่วนร่วมจากฝ่ายจัดการ ทั้งที่กรรมการเองไม่มีข้อเท็จจริงเท่าทีควรทำให้เมื่อรู้ปัญหา ก็มาหาทางแก้ตามพื้นฐานความรู้อารมน์ความรู้สึกทำให้เกิดผลกระทบโดยรวมต่อสหกรณ์ การประชุมคณะกรรมการดำเนิการเมื่อ วันอาทิตย์ที่ 11 กค.ที่ผ่านมาผมได้เล่าบรรยากาศการเข้าร่วมโครการฯผู้นำและแบ่งปันความรู้ที่ได้แก่คณะกรรมการ ได้รับความสนใจอย่างมากโดยมีข้อตกลงว่า ในการประชุมกรรมการทุกเดือนเราจะมีเวทีการเรียนรู้ร่วมกันโดยประเด็นหลักจะเป็นเรื่อง คน (ทรัพยากรมนุษย์)ในเรื่องความจำเป็นที่จะต้องยกระดับความรู้เฉพาะทางที่เกี่ยข้องกับบทบาทหน้าที่และความรับผิดชอบของกรรมการแต่ละคณะ เนื่องจากพวกเรากรรมการเป็นอาสาสมัครไม่มีค่าตอบแทนจึงไม่คอยตื่นตัวกันเท่าไร โดยเฉพาะไม่มีใครจุดประเด็นสร้างแรงจูงใจ ผมเชื่อว่าหนังสือเล่มนี้จะเป็นคู่มือแห่งการเรียนรู้ของเราร่วมกันต่อไป สิ่งทีจะทำได้จริงและต่อเนื่องจะเป็นส่วนของเจ้าหน้าทีในการสร้างมูลค่าเพิม ผมเองได้รับแรงกระตุ้นมากจากหนังสือและได้หารือกับผูจัดการเกี่ยวกับบุคลากรขององค์กรเมื่อมองความเป็นจริงแล้ว เขาได้ใช้ศักยะภาพที่มีอยู่ไม่ถึง 6o % ขาดการฝึกอบรม ขาดความกระตือรือร้น ทำงานตามหน้าที่แบบเสมียนตามทีท่านอาจารย์ได้ชี้ให้เห็น
โดยสรุป หนังสือเล่มนี้จะเป็เพื่อนเป็นคูมือ ปรับปรุงระบบงานที่รับผิดชอบอยู่โดยจะหมั่นศึกษาและทำความเข้าใจในความสำคัญของ ทรัพยากรมนุษย์อย่างจริงจังต่อไป และพร้อมรับการติชม ข้อเสนแนะ และคำแนะนำจากอาจารย์
ด้วยความเคารพ
ศรชัย วิจิ
เป็นอย่างไรบ้าง เพื่อนๆ ผนส. 5 ท่าน นั่งเรียนวันนี้มีใครนั่งหลับบ้าง ระวังน๊ะหลับบ่อยๆ จะเรียนไม่จบ พรุ้งนี้ให้หายาแก้ห่วงนอนมาด้วย และก็ขอยินดีกับท่านประธานรุ่นด้วยน๊ะครับ
กลุ่ม 1
อานุภาพ กระจ่างแจ้ง
อารี ภู่สกุล
เกษม ศรีเกื้อกลิ่น
วิรัช รมณีย์
ภราดร สื่อมโนธรรม
กลุ่ม 5
สิริพชนันท์ ชิตญาติ
ศิริพงษ์ มีประเสริฐ
สันติ ขจรเวชไพศาล
รุ่งโรจน์ วรชมพู
พ.อ. ยุทธเดช พุฒตาล
กลุ่ม 9
เจริญศรี โสระมัด
จิระ พิมลลิขิต
มาโนช วรรณบุตร
ศุภกร ชูเกษม
สามารถ เอี่ยมวงษ์
สมานฉันท์
กลุ่มจะประชุมร่วมกัน ขอให้ทุกคนตั้งสติ ตกลงร่วมกันว่า “เราจะอยู่ด้วยกัน แก้ปัญหาร่วมกัน หากจำเป็นจะตายพร้อมกัน” และจะดำเนินการดังนี้
4.1 ส่งอาสาสมัคร ลงเรือเล็ก เดินทางไปขอความช่วยเหลือ (แบ่งอาหารและน้ำให้ด้วย)
4.2 ส่งสัญญาณควัน สัญญาณผ้า
4.3 ให้สุนัขคอยสังเกต สัญญาณจากภายนอก (เพื่อจะได้หาทางติดต่อ)
ขอบคุณรุ่นพี่ทุกคนที่เข้ามาชมความเคลื่อนไหวในรุ่นที่ห้า และขอบคุณทุกความเห็นและข้อเสนอแนะ ผมและเพื่อนๆทุกคนในรุ่นจะนำเอาไปพิจารณา ผมขอให้พี่ๆทุกคนที่มีโอกาสแวะเวียนเข้าช่วยให้คำแนะนำต่อพวกเราด้วย ในวันนี้พวกเรามีมติร่วมกันในการคัดเลือกท่านประธานศิริชัย ออสุวรรณ ให้ขึ้นมาเป็นผู้นำรุ่น เพราะพวกเราเชื่อว่าท่านจะสามารถนำพาพวกเราไปได้อย่างดี ด้วยคุณสมบัติที่ท่านมีอยู่และพวกเราประจักษ์พบเห็น และเรายังมีผู้รู้ที่มีศักยภาพที่ดีป็นทีมงาน พวกผมหวังว่าพวกเราในรุ่นที่ห้าน่าจะทำอะไรไม่มากก็น้อยในการทำประโยชน์ให้กับขบวนการสหกรณ์ และคงได้มีโอกาสร่วมงานกับพวกพี่ๆๆทั้ง สี่รุ่น
พรุ่งนี้ผมคงได้มีโอกาสในการขึ้นมาโพสข้อความแสดงโครงสร้างคณะกรรมการรุ่นให้ทุคนได้ทราบ
ด้วยความเคารพ ผนส.5
สมาชิกกลุ่ม 2
1. พี่ภาวัต ศุภสุวรรณ
2. พี่ชโลทร สุวรรณลาภเจริญ
3. พี่เติมศักดิ์ จันทะจร
4. พ.ต.อ. บุญชัย ฤาชัยสา
5. เจนวิทย์ อภิชัยนันท์
ส่งการบ้านของ อ.ดร.เฉลิมพล ครับ
เรื่องความสามารถเชิงบริหาร
1. สาเหตุของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น/สิ่งที่ทำให้ลูกทั้งสองต่างกัน/สิ่งที่ทำให้ลูกชายเปลี่ยนไป
- การที่ลูกชายคบเพื่อนที่ไม่ดี ประกอบกับพ่อแม่ไม่มีเวลาไม่มีเวลาในการดูแล และอบรมสั่งสอน
- ความแตกต่างของเพศที่ผู้หญิงที่เป็นพี่จะมีวุฒิภาวะมากกว่า เพราะได้รับความอบอุ่นจากพ่อแม่มาตั้งแต่เด็กสมัยที่พ่อแม่ยังไม่งานยุ่งมาก และช่วยพ่อแม่ทำงานใกล้ชิดกว่าลูกชาย ส่วนลูกชายคนเล็กนั้นอาจโตมาในช่วงที่พ่อแม่กำลังทำงานอย่างหนักจนไม่มีเวลาดูแล และยังเป็นน้องเล็กที่ใครๆ ในบ้านก็จะตามใจ จนส่งผลให้เป็นแบบนี้
- จากการที่ลูกชายคบเพื่อนไม่ดี ประกอบกับการที่ลูกชายคนเล็กมักถูกตามใจ และไม่ได้รับการเอาใจใส่จากพ่อแม่ที่มัวแต่ทำงานมากเท่าที่ควรทำให้ลูกชายมีพฤติกรรมเปลี่ยนไปในทางที่ไม่ดี
2. แนวทางการแก้ไข
- ควรจะแยกลูกชายจากเพื่อนที่ไม่ดี โดยให้ทำกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ เช่น เล่นกีฬา หรือเล่นดนตรี
- พ่อแม่ควรแบ่งเวลาให้ลูกบ้าง เช่น ถ้างานยุ่งมากๆ ก็สลับกันดูแล หรือถ้ามีเวลาดูแลด้วยกันก็ยิ่งดี ด้วยการทำกิจกรรมร่วมกันเพื่อสร้างความสัมพันธ์
- ให้พี่สาวช่วยดูแล เวลาที่พ่อแม่ไม่อยู่ และคอยสังเกตสิ่งผิดปกติต่างๆ
- พ่อแม่ควรทำตัวเป็นเพื่อนกับลูก มากกว่าคนที่คอยจับผิด จะส่งผลให้ลูกกล้ามาปรึกษาปัญหาต่างๆ
รายชื่อคณะกรรมการบริหาร ผนส.รุ่นที่ 5
ประธานรุ่น คุณศิริชัย ออสุวรรณ ประธานฯชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย
ที่ปรึกษาทรงคุณวุฒิประกอบด้วย
1.รศ.ปรากรม ประยูรรัตน์ ประธานฯร้านสหกรณ์มหาวิทยาลัยบูรพา
2.คุณมานะ สุดสงวน รองประธานชุมชุมสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนแห่งประเทศไทย
3.พ.อ.ยุทธเดช พุฒตาล กรรมการสหกรณ์ออมทรัพย์กองบัญชาการกองทัพไทย
4.คุณสมชาย ทองพันธ์อยู่ รองประธานชุมนุมร้านสหกรณ์แห่งประเทศไทย
5.คุณชโลธร สุวรรณลาภเจริญ กรรมการสหกรณ์ออมทรัพย์การไฟฟ้าฝ่ายผลิต
6.คุณวัฒนศักดิ์ จังจรูญ ประธานสหกรณ์การเกษตรเขาสวนกวาง
7.คุณอรพิน เทียมเมฆ นักวิชาการฯกรมตรวจบัญชีสหกรณ์
รองประธานรุ่น 1.พันตำรวจเอกบุญชัย ฤาชัยสา กรรมการสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจแห่งชาติ
2.นายชัยณรงค์ กัณหา ประธานฯสหกรณ์การเกษตรเมืองศรีษะเกษ
เลขานุการ คุณศริวรรณ ปัญญาธรรม ผู้จัดการสหกรณ์ออมทรัพย์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ผู้ช่วยเลขานุการ คุณเจนวิทย์ อภิชัยนันท์ ผู้จัดการร้านสหกรณ์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
เหรัญญิก คุณเจริญศรี โสระมัด ผู้จัดการสหกรณ์การเกษตรขาณุวรลักษณ์
ผู้ช่วยเหรัญญิก คุณวิภาณี ตุวยานนท์ นักวิชาการชำนาญการ สนง.สหกรณ์จังหวัดนครพนม
ประชาสัมพันธ์ คุณรุ่งโรจน์ วรชมพู กรรมการสหกรณ์สาธารณสุขนครราชสีมา
ปฏิคม คุณอนุวรรตน์ อิ่มสมบูรณ์ เลขานุการสหกรณ์การเกษตรเมืองจันทบุรี
กรรมการประกอบด้วย
1.คุณกังวาน เนียมสุวรรณ ผอ.กองการพัฒนาธุรกิจ ธกส.
2 คุณสุรพล ชัยมาลา รองเลขาธิการและกรรมการสมาคมเศรษฐศาสตร์
3 ว่าที่ร.ท.สุวรรณ แป้นเพ็ชร ผู้จัดการสหกรณ์การเกษตรสามโคก
4 คุณภาวัต สุภสุวรรณ ประธานสหกรณ์เครดิตเคหะรัษกาภูเก็ต
5 คุณทักษิณ สารมณี ผู้จัดการสหกรณ์การเกษรชนบท
6 คุณณฐกร แก้วดี กรรมการสหกรณืออมทรัพย์ธุรกิจก๊าซ ปตท.
7 คุณอนุภาพ กระจ่างแจ้ง ผู้จัการสหกรณ์การเกษตรเมืองระยอง
8 คุณภราดร สื่อมโนธรรม ประธานสหกรณ์ออมทรัพย์มุลนิธิโครงการหลวง
9 คุณวิเชียร พวงศรี ประธานสหกรณ์เดินรถนครสวรรค์
10 คุณวีรศักดิ์ สงเคราะห์ รองประธานสหกรณ์การเกษตรมะขาม
11 คุณจีระ พิมลลิขิต ประธานฯสหกรณ์ออมทรัพย์กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
12 คุณมาโนช วรรณบุตร นักวิชาการชำนาญการ สนง.ลพบุรี
13 คุณเติมศักดิ์ จันทะจร ผู้จัดการสหกรณ์ออมทรัพย์ครูมหาสารคาม
14 คุณสมคิด ศรีพยัคฆ์ สหกรณ์การเกษตรบางกรวย
15 คุณอัมพร เลิศกิจเจริญไพศาล กก.สหกรณ์ออมทรัพย์พนง.ธ.แห่งประเทศไทย
16 คุณศรชัย วิจิตรพร ประธานสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนพระหฤทัยเชียงใหม่
ภาพคณะกรรมการรุ่นผนส. 5
เศรษฐกิจโลก/เศรษฐกิจไทย และผลกระทบต่อการทำงานของสหกรณ์ โดย รศ.ดร.สมภพ มานะรังสรรค์ ในวันที่ 24 กรกฎาคม 2553
1. ผู้นำต้องมีความสามารถในการเห็นก่อน รู้ข้อมูลก่อน รู้ความเป็นไปของโลก
2. ผู้นำต้องมีความสามารถในการเห็นไกล ไปถึงอนาคต ก็สามารถดูได้จากประวัติศาสตร์
3.ผู้นำต้องมีความสามารถในการเห็นกว้างคือ รู้ภาพปัจจุบันทั้งหมด ต้องสร้างตัวชี้วัดเศรษฐกิจมหภาค ได้แก่
4.ผู้นำต้องนำความสามารถในการเห็นก่อน เห็นไกลและเห็นกว้างมาสร้างความสามารถในการเห็นลึกไปในองค์กรของเรา
อ่านบทความดร.จีระได้ที่ลิ้งค์นี้
ภาพบรรยากาศ 23 ก.ค. 53
ภาพบรรยากาศ 24 ก.ค. 53
การวางแผนและการบริหารโครงการพัฒนาสหกรณ์ โดย อาจารย์ยม นาคสุข วันที่ 24 กรกฎาคม 2553
Workshop โครงการพัฒนาสหกรณ์เป็นองค์การสมรรถนะสูง
กลุ่ม 4 สหกรณ์สร้างสรรค์
ปัญหา
ทำ
กลุ่ม การพัฒนาสหกรณ์การเกษตร
ปัญหา
แก้โดย
อาจารย์ยม
กลุ่มเกษตรยั่งยืน
สาเหตุ
แก้โดย
อาจารย์ยม
กลุ่มก้าวไกล
ทำโครงการ
อาจารย์ยม
กลุ่ม 9 กลุ่มก้าวหน้า
ปัญหา
สาเหตุ
แก้โดย เพิ่มประสิทธิภาพการจัดการ
ทำ
อาจารย์ยม
ควรให้ความรู้ด้านคุณธรรม ศีลธรรมด้วย
กลุ่มสหกรณ์ก้าวไกล
ปัญหา
สาเหตุ
ทำ
อาจารย์ยม
กลุ่มแมงเม่า
ปัญหา
สาเหตุ
ทำ
อาจารย์ยม
กลุ่มเกษตรแฟร์
ปัญหา
สาเหตุ
ทำ
อาจารย์ยม
กลุ่ม 1 สหกรณ์การเกษตรบ้านนา
ปัญหา
สาเหตุ
ทำ
สรุปการประชุม ผนส.5 วันที่ 24 ก.ค. 53 เวลา 16.30 น.
1. เรื่องของที่ระลึก
ที่ประชุมได้มอบหมายให้ทางคุณอนุวรรตน์ อิ่มสมบูรณ์ ปฏิคม เป็นผู้ดูแล โดยจัดหาผลไม้ ของแห้ง หรือ ของที่ระลึกตามความเหมาะสม ให้กับ
- อาจารย์หรือวิทยากรที่มาสอน ในมูลค่าไม่เกิน 500 บาท
- สหกรณ์ในประเทศที่ไปศึกษาดูงาน ในมูลค่า 500 – 1,000 บาท
- สำหรับสหกรณ์หรือสถานทูตในประเทศจีน รอการยืนยันจากจากทางสันนิบาตก่อนว่ามีการเตรียมของที่ระลึกหรือไม่
โดยจะเก็บเงินรุ่น คนละ 500 บาท โดยสามารถชำระได้ที่คุณเจริญศรี โสระมัด เหรัญญิก ในวันที่ 6 ส.ค. 53 เป็นต้นไป
2. กิจกรรมปิดโครงการ
ที่ประชุมได้มอบหมายให้ทาง คุณรุ่งโรจน์ วรชมพู ประชาสัมพันธ์ เป็นแกนนำในการประชุมร่วมกับทาง ปฏิคม เลขานุการ และสมาชิกท่านอื่นๆ เพื่อเสนอกิจกรรมในการปิดโครงการ 9 ต.ค. 53
3. วิชาการต่างๆ ด้านเทคโนโลยี ที่ต้องการให้เพิ่มเติม
พ.ต.อ.บุญชัย ฤาชัยสา รองประธาน ได้เสนอจัดทำเอกสารคู่มือการใช้สื่อทางเทคโนโลยี เช่น อีเมล หรือ Facebook ให้กับสมาชิก รวมทั้งให้คำแนะนำแก่ผู้ที่ยังไม่ชำนาญ โดยสมาชิกที่ชำนาญแล้วอาจช่วยกันแนะนำสมาชิกที่ยังไม่ชำนาญ
4. การแลกเปลี่ยนประสบการณ์ของ ผนส.5
เป็นการพูดคุย กับเพื่อนร่วมรุ่น ในเรื่องต่างๆ ดังนี้
- การแนะนำตัว
- ประสบการณ์ทำงาน
- ประสบการณ์เกี่ยวกับสหกรณ์
- ความสำเร็จหรือข้อผิดพลาดในชีวิต ที่อยากถ่ายทอดให้เพื่อนร่วมรุ่น
โดยจะเริ่มพูดตามลำดับในใบรายชื่อ ท่านละไม่เกิน 10 นาที
ศุกร์ที่ 6 ส.ค. 8.30 – 9.00 น. ผู้ที่มีรายชื่อลำดับ 1-3
16.30 – 18.00 น. ผู้ที่มีรายชื่อลำดับ 4 – 12
เสาร์ที่ 7 ส.ค. 8.30 – 9.00 น. ผู้ที่มีรายชื่อลำดับ 13 – 15
ส่วนในสัปดาห์ถัดไป ก็ให้พูดตามลำดับต่อไป จนกว่าจะครบ 50 คน
หากมีสิ่งใดตกหล่น หรือ ข้อเสนอแนะ ท่านสมาชิกสามารถเพิ่มเติมได้ครับ
ขอบคุณครับ
สำำหรับเรามือใหม่หัดเล่น facebook หากต้องการหาวิธีใช้งานลองคลิกเข้าไปดูที่ http://facebook.kapook.com/howto/index.php
ขอขอบคุณพี่ๆเพื่อนๆและน้องๆทุกท่านที่ให้เกียรติแต่งตั้งเป็นเหรัญญิก ขอบคุณที่ไว้วางใจ ค่ะ
เจริญศรี โสระมัด
สวัสดีครับ เพื่อนๆผนส.5
วันนี้ผมมีคำพูดของคนที่ถือว่าเป็นอัจฉริยะในยุคมาฝาก(ไอน์สไตน์) กล่าวว่า.....
1. "คำพูดที่ถูกกลั่นกรองจากปรสบการณ์ของคนอื่น เป็นเหมือนบทเรียนสูตรเร่งรัดให้เรได้เรียนรู้โดยไม่ต้องเสียเวลาไปค้นพบด้วยตัวเอง"
2."ข้าพเจ้าไม่ได้มีพรสวรรค์พิเศษอะไร ข้าพเจ้าเพียงแต่มีความกระหายใคร่รู้อยู่เสมอ" เป็นไงครับมีกำลังใจมากขึ้นมั้ย 555
3."ข้าพเจ้าไม่ได้ฉลาดอะไรมากมาย เพียงแต่ขบคิดนานกว่าเท่านั้น"
4."จินตนาการคือ ทุกสิ่งทุกอย่าง มันคือหนังตัวอย่างของฉากเด็ดในชีวิตที่กำลังจะเกิดขึ้น" หมายความว่าเราสามารถคิดและแก้ไขตราบเท่าที่เราต้องการ โดยไม่ต้องลงทุนเมื่อเห็นว่าใช่ค่อยลงมือทำ
5."คนที่ไม่เคยทำอะไนผิด คือคนที่ไม่เคยทำอะไรเลย" เพราะมันไม่มีความผิดไม่ใช่ความล้มเหลว เพราะคุณจะได้เรียนรู้มากขึ้นและเก่งขึ้น เหมือนการวิ่งแข่ง ยิ่งคุณออกห่างจุดเริ่มต้นมากเท่าใดแสดงว่าคุณเข้าใกล้เส้นชัยมากขึ้นเท่านั้น
6."ข้าพเจ้าไม่เคยกังวลเกี่ยวกับอนาคตเลย เพราะมันมาถึงเร็วพออยู่แล้ว" หมายความว่าวันเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว วันพรุ่งนี้เผลอนิดเยวก็จะเป็นวันนี้ และก็จะเป็นอดีตในวันรุ่งขึ้น ดังนั้นคุณมีเวลาแค่วันนี้ในการทำให้ดีที่สุด เพราะพรุ่งนี้คุณยังต้องรอก่อน
7."การบากบั่นต่อสู้ไม่ใช่เพื่อความสำเร็จ หากแต่เป็นการทำให้มีค่า" หมายความว่าถ้าคุณใส่ใจในคุณค่า ถึงแม้ว่าคุณจะหมดกำลังแต่คุณพลังใจเต็มเปี่ยม
8."คนวิกลจริต คือ คนที่ทำแต่สิ่งเดิมๆซ้ำไปซ้ำมา และหวังให้ผลมันเปลี่ยนไป" ซึ่งมันป็นไปไม่ได้ถ้าคุณไม่รู้จักปลี่ยน
9."ข่าวสารไม่ใช่ความรู้ แหล่งความรู้เพียงหนึ่งเดียวคือประสบการณ์"
10."คุณต้องเรียนกฏในการเล่นเกม และต้องเล่นให้ดีกว่าผู้เล่นคนอื่นๆ" หมายความว่าหากคุณเล่นนอกเกมส์ไม่เคารพกติกาคุณก็มีสิทธิแพ้ อย่างที่สองคุณต้องมุ่งมั่นเต็มความสามารถ ถ้าคุณทำได้ทั้งสองอย่าง ความสำเร็จจะเป็นของคุณ (ผู้จัดการ 360 องศา รายสัปดาห์)
อีกเรื่องแจ้งผนส.5 ที่ช่วงบ่ายไม่อยู่ พวดเรามีมติซื้อเสื้อโปโล 1 ตัว สีเขียว(ตองอ่อน) ราคาประมาณ 180 บาท แต่เก็บ 200 บาทที่เหลือเข้ากองกลางเอาไว้ทำกิจกรรมรุ่น ผมประสานกับคุรเจริญศรี(เหรัญญิก) ให้ออกให้พวกเราก่อน โดยมีคุณศิริวรรณ(เลขานุการ)เป็นคนจัดซื้อ ผนส.5 ท่านใดต้องการแก้ไข ไซต์เสื้อให้แจ้งคุณเจริญศรีหรือคุณศิริวรรณโดยด่วน เพื่อให้ทันการไปศึกษาดูงานสัปดาห์ต่อไป ขอบคุณทุกท่านที่อ่าน อนุวรรตน์ อิ่มสมบูรณ์ ผนส.5
สวัสดีครับเพื่อนๆ ผนส.5
เมื่อสักครู่ได้รับการติดต่อจากทางร้านเสื้อทรงสมัยที่ตัดชุดให้เรา เขานัดส่งเสื้อให้เราวันที่ 21 สิงหาคม
แจ้งให้ทราบกันดดยทั่วไป
สวัสดีครับอาจารย์ และเพื่อน ๆ ผนส.
ขอแสดงความยินดีกับประธานรุ่น ที่ได้รับคัดเลือกให้เป็นประธาน และขอให้กำลังใจกับที่ปรึกษา รองประธาน และคณะกรรมการ ปฏิบัติหน้าที่ ๆ ได้รับผิดชอบให้ลุล่วงไปด้วยดี
แจ้งความคืบหน้าค่ะ
เมื่อวันเสาร์ช่วงบ่าย ศิริวรรณแอบหนีกลับก่อนเนื่องจากติดภารกิจของสหกรณ์ต้นสังกัด ต้องเดินทางไปจังหวัดชัยภูมิ กลับถึงกทม.เย็นวันอาทิตย์ กทม.โล่งมาก ไม่ค่อยมีผู้คน (ราชการหยุด 4 วัน เสาร์ - อังคาร)
ก็เลยมีความคิดว่า วันจันทร์(คือวันนี้)จะออกไปดูเสื้อสีเขียวอ่อนให้รุ่นเรา โทรสอบถามคุณอรนุช ได้ทราบว่าซื้อจากร้าน "THE MOS" ที่โบ๊เบ๊ทาวเวอร์ ร้านอยู่ชั้นสาม ติดบันไดเลื่อน แล้วก็ร้านที่รับปัก LOGO ก็อยู่ใกล้ๆกัน คือต้องซื้อเสื้อจากร้านนี้ก่อน แล้วเอาไปจ้างปักอีกร้านนึงค่าปักประมาณตัวละ 50 บาท เสื้อตัวละประมาณ 169 - 189 บาท ตามขนาดเล็ก-ใหญ่ สอบถามขนาด SIZE ผนส.5 ทุกคนจากคุณเจริญศรี(พี่เอียด)แล้ว ก็ขับรถออกไปดู
ไปถึงโบ๊เบ๊ ไม่มีคนมากมายอย่างที่คิด เดินหาร้าน "THE MOS" จนทั่วชั้นสาม ทั่วทุกบันไดเลื่อนแล้วก็ไม่เจอ ใส่แว่นถอดแว่นหาก็ไม่เจออ่ะค่ะ แต่ไปเจอร้านเสื้อยี่ห้อ "แตงโม" คิดว่าทุกคนคงรู้จักนะคะ ก็เสื้อยี่ห้อนี้มีขายทั่วประเทศ แบบเสื้อที่พี่เอียดย้ำมาคือ เสื้อโปโลคอปก มีกระเป๋า โอ้โฮ เสื้อสีซ๊วย สวย ค่ะ สีเขียวอ่อนมีมากมายหลายเขียว เขียวอ่อนใบไม้หน้าฝน เขียวใบตองอ่อน ใบตองแก่ เขียวอ่อนมะนาว เขียวอ่อนหม่นๆ เขียวอ่อนสีหยก เขียวอ่อนจางๆ เขียวอ่อนไฮโซ ฯลฯ ก็ตาลาย เช็คดูขนาดเสื้อก็เท่ากับเสื้อสีขาวรุ่นที่ทางสันนิบาตจัดให้ เบอร์ XXL 48 / XL 46 / L 44 / M 42 / S 40 ต่างอยู่นิดนึงคือแขนเสื้อ เป็นแขนปล่อย (ตัวสีขาวเป็นแขนจั๊มพ์) แต่ราคาแพงกว่าร้านTHE MOS ที่คุณอรนุชบอกนิดหน่อย แต่ลดหลั่นไปตามขนาดเสื้อเหมือนกัน ได้ลองคำนวณเฉลี่ยทั้ง 50 ตัวแล้ว ได้ประมาณตัวละ 206 บาท (ยังไม่ได้ปักLOGO)
ทีนี้ตอนที่ไปดูน่ะเป็นตอนบ่ายแล้ว ร้านค้าต่างๆเริ่มทะยอยปิดร้าน เค้าบอกว่าช่วงนี้เป็นวันหยุด ไม่มีลูกค้า เค้าจะปิดร้านบ่ายสามโมง ให้พนักงานไปทำบุญเข้าพรรษาค่ะ ให้มาดูใหม่วันพุธแล้วกัน
เล่ามาให้เพื่อนๆฟังเพื่อชวนให้เพื่อนเข้า BLOG มาคุยกันค่ะ ในส่วนตัวคิดว่าวันพุธจะหาเวลาแว่บออกไปดูอีกที คงต้องนัดกะคุณอรนุชให้ช่วยพาไปดูด้วยกัน ได้เรื่องยังไงจะแจ้งเพื่อนๆ ทราบนะคะ
ศิริวรรณ
คนเก่งมิได้แปลว่า คนที่ไม่เคยล้ม แต่คนเก่งหมายถึง คนที่กล้าลุกขึ้นทุกครั้งที่ล้มลงต่างหาก ถ้าเด็กทุกคนกลัวการหกล้มแล้วไม่ยอมหัดเดิน ในโลกนี้คงไม่มีมนุษย์คนใดสามารถเดินได้ จุดเริ่มต้นของชัยชนะในชีวิต อยู่ที่การเอาชนะตนเองป็นลำดับแรก ใครที่สามารถเอาชนะตนเองได้ในเบื้องต้น เขายอมเอาชนะผู้อื่นได้ในบั้นปลาย ในทางกลับกัน ใครก็ตามที่ยอมพ่ายแพ้แก่ตนเองตั้งแต่แรก เขาก็คือ ผู้ที่พ่ายแพ้แก่คนทั้งโลกตลอดกาล เพราะถ้าลำพังตนเองผู้เดียวยังเอาชนะไม่ได้ เขาจะเป็นผู้อยู่เหนือคนอื่นอีกมากมายได้อย่างไร ผู้ที่สามารถเอาชนะตนเองได้นั้น ต้องเป็นผู้ที่มีความตั้งใจอย่างแรงกล้า หรือมีแรงจูงใจใผ่สัมฤทธิ์ในตนเองสูง เขาจะไม่ย่อท้อต่อความยากลำบาก มีความพยายามที่ไร้ขีดจำกัด เพราะเขารู้ดีว่าผู้เอาจริงเท่านั้น จึงจะบรรลุความสำเร็จ อุปสรรค์เป็นเพียงสิ่งที่ความสำเร็จส่งมาลองใจ ถ้าชนะมันได้ ความสำเร็จก็จะตามมา เขาจะไม่มีวันพ่ายแพ้ ตราบไดที่เขายังไม่ยอมแพ้ และถ้าเขายังไม่ยอมแพ้ตราบนั้น เขายอมมีวันชนะ ขอให้ ผนส.5 ทุกท่านเป็นผู้ที่มีชัยชนะในชีวิต
เยี่ยมไปเลยค่ะ คุณสันติ!!!
ขอบคุณค่ะที่ขยันหาความรู้มาแบ่งปันกัน
ยิงกระสุนนัดเดียว ได้นกสองตัว
เพื่อนๆได้ความรู้
เข้า BLOG บ่อยๆ ช่วยกันทำสถิติด้วย 5555555555
เรียน อาจารย์จีระ
กระผมต้องขอกราบอภัยอย่างสูงที่ส่งการบ้านล่าช้า แต่ผมก็ไม่ลืมส่ง
การพัฒนาคนในระบบสหกรณ์หรือระบบราชการอย่างไรและทำอย่างไรจึงจะสำเร็จ
ระบบสหกรณ์เป็นระบบที่ดีที่สุดในโลก ระบบราชการเป็นระบบที่เกิดที่หลังระบบสหกรณ์แน่นอนและไม่สามารถใช้ได้ในยุคโลกาภิวัฒน์ ด้วยเหตุผลที่ว่า ระบบสหกรณ์เป็นระบบที่เกิดจากความศรัทธาของบุคคล ความเชื่อของบุคคลนั้น ๆ เหตุผลง่าย ๆ ที่จะทำให้ระบบทุกระบบนั้นสำเร็จเราต้องพัฒนาคนอย่างต่อเนื่องและเข้มข้นขึ้นตามกระแสและวัฒนธรรมที่เปลี่ยนแปลงค่อนข้างเร็วและแรง ซึ่งในสังคมโลกเราจะเห็นได้ว่า มนุษย์เรานั้นนำเอาทรัพยากรมาใช้ในชีวิตประจำวันเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆประชากรก็เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้เกิดความไม่สมดุลทางธรรมชาติ ระบบต่าง ๆ ที่มนุษย์คิดและสร้างขึ้นจะทำลายธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมซึ่งมนุษย์คิดว่าประสบความสำเร็จแล้ว
กระผมเห็นว่า สหกรณ์เป็นระบบที่เข้าทุกเชื้อชาติ ทุกศาสนาฉะนั้นควรที่จะพัฒนาระบบสหกรณ์ให้กับมนุษย์ตั้งแต่เกิดจนบรรลุนิติภาวะ ประเทศชาติจะได้บุคลากรที่มีคุณภาพและประสิทธิภาพ จะเข้าไปอยู่ในระบบไหนก็จะทำให้ประสบความสำเร็จได้ อีกอย่างครับอาจารย์ มนุษย์นับถือศาสนาได้ก็ได้ที่ทำให้เป็นคนดีและยึดมั่น สังคมและระบบในการบริหารราชการแผ่นดินจะมีแต่ความร่มเย็นเป็นสุขตลอดเช่นชาวพุทธ ขอแค่เพียงปฏิบัติศีล 5 และเศรษฐกิจพอเพียง ก็พอแล้ว ซึ่งผมเชื่อว่าสังคมโลกมีความสุขอย่างแน่นอน ไม่ต้องรอ พระศรีอริยะเมตไตร มาโปรดซึ่งหรืออีกสองพันกว่าปี มนุษย์เราก็จะพบหนทางแห่งความสุข เพราะฉะนั้น ทุกข์ของเรา เราต้องแก้เอง
โดยสรุป ระบบสหกรณ์เป็นระบบที่เหมาะกับการพัฒนามนุษย์ การพัฒนาจะต้องต่อเนื่อง จึงจะทำให้ระบบราชการเป็นระบบที่มีศักยภาพสูงสุด
ขอขอบพระคุณอย่างสูงครับอาจารย์
ถึง เพื่อน ผนส.รุ่น 5
ขอแสดงความยินดี กับพี่ศิริชัย ออสุวรรณ ที่ได้รับเลือกเป็นประธานรุ่น 5 ซึ่งท่านมีความเหมะสม และขอแสดงความยินดีกับ รองประธาน กรรมการ และที่ปรึกษา ทุกท่าน ขอขอบคุณเพื่อน ๆ ที่เลือกให้กระผมเป็นกรรมการในรุ่น ต้องขอขอบคุณมาก จะช่วยงานของ ผนส.รุ่น 5 ตลอด มือถือเปิดตลอด 24 ชั่วโมง
ขอบคุณครับ
โม่ง
เรียนผู้นำรุ่น 5 ทุก ๆ ท่าน
ผมประทับใจในความสามัคคีและความเอาใจใส่ของรุ่น 5 ทุกคน
ทำให้ผมมีกำลังที่จะสร้างผู้นำของสหกรณ์เพื่อมีเกียรติและศักดิ์ศรีสู้กับผู้นำในทุกสาขาได้
ดังนั้น ผู้นำรุ่น 5 ต้องมีความภาคภูมิใจที่ได้เป็นสมาชิกขององค์กรณ์สหกรณ์ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาปรัชญาการอยู่ร่วมกันอย่างเสมอภาค และกระจายผลประโยชน์อย่างเท่าเทียมกัน
ในช่วงที่ประเทศไทยมีวิกฤติทางการเมืองอยู่บ้าาง ผมจึงอยากให้ผู้นำสหกรณ์ทุกคน มองไปถึงความปรองดองของประเทศเป็นหลัก และแนะทำวิธีการที่ปฏิบัติได้ เพื่อไปสู่การลดความเหลื่อมล้ำในสังคมของเราอย่างแท้จริง
สุดท้ายนี้ ผมของแสดงความยินดีกับท่านประธาน รุ่น 5 คุณศิริชัย และคณะกรรมการ ซึ่งผมได้อ่านรายชื่อแล้ว เป็นคณะกรรมการที่เปิดโอกาศให้ทุกคนมีส่วนร่วมในการบริหารรุ่น 5 ต่อไป
ผมเขียนปล๊อคในวันที่เป็นวันที่มีความสำคัญทางศาสนา วันอาสฬหบูชา และวันเข้าพรรษา จึงขอให้ทุกคนมี 4 ข้อดังต่อไปนี้
1. ศีล
2. สมาธิ
3. ปัญญา
4. สติ
ผมจะพยายามมส่งข้อคิดเป็นมาเป็นระยะ และที่ประทับใจก้อคือ การอ่านหนังสือทรัพยกรมนุษย์พันธ์แท้ ทำให้หลายๆ ท่านได้ค้นหาแก่นของการบริหารว่า คนเป็นทรัพยากรที่สำคัญที่สุด แต่ว่าไม่ได้พูเฉย ๆ ท่านต้องนำไปปฏิบัติให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม
จีระ หงส์ลดารมภ์
สวัสดีครับ เพื่อน ผนส รุ่น 5 ทุกท่าน
วันนี้เป็นวันเข้าพรรษา หลายท่านคงมีการปรวาณาตัวในช่วงเข้าพรรษา และคงไปทำบุญในวันสำคัญทางศาสนา(อาสาฬหบูชา)
วันนี้สหกรณืออมทรัพย์ครูมหาสารคาม จำกัด เปิดทำการสมาชิกมาใช้บริการน้อย เนื่องจากเป็นวันหยุดต่อเนื่อง เวลาว่าง พยายามอ่านบล์อคของเพื่อนๆและอาจารย์จีระ ที่ท่านได้ให้หลักธรรมะ 4 ข้อ คือ ศีล สมาธิ ปัญญา สติ
และขณะเดียวกันนี้ก็ได้พยามติดต่อเพื่อทาง facebook ซึ่งได้เพื่อนหลายคนแล้ว แต่ยังไม่สะดวกในการใช้เนื่องจากเป็นเรื่องใหม่ หากเพื่อนคนใดจะเสนอแนะผ่านบล์อคหรือfacebook จะขอบคุณมาก
หลายคนคงกำลังเตรียมจัดทำโครงการเพื่อส่งอาจารย์ยม ส่วนผมพึ่งตั้งชื่อโครงการจะพยายามส่งให้ทันตามกำหนด
สวัสดีครับ เติมศักดิ์
สวัสดีวันเข้าพรรษาค่ะ
เข้า BLOG วันนี้ตื่นเต้นจังค่ะ อาจารย์จีระ ท่านกรุณาติดตามศิษย์ ผนส.5 มาให้ความรู้ ให้สติ ให้กำลังใจพวกเรา
ทำให้ได้รู้ว่า ทุกๆสองสัปดาห์ที่เราห่างกัน อาจารย์ได้คอยติดตามข่าวคราวและดูแลพวกเราอยู่ตลอดเวลาไม่ได้หายไปไหน
ถ้าเปรียบเป็นสมัยเด็กๆก็เหมือนเรายังไปโรงเรียนทุกวัน เจอครูทุกวัน
ท่านอาจารย์ยมก็คอยติดตามพวกเราทาง facebook
ใครยังไม่ได้ลงทะเบียนชื่อโครงการให้เปิดเข้า facebook อ.ยมแล้วลงทะเบียนจองชื่อโดยด่วนนะคะ
ช้าหมดอดจองไม่รู้ด้วยนะ
สวัสดีค่ะน้องศิริวรรณพี่อ่านเมลของน้องแล้ว และก็ถือโอกาศ หัดพิมพ์ และหัดส่งข้อความถึงน้องสาวคนเก่งด้วยเลยไม่ทราบว่าจะสำเร็จหรือไม่ พยายามส่งตั้งแต่เมื่อคืนแล้วค่ะไม่สำเร็จ และเมื่อตอนบ่ายก็พยามทดรองอีกก็ไม่ผ่าน ครั้งนี้เป็นครั้งที่สามแล้วค่ะเรื่องเสื้อ ความคิดเห็นส่วนตัวพี่เห็นด้วยกับเสื้อ ยี่ห้อ แตงโม เพราะคุณภาพดี และราคาที่น้องแจ้งให้ทราบก็ไม่แพง พี่คิดว่าเพื่อนๆคงเห็นด้วยนะค่ะ ส่วนเงินที่พี่เก็บมาเมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2553 พี่จะโอนให้ในวันที่ 28 กรกฎาคม 2553 นี้ พร้อมกับส่วนที่จะเพิ่มของทุกคนรวมทั้งที่ยังเก็บไม่ได้ เพื่อที่น้องสาวคนสวยจะได้นำไปใช้ในการทำ โลโก้ ด้วยค่ะ ต้องขอโทษด้วยนะค่ะที่ไม่ได้ไปเป็นเพื่อนเนื่องจากบ้านอยู่ จ. กำแพงเพชรค่ะ
รักและคิดถึงค่ะ
พี่เจริญศรี โสระมัด ผนส 5
ดีใจจังส่งได้แล้วค่ะเพื่อนๆ ค่ะ ดิฉันได้อ่านข้อความของทุกท่านที่ได้กรุนาส่งให้อ่านได้เพิ่มพูนความรู้ ขอขอบคุณทุกๆ ท่านที่ได้กรุนา
คิดถึงเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ทุกคนค่ะ โดยเฉพาะน้องศิริวรรณ น้องบอย น้องสันติ ดีใจกับพี่ใหมเอ๋ย
เจริญศรี โสระมัด ผนส 5
ไช......โย้......
ไช.... ไช.... ไช.... โย.. โย.. โย...
สวัสดีค่ะพี่ยุวดี ขณะนี้เอียดชักที่จะสนุกแล้วค่ะเริ่มที่จะเข้าใจในการใช้แล้วค่ะว่างๆ ลองพิมพ์ส่งเมลเล่นชิค่ะ
รักและคิดถึงค่ะ
เจริญศรี โสระมัด ผนส 5
ตอนนี้เรื่อง BLOG ก็โอ เค แล้วนะคะ พี่เอียด
คิวต่อไป........facebook....ค่ะ facebook
ไม่ยากค่ะ มีเวลาค่อยๆคลำไปเรื่อยๆ ทำได้แน่นอนค่ะ
ติดขัดตรงไหนโทร.ได้ตลอดค่ะ
อย่าลืม!! hotmail ของพี่ตรวจสอบรึยังคะ ติดต่อไม่ได้เรยยยยยย
อ้อย
ขอบใจมากค่ะน้องศิริวรรณ ที่น่ารักสงสัยกระแสจิตเราจะถึงกันนะค่ะ เชื่อหรือไม่ว่าเมื่อคืนนี้พี่นั่งส่งข้อความถึงน้องจนดึกประมาน 23.00 น ทำอย่างไรก็ส่งไม่ได้สักที่ เลยต้องเข้าน้อนก่อนพราะต้องตื่นแต่เช้ามืด เพื่อทำกับข้าวไปวัดค่ะ
hotmail พี่ charensri_ 98 @hotmail.co.th ค่ะน้องที่ทำงานเขาทำไว้ให้ค่ะลืมไปแล้วจริงๆ ด้วยละ เดี๋ยวพี่ทดลองส่งให้อีกครั้ง นะคะ
เจริญศรี โสระมัด (พี่เอียด)
พี่เอียดดดดดดดดดดดดด
ลองเปิด mail ดูนะคะ ทดลองส่งให้แล้ว
ว่าแต่ว่า พี่เขียนชื่อ mail ผิดอ๊ะป่าว
มันน่าจะเป็น[email protected] มากกว่านะ
อ้อย
โอเค.ค่ะ พี่เอียด
ทดลองส่งแล้ว ใช้ได้ค่ะ [email protected]
ขอบคุณมากค่ะน้องสิริวรรณ (ทดลองส่งค่ะ คอมพิวเตอร์อย่างกุ่ง) น้องค่ะไม่ทราบว่าเป็นเพราะอะไรพี่เปิดที่บ้านไม่ได้แต่ที่ทำงานรับได้ค่ะ พี่พยายามใช้ให้จำเลยไม่ได้ใช้โทรศัพท์ค่ะ ฝันดีนะคะ
พี่ละเอียดค่ะ
ก่อนอื่นขอแสดงความดีใจกับพี่เจริญศรี วันนี้ มีคตินักบริหาร มาให้อ่าน
การเป็นผู้บริหารที่ดีนั้น ต้องมีความอดทนอดกลั้นต่อภาวะกดดันต่างๆที่เกิดขึ้น มีความสุขุมคัมภีรภาพ คิดถึงเป้าหมายหลักมากกว่าเป้าหมายรอง คิดถึงเป้าหมายใหญ่มากกว่าเป้าหมายเล็ก คิดถึงประโยชน์ส่วนใหญ่มากกว่าประโยชน์ส่วนย่อย ยอมสูญเสียบางสิ่งบางอย่าง เพื่อคงไว้ในสิ่งที่ดีกว่า สิ่งใดอดทนได้ ก็ต้องอดทนสิ่งใดอดทนไม่ได้ บางครั้งก็ต้องอดทน เพราะ
"ถ้าคิดจะทำการใหญ อย่าสนใจเรื่องเล็กน้อย"
สวัสดีครับ เพื่อนๆ ผนส.5 ที่รักทุกท่าน
วันเข้าพรรษาเพื่อนๆได้ไปทำบุญที่ไหนกันมาบ้างครับ สำหรับผมพาครอบครัวไปที่วัดหลวงพ่อโสธรมาครับ คนมากครับ
ขอขอบคุณท่าน พ.ต.อ.บุญชัย ฤาชัยสา ที่ได้แนะนำพวกเราในการใช้ facebook ขอให้ทุกท่านมีความสุขมากๆนะครับ
พบกันวันที่ 6 ส.ค.ครับ
ศิริชัย ออสุวรรณ (ผนส.5)
โปรดคลิกที่ลิ้งค์นี้เพื่อดูรายละเอียดสถานที่ดูงานในประเทศ
สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนบ้านแสงอรุณ จำกัด http://www.coopthai.com/cubsa/history.html
สหกรณ์นิคมท่าแซะจำกัด http://www.thasae-coop.com/thasae/index.php
ชุมพรคาบาน่า รีสอร์ท http://www.cabana.co.th/th/index.html
สวัสดีเพื่อนๆ ผนส.5 ทุกคนครับ
วันที่ 30-31 สิงหาคม ทางสหกรณ์การเกษตรเมืองจันทบุรี และชุมนุมการสหกรณ์การเกษตรเมืองจันท์จะไปทอดผ้าป่าการกุศลที่จังหวัดบุรีรัมย์ ที่บ้านกลันทา ซึ่งเราจัดปีนี้เป็นปีที่ 3 แล้ว ผนส.5 ท่านใดที่อยู่ใกล้และอยากร่วมทำบุญด้วยกัน เรียนเชิญนะครับ แล้ววันที่ 6 สิงหาคม พบกันที่สันนิบาตครับ
อนุวรรตน์ อิ่มสมบูรณ์ ผนส.5
เรียน คุณศิริวรรณ
ไม่ทราบว่าซื้อเสื้อรุ่นที่ ร้านแตงโม หรือยัง คะ
ร้าน MOS อยู่โซนใหม่ ด้านหลัง ( เดินหน้าไปเรื่อย ๆ จากด้านหน้า ข้างโรงแรม ) ร้านติดบันไดเลื่อน ชั้น 4 มีเสื้อทั้งแบบหญิงและชาย สีเดียวกัน ให้เลือกเยอะค่ะ
พี่แดง (เลขา ผนส.4 )
สวัสดีค่ะ พี่แดง (เลขาผนส.4) และเพื่อนๆ ผนส.5 ทุกท่าน
ดีใจและขอบคุณพี่แดงมากค่ะที่ได้รับทราบความเป็นห่วงของรุ่นพี่ๆ............
ตามที่ได้กึ่งเล่ากึ่งบ่นให้เพื่อนๆฟังไปแล้วเมื่อวันจันทร์ว่าไปโบ๊เบ๊แล้วหาร้านเสื้อไม่เจอ เมื่อวานนี้(วันพุธ) ได้โทรไปถามน้องๆที่สันนิบาตอีกครั้งถึงชื่อร้านและโซนที่ตั้งของร้านที่ชัดเจน ชื่อร้านจริงๆชื่อร้าน "4you"ค่ะอยู่ชั้น 3 โซน C ติดบันไดเลื่อน แต่ที่ปกเสื้อเค้าจะเขียนไว้ว่ายี่ห้อ "MOS" ชัดเจนยังงี้แล้วก็ไม่สับสน
ตอนบ่าย(อีกแล้ว)ออกไปดูอีกที เจอแล้วค่ะ แต่ทีนี้ติดปัญหาที่ว่า เสื้อร้านนี้เค้าจะตัดแบบมีกระเป๋าเฉพาะเบอร์ M L XL (เบอร์ S กะเบอร์ XXL ไม่มีกระเป๋า) ทีนี้ มติรุ่นนี้เค้าอยากได้ "เสื้อโปโล คอปก สีเขียวตองอ่อน มีกระเป๋า แล้วก็ให้ปักLOGOรุ่นด้วย" แล้วสมาชิกรุ่นนี้มีขนาดXXLตั้ง 7 คน จึงตัดสินใจเลือกเสื้อยี่ห้อแตงโม ซึ่งมีข้อดีหลายอย่างค่ะ
1. มีขนาด (SIZE) ใหญ่เท่ากับเสื้อโปโลสีขาวที่พวกเราใช้อยู่ จึงสบายใจได้ว่า size ของและคนที่ให้มาโอเค. ใส่ได้แน่นอน แต่สำหรับของผนส.5 สาวสวยทั้งเจ็ดคนนี่ศิริวรรณปรับขนาดให้เล็กน้อยตามที่จดจำรูปร่างของแต่ละคนได้ คิดว่าสวยขึ้นทุกคนค่ะ (โดยเฉพาะพี่เอียด กระเป๋าเงินของรุ่น อิ อิ)
2. มีสีให้เลือกมากมายอย่างที่บอก และมีขายอยู่ตลอด ถ้าโอกาสต่อไปพวกเราอยากได้เสื้อสีเดิมเพิ่มอีกคนละตัวสองตัวก็มาซื้อเพิ่มได้
3. คุณภาพเนื้อผ้า รุ่นที่ตัดสินใจเลือกซื้อมาสำหรับเพื่อนๆเค้าเรียกว่า ผ้า"จูติ"ค่ะ ใส่แล้วไม่ยืดไม่ย้วย ไม่ร้อนไม่หนาว กำลังสบายพอดีค่ะ
4. ข้อนี้สำคัญ!! ทุกตัวทุกเบอร์มีกระเป๋าค่ะ เสื้อผู้ชายเป๋าใหญ่ เสื้อผู้หญิงเป๋าเล็กค่ะ
บางคนอยากรู้ว่าเลือกสีอะไรมาให้เพื่อนๆใส่ ขอบอกว่าเป็น "สีเขียวใสรสมะนาว" ค่ะ มันมีเขียวอ่อนหลายเขียวอย่างที่เคยเล่าให้ฟังแล้ว แต่ถ้าเลือกเฉพาะรุ่นที่มีกระเป๋า รุ่นที่มีทั้งเสื้อชาย/หญิงสีเดียวกัน ผ้าเนื้อเดียวกัน มันมีอยู่ 4 เขียว เขียวใบไม้อ่อน เขียวหยกอ่อนๆ เขียวอ่อนหม่นๆนิดหน่อย(เขียวไฮโซ) และเขียวใสรสมะนาว โทรคุยกะพี่เอียดแล้ว พี่เอียดเค้าอยากได้จ๊าบๆอ่ะค่ะ เลยตัดสินใจเลือกสีนี้มาให้ จินตนาการว่าเมื่อใส่กะเบรเซอร์สีดำแล้วคงเท่มากมายค่ะ เฉพาะคนที่ผิวสวยคือพี่ศรชัยจากเครดิตยูเนี่ยนพระหฤทัย/เชียงใหม่ ใส่แล้วน่าจะหล่อและหนุ่มขึ้นค่ะ
บันทึกไว้เพื่อเป็นข้อมูลอีกเรื่องค่ะ หลังจากซื้อเสื้อได้แล้วได้นำไปปักที่ร้าน XL ชั้น 4 โซน 5A ติดบันไดเลื่อนค่ะ ค่าปักตัวละ 25 บาท นัดไปรับเสื้อวันจันทร์ที่ 2 สิงหานี้ค่ะ
เจอกันวันศุกร์ 6 สิงหา ทุกคนได้รับเสื้อแน่นอนค่ะ บาย
สวัสดีค่ะ ผนส.5 ทุกท่าน
ถูกใจกับ สีเขียวใสรสมะนาว สวยแน่ค่ะกับสูทดำ
เสียดายไม่ได้ร่วมไปดูงานในประเทศด้วย เพราะติดงานสัมมนาฝ่ายสินเชื่อสถาบัน ( ผนส.5 ทั้ง 4 หนุ่ม ต้องลางานสัมมนาค่ะ )
แต่จะไปจีนในฐานะกรรมการบริหารโครงการค่ะ ไปถ่ายรูป ส่ง passport ให้คุณอรนุชแล้ววันนี้
วันที่ 28 ไปงานเชื่อมโยงธุรกิจในระบบสหกรณ์ ที่ ธ.ก.ส. ศรีสะเกษ เชิญ คุณชัยณรงค์ สกก.เมืองศรีสะเกษ (ผนส.5) คุณอวยพร สกก.ศรีกันทรารมย์ (ผนส.4 ) เข้าร่วมด้วย ในฐานะที่มีโรงสีข้าว กำลังการผลิต 80 ,40 ตัน / วัน ตามลำดับ และ สกก.กันทรลักษ์ 24 ตัน / วัน สกต.ศรีสะเกษ 40 ตัน/ วัน รวมทั้งสิ้น 184 ตัน หากคิดว่าข้าวเปลือก จำนวนนี้ เมื่อแปรรูปเป็นข้าวสารแล้ว อาจได้ข้าวสาร 60 ตัน (ถุงละ 5 กก. จำนวน 1,200 ถุง )
ขอเชิญชวนพวกเราชาวสหกรณ์ที่เคยซื้อข้าวกินตามใจอิสระ ที่ซื้อยี่ห้ออะไรก็ได้ ที่ไหนก็ได้ มาร่วมด้วยช่วยซื้อจากสหกรณ์ของเพื่อนเรากันเถิดค่ะ
แล้ว สกก.ที่มีศักยภาพในการรวบรวมข้าวเปลือก และสีแปรรูป จะได้ขยายกำลังการผลิต โดยไปรวบรวมจาก สกก.เล็ก ๆ ที่ยังไม่เก่ง ได้มีตลาดที่แน่นอน
ผู้บริโภคอย่างเรา ๆ ก็จะกินข้าวได้ถูกลง เพราะไม่มีค่าโฆษณา พลังชาวสหกรณ์ก็จะเพิ่มขึ้นอย่างน่าภาคภูมิใจ
สหกรณ์ร้านค้า ก็สั่งไปขายได้นะคะ
แล้วพี่แดงก็แนะนำ สินเชื่อเพื่อเสริมสภาพคล่อง ให้แก่ สอ.ครูศรีสะเกษ /สอ.ตำรวจศรีสะเกษ /สอ.สาธารณสุขศรีสะเกษ /สค.เสื่องข้าว /และสอ.โพธิ์ เพื่อพิจารณาทดลองใช้บริการเปรียบเทียบกับแหล่งทุนอื่น ๆ ของสหกรณ์ ( ตอนนี้คิดว่าผู้แทน ที่มาร่วมงานคงนำไปพิจารณาในคณะกรรมการ ฯ )
แต่ดีใจมาก ๆ ที่ สอ.สาธารณสุข สั่งข้าวสารบรรจุ 5 กก. 300 ถุง จาก สกต.แล้ว
และ สอ.ตำรวจ สนใจการประกันชีวิตกลุ่ม วงเงินประกันไม่เกินจำนวนเงินกู้ที่สมาชิกกู้ไปจาก สหกรณ์ สูงสุดไม่เกิน 1 ล้านบาท สมาชิกที่ไม่กู้ทำประกันได้วงเงินไม่เกิน 50,000 บาท เบี้ยประกันปีละ 750 บาท ต่อวงเงิน 100,000 บาท
ท่านใดสนใจ สอบถามคุณศิริศักดิ์ เพิ่มเติมได้ค่ะ
วันนี้บอกข่าวเล่าเรื่องเพียงนี้ก่อน
สวัสดีค่ะ
แดง
ส่งข่าวถึงเพื่อน ผนส. 5 ที่รักทุกท่าน
ขอให้ทุกๆท่านช่วยกันคิด "โครงการพิเศษ" เพื่อบำเพ็ญสาธารณประโยชน์ในนามรุ่นเรา โดยส่งข้อมูลที่ท่านเลขาศิริวรรณ
นะครับ เพื่อจะได้มีการหาข้อสรุปกันในเดือน สิงหาคมนี้
ผมได้ปรับปรุงห้องรับรองที่สำนักงานชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย จำกัด (ชสท.) ไว้แล้ว อยู่ถนนงามวงศ์วานตรงข้าม ม.เกษตรฯติดท๊อปซุปเปอร์มาเก็ต ขอเชิญเพื่อน ผนส.5ทุกท่านแวะไปเยี่ยมเยียน หรือจะใช้ห้องประชุม หรือทานสุกี้(ที่ท๊อปมี MK.) ยินดีให้บริการชาวสหกรณ์ทุกท่านครับ
ศิริชัย ออสุวรรณ ผนส.5
ขอเสนอไอเดียค่ะ
"โครงการพิเศษ" เพื่อบำเพ็ญสาธารณประโยชน์ในนามรุ่น 5 น่าจะเป็นโครงการที่อยู่ในจังหวัด/ท้องถิ่นที่สมาชิกผนส.5 ทำงานอยู่หรือมีภูมิลำเนาอยู่นะคะ เช่น ระยอง/จันทบุรี /ขอนแก่น/ลพบุรี/อุทัยธานี/มหาสารคาม /กำแพงเพชร / นครราชสีมา/อ่างทอง/สกลนคร/ศรีสะเกษเชียงใหม่/นครสวรรค์ เหตุผลคือ
1. บุคคลในพื้นที่จะได้รับทราบปัญหาที่แท้จริงที่พวกเราควรเข้าไปบำเพ็ญสาธารณประโยชน์/ช่วยเหลือ
2. จะได้เป็นผู้ประสานงานได้หากต้องมีการติดตามผลงานต่อเนื่อง
3. เป็นการทำประโยชน์ให้กับท้องถิ่นที่ตนเองมีส่วนรับผิดชอบอยู่
ทั้งนี้ โครงการอาจเป็นโครงการที่เป็นประโยชน์กับเยาวชนที่ด้อยโอกาสหรือขาดโอกาสก็น่าสนใจดีนะคะ เพื่ออนาคตของชาติ อาจเป็นโครงการสร้างถาวรวัตถุ โครงการห้องสมุด โครงการปลูกผักสวนครัว/เลี้ยงสัตว์ โครงการสอนพิเศษภาษาอังกฤษ ฯลฯ
อย่างไรก็ตาม พวกเราควรต้องช่วยกันคิดหาสถานที่ก่อนค่ะ ในระหว่าที่ยังไม่ถึงวันเปิดเรียน ช่วยๆกันเสนอความเห็นนะคะ
ศิริวรรณ
สวัสดีค่ะเพื่อนๆ ผนส 5 ทุกท่านดิฉันใคร่ขอเรียนให้เพื่อนๆ ทุกคนได้ทราบว่าตามที่ท่านประธานและเพื่อนได้แต่งตั้งน้องศิริวรรณ เป้นเลขารุ่นไม่ผิดหวังเลยค่ะ เพราะว่าน้องสาวคนสวย และน่ารักได้ปฎิบัติน่าที่ได้ดีเยี่ยม ทั้งนี้ค่าใช้จ่ายในการซื้อเสื้อและทำโลโก น้องศิริวรรณจัดการสำรองจ่ายเองทั้งหมดค่ะ ส่วนเงินที่ดิฉันเก็บมาน้องศิริวรรณบอกว่าให้ดิฉันนำไปจ่ายให้ในวันที่ 6 สิงหาคม 2553ค่ะ
สวัสดีครับ ผู้นำสหกรณ์ชั้นสูงรุ่น 5 ทุกท่าน
สวัสดี ผนส5 ทุกท่านเรื่องโครงการพิเศษที่จะทำร่วมกัน ผมเสนอขอช่วยเยาวชนชาวเขาที่อยู่ห่างไกล บนดอยสูงในเขตเชียงใหม่/เชียงราย ซึ่งช่วงหน้าหนาว(ปลาย พ.ย)เขาต้องการเสื้อหนาว(เก่า)และผ้าห่มจำนวนมาก หรือสหกรณ์ใดสามารถช่วยสร้างห้องเรียนให้เด็กๆที่ยังขาดแคลนโดยร่วมกับสหกรณ์โครงการหลวง ก็จัก..ขอบคุณยิ่ง.../ดร
ถึงเพื่อน ผนส.5 ที่รักทุกท่าน
วันอาทิตย์ที่ 8 ส.ค. 53 ที่พวกเราเดินทางไปดูงาน จ.ประจวบฯ และจ.ชุมพร มีข้อเสนอเพิ่มเติมครับ คือว่า
ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ (คุณวีระ ศรีวัฒนตระกูล) และท่านสหกรณ์จังหวัดประจวบฯ ขอเชิญพวกเราทุกคนแวะเยี่ยม สหกรณ์การเกษตรโรงสีข้าวพระราชทานอ่าวน้อย จำกัด ผมว่าน่าสนใจมากเพราะโรงสีข้าวของสหกรณ์แห่งนี้เป็นโรงสีข้าวพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระองค์ท่านเคยเสด็จพระราชดำเนินมาทอดพระเนตรกิจการโรงสีข้าว และทรงมีพระราชดำรัสให้ชาวไทยทุกๆจังหวัดปลูกข้าวไว้รับประทาน (มีพระบรมฉายาลักษณ์แสดง) อีกทั้งสหกรณ์นี้อยู่ในเส้นทางการเดินทางของพวกเรา คืออยู่ก่อนถึงสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนทุ่งแสงอรุณ 40 กิโลเมตร คงพอจัดคิวได้
ผมเพิ่งกลับจาก จ.สุพรรณบุรี ไปเยี่ยม สกก.เดิมบางนางบวชมาครับ
ศิริชัย ออสุวรรณ ประธานกรรมการ ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรประจวบคีรีขันธ์ จำกัด
ศิริวรรณยกมือเห็นด้วยกับท่านประธานฯ หนึ่งเสียงค่ะ
แต่ วันอาทิตย์ไม่ใช่ว่าเป็นวันหยุดของสหกรณ์เค้าเหรอ???
ส่วนในเรื่องโครงการพิเศษของคุณภราดร ถ้ารุ่นเราเห็นชอบที่จะทำโครงการช่วยเหลือเยาวชนชาวเขาที่อยู่ห่างไกล เราน่าจะทำได้ทั้งหมดนะคะ ทั้งเรื่องเสื้อผ้า/ผ้าห่ม และการสร้างห้องเรียน ซึ่งอาจแยกทำเป็น 2 ระยะ คือ โครงการระยะสั้น - ระยะยาว
ผนส.5 ท่านอื่นๆ มีโครงการพิเศษอื่นเสนออีกป่าวคะ??? เห็นด้วย หรือ มีข้อโต้แย้ง
ช่วยกันเข้ามาออกความเห็นด้วยค่ะ
ผมเห็นด้วยกับท่านประธานศิริชัย ออสุวรรณ ที่รุ่นเราจะทำโครงการพิเศษ เพื่อบำเพ็ญสาธารณประโยชน์ในรุ่นเรา โครงการที่คุณภราดร สื่อมโนธรรม เสนอมาก็เป็นโครงการที่ดีผมเห็นด้วย หรืออย่างเลขาที่เสนอโครงการเป็น 2 ระยะ ก็น่าจะนำมาพิจารณากัน
ข้อคิดการทำงานให้สำเร็จ .. การทำงานใดๆ ให้สำเร็จนั้น ต้องอาศัยศรัทธา 3 อย่าง คือ ความศรัทธาในสิ่งที่ทำ ความศรัทธาเชื่อมั่นในตนเอง และความศรัทธาในเพื่อนร่วมงาน
1. ความศรัทธาในสิ่งที่จะทำ หรือความศรัทธาในอุดมการณ์ของตนเอง ว่าเป็นสิ่งที่ดีมีคุณค่า ความศรัทธาในข้อนี้ จะก่อให้เกิดความมุ่งมานะที่จะทำงานนั้นให้สำเร็จ
2. ความศรัทธาเชื่อมั่นในตนเอง ว่าสามารถทำงานนั้นให้สำเร็จได้ ใครก็ตามที่ขาดความเชื่อมั่นในตนเอง ย่อมไม่สามารถทำงานให้สำเร็จได้
3. ความศรัทธาในเพื่อนร่วมงาน ว่าทุกคนพร้อมจะให้ความช่วยเหลือ ถ้าเขารู้ถึงความตั้งใจจริง ที่เราจะทำประโยชน์เพื่อส่วนรวม และได้ลงมือทำอย่างจริงจัง ด้วยความเพียรพยายาม
lสวัสดีค่ะเพื่อนๆ ดิฉันเห็นด้วยกับท่านประธานศิริชัย และคุณภราดร อีกหนึ่งเสียงค่ะ
เจริญศรี โสระมัด
เดือนสิงหาคม เป็นเดือนที่มีความสำคัญกับชาวไทย คือเดือนที่มีวันแม่ ผมจึงนำความเป็นมาของวันแม่ มานำเสนอ
กล่าวกันว่า นางแอนนา เอ็ม. จาร์วิส คุณครูชาวอเมริกันแห่งรัฐฟิลาเดลเฟีย ได้ใช้ความพยายามร่วม 2 ปี เพื่อเรียกร้องให้มี “วันแม่” ขึ้นอย่างเป็นทางการ โดยในปีค.ศ.1914 (พ.ศ. 2457) โดยประธานาธิบดีวู้ดโรว์ วิลสัน ได้มีคำสั่งให้ถือเอาวันอาทิตย์ที่ 2 ของเดือนพฤษภาคมเป็น “วันแม่แห่งชาติ” และดอกไม้สำหรับวันแม่ของชาวอเมริกันก็คือ “ดอกคาร์เนชั่น” เป็นสัญลักษณ์วันแม่ โดยมี 2 แบบคือ ถ้าแม่มีชีวิตอยู่ ให้ใช้ดอกคาร์เนชั่นสีชมพู แต่ถ้าแม่ถึงแก่กรรมไปแล้วให้ใช้ดอกคาร์เนชั่นสีขาว
สำหรับในประเทศไทยมีการจัดงานวันแม่ครั้งแรก โดยกระทรวงสาธารณสุข เมื่อ 10 มีนาคม พ.ศ. 2486 ที่สวนอัมพร แต่เนื่องจากช่วงดังกล่าวเป็นช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ทำให้ต้องงดจัดในปีต่อไป และต่อมาแม้จะมีหลายหน่วยงานได้พยายามรื้อฟื้นจัดขึ้นอีก แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร รวมทั้งได้มีการเปลี่ยนแปลงกำหนด “วันแม่” หลายครั้ง จนเมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2493 คณะรัฐมนตรีสมัยจอมพล ป. พิบูลสงคราม เป็นนายกรัฐมนตรี จึงได้มีประกาศรับรองให้วันที่ 15 เมษายนของทุกๆปี เป็น วันแม่ โดยเรียกว่า “วันแม่ของชาติ” และมอบหมายให้สภาวัฒนธรรมแห่งชาติเป็นผู้จัดงานเมื่อวันที่ 15 เมษายน พ.ศ.2493 เป็นครั้งแรก และได้รับความสำเร็จด้วยดี มีประชาชนและหน่วยงานต่างๆให้การสนับสนุนจัดงานกันอย่างกว้างขวางตั้งแต่นั้นมา และยังมีการประกวดแม่แห่งชาติ และคำขวัญวันแม่ เพื่อให้เกียรติและเพิ่มความสำคัญของงานวันแม่ให้ยิ่งๆขึ้นไปด้วย ต่อมาถึง พ.ศ.2519ทางราชการได้เปลี่ยนใหม่ให้ถือเอาวันเสด็จพระราชสมภพของสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ คือ วันที่ 12 สิงหาคม “เป็นวันแม่แห่งชาติ” เริ่มในปี พ.ศ.2519 เป็นต้นมาจนถึงปัจจุบัน วันแม่แห่งชาติ เป็นวันที่ทางราชการกำหนดในวันที่ 12 สิงหาคม ของทุกปี และถือว่าเป็นวันสำคัญยิ่งของปวงชนชาวไทย และกำหนดให้ใช้ “ดอกมะลิ” เป็นดอกไม้สัญลักษณ์วันแม่
ผมเห็นด้วยกับท่านประธานศิริชัย ออสุวรรณ ที่รุ่นเราจะทำโครงการเพื่อบำเพ็ญสาธารณประโยชน์
และเห็นด้วยกับโครงการที่คุณภราดร สื่อมโนธรรม เสนอมาครับ
สวัสดีครับ ผนส.5
อย่างแรกเลยก็เอาบุญมาฝากนะครับ ที่ไปทอดผ้าป่าที่บุรีรัมย์ ได้มีโอกาสเจอผนส. 2 ด้วย กลับมาอาทิตย์นี้ก็ต้องอยุ่สหกรณ์ เลยได้เห็นข้อเสนอแนะ ของท่านประธานฯ กับพี่ดร ถ้าอย่างนั้นก็เห็นด้วยกับข้อเสนอแนะ แต่ในเรื่องของกิจกรรมขอให้หาวันเวลาที่แน่นอนเพื่อจะได้วางแผนงานล่วงหน้า ในส่วนของโครงการก็ขอให้ทุกคนเร่งมือในการทำนะครับเราจะได้มีเวลาเหลือในช่วงปลายเพื่อเตรียมความพร้อม .... บาย
อนุวรรตน์ อิ่มสมบูรณ์ ผนส.5
โครงการผู้นำสหกรณ์ขั้นสูง รุ่นที่ 5
รายชื่อผู้นำเสนอโครงการ
ส่งต้นฉบับโครงการ 3 ชุด พร้อม CD PowerPoint ภายในวันที่ 17 กันยายน 2553
Present วันที่ 5- 8 ตุลาคม 2553
ลำดับที่ |
วันที่ส่ง |
ชื่อ - นามสกุล |
เรื่อง |
1 |
24 ก.ค.53 |
นายชโลทร สุวรรณลาภเจริญ |
โครงการแก้ปัญหาหนี้สมาชิกสหกรณ์ |
2 |
“ |
นายศุภกร ชูเกษม |
โครงการสร้างกลุ่มต้นแบบในสหกรณ์ |
3 |
“ |
นางสาวสุมาลัย รักเขตรการ |
โครงการปั้มชุมชน |
4 |
“ |
นางสาวภาวิณี ตุวยานนท์ |
โครงการเสริมสร้างความจงรักภักดีของสมาชิกต่อสหกรณ์อย่างยั่งยืน |
5 |
“ |
นายสมคิด ศรีพยัคฆ์ |
โครงการพัฒนาบุคลากรสหกรณ์ |
6 |
“ |
นายวิรัช รมณีย์ |
โครงการสนับสนุนสินเชื่อเพื่อขยายธุรกิจสหกรณ์ |
7 |
“ |
นายชัยณรงค์ กัณหา |
โครงการโรงสีเล็กตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง |
8 |
“ |
นายอนุวรรตน์ อิ่มสมบูรณ์ |
โครงการปรับปรุงคุณภาพผลไม้ผ่านกลุ่มเกษตรกรรายย่อย |
9 |
“ |
นายวีรศักดิ์ สงเคราะห์ |
โครงการสินค้าเพื่อการพัฒนาผลผลิต |
10 |
“ |
นายอารี ภู่สกุล |
โครงการสวัสดิการสมาชิกสหกรณ์ |
11 |
“ |
นายทักษิณ สารมณี |
โครงการเชื่อมโยงผลิตผลแปรรูปผัก |
12 |
“ |
นายรุ่งโรจน์ วรชมพู |
โครงการให้ความสำคัญกับสมาชิกและลูกค้า |
13 |
“ |
นางสิริพชนันท์ ชิตญาติ |
โครงการพัฒนาคุณภาพชีวิตสมาชิกสหกรณ์ |
14 |
“ |
พ.ต.อ.บุญชัย ฤาชัยสา |
โครงการใช้เทคโนโลยีและวิธีที่เหมาะสมในการเพิ่มประสิทธิภาพและผลผลิต |
-2-
ลำดับที่ |
วันที่ส่ง |
ชื่อ - นามสกุล |
เรื่อง |
15 |
“ |
นายศิริชัย หลงจิตร |
โครงการสินเชื่อเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของสมาชิกสหกรณ์ |
16 |
“ |
นายธวัชชัย อินทรทัต |
การพัฒนาระบบสหกรณ์ |
17 |
“ |
นายเจนวิทย์ อภิชัยนันท์ |
โครงการวางแผนเชิงกลยุทธ์ |
18 |
“ |
นายศิริพงษ์ มีประเสริฐ |
โครงการพัฒนาสหกรณ์อย่างต่อเนื่อง |
19 |
“ |
นางเจริญศรี โสระมัด |
โครงการต้นกล้าพันธุ์ใหม่หัวใจสหกรณ์ |
20 |
“ |
นายถาวร เนคมานุรักษ์ |
โครงการพัฒนากลุ่มอาชีพในสหกรณ์ |
21 |
“ |
นายสามารถ เอี่ยมวงษ์ |
โครงการ “สร้างการมีส่วนร่วมในการทำธุรกิจของสมาชิก” |
22 |
“ |
นายณฐกร แก้วดี |
โครงการ “เชื่อมโยงเครือข่ายสหกรณ์ในจังหวัดชลบุรี” |
23 |
“ |
นายคำนึง โสตถิอุดม |
โครงการนำกระบวนการสหกรณ์ออมทรัพย์สู่ชุมชน |
24 |
“ |
นายมานะ สุดสงวน |
โครงการหลักสูตรสหกรณ์สู่สถานศึกษา |
25 |
“ |
นายสมชาย ทองพันธุ์อยู่ |
โครงการให้ความสำคัญกับลูกค้าและผู้มีส่วนได้เสีย |
26 |
“ |
นางยุวดี เสือพันธุ์เจริญ |
โครงการรณรงค์การจัดทำบัญชีแก่สมาชิกสหกรณ์ |
27 |
“ |
นายศรชัย วิจิตรพร |
โครงการออมเพิ่มทรัพย์มั่นคง |
28 |
“ |
นายเติมศักดิ์ จันทะจร |
โครงการมุ่งเน้นทรัพยากรมนุษย์ |
29 |
“ |
ไม่ระบุชื่อ |
โครงการพัฒนาบุคลากรสหกรณ์ |
30 |
“ |
นายสันติ ขจรเวชไพศาล |
โครงการการวางแผนกลยุทธ์(แผ่นแม่บทสหกรณ์สู่ความยั่งยืน) |
31 |
|
|
|
32 |
|
|
|
33 |
|
|
|
ถึงพี่เอียด.....
ของชำร่วยที่คุยกันไว้ ไม่ทราบว่าพี่ได้ดูหรือยัง ถ้าอย่างไรช่วยแจ้งให้ผมทราบด้วยนะครับ เพื่อจะได้ดเนินการตามความเหมาะสม ขออภัยที่ไม่ได้โทร แค่อยากรู้ว่าพี่ได้เข้ามาดูหรือปล่าว....
เรียน คุณเกรียงไกร
ศิริวรรณจอง "โครงการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ บุคลากรสหกรณ์" ไว้ที่ Facebook อ.ยม ตั้งแต่เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม 2553 8.44 am. ไม่เห็นมีในรายชื่อเลยค่ะ โปรดตรวจสอบด้วยค่ะ
เรียน คุณเกรียงไกร
ผมขอเปลี่ยนชื่อโครงการจาก "โครงการใช้เทคโนโลยีและวิธีที่เหมาะสมในการเพิ่มประสิทธิภาพและผลผลิต" เป็น "โครงการพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อการดูแลและขจัดอุปสรรคให้แก่สมาชิกผู้รับบริการ" ครับ
ขอบคุณครับ
รับทราบ และจะดำเนินการให้ครับ ผนส.ศิริวรรณ/ ผนส.บุญชัย
เรียน ท่านอาจารย์ จีระ ที่เคารพ
วันนี้ เวลา ปรมาณ 15.30 น. ผมทราบข่าวจากท่านประธานสหกรณ์ของกระผม ท่านทองหล่อ ยมศรีเคน ว่า ท่าน ดร จีระ
มาร่วมเสวนา ที่โรงเรียนบ้านเม่นใหญ่ อำเภอเมือง จังหวัดมหาสารคาม กระผมทราบข่าวช้าไป หากทราบล่วงหน้าจะไปต้อนรับท่าน
และร่วมฟังการเสวนาด้วย ต้องขอโทษท่านอาจารย์ ที่มาเยือนถึงเมืองมหาสารคามแล้วไม่ได้ไปต้อนรับท่าน หวังว่าท่านมาเยือนโอกาสหน้าคงได้ต้อนรับท่าน
สวัสดีค่ะ คุณอนุวรรตน์ พี่จัดการของที่ระลึกเรียบร้อยแล้วค่ะเป็นพระกำแพงเพชรที่รวมอยู่ในกรอบเดียวกันค่ะ ราคากรอบละ 5oo บาท ค่ะ พี่ให้น้องเพ้นว่า ที่ระลึกจาก ผู้เข้ารับการฝึกอบรม "ผู้นำสหกรณ์ขั้นสูง" รุ่นที่ 5 ค่ะ ทั้งนี้ได้ปรึกษากับน้อง ศิริวรรณ ค่ะต้องขอโทษด้วยนะค่ะที่ไม่ได้ส่งภาพให้ดูเนื่องจากยังไม่ได้ไปรับของค่ะ โทรสั่งให้เขาจัดการไว้ให้ค่ะเพราะระยะทางที่พี่จะไปรับของ จากอำเภอขาณุวรลักษบุรี ไปที่ตัวจังหวัดก็ประมาน 80 กิโลเมตรค่ะ รู้นะอยากให้พี่พิมพ์แก่งๆใช่ใหมเอ๋ย โอเคแค่นี้ก่อนนะค่ะพี่ขอตัวไปงานศพก่อนค่ะ สวัสดีค่ะ
พี่เอียด
ถึงเพื่อน ผนส.รุ่น 5 และ รุ่นพี่ 1-4
เข้าพรรษาแล้ว ผมไทำบุญที่ จ.นครพนมมา ที่วัดโพธิ์ชัย อ.ศรีสงคราม เป็นวัดที่ าจารย์ของผม ท่าน ศาสตราจารย์พิเศษ ดร.อาบ นคะจัด ท่านได้บอกบุญมา ผมก็เลยถือโอกาศนี้ แบ่งบุญให้กับทุกท่านด้วย ขอให้ทุกท่านจงสำเร็จในหน้าที่การงานและการอบรมผนส.รุ่น 5 ทุกท่าน
ผมได้ปฏิญาณตนด้วยในวันเข้าพรรษานี้ โดยการทำดีเพื่อในหลวง งดเหล้าเข้าพรรษา เพื่อน ๆ จะทำบ้าง็ได้เพื่อในหลวง ผมทำมา 25 ปั แล้ว
ตอนนี้ผมอยู่ที่ อุบลราชธานี อากาศดีมากเลย มาราชการจะกลับวันพฤหัส เพื่อที่ วันศุกร์จะได้เข้ารับการอบรม เพื่อน ๆ อย่าขาดเรียนเด้อ อาจารย์จีระ สอนด้วย แล้วก็มาแต่เช้าหน่อย อย่ามาตามเวลา เดี๋ยวอาจารย์ ค้อนเด้อ ซิบอกให้
ศิริวรรณ เป็นเลขาที่เยี่ยมมากเลยมีข่าว คาว มาบอกเพื่อน ๆ ตลอด จะได้ไม่ตกข่าว เหมาะสมจริง ๆ น่ารักด้วย เพื่อน ๆ เอาใจช่วย ีอะไรก็บอกมาได้เลย
คุณภาราดร พ่อลี้ยง เชียงใหม่ โครงการของคุณเ็นด้วยอย่างมาก ผมไปทำทุกปเลย หลายดอยแล้ว จัดสักครั้งเพื่อน ๆ รุ่น 5 จะได้ขึ้นดอยเอาสิ่งของที่จำป็นไปมอบให้ชาวเขา อย่าลืม รองเท้าแตะ เกลือ นะชาวเขาชอบ นอนเต้นท์อากาศดีมาก ลุย ๆ ดี
ประธานเราเสนอให้เข้าเยี่ยมชมโรงสีพระราชทาน ผมเห็นด้วยอย่ายิ่ง เพราะว่าเป็นประโยชน์อย่างมากสำหรับ สหกรณ์ จะได้นำเอาไปพัฒนาสหกรณ์
โม่ง.........
ส่งงานอาจารย์เฉลิมพล เกิดมณี ของกลุ่มที่ 7
คนที่กลุ่ม 7 จะนำบรรทุกเครื่องบินไปสร้างเมืองใหม่อีก 7 คนคือ
1. หมอแผนโบราน เพราะการสร้างเมืองใหม่ ยังไม่มีโรงพยาบาลจำเป็นต้องอาศัยหมอแผนโบรานในการรักษาเวลาเจ็บป่วย
2. เกษตรกร เพื่อเพาะปลูกผลิตอาหารเลี้ยงคนในเมืองใหม่
3. กรรมกร เพื่อใช้แรงงานในการสร้างสิ่งปลูกสร้างและแรงงานอื่น ๆ
4. นักวิทยาศาสตร์ เพื่อค้นคว้าวิจัยเรื่องต่าง ๆในการพัฒนาเมืองใหม่
5. เด็ก เพื่อจะได้เติบโตเป็นกำลังในการพัฒนาเมืองใหม่ในอนาคต
6. ครูผู้หญิง เพ่ื่อสั่งสอนให้ความรู้ในการพัฒนาเมืองใหม่ และเพื่อการสืบเผ่าพันธ์
7. นายแพทย์ เพื่อจะได้รักษาคนป่วยเมื่อเมืองใหม่เจริญขึ้น และสืบเผ่าพันธ์
สำหรับนักกฏหมายสูงอายุและนักการเมืองเห็นว่าไม่จำเป็นต้องนำไปด้วยเนื่องจากอาจทำให้เกิดความแตกแยกให้เกิดขึ้นได้
รายชื่อของกลุ่ม 7 1. นายอรุณ พรหมดำ 2. นางยุวดี เสือพันธ์เจริญ
3. รศ.ปรากรม ประยูรรัตน์ 4. นายศิริศักดิ์ หลงจิตร 5. นายคำนึง โสตถิอุดม
สวัสดี เพื่อนๆผนส.5 ที่รักและเคารพทุกท่าน
ผมมีข่าวบอก ทางท่านประธานศิริชัยอยากให้พวกเรามีกิจกรรมสังสรรค์กันในช่วงที่ไปศึกษาดูงานอาจะเป็นคืนวันที่ 8 หรือ 9 ผมเห็นด้วยเลยรับเรื่องนี้มาประสานงานกับบุคคลที่เกี่ยวข้องใครมีไอเดียอะไรเสนอก็บอกมานะครับ และอยากให่พวกเราหัดใช้ face book ให้มากเพราะทางอาจารย์ยมอยากให้เราสือสารผ่านทางนี้ให้มาก แต่ก็ต้องใช้งานอันนี้ไปด้วยควบคู่กันไปนะครับ
อนุวรรตน์ อิ่มสมบูรณ์ ผนส.5
สวัสดีครับ ผนส.5 ที่รักและเคารพทุกท่าน
ช่วงนี้สหกรณ์ที่ปิดบัญชีปี กันยายน คงวุ่นกันทุกคน ของผมก็เช่นเดียวกันงานเต็มไปหมด ไหนจะต้องเรียนเตริยมปิดงบขายหนี้ โอย....เยอะ แต่ก็รู้สึกดีนะครับที่ต้องไปเรียนได้เจอเพื่อนๆ อีก 2 วันเจอกันนะครับงานนี้ยาว....
อนุวรรตน์ อิ่มสมบูรณ์ ผนส.5
ยาว.....ด้วย / สหกรณ์ที่ไม่ได้ปิดบัญชีก็ยุ่งเหมือนกันค่ะ /อีกสองวันเจอกันค่ะ
ศิริวรรณ
สวัสดีครับเพื่อนๆ ผนส.5 ทุกคน
ผมได้อ่านบล๊อคตลอด แต่โพสต์เข้ามาไม่ได้ เนื่องจากบล๊อคไม่มีรหัสสุ่ม แต่วันนี้ไม่ทราบเป็นเพราะเหตุใด รหัสสุ่มถึงขึ้นมาได้ และผมเห็นด้วยกับท่านประธานศิริชัย และท่านอนุวรรตน์ ที่จะให้พวกเรามีกิจกรรมสังสรรค์ร่วมกัน ไม่เฉพาะแต่วันที่ 8 , 9 นี้เท่านั้น แต่รวมทุกครั้งที่พวกเราได้ไปเรียน/อบรม แล้วพักค้างคืนที่สันนิบาตสหกรณ์ฯ ขอเสนอความคิดเห็นว่า น่าจะเก็บเงินกองกลางสักก้อนหนึ่ง อาจจะคนละ 500.-บาท หรือ 1,000.-บาท ก็แล้วแต่เห็นสมควร ซึ่งคิดว่าคงจะไม่หนักหนามากนัก เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายสมทบเรื่องค่าเครื่องดื่ม นอกเหนือจากอาหารที่ทางสันนิบาตฯจัดให้อยู่แล้ว และหากเงินที่เก็บยังคงเหลือก็เก็บไว้ใช้ในครั้งต่อ ๆ ๆ ไป หรือตั้งเป็นกองทุนอะไรสักอย่างก็น่าจะได้ จริงมั๊ยยยยยยย
แล้วพบกันวันที่ 6 สิงหานะครับ
เกษม ศรีเกื้อกลิ่น
ผนส.
สวัสดีคะ ท่าน ผนส. 5 ทุกท่าน
หลังจากดูงานในประเทศ แล้ว กลับมาต้องช่วยกันคิดทำโครงการ Public Seminar ด้วยนะคะ จะต้องจัดในวันที่ 8 ตุลาคม ภาคเช้าก่อนปิดการอบรม คะ หัวข้อการจัดสัมมนา อาจารย์ จิระ และ อ.ยม จะแนะนำให้อีกครั้งคะ ในช่วงของการมาบรรยาย หลังการอบรมครั้งนี้ เหลือเวลา เตรียมการ แค่ 2 เดือน นะคะ อบรม อีก 4 ครั้ง ไม่รวมดูงาน และขอให้ทุกคนตรวจสอบระยะเวลาการอบรมด้วยนะคะ บางคนไม่ทราบ ว่ามีการอบรมในแต่ละอาทิตย์หรือเปล่า ดูงานวันไหน ระวังมาเก้อคะ แล้วเจอกันวันศุกร์นะคะ
อรนุช กันภัย
สวัสดีค่ะ คุณเกษม และเพื่อนๆผนส.5ทุกคนค่ะ
เจออาการที่เปิด Blog แล้วรหัสสุ่มไม่ขึ้นมาทำให้โพสต์เข้าไม่ได้เหมือนกันค่ะ ใบ้อยู่นาน
แต่พอดีมันเป็นเฉพาะComp.ที่สหกรณ์ Comp.ที่บ้านไม่เป็น ก็เลยแก้โดยโพสต์จากเครื่องที่บ้าน
ตอนนี้หาวิธีแก้ได้แล้วค่ะ เลยอยากบอกไว้เผื่อเพื่อนคนอื่นเจอปัญหาเดียวกันจะได้แก้ไขได้ ง่ายๆค่ะ
พอเข้าBlog มาแล้วไม่มีรหัสสุ่ม ก็คลิกขวาค่ะ แล้วลากเมาส์ลงไปคลิกที่ refresh
แค่นี้เองค่ะ รหัสสุ่มเด้งดึ๋งขึ้นมาเลยค่ะ
ศิริวรรณ
สวัสดีครับ ผนส.5 ทุกท่าน
ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณคุณศิริวรรณ(เลขาคนสวยประจำรุ่น 5)ที่ได้แนะนำวิธีแก้ให้รหัสสุ่มขึ้นมาบนBlog เนื่องจากคอมฯทั้งที่ที่สำนักงาน หรือที่บ้านมีอาการเดียวกันคือ ไม่มีรหัสสุ่ม ทำให้โพสต์ไม่ได้ แต่หลังจากเลิกงานกลับถึงบ้านก็มาเปิด Blog อ่านอีกครั้ง และได้อ่าน Blog ของคุณศิริวรณ(เลขาคนสวย)ก็ปฏิบัติตามวิธีที่แนะนำ โป๊ะเซะ ได้ผลทันที ต้องขอขอบคุณอีกครั้งนะ ไม่ทราบว่าของ ผนส.5 ท่านอื่นคอมฯมีอาการเดียวกันหรือ ถ้ามีก็ลองวิธีที่เลขาคนสวยแนะนำนะ รับรองได้ผล
ถึง..คุณอรนุช ขากลับจากดูงานในประเทศ วันที่ 10 สิงหา ไม่ทราบว่าจะกลับมาทันรถโดยสาร(เที่ยว 2 ทุ่ม)ที่หมอชิตหรือเปล่า เนื่องจากได้ตีตั๋วไปกลับไว้แล้ว ช่วยแจ้งให้ทราบ หากไม่ทันจะได้แก้ไขการเดินทางได้ทัน ครับ
สุดท้าย ขอขอบคุณอีกครั้งทั้งคุณศิริวรรณ(เลขาคนสวยประจำรุ่น 5) และคุณอรนุช แล้วพบกัน 6 สิงหานะครับ
Thank you
Kasem Srikuaklin
ผนส.5
เรียน ท่านอาจารย์ จีระ ที่เคารพ
ด้วย ในวันที่ 5-6 สิงหาคม นี้ สหกรณ์ออมทรัพย์ครูมหาสารคาม จำกัด มีโครงการอบรมสัมมนาและศึกษาดูงานของ คณะกรรมการ เจ้าหน้าที่ และผู้ตรวจสอบกิจการ วันที่ 6 สิงหาคม จัดอบรมที่ ชุมนุมสหกรณ์ออมทรัพย์แห่งประเทศไทย ได้รับความอนุเคราะห์จากท่านประธานเฉลิมพล ดุลยสัมพันธ์ ด้านสถานที่อบรม และให้เกียรติเป็นวิทยากร กระผมรับผิดชอบโครงการด้วย
ขออนุญาตลาการอบรม ผนส 5 1 วัน วันที่ 7 - 10 ส.ค. ร่วมอบรมและดูงานตามปกติ
ผมเห็นด้วยกับคุณเกษมว่าเราน่าจะเก็บเงินกองกลางไว้เป็นค่าใช่้จ่ายของรุ่น ส่วนที่จะนำมาเป็นค่าเครื่องดื่มเกรงว่าจะมีพวกเราที่ไม่ดื่มจะไม่เห็นด้วยกับการเก็บเงินกองกลางแล้วนำมาใช้จ่ายเป็นค่าเครื่องดื่ม ผมอยากเสนอว่าเราน่าจะเก็บเงินที่เป็นค่าเครื่องดื่มต่างหากเฉพาะคนที่เข้าร่วมกิจกรรมนักดื่ม จะได้ไม่เป็นการเอาเปรียบเพื่อที่ไม่ดื่ม ส่วนผมยินดีสนับสนุนทุกกองทุน เจอกันวันศุกร์ครับ
เรียน อาจารย์จีระ ที่เคารพ
อาจารย์ครับ พวกเรา ผนส.5 อยากให้มีอาจารย์จีระ ร่วมเดินทางทัศนศึกษาในวันที่ 8-10 ส.ค.นี้ด้วย หรืออาจไปร่วมทานข้าวตอนเย็นก็ได้ 8 ส.ค.ที่แก่งเพการีสอร์ท จ.ชุมพร, 9 ส.ค.ที่โรงแรมเมธาวลัย อ.ชะอำ (มีนักร้องรับเชิญ นิค นิรนาม) หวังว่าพวกเราคงโฃคดีได้พบท่านนะครับ
ศิริฃัย ออสุวรรณ ผนส.5
เรียน ผนส.5 ทุกท่าน
การศึกษาดูงานในประเทศ ศ.ดร.จีระ ร่วมเดินทางไปด้วยในวันที่ 8 ส.ค.53 ครับ
สำหรับการศึกษาดูงาน ผมมีข้อเสนอให้พิจารณาดังนี้
แบ่งกลุ่ม 5 กลุ่มละ 10 คน โดยมีหัวข้อที่จะศึกษาใน 5 ด้าน คือ
1.การมีส่วนร่วมทำธุรกิจของสมาชิก
2.การบริหารจัดการ
3.การสร้างมูลค่าเพิ่ม
4.มุมมองทางด้านการเงิน
5.เครือข่ายธุรกิจ
สวัสดีคะ ท่านผนส.5
กำหนดการดูงานในประเทศ จะมาถึงกรุงเทพฯ ในวันที่ 10 สิงหาคม ไม่น่าจะเกิน 4 โมงเย็นนะคะ ถ้าไม่แวะซื้อของ หรือทำกิจกรรมอะไร เพราะทานอาหารกลางวันที่โรงแรมเมธาวลัย แล้ว ไม่เกิน 13.30 น. ทุกคนก็เตรียมเดินทางกลับแล้วคะ
เรียน ผนส.5
กำหนดการอบรมวันที่ 6 สิงหาคม นี้ จะมี Dinner Talk ครั้งแรก โดย ท่านอุทัย พิมพ์ใจชน มาเล่าประสบการณ์และความสำเร็จให้ท่านผู้นำได้ศึกษา พยายามอย่าขาดนะคะ
สวัสดีค่ะ ผนส.5 ทุกท่าน
ได้ส่งกำหนดการการเรียน ครั้งที่ 5 วันที่ 20-21 ส.ค.53 มาให้ทุกท่านได้ทราบกันล่วงหน้าเพื่อได้เตรียมความพร้อมในการเรียนครั้งต่อไป ค่ะ
กำหนดการเรียนครั้งที่ 5
โครงการพัฒนาผู้นำสหกรณ์ หลักสูตร “ผู้นำสหกรณ์ขั้นสูง” รุ่นที่ 5
ระหว่างวันที่ 20 – 21 สิงหาคม 2553
ณ ห้องประชุมศูนย์รัชนีแจ่มจรัส สันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทย
-------------------------------
วันศุกร์ที่ 20 สิงหาคม 2553
เวลา 08.30 - 09.00 น. Morning Coffee
เวลา 09.00 - 12.00 น. การวางแผนและบริหารงบประมาณของผู้บริหารสหกรณ์
(Planning and Budgeting) โดย อาจารย์สมชาย ศิริรุ่งกิจ
เวลา 12.00 - 13.00 น. รับประทานอาหารกลางวัน
เวลา 13.00 - 16.00 น. หลักเศรษฐศาสตร์มหภาคกับงานสหกรณ์
(Macro Economics and Cooperative)
โดย ศ.ดร. จีระ หงส์ลดารมภ์
เวลา 16.30 - 19.30 น. ความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรม (Dinner Talk)
โดย อาจารย์กฤช สินอุดม
เวลา 19.30 - 20.30 น. รับประทานอาหารเย็น
วันเสาร์ที่ 21 สิงหาคม 2553
เวลา 08.30 - 09.00 น. Morning Coffee
เวลา 09.00 - 12.00 น. การใช้และการวิเคราะห์ข้อมูลทางการเงินเพื่อการบริหาร
(Financial Analysis and Application) โดย อาจารย์สมชาย ศิริรุ่งกิจ
เวลา 12.00 - 13.00 น. รับประทานอาหารกลางวัน
เวลา 13.00 - 16.00 น. HR for Non HR (การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์สำหรับนักบริหาร)
โดย อาจารย์ศิริลักษณ์ เมฆสังข์
เวลา 16.00 - 17.30 น. สรุปการฝึกอบรม/มอบหมายงาน
เดินทางกลับภูมิลำเนา
******************
สวัสดีครับ เพื่อนๆ ผนส 5 ที่รักทุกท่าน
วันพรุ่งนี้ ศุกร์ที่ 6 ส.ค.พบกันตามนัด อย่าลืมนำเล่มพาสปอร์ต และรูปถ่ายเพื่อทำวีซ่า ไปมอบให้คุณอรนุชด้วย นะครับ
1.ผมต้องขอโทษประธานและทีมงานที่ไม่ได้ไปร่วมสัมมนาในประเทศด้วย เพราะต้องพาคณะกระทรวงพาณิชย์ไปต่างประเทศ
รุ่น 5 ผมมีความสุขมากที่ได้ทำงานได้ดี Blog ทำได้ดี
จะขอฝากให้ช่วย
- ผมชื่นชมสหกรณ์ร้านค้าที่เอกมัยมาก สวยและน่า shop มาก
- อาทิตย์ อยู่กับผม 2 ครั้ง พยายามใกล้ชิดกันมากที่สุด จะได้ช่วยปรับวิธี การคิดของทุกคน
- Blog ของผมมีหลายเรื่อง ควรจะอ่านและเชื่อมโยงให้ได้
การบรรยายเรื่อง เศรษฐศาสตร์จุลภาคกับงานสหกรณ์ โดย ศ.ดร.จีระ หงส์ลดารมภ์ ในวันที่ 6 สิงหาคม 2553
Workshop
เลือก Concept ทาง Micro 1 เรื่อง
-นำมาประยุกต์กับสถานการณ์จริงในสหกรณ์หรือผู้กู้หรือผู้ฝาก
-ก่อนเรียน เข้าใจผิดอย่างไร
-หลังเรียน เข้าใจถูกได้อย่างไร และเข้าใจถูกคืออะไร
-ตัวท่านได้อะไร องค์กรได้อะไร? ได้เรียนรู้อะไร
กลุ่ม1
Private/Common Property Rights การเป็นเจ้าของสหกรณ์
ดร.จีระ
กลุ่ม 2
Property Rights
ดร.จีระ
กลุ่ม 3
Property Rights หลักความเป็นเจ้าของ
ดร.จีระ
กลุ่ม 4
ดร.จีระ
กลุ่ม 5
ดร.จีระ
การบรรยายเรื่อง การบริหารการเปลี่ยนแปลง โดย อาจารย์ประกาย ชลหาญ ในวันที่ 6 สิงหาคม 2553
Workshop
1.การเปลี่ยนแปลงที่คุณอยากให้เกิด
2.การเปลี่ยนแปลงที่คุณได้รับและสิ่งแวดล้อมทำให้เกิด
กลุ่ม 1
กลุ่ม 2
กลุ่ม 3
อาจารย์ประกาย
Dinner Talk การนำเสนอประสบการณ์และความสำเร็จ โดย คุณอุทัย พิมพ์ใจชน ในวันที่ 6 สิงหาคม 2553
ช่วงถาม-ตอบ
1. ประชาธิปไตยเป็นเรื่องใหญ่ สหกรณ์เป็นรากประชาธิปไตย ทำไมรัฐบาลไม่ผลักดันสหกรณ์
ตอบ คุณต้องต่อสู้และเอาชนะมันให้ได้ มี 2 เหตุผล
1.สหกรณ์เองก็มีปัญหาทั้งๆที่ต้องแข่งกับตลาดทั่วไป ทำให้เราอ่อนแอ ก้าวหน้ายาก
2.รัฐบาลก็รู้ว่าสหกรณ์เป็นรากประชาธิปไตย แต่รัฐบาลไม่ทุ่มเทให้
โครงการนี้ทำให้เราได้เสนอความต้องการ ควรนำเสนอไปหน่วยราชการที่เกี่ยวข้อง
คำถามนี้ดีมาก เป็นอมตะ
2. ส.ส.บอกว่าจะนำแม่น้ำมูลมาใช้ประโยชน์ แต่มันมีปัญหาดินไม่อุ้มน้ำและสหกรณ์การเกษตรได้รับความเดือดร้อน แต่นักการเมืองไม่แก้ปัญหาเป็นเพราะอะไร
ตอบ ส.ส.ส่วนหนึ่งความคิดดีแต่ผู้บริหารไม่สนับสนุน ผู้บริหารมีแต่อำนาจแต่ไม่มีความคิด
3. ในฐานะที่ท่านเป็นผู้อาวุโสในบ้านเมือง อยากให้ท่านมองอนาคตไทยในด้านการเมือง เศรษฐกิจ และสังคม เพื่อสหกรณ์จะได้วางแผนงานได้ดีขึ้น
ตอบ สหกรณ์เป็นการรวมตัวของสมาชิก แต่การเมืองในอนาคตน่าวิตกมาก หลักการปฏิรูปประเทศไทยยากจะไปถึง ควรจะปฏิรูปประเทศไทยง่ายๆโดยมีความตรงต่อเวลา ประเทศที่เจริญแล้วล้วนเป็นประเทศที่ตรงต่อเวลา เมื่อตรงต่อเวลา ก็ควรเลิกงานบ่าย 3 โมง เพราะจะได้ประหยัดงบหลวง เมื่อกลับบ้านเร็ว ชุมชนเข้มแข็ง ได้อยู่ร่วมกับครอบครัวและชุมชนอย่างมีความสุข
ปฏิรูปประเทศไทยสำเร็จยาก ชาวบ้านไม่ชอบนักการเมือง แต่แก้ปัญหานักการเมืองสำเร็จยาก นักการเมืองไม่ยอมร่างในสิ่งที่ตนเองไม่ได้ประโยชน์
ถ้าจะปฏิรูปประเทศไทยจริงๆ ต้องทำที่เด็ก โดยปลูกฝังระเบียบวินัย ศีลธรรม การเมือง ให้เด็กอายุเกิน 15 ปีไม่เกินอายุ 18 ปีมาเป็นกรรมการเลือกตั้งเพราะยังตาใสมองเห็นถูกอยู่
4. ถ้าท่านมีอำนาจอยู่ สหกรณ์มีปัญหามาก ทุกกรมพาสหกรณ์ไปดูงาน พ่อค้าก็ได้ประโยชน์ไปมากเวลาค้าขาย แต่สหกรณ์ได้น้อย ทำไมไม่พาสหกรณ์ไปถึงปลายทาง
ตอบ พรรคประชาธิปัตย์ที่เป็นแกนให้ผมเป็นรัฐมนตรีพาณิชย์แทน ผมเชิญพาณิชย์จังหวัดให้รายงานปัญหาจังหวัดมาที่กระทรวง ผมเตรียมทางแก้ปัญหาล่วงหน้าไว้แล้ว เช่น แก้ปัญหาโควต้าลมของมันโดยบอกว่าจะไปตรวจดู เพิ่มหน่วยงานตรวจสต๊อก จับฉลากไปตรวจแต่ละโกดัง และมีการตรวจซ้ำ ทำให้คนส่งออกต้องซื้อมันเพิ่ม ทำให้มันขึ้นราคา
ภาพบรรยากาศ 6 ส.ค.53
การบรรยายเรื่อง คุณธรรม จริยธรรมและธรรมาภิบาลสำหรับนักบริหาร
โดย ดร.อรพินท์ สพโชคชัย ในวันที่ 7 สิงหาคม 2553
Workshop
ความสำคัญและความมั่นคงของสหกรณ์ต้องวางอยู่บนรากฐานของอะไร
กลุ่ม 3
กลุ่ม 5
ดร.อรพินท์
ผมได้เปิดบล๊อกผู้นำสหกรณ์ขั้นสูงรุ่นที่ 5 (ระยะที่ 2) แล้ว โปรดคลิกเข้าไปดูและแสดงความคิดเห็นในลิ้งค์ข้างล่างนี้
Workshop ของอาจารย์จีระ ภาคค่ำเยี่ยมมากครับ แต่อยากฝากผู้นำทุกคนไว้ การเป็นผู้นำขอให้เป็นผู้นำที่ดี มองกาลไกล นึกถึงผลกระทบต่อคนอื่น แลสังคมให้มากๆ อย่าทำลายสังคม อย่าทำร้ายคนคนอื่น
ต้องขอบคุณอาจารย์ ทุกๆท่าน ที่ได้ให้ความรู้พวกเราอย่างเต็มที่ และขอขอบคุณคณะทำงานของสันนิบาติทุกๆคน ครับ
ผมต้องขอบคุณอาจารย์ ทุกๆท่าน ที่ได้ให้ความรู้พวกเราอย่างเต็มที่ และขอสัญญาว่าจะนำความรู้ที่ได้รับมาใช้ในการปฎิบัติงานให้ได้มาที่สุด
ถึงเพื่อน ผนส.รุ่น 5
ในวันที่ 21 สิงหาคม 2553 สมาคมเศรษฐศาสตร์สหกรณ์แห่งประเทศไทย ได้จัดให้มีการประชุมสมาคมฯ เวลา 13.30 น. และจัดให้มี งานมุทิตาจิต ท่าน รศ.ดร.เทพ พงพานิช อธิการบดีมหาวิทยาลัยแม่โจ้ เวลา 17.30 น. ณ ห้องประชุมสันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทย ซึ่งในงานนี้ได้เรียนเชิญท่านรองอธิบดีเลอพงษ์ มุกสิกมาน มาร่วมงานในการที่ท่านได้เกษียญอายุราชการ ตลอดจนคณาจารย์ จากมหาวิทยาลัยแม่โจ้ หลายท่าน อาทิ ศ.พิเศษ ดร.อาบ นคะจัด รศ.ดร.ประเสริฐ จรรยาสุภาพ ผศ.ดร.รัตนา โพธิสุวรรณ เป็นต้น
ซึ่งเป็นโอกาสดีที่เพื่อน ผนส.รุ่นที่ 5 จะได้พบกับ ท่าน อาจารย์อาบ นคะจัด ซึ่งท่านเป็นนักสหกรณ์ ที่เพื่อนจะได้สนทนากับท่านและพูดคุยกับท่านอาจารย์อย่างเป็นกันเอง
โม่ง
วันนี้ตอนที่คุณสุรพลประกาศในห้องเรียนผนส.5 บอกว่าเป็นวันที่ 16 สิงหาคม(วันจันทร์) ไม่ใช่เหรอ?
ตกลงวันเสาร์ที่ 21 แน่นะ?
วันเสาร์เป็นวันที่พวกเรามาเรียนครั้งที่ 4 อยู่แล้วใช่ป่ะ??
ศิริวรรณ
เรียน อ.จีระ ที่เคารพ
วันนี้วันที่ 9 พวกเราอยูที่ชุมพร คาบาน่า ที่นี้ให้ความรู้อุดมการณ์ ให้แรงบันดาลใจ ในเรื่องของการพึ่งพาตนเองตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง และการมีส่วนร่วมชุมชน พวกเราประทับใจในการทำงานของที่นี่ ทำให้เห็นว่าบุคคลากรของที่นี่ทำงานด้วยใจเห็นองค์กรเป็นบ้านทุกคนมีส่วนร่วม ทั้งการทำงานและความคิด ผู้บริหารมีวิธีคิดในการให้ทุกคนร่วมแสดงความเห็น จากฝ่ายจัดการให้เป็นฝ่ายเสียสละ จากฝ่ายทั่วไปให้เป็นฝายไปทั่ว คือให้สามารถทำได้ทุกอย่าง วันนี้ขอเล่าแค่นี้ก่อนนะครับ
อนุวรรตน์ อิ่มสมบูรณ์ ผนส.5
ผนส. 5 ดูงานที่ ชุมพรคาบาน่า จ.ชุมพร
http://www.facebook.com/?ref=home#!/album.php?aid=11618&id=100001057064811
วันที่ 21 สิงหาคม 2553 แน่นอนเป็นวันเสาร์ ไม่ผิดหรอก 16 เป็นวันจันทร์ ครับพี่ พี่คิดถึงหวยรัฐบาลเหลือเปล่า ฮิฮิ
ผมถึงบ้านแล้ว ปลอดภัยดี ได้รับสิ่งที่ดี ต้องขอขอบคุณ สันนิบาต ที่ได้คัดเลือก สถานที่ศึกษาดูงานที่มีศักยภาพเพื่อการพัฒนาสหกรณ์ ยังมีสหกรณ์ที่มีศักยภาพอีก ผมได้คุยกับอาจารย์ปรากรม ท่านจะพาพวกเราไปศึกษาดูงานแถบชายฝั่งภาคตะวันออกซึ่งก็มีหลายสหกรณ์ที่มีความเข้มแข็งเพื่อให้ ผนส.รุ่น 5 ได้ศึกษาดูงานมาก ๆ ท่านบอกว่าไม่เสียค่าใช้จ่ายในด้านที่พัก และยานพาหนะก็จะให้ ท่านพ.อ.ยุทธเดช จัดหาให้ ก็คงจะเสียแต่าค่าน้ำมันและอาหรบางส่วน เป็นสิ่งที่ดีสำหรับรุ่น 5 ที่มีเครือข่ายที่มีศักยภาพสูง
แจ้งมายังพี่น้องรุ่น 5
17-19 ผมอยู่ที่ระยอง ครับไปประชุม และก็จะไปเยี่ยมเครือข่าย รุ่น 5 ที่ สกก.ระยอง คุณอนุภาพ คาวบอยระยอง และ คุณปื้ด สหกรณ์ประมง
เดี๋ยวเจอกันว่าระยองฮิ เท่าไหร่แน่
สุรพล ชัยมาลา (โม่ง..........)
สวัสดี ผนส. รุ่น 5 พรุ่งนี้ วันที่ 12 สิงหาคม 2553 เป้นวันสำคัญอีกวันหนึ่ง คือวันแม่ ขอให้คุณลูกทั้งหลาย ไปหาแม่กราบแม่ ขอพรจากท่าน เพื่อเป็นสิริมงคลต่อตัวเองและครอบครัว
พี่สุรพล ครับถึงระยองเมื่อใหร่ ช่วยบอกกล่าวเข่าขานด้วยนะตรับ " สำหรับเท่าไหร่แน่" นั้น พี่สุรพลต้องหาตอบเอง สำหรับเพื่อน ๆ ผนส. 5 ถ้าอยากรู้คำตอบ วันที่ 20-21 สิงหาคม 2553 ไปเรียนแล้วถามพี่สุรพลเอง อ่า
ชูชึพ วงษ์สูง (ปื๊ด)
สวัสดีครับ ผนส.5 ทุกคน
ได้เห็นพี่โม่งกับพี่ปื๊ดคุยกันแล้ว..ขอบอกปวดหัว เครียด เฮ่อ...
lสวัสดีค่ะอาจารย์ยม อ.เกรียงไกร และเพื่อนๆทุกท่านคิดว่าคงจะเดินทางกลับถึงบ้านกันแล้วนะค่ะ เห็นน้องอนุวรรตน์บอกว่าปวดหัวไม่ทราบว่าพูดจริงหรือเล่นค่ะ คิดถึงทุกคนค่ะ พี่เอียด
ต้องขอขอบคุณสันนิบาตสหกรณ์เป็นอย่างสูง ที่ได้คัดเลือกสถานที่ดูงานที่มีศักยภาพให้ ผนส.5 ได้ศึกษา โดยเฉพาะที่ชุมพรคาบาน่า ขอบคุณค่ะ
ยุวดี เสือพันธุ์เจริญ
ผนส.5
สวัสดี เพื่อนผนส. รุ่น 5 ทุกท่านตามที่ได้ไปศึกษาดูงานผมมีความประทัยใจทุกที่เลยโดยเฉพาะที่ชุมพรค่าบาน่ามีอะไรที่น่าเรียนรู้และศึกษาหลายอย่าง แต่เวลาน้อย และเพื่อนๆอย่าลืมส่งการบ้านอาจารย์ยม ด้วยละ
หัวข้อ - สิ่งที่ประทับใจเพื่อนๆ 3 คน
- สิ่งที่ประทับใจจากการศึกาดูงาน
อย่างละ 3 ห้วข้อ บาย แล้วเจอกัน
เพื่อนๆเป็นอย่างไรกันบ้าง ผมมาอยู่บ้านอ.หัวหิน ฝนตกมากๆ มาพักผ่อนครับ
ศิริชัย ออสุวรรณ ผนส.5
ถึงเพื่อน ๆ ผนส.5 ทุกคน วันนี้ที่สกลนครฝนตกตลอดทั้งวัน และก่อนหน้า 2-3 วัน ฝนตกหนักมาก ทำให้น้ำป่าทะลักเข้าบ่อปลาที่เลี้ยงไว้ วันนี้เลยไปจัดการเพื่อไม่ให้ปลาออกไปกับน้ำ แต่ยังอดคิดถึงช่วงที่ไปศึกษาดูงาน 8-10 สค.ที่ผ่านมา บรรยากาศ ความรู้สึก และสถานที่สุดยอด แต่มาเสียนิดหนึ่งตอนนั่งรถกลับกรุงเทพฯ ชักโหล่งเหล่งไปหน่อย คิดถึง ผนส.5 ทุกคนนะ แล้วเจอกัน 20 สค.ครับผ้ม
เกษม ศรีเกื้อกลิ่น
ผนส.5
ส่งการบ้าน อาจารย์ยมค่ะ
หัวข้อ-สิ่งที่ประทับใจเพื่อน 3 คน 1 ท่านประธานศิริชัย ออสุวรรณ ท่านเป็นผู้ที่มีน้ำใจกับเพื่อนๆทุกคนสมกับที่ท่านได้รับแต่งตั้งเป็นประธานรุ่น เนื่องจากท่านได้เสียสละเงินส่วนตัวซื้อเหล้าเลี้ยงพวกเราแทบทุกครั้งหลังเลิกเรียนโดยเฉพราะช่วงงานเลี้ยงทุกครั้ง และสุดยอดที่ชอำ ท่านได้เชิญนิก นิรนาม ไปร่วมสนุกกับพวกเราสร้างความประทับใจเป็นอย่างยิ่ง
2 น้องศิริวรรณ ปัญญาธรรม ได้ช่วยอนุเคราะห์หาเสื้อสีสวยให้พวกเราได้ใส่ และส่งข่าวทางเมลให้พวกเราทราบเป็นประจำและช่วงอาหารเย็น ของทุกวันหลังเลิกเรียนน้องสาวที่น่ารักก็จะอยู่ทานข้าวและร่วมสังสรรคกับเพื่อนๆและพี่ๆตลอด
3 น้องอนุวรรตน์ อิ่มสมบูรณ์ ที่คอยช่วยเหลือเพื่อนๆพี่ ให้มี facebook สองแรงร่วมด้อยช่วยกันกับท่าน พ.ต.อ.บุญชัย ฤาชัยสา
สิ่งที่ประทับใจจากการศึกษาดูงาน 1 ประทับใจเจ้าของโรงแรมชุมพรคำบาน่าที่พลิกวิกฤษให้เป็นโอกาศ 2 มีความคิดริเริ่มสร้างสรรคฝ่าฝันอุปสรรคต่างจนประสบผลสำเร็จ 3 ประทับใจเพื่อนๆพี่ๆน้องๆทุกคนที่ได้แรกเปลี่ยนประสพการณ์กันระหว่างการเดินทางคุ้มค่าจริงๆค่ะทำให้พวกเราได้คุ้นเคยและสนินสนมกันมากขึ้น และจะลืมไม่ได้เลย น้องรุ่งโรจน์ วรชมพู ประชาสัมพันธ์ที่น่ารักของพวกเรา
ขอบคุณ คุณชูชีพ วงษ์สูง เป็นอย่างยิ่งที่ช่วยเตือนค่ะ
เจริญศรี โสระมัด
ผมขอนำเสนอ ผนส 5 ที่ผมประทับใจซึ่งมีหลายท่านมากครับ ท่านแรกคือพี่รุ่งโรจน์ ประชาสัมพันธ์ ซึ่งเหมาะสมกับตำแหน่งมากทำให้เราๆ ได้ตัวกลางในการสื่อสารอย่างมีความสุข ท่านที่สองคือท่านประธานศิริชัย เป็นบุคคลที่อบอุ่นเป็นกันเอง มีภาพลักษณ์ผู้นำดึงดูดบุคคลอื่นๆอยากใกล้ชิด ท่านที่สาม คือ น้องอนุวรรต ที่มีความกระตืนรือร้นในการช่วยเหลือเพื่อนๆ ผนส.5
สิ่งที่ประทับใจจากการศึกษาดูงาน คือที่ ชุมพรคำบาน่า ที่มีนวตกรรมใหม่ในการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์อย่างยั่งยืน โดยยึดแนวทางของพ่อหลวงของเรา ครับ
"จากภูผา สู่ มหานที ศาสตร์และศิลป์ ของพระราชาแปรสู่รูปธรรมการปฏิบัติ ในการพัฒนา ดิน น้ำ ป่า คน ศูนย์กสิกรรมธรรมชาติเพลิน ประทับใจมากครับกับ ชุมพร คาบาน่า รีสอร์ต ที่สืบสานแนวคิดและทฤษฏีการพัฒนา ระเบิคจากข้างใน ขาดทุน เป็นกำไร พอ แต่เพียร ยิ่งทำยิ่งได้ ...ยิ่งให้ยิ่งมี สู่การพึ่งตนเองได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน
สวัดดีเพื่อน ผนส.5 ความประทับใจก็ประทับใจเพื่อนทุกคน ก็ข้อนำข้อดีของเพื่อนมาเล่าสู่กันฟัง 3 ท่าน ท่านแรก คุณชโลทร พี่ใหญ่ที่ใจดีของพวกเรา ความประทับใจคือการวางตัวเป็นแบบอย่างที่ดีการปรับตัวเข้าได้กับทุกสถานการณ์ ให้ข้อคิดในการทำงาน ท่านที่สอง คุณศุภกร ชูเกษม เป็นผู้จัดการที่มีความตั้งใจในการทำงาน สนใจแสวงหาความรู้ ท่านที่สาม คุณวิเชียร พวงศรี นักต่อสู่ผู้ยิ่งใหญ่ มีความตั้งใจในการทำงาน มีน้ำใจ มีความเสียสละ
คุณเอียด
คุณแม่เป็นอย่างไรบ้าง หายป่วยหรือยัง เป็นห่วงอยู่ ขอให้หายไวๆนะจ๊ะ
พี่ยุ
ผนส.5
lสวัสดีค่ะพี่ยุ กำลังคิดถึงอยู่เลยค่ะ คุณแม่ดีขึ้นแล้วค่ะเมื่อวานพาไปหาหมอมา คุณหมอฉีดยา 2 เข็มแล้วให้ยามาทานก็ดีขึ้นค่ะ เอียดนั่งเปิดเน็ดดูทุกวันค่ะ และก็ทดลองใช้ facebook แต่ยังไม่สามารถใช้ได้เลยค่ะเพราะว่ายังไม่มีครูสอน เนื่องจากเป็นวันหยุดน้องๆที่ทำงานเขากลับบ้าน คนที่บ้านก็ยังใช้ไม่เป็นค่ะ คิดถึงพี่และเพื่อนๆ ทุกคนค่ะ เป็นห่วงคุณรุ่งโรจน์ วรชมพู ไม่ทราบว่าป่วยหรือไม่ดูเขาเพลียๆ อยู่นะ
ขอบคุณมากค่ะ
เจริญศรี โสระมัด ผนส 5
เรียนอาจารย์ยม
เพื่อน ๆ ที่ไปศึกษาดูงานทุกคน กระผมมีความประทับใจมากที่ทุกคนได้ไปศึกษาดูงานร่วมกัน เพราะว่าทุกคนมีความรับผิดชอบ ซึ่งหลังจากท่ได้ศึกาดูงานมาแล้วก็จะเห็นว่า การยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียง ทำให้การดำเนินธุรกิจ และชีวิตประจำวันเป็นไปด้วยความยั่งยืน มั่นคง และมีภูมิคุ้มกัน อย่างที่พวกเราได้สัมผัสมาแล้วทุก ๆ ท่าน กระผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่าเพื่อน ๆ จะได้น้อมนำหลักเศรษฐกิจพอเพียง ไปปฏิบัติ ตามที่พระองค์ท่านได้มอบให้ไว้กัประชาชนคนไทยทุกคน
เพื่อน 3 (เรือน 3 น้ำ 4)
1. พี่เป้า มีความจริงใจกับพกเรามาก ท่านได้แสดงออกให้เราได้เห็นว่า ความเสียสละเป็นคุณสมบัติของคนดี พกเราต้องรักษาไว้
2. พี่เอียด มีความจริงใจมาก รับผิดชอบในหน้าที่อย่างดี คอยดูแลพวกเราตลอด ไม่ให้เกิดข้อผิดพลาดเลย
3. น้องบอย มีความเป็นกันเองมาก คอยให้ความช่วยเหลือ และเก็บรายละเอียดให้กับพวกเราได้ดี
สถานที่ดูงาน ขอชมเชยสันนิบาต ที่ได้คัดเลือกมาเป็นอย่างดี ทั้ง สาม แห่ง มีความแตกต่างกันแต่จุดมุ่งหมายเดียวกัน เพื่อสมาชิก สหกรณ์ให้มีคุณภาพชวิตที่ดี และยั่งยืน ขอบอกที่ สหกรณ์โรงสีข้าวพระราชทาน นั้น เป็นโครงการที่ดี แต่ขาดการดกำกับดูแลจากหน่วยงานทางภาครัฐ ต้องใกล้ชิด และสนับสนุนคณะกรรมการและเจ้าหน้าที่ให้เข้มข้นและอย่างต่อเนื่อง
วันนี้ไปเที่ยวตลาดน้ำอโธยา ที่อยุธยา คนมากเลย แต่ก็เป็นแหล่งท่องเที่ยวอีกแห่งหนึ่ง แนะนำให้เพื่อน ๆ หาโอกาสไปเที่ยวสักครั้ง ให้ ผนส.ที่อยุธยา เป็น ผู้นำพาเที่ยวก็ได้
โม่ง.................
สถานที่รักษาอาการ หมอนรองกระดูกทับเส้น ไมเกรน ชชาตามแขน ขา นิ้วมือ นิ้วเท้า "บางแค ไคโรแพรคติก เซ็นเตอร์" หมอเจตน์ ทองวิชิต เปิดบริการวันพุธ-เสาร์ เวลา 08.00-18.00 น. โทร.02-803-6122
สวัสดีครับพี่ๆและเพื่อน ผนส.5 ทุกคน
วันนี้เป็นแรกที่กลับเข้าสำนักงาน เลยมีโอกาสได้เข้ามาดูในบล๊อกของพวกเราและได้เข้าไปดูเฟส..หลังจากเตร็ดเตร่อยู่ตามจังหวัดนู้นจังหวัดนี้มาหลายวัน ขอบคุณพี่ๆทุกคนที่ให้กำลังใจผม ผมจะรักษามันเอาไว้ ผมเชื่อว่าทำดีนั้นทำไม่ยากแต่การรักษาไว้ซึ่งความดีทำยากกว่า อาทิตย์หน้าเจอกัน พอดีผมมีลองกองกำลังสุกอยู่ถ้าไม่ผิดพลาดจะเอาไปให้พวกเราได้ทานกันครับ
อีกเรื่อง ผมเชื่อว่าพวกเราทุกคนมีสิ่งที่ดีอยู่ในตัวทุกคนแลเป็นประโยชน์ต่อคนอื่น ถ้าเป็นไปได้ผมเชื่อว่าอยากโหวตให้ทุกคน เหมือนที่ผมเขียนในเฟสบุ๊ค ว่าถ้าให้คะแนนความเสียสละและทุ่มเทหมอต้อมต้องได้คะแนนเต็มจากพวกเราทุกคน เพราะสิ่งที่พีเขาปฏิบัติในขณะการศึกษาดูงานต่างกระจ่างแจ้งในความรู้สึกของทุกคน อีกเรื่องที่ผมไม่สบายใจคือได้พูดคุยกับพี่อ้อยแล้วว่า ในเรื่องของการปรึกษาหารือในหัวข้อต่างๆในการทำงาน ถ้าผมยังประสานงานได้ไม่ครบถ้วนทำให้เกิดความไม่เข้าใจ ผมต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ แล้วอาทิตย์หน้าเจอกันนะครับ
อนุวรรตน์ อิ่มสมบูรณ์ ผนส.5
ผมเอางานที่ส่งอาจารย์ยมขึ้นมาให้พวกเราได้อ่านกันนะครับ เผื่อว่ามีท่านใดไม่ได้อ่านในเฟส..
ที่แรก สหกรณ์โรงสีข้าวพระราชทาน สิ่งที่ดีสหกรณ์ฯแห่งนี้มีความน่าภาคภูมิใจในตัวของตัวเองและสมาชิก ดังนั้นเพื่อตอบสนองต่อความน่าภาคภูมิใจนี้เองมีผลทำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยดูแลทุกอย่างเพื่อขอให้มีส่วนร่วมกับความน่าภาคภูมิใจนี้ เลยส่งผลให้บุคลากรในองค์กรขาดประสบการณ์จากการทำงานขาดองค์ความรู้ในการบริหาร ดังนั้นเมื่อกระแสตอบรับน้อยลงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเริ่มจางหายคงเหลือแต่ตัวสหกรณ์และสมาชิกที่ขาดองค์ความรู้และค่าเสื่อมราคาจากอาคารและสิ่งก่อสร้างที่ผู้กระหายชื่อเสียงสร้างไว้ ภาระอันหนักจึงตกอยู่กับคณะทำงานประกอบกับการขากการมีส่วนร่วมของสมาชิกจึงทำให้สหกรณ์แห่งนี้ประสบปัญหาในเรื่องของการมีส่วนร่วมอย่างมาก ดังนั้นเมื่อเริ่มมีการทำงานใหม่ด้วยการฟื้นฟูกิจการคณะกรรมการที่ลงมาจะต้องเสียสละเป็นตัวอย่างให้สมาชิกได้เห็น เพื่อให้สมาชิกเกิดความมั่นใจว่าพวกเขาจะไม่ถูกทอดทิ้ง และจะเป็นองค์กรที่ให้ความช่วยเหลือได้อย่างยั่งยืนสรุปผมและกลุ่มคิดว่าสหกรณ์แห่งนี้ยังขาดความร่วมมือจากสมาชิกในระดับที่ยังสุงอยู่
ที่ที่สองสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนบ้านแสงอรุณ ที่นี่ต้องขอชมก่อนว่าทุกคนอาจจะประทับใจในส่วนของตัวอาคารสถานที่ก็เข้าใจนะครับว่าเป็นสิ่งที่ถูกต้องเพราะการที่เราสร้างสถานที่ให้ดูดีสมาชิกย่อมเกิดความเชื่อมั่นเหมือนที่เรารู้สึก ประกอบกับที่นี่มีคนเก่งอยู่สองคนนั่นคือ ประธานกับผู้จัดการ อีกคนหนึ่งเป็นเจ้านายที่ให้โอกาสลูกน้องในการทำงานพร้อมกับแนวคิดและการแนะนำที่ผู้ใต้บังคับบัญชาไม่รู้สึกอึดอัด อีกคนเป็นคนรุ่นใหม่ที่มีหัวใจให้กับองค์กรพร้อมที่จะพัฒนาและปรับเปลี่ยนเมือเห็นว่าสมควร ประกอบกับบุคลากรทั้งฝ่ายจัดการและบริหารต่างมีความมุ่งมั่นในการทำงานทั้งที่ที่นี่มีความแตกต่างระหว่างอายุอย่างเห็นได้ชัดระหว่างผู้บริหารและฝ่ายจัดการ เหตุผลของความสำเร็จในการมีส่วนร่วมในธุรกิจของที่นี่เห็นได้จากการทำกิจกรรมร่วมกันของคนในองค์กร โดยกิจกรรมนั้นได้ขยายลงสู่ชุมชนจนชุมชนเกิดความมั่นใจ อีกทั้งสหกรณ์ยังจัดสวัสดิการที่ดีให้แก่สมาชิกอย่างเต็มที่ แต่ที่มีดังนั้นจึงสรุปได้ว่าสหกรณ์แห่งนี้มีความร่วมมือในธุรกิจอย่างมาก
ที่ที่สามชุมพรคาบาน่า สถานที่แห่งนี้คงไม่ต้องเอ่ยปากชมให้เสียเวลาเพราะทุกคนต่างกระจ่างแจ้งว่าเป็นอย่างไร แต่จะกล่าวอ้างถึงปฐมบทแห่งความสำเร็จของที่นี่น่าจะมาจาก วิกฤติที่เกิดขึ้นทำให้ทุกคนมีจุดมุ่งหมายในทางเดียวกัน บวกกับความเป็นผู้บริหารที่ลงมาเล่นเกมนี้ด้วยตัวเองจนเกิดความมั่นใจและเชื่อมั่น จนส่งผลไปยังนอกหน่วยงานจนเกิดความยอมรับในสังคมวงกว้างขึ้น สมดังปรัชญาที่คนที่นี่ถือปฏิบัติ "เดินทีละก้าว กินข้าวทีละคำ ทำทีละอย่าง" ดังนั้นจึงสรุปได้ว่าที่แห่งนี้เกิดความร่วมมือกันระหว่างองค์กรชุมชนอย่างดีเยี่ยม
ที่สุดท้ายสหกรณ์ท่าแซะ ที่นี่ถือว่าเป็นสหกรณ์ที่มีความเข็มแข็ง จากการวิเคราะห์พอจะเห็นได้ว่าส่วนหนึ่งมาจากฝ่ายจัดการโดยการนำของผู้จัดการ แต่ก็เป็นเพราะผู้บริหารมีวิสัยทัศน์ดังจะเห็นได้จากการส่งผู้จัดการเข้าไปเรียนในหลักสูตรผู้นำขั้นสูง อีกทั้งยังมีโครงสร้างที่แข็งแรงไม่เช่นนั้นคงไม่สามารถเปิดสาขาได้ อีกทั้งยังได้เห็นการจัดสวัสดิการที่ดี สิ่งที่เห็นได้ชัดเจนจากธุรกิจรวบรวมนั้นคงบอกได้จากเหตุปัจจัยจากภายนอกที่มีการแข่งขันสูง แต่สหกรณ์ยังคงได้รับการยอมรับและความร่วมมือ ซึ่งแสดงให้เห็นได้ว่าเกิดความร่วมมือในทางธุรกิจของสมาชิกในระดับที่สูง
เรียนผนส.5 ทุกท่าน
เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2553 คณะกรรมการรุ่นหลายท่านได้ร่วมประชุมกับอาจารย์ยมเกี่ยวกับหัวข้อสัมมนาสาธารณะ (Public Seminar) และรายชื่อวิทยากรภายนอกที่มาทำหน้าที่วิจารณ์นั้น
อาจารย์จีระได้เห็นชอบอนุมัติหัวข้อแล้ว แต่กำลังคัดเลือกวิทยากรอยู่
จึงเรียนมาเพื่อทราบ
ขอแสดงความนับถือ
จิตรลดา
เรียน คุณเอ๋
รับทราบและขอบคุณคุณเอ๋มากค่ะ
ในการเป็นธุระเอาใจใส่ดูแลพวกพี่ๆไม่เคยลืม
ศิริวรรณ
สวัสดีครับ เพื่อนๆ นผส 5 ทุกท่น
ผมได้รับองค์ความรู้จากการเข้าอบรมหลักสูตรนี้อย่างมากเลยครับ นอกจากได้เพื่อน ได้พี่ และน้องที่ดีและมีความสามารถที่หลากหลาย ยังไม่พอการรับความรู้จากคณะอาจารย์ที่มาถ่ายทอดประสบการณ์และความรู้ที่ผ่านการวิจัยมาแล้วมานำเสนอให้ได้รับทราบ นั่นหมายความว่าผมใม่ต้องคิดอะไรมากมาย เราสมารถนำไปใช้ได้ทันทีเลยครับนี่คือในห้องเรียน
ส่วนนอกห้องเรียน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่เราแลกเปลี่ยนประสบการณ์บนรถตลอดเส้นทางหลายร้อยกิโลเมตร ยิ่งหลากหลายความรู้ผมมองว่าการแลกเปลี่ยนความรู้ของพวกเราเต็มไปด้วยคุณภาพจริงๆๆๆ เลยครับไม่ได้ดูทีวีบนรถและไม่ได้ร้องเพลงบนรถ ไม่มีการดื่มบนรถและการเล่นอะไรๆที่หลายท่านเคยเห็นก็ไม่มี ผมขออนุญาตปรบมือให้ผู้นำทีมของเราดังๆที่นั่งฟีงและคอยพูดให้พวกเราตลอดทุกคนเลย โดยปรบมือดังๆๆท่านนั้นคือ อ.ยม นาคสุข ของพวกเราและรุ่นพี่ๆครับสุดยอดจริงๆ นี่เพียงอยู่บนรถพอพักก็ต้องเรียนรู้ตามโปรแกรมการศึกษาดูงานจุดแรกที่ ที่โรงสี อ่าวน้อย มุมมองก็คงต้องมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องถ้าเป็นการรักษาคนป่วยต้องใช้ยาแรงครับ ต้องอบรมคณะกรรมการ และเจ้าหน้าที่ จุดที่สอง อบรมสมาชิกให้ได้ครบทุกท่านก็จะลงตัว ที่ประทับใจที่สุดประยุกต์รายได้จากต้นมะม่วงน้ำดอกไม้พระราชทานทั้งสองต้น โดยการตอนกิ่งขายครับ จะมีรายได้เพิ่มอีกมากเลยครับ สมาชก กรรมการ ฝ่ายจัดการ จะทำกิจกรรมร่วมกัน ใช้หลักร่วมคิด ร่วมทำ ร่วมรับผิดชอบและร่วมรับผลประโยชน์ครับ
ส่วนสามจุดที่เหลือก้คงต้องปรบมือให้ความสำเร็จจริงๆ ทั้งอุดมการณ์สหกรณ์ และหลักการสหกรณื ทำได้ครบถ้วนจริ้งๆๆ
ก็คงจะต้องชมเชยเหมือนคุณอนุวรรตยน์ ที่นำเสนอไปครับ
สวัสดีครับ เพื่อนๆ นผส 5 ทุกท่น
ผมได้รับองค์ความรู้จากการเข้าอบรมหลักสูตรนี้อย่างมากเลยครับ นอกจากได้เพื่อน ได้พี่ และน้องที่ดีและมีความสามารถที่หลากหลาย ยังไม่พอการรับความรู้จากคณะอาจารย์ที่มาถ่ายทอดประสบการณ์และความรู้ที่ผ่านการวิจัยมาแล้วมานำเสนอให้ได้รับทราบ นั่นหมายความว่าผมใม่ต้องคิดอะไรมากมาย เราสมารถนำไปใช้ได้ทันทีเลยครับนี่คือในห้องเรียน
ส่วนนอกห้องเรียน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่เราแลกเปลี่ยนประสบการณ์บนรถตลอดเส้นทางหลายร้อยกิโลเมตร ยิ่งหลากหลายความรู้ผมมองว่าการแลกเปลี่ยนความรู้ของพวกเราเต็มไปด้วยคุณภาพจริงๆๆๆ เลยครับไม่ได้ดูทีวีบนรถและไม่ได้ร้องเพลงบนรถ ไม่มีการดื่มบนรถและการเล่นอะไรๆที่หลายท่านเคยเห็นก็ไม่มี ผมขออนุญาตปรบมือให้ผู้นำทีมของเราดังๆที่นั่งฟีงและคอยพูดให้พวกเราตลอดทุกคนเลย โดยปรบมือดังๆๆท่านนั้นคือ อ.ยม นาคสุข ของพวกเราและรุ่นพี่ๆครับสุดยอดจริงๆ นี่เพียงอยู่บนรถพอพักก็ต้องเรียนรู้ตามโปรแกรมการศึกษาดูงานจุดแรกที่ ที่โรงสี อ่าวน้อย มุมมองก็คงต้องมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องถ้าเป็นการรักษาคนป่วยต้องใช้ยาแรงครับ ต้องอบรมคณะกรรมการ และเจ้าหน้าที่ จุดที่สอง อบรมสมาชิกให้ได้ครบทุกท่านก็จะลงตัว ที่ประทับใจที่สุดประยุกต์รายได้จากต้นมะม่วงน้ำดอกไม้พระราชทานทั้งสองต้น โดยการตอนกิ่งขายครับ จะมีรายได้เพิ่มอีกมากเลยครับ สมาชก กรรมการ ฝ่ายจัดการ จะทำกิจกรรมร่วมกัน ใช้หลักร่วมคิด ร่วมทำ ร่วมรับผิดชอบและร่วมรับผลประโยชน์ครับ
ส่วนสามจุดที่เหลือก้คงต้องปรบมือให้ความสำเร็จจริงๆ ทั้งอุดมการณ์สหกรณ์ และหลักการสหกรณื ทำได้ครบถ้วนจริ้งๆๆ
ก็คงจะต้องชมเชยเหมือนคุณอนุวรรตยน์ ที่นำเสนอไปครับ
ต้อม รุ่งโรจน์ ครับ
LO : Learning Organization (องค์การแห่งการเรียนรู้) มีคำจำกัดความว่า "รู้จักคิดเอง ทำเอง แก้ไขปัญหาได้ และมีการวางแผนในการทำงาน"
ข้อกำหนด 4 ประการ ที่ผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ต้องมีและก่อให้เกิดวํฒนธรรมแห่งการเรียนรู้ รวมถึงการพัฒนาระบบงาน (1.การกระจายอำนาจและความมีวินัย 2.ความคิดที่เป็นระบบและการลดความซำซ้อน 3.ประสิทธิภาพในการสื่อสาร 4.การทำประโยชน์เพื่อส่วนรวม)
สวัสดีครับ ผนส 5 ทุกท่าน
การศึกษาดูงานครั้งนี้ รู้สึกประทับใจมาก ตั้งแต่เริ่มออกเดินทาง จนสิ้นสุดการเดินทาง รายการ talk on the tour ทำให้พวกเรารู้จักกันมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง มีท่านอาจารย์ยม ได้สรุปและมีคำแนะนำที่เป็นประโยชน์ต่อพวกเราทุกคน จากการศึกษาดูงานทุกที่ ได้รับประสบการณ์ตรงมาก เริ่มที่สหกรณ์โรงสีข้าวพระราชทานอ่าวน้อย เป็นตัวอย่างหนึ่งในเรื่องของความพยายามและความตั้งใจในการแก้ปัญหาและการพัฒนาขบวนการเพื่อสู่ความสำเร็จ
สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนบ้านแสงอรุณ เป็นสหกรณ์ต้นแบบของการพัฒนาขบวนการสหกรณ์สู่ความสำเร็จ โดยมุ่งเน้นพัฒนาคุณภาพชีวิตสมาชิก สังคม และสิ่งแวดล้อม เหมาะสมอย่างยิ่งที่ได้รับรางวัลพระราชทาน และการรับรองมาตรฐานโลก
ชุมพรคาบาน่า รีสอร์ท เป็นแบบอย่างการบริหารจัดการ ที่ยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียง การพึงพาตนเอง และการมีส่วนร่วมของบุคลากร การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม การสร้างนวัตกรรมเพื่อเกิดมูลค่าเพิ่มต่อการบริหารจัดการ
สหกรณ์นิคมท่าแซะ เป็นสหกรณ์อีกประเภทที่คณะพวกเราได้ให้ความสนใจ เพราะมีการบริหารจัดการหลายรูปแบบ บ่งบอกถึงศักยภาพการบริหารจัดการของฝ่ายบริหารและฝ่ายจัดการ
ซึ่งประสบการณ์จากการดูงานในครัง้นี้ ทำให้เป็นกระจกเงาที่ย้อนกลับมาดูตัวเองว่า มีหลายสิ่งหลายอย่างที่จะต้องปรับปรุงและพัฒนาให้ได้ และการได้ศึกษาดูงานในครั้งนี้ ขอขอบคุณสันนิบาตสหกรณ์ที่ได้ให้โอกาส และการไปครั้งนี้ ท่านอาจารย์ ยม ให้งานความประทับใจเพื่อน 3 คน ความจริงแล้วมีความประทับใจเพื่อนทุกคน ที่สุด 3 คน คือ
1 ท่านประธานศิริชัย ท่านดูแลทุกสิ่งทุกอย่าง
2 ท่านรุ่งโรจน์ ทำหน้าที่ประชาสัมพันธ์ ได้ยอดเยี่ยมสร้างบรรยากาศทั้งบนรถ และงานเลี้ยง
3 ท่านอาจารย์ ปรากรม ถึงท่านจะสูงวัย แต่ท่านเป็นผู้ใฝ่รู้ สนุกสนานครื่นเครง ตลอดเวลา
คงได้รับความประทับอีกครั้งจากการศึกษาดูงานต่างประเทศ สวัสดีครับ
ภาพบรรยากาศการดูงาน ณ สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนบ้านแสงอรุณ 8 ส.ค. 53
ภาพบรรยาการการดูงาน ชุมพรคาบาน่ารีสอร์ท 9 ส.ค. 53
ภาพบรรยากาศการดูงาน สหกรณ์นิคมท่าแซะ 9 ส.ค. 53
คลิกดูสรุปเนื้อหาการดูงานในประเทศได้ที่นี่
โครงการของ ธกส.ดีมาก อยากให้ทุกโครงการที่ทำนั้นให้พยามให้สหกรณ์มีส่วนร่วมในแต่ละโครงการด้วย
เรียนอาจารย์จีระ ที่เคารพ
พวกเราผนส.5 รู้สึกดีใจนะครับที่อาจารย์ให้เวลากับพวกเราอย่างมากมายในการให้ความรู้ ทำให้เราได้คิดเกิดกระบวนการเรียนรู้อย่างมากมาย ยิ่งอาทิตย์นี้อาจารย์ได้ให้ความกรุณาเข้าสอนถึง 2 ครั้ง ในหัวเรื่องของเศรษฐศาสตร์มหภาคเพื่อการทำงานของสหกรณ์ และHR For Non-HR ขอบคุณครับอาจารย์
Workshop
1.เสนอวิธีการสร้างแรงบันดาลใจ 3 เรื่องให้แก่ผู้ร่วมงานและทีมงานในวงการสหกรณ์ ทั้งธกส.หรือกรมหรือสหกรณ์
2.จะสร้างแรงจูงใจ (incentive) ให้ผู้ร่วมงานให้ประสบความสำเร็จ 3 เรื่อง
3.อุปสรรคของการทำงานข้อ 1-2 ให้ประสบความสำเร็จคืออะไร (Execution)
คลิกที่นี่เพื่อดูสรุปเนื้อหาและภาพบรรยากาศการเรียนรู้ 20-21 ส.ค. 53 ได้ที่นี่
http://gotoknow.org/blog/chiraacademy/382550
สวัสดีครับอาจารย์ และเพื่อนๆ ผนส.
มีเรื่องปรึกษาด่วน ด่วน ด่วนค่ะ
ตามที่ผนส.5 ได้พูดคุยกันเมื่อวันเสาร์ (คือเมื่อวาน 21 สิงหา) ว่าเราจะจัดงานเลี้ยงสังสรรวันพฤหัสที่ 7 ตค. งานปิดโครงการวันศุกร์ที่ 8 ตค. (ซึ่งคุณเกรียงไกรยืนยันว่าได้เรียนเชิญท่านรัฐมนตรีศุภชัยมาเป็นประธานฯ) และเสวนาบ่ายวันศุกร์ที่ 8 ตค.
จากที่ได้ตรวจสอบวันที่แล้วปรากฎว่า.....ปรากฎว่า...การเรียนครั้งที่ 9 ของผนส.5 คือวันพฤหัสที่ 7 - วันเสาร์ที่ 9 ตุลาคม 2553 หมายความว่า
วันพฤหัสที่ 7 พวกเรามาเรียน (คือเริ่มนำเสนอโครงการของแต่ละคน) กลางคืนจัดงานเลี้ยงสังสรร
วันศุกร์ที่ 8 ตอนเช้าเรียน(เสนอโครงการรายบุคคลต่อ) ตอน 11 โมง ท่านรมต.มาปิดโครงการ--แจกวุฒิบัตรด้วย???????--
แล้ววันเสาร์ที่ 9 ก็เรียน (คือนำเสนอโครงการรายบุคคลต่อ)จนกว่าจะครบทุกคน แล้วก็แยกย้ายกันกลับบ้านใครบ้านมัน ใช่บ่คะ???
ใช่รึเปล่าคะ???????? คิวมันยึกยักสับสนไปหน่อยรึเปล่าคะ เพื่อนๆ
ขอหารือและขอความเห็นหน่อยค่ะ โดยเฉพาะผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ท่านประธานฯศิริชัย / น้องบอย /ผอ.กังวาล / คุณเกรียงไกร / ผกก.บุญชัย / พี่โม่งขา / น้องอัมพร(ธปท.) / คุณอรนุช / น้องเอ๋ บุคคลผู้มีรายชื่อปรากฎเหล่านี้ ใครได้ทำอะไรคืบหน้าไปแล้วบ้าง และมีความเห็นเป็นอย่างไร โปรดส่งข่าวด้วยเด้อค่ะ
จากศิริวรรณ(เจ้าเก่า)ค่ะ
เราควรจะปรับเปลี่ยนวันทำกิจกรรมต่างๆซักหน่อยดีมั๊ยคะ???
ศิริวรรณขอนำเสนอนะคะ
วันพฤหัส 7 ตุลาคม 2553 พวกเรามาเรียน --*นำเสนอโครงการรายบุคคล
วันศุกร์ 8 ตุลาคม 2553 ตอนเช้านำเสนอโครงการรายบุคคล (ต่อ)
11.00 น.พิธีปิดโครงการ รมต.เป็นประธานฯแจกวุฒิบัตร(หรือสัมฤทธิบัตร??) 12.00 น. รับประทานอาหารกลางวัน ผนส.5 ร่วมกับรัฐมนตรี
จากนั้นช่วงบ่าย เตรียมงานและจัดงานเลี้ยงสังสรร การแสดงต่างๆ เชิญผนส.รุ่นพี่มาร่วมงาน
วันเสาร์ที่ 9 ตุลาคม 2553 เข้าเรียน(คือนำเสนอโครงการต่อจนครบทุกคน)
แล้วเราอาจมีกิจกรรมอำลาเล็กๆอีกที เป็นการภายในดีมั๊ยคะ??
คือมีผนส.5 + อ.จีระ(รวมน้องเอ๋) + อ.ยม + สตาฟของสันนิบาตที่ดูแลพวกเรามาตลอดจนจบโครงการฯ
copy from facebook
เผื่อคนที่ไม่ได้เข้าfacebookจะได้อ่านด้วยค่ะ...
แจ้งข่าวผนส.5 ทุกท่านนะครับ
ตามที่พวกเราได้ปรึกษาอาจารย์จีระ..เรื่องหัวข้อการเสวนา ตามที่ได้รับทราบจากพี่อ้อย ขอแจ้งให้ทราบคร่าวๆอย่างนี้นะครับ วิทยากรรับเชิญท่านแรกตัวแทนภาครัฐ รัฐมนตรี ก.การคลังหรือรองฯ คุณอัมพร ธ.แห่งประเทศไทยประสานงาน ตัวแทนจาก ธกส.พี่กังวาล ประสานงาน ส่วนอีกท่าน พี่โม่งประสาน ที่ทราบตอบรับแล้ว ใน...ส่วนข่าวสารอื่นผมจะพยายามแจ้งให้ทราบเป็นคราวๆไปนะครับ
42 minutes ago · Comment ·LikeUnlike · View Feedback (6)Hide Feedback (6)อาจารย์ยม Yom likes this.
Siriwan Panyatham ผกก.บุญชัยจะร่างโครงการคร่าวๆให้ก่อน /ผอ.กังวาล+พี่โม่งขา+คุณอัมพร จะเป็นผู้ประสานงานติดต่อวิทยากร
หลังจากติดต่อวิทยากร(ไม่เป็นทางการ)และได้รับการตอบรับแล้ว
คุณเอ๋รับจะเป็นคนทำจดหมายเชิญวิทยากร ให้เพื่อจะได้นำเสนออ.จีระลงนามและส่งออกไปได้ ...
ส่วนจดหมายเชิญผู้เข้าสัมมนาคุณอรนุชจะเป็นคนทำให้ ลงนามโดยผอ.สันนิบาตฯ
เป้าหมายที่จะเชิญคือผนส.รุ่น1-4 กรรมการและฝ่ายจัดการสหกรณ์ทุกประเภทในเขตกทม.+ปริมณฑล ธนาคาร(ธกส./ธปท.) นิสิตและคณาจารย์จากม.ที่มีการเรียนการสอนภาควิชาสหกรณ์เกษตร /ม.แม่โจ้ / มสธ. / สื่อมวลชน รวมแล้วคิดว่าจะส่งจดหมายเชิญออกไปประมาณ 400 - 500 แห่ง
คาดหมายว่าจะมีคนตอบรับมาร่วมเสวนาประมาณ 200 คน
ส่วนของผนส.5 ที่ประสงค์จะเชิญใครมาเพิ่มเติมโปรดส่งรายชื่อพร้อมที่อยู่ให้คุณอรนุชโดยด่วน........
กำหนดการคร่าวๆมีดังนี้
ลงทะเบียน 12.00 - 13.00 น. แล้วแจกอาหารว่าง(เป็นกล่อง)
เสวนา 13.00 - 16.00 น.See More
16 minutes ago · LikeUnlike · อาจารย์ยม Yom อย่าลืม ประสานงาน และเขิญ ประธานและคณะกรรมการดำเนินงาน สันนิบาตฯ ด้วยน๊ะครับ ฝากด้วย
13 minutes ago · LikeUnlikeAnuwat Imsomboon ขอบคุณพี่อ้อยที่ช่วยขยายความเพื่อให้เกิดความเข้าใจกันโดยทั่ว พวกเราเลือกเลขาฯได้ถูกคนจริงๆๆ
9 minutes ago · LikeUnlikeSiriwan Panyatham นอกจากนี้ ได้ตกลงกันในเบื้องต้น(คือผนส.5ที่ยังเหลืออยู่ตอนเย็นวันเสาร์ที่21น่ะนะ(ผกก.บุญชัย/คุณชัยณรงค์/พี่โม่งขา/พี่เอียด/พี่ยุวดี/คุณอัมพร/คุณเกษม/ผอ.กังวาล ) ว่า
กิจกรรมต่างๆที่ผนส.5จะจัดขึ้นนั้น จำเป็นต้องมีค่าใช้จ่ายบางส่วน(นอกเหนือ...จากที่สันนิบาตสนับสนุนให้แล้ว)
ไม่ว่าจะเป็นการจัดเสวนาเวทีสาธารณะ การจัดงานเลี้ยงสังสรร+การแสดง กิจกรรมบำเพ็ญประโยชน์
จึงมีความเห็นร่วมกันว่า จะขอความร่วมมือจากผนส.5ทุกคน คนละ 2,000 บาท ซึ่งจะขอเก็บเงินในการมาเรียนครั้งที่ 7 ในวันที่ 17 - 18 กันยายน 2553(หลังกลับจากปักกิ่งแล้ว)....นะ....นะ..See More
6 minutes ago · LikeUnlike · Siriwan Panyatham คิดว่าเพื่อนๆทุกคนคงไม่ขัดข้องนะคะ รายละเอียดอื่นๆเราอาจคุยกันระหว่างเดินทางไปปักกิ่งได้อีก...........
4 minutes ago · LikeUnlike · Write a comment...
แจ้งข่าวเพื่อนๆที่ไม่ได้มาเรียนครั้งที่ 5 ค่ะ
วันเดินทางไปศึกษาดูงาน ขึ้นรถที่สันนิบาตฯ สองทุ่มตรงค่ะ (มีอาหารเย็นให้รับประทานก่อนเดินทางค่ะ)
วันเดินทางนัดกันใส่เสื้อสีขาวนะคะ
ถ้าใครจะเดินทางไปเอง นัดเจอกันที่สุวรรณภูมิ สี่ทุ่มตรงค่ะ
อาคารผู้โดยสารขาออก ชั้น 4 ประตูทางเข้าที่ 9-10 แถว U1-8เคาน์เตอร์สายการบิน AIR CHINA (CA )
โปรดตรงเวลาค่ะ
วันศึกษาดูงาน ใส่เสื้อเขียว สวมสูทดำ(ผนส.5)
อุณหภูมิปักกิ่ง 25 - 33 องศาเซลเซียส เตรียมหมวกหรืร่มไปด้วยนะคะ อาจมีทั้งฝนและแดด
อย่าลืมแลกเงินหยวนไปด้วย.......อย่าพกเงินไปเยอะเกิน 50,000 บาทนะคะ เดี๋ยวถูกยึด
ของมีคม ของเหลว น้ำพริกปลาร้า น้ำพริกตาแดง....ใส่กระเป๋าใบใหญ่ไปนะคะ อย่าหิ้วติดตัว เดี๋ยวถูกยึด
สงสัยข้องใจ....ติดต่อหัวหน้าทัวร์ คุณวู้ดดี้ 085-161-1888
เรียน ท่านเลขาฯ
ข่าวล่าสุดครับ
กำหนดการนำเสนอโครงการ (รายบุคคลตามที่เข้าชื่อไว้)
5 ต.ค.53 09.00 น.เป็นต้นไป โดยเริ่มลำดับที่ 1-20
6 ต.ค.53 09.00 น.เป็นต้นไป โดยเริ่มลำดับที่ 21-40
7 ต.ค.53 09.00 น.เป็นต้นไป โดยเริ่มลำดับที่ 41-50 (ให้เวลานำเสนอ 10 นาที กรรมการฯ ให้ข้อเสนอแนะ 5 นาที)
8 ต.ค.53 11.00 น. พิธีปิดโครงการ /มอบวุฒิบัตร
เรียนเพื่อน ผนส.5 ทุกท่าน
ผมได้ร่างโครงการสัมมนาเรียบร้อยแล้ว รายละเอียดตามไฟล์ที่แนบ หากมีคำแนะนำขอให้เสนอแนะมาได้เลย ในช่วงนี้กำลังรอประสานงานติดต่อวิทยากรครับ
บุญชัย
ถึงเพื่อน ผนส.5 ที่รักทุกท่าน
ผมเพิ่งกลับมาจากต่างจังหวัด ได้อ่านข้อความต่างๆแล้ว ทราบว่าทุกๆท่านให้ความสำคัญกับกิจกรรมของรุ่นเรามาก ยังมีเวลาเสนอความเห็น ขอให้มีส่วนร่วมทุกท่านนะครับ สำหรับผม ตอนนี้เสนอว่าในงานเลี้ยง 7 ส.ค. เราจะพาคู่ชีวิตมาร่วมงานด้วย จะดีหรือไม่ เขาจะได้รู้ความเคลื่อนไหวของเรา (แต่บางท่านอาจไม่อยากให้รู้) แล้วค่อยสรุป ช่วงไปต่างประเทศ
ส่วนกำหนดการต่างๆผมคิดว่าน่าจะเป็นไปตามที่คุณ อรนุช ได้นำเสนอ ใน fb.
คิดถึงทุกท่าน ครับ
ศิริชัย ออสุวรรณ ผนส.5
เรียนท่านประธาน ศิริชัย
ผมขอเสนอโครงการที่ผ่านการแนะนำจาก อ.ยม แล้ว มาให้ท่านประธานพิจารณาครับ
บุญชัย
สวัสดีค่ะ เพื่อนๆ ผนส 5 ทุกท่าน ดิฉันเห็นท่านบุญชัยนำเสนอโครงการแล้วประทับใจค่ะ ท่านร่างได้ดีมากค่ะต้องขอชม ไว้ทันใจค่ะสมกับเป็นผู้กำกับหนุ่มไฟแรง ส่วนน้องศิริวรรณ ก็น่ารัก คอยส่งข่าวให้พี่ๆอยู่ตลอดเวลา
ดิฉันใคร่ขอแจ้งยอดเงินที่เก็บมาจากเพื่อนคนละ 700 บาท 50 คน เป็นเงิน 35.000 บาท จ่ายค่าเสื้อยืด 50 ตัวรวมค่าปักเป็นเงิน 11.510 บาท ค่าของที่ระลึก 15 ชิ้นๆ ละ 500 บาท เป็นเงิน 7.500 บาท คงหลือ 15.990 บาท ทดรองจ่ายค่าเสื้อสูทเพื่อนๆที่ไม่ได้ไปเรียน 8.600 บาท คงเหลือ 7.390 บาท ค่ะ
เจริญศรี โสระมัด
เรียน ท่านผกก.บุญชัย ครับ
ผมได้อ่านโครงการฯแล้ว เยี่ยมมากครับ ขอใช้ฉบับนี้ในการปฏิบัติจริง และขอให้เพื่อนๆช่วยกันดูอีกนะครับ
ขอขอบคุณมากที่ช่วยดูแลเรื่องนี้ให้รุ่นเรา แล้วพบกันวันที่ 31 ส.ค. นะครับ
ศิริชัย ออสุวรรณ ผนส.5
เรียน เพื่อน ผนส.5 ที่รักทุกท่าน
ในวันเดินทางกลับจากปักกิ่ง 5 ส.ค.53 ช่วงค่ำ ท่านสามารถพักค้างคืนที่สันนิบาตสหกรณ์ได้ (ไม่ต้องจ่ายเงิน)
โดยผมได้คุยกับท่านประธานสันนิบาตฯ (ประธานน้อย) แล้วท่านจัดให้พวกเรา ผนส.5 ขอบคุณครับ
ศิริชัย ออสุวรรณ ผนส.5
พี่เป้า ครับ
พวกเรากลับมา 5 กย.53 ครับพี่
ถึงเพื่อน ๆ ผนส.5 พภี่เป้าได้หารือว่า เราจะไปบำเพ็ญสาธารณะประโยชน์ ที่เชียงใหม่ ในเดือน ธันวาคม 53 นั้น มีความเห็นว่า เพื่อน ๆ เราที่อยู่ใกล้ ๆ จะเสียค่าใช้จ่ายมาก ก็เกรงใจเพื่อน ๆ เพราะว่านั่งเครื่องไป ตอนที่เราอยู่ที่จีน หลังจากทานอาหารเย็น และกลับมาที่ โรงเตี้ยมแล้ว พวกเราหารือกันสักกะหน่อย ดี ไหม ก่อนที่ ตุ๊กับดอน สอนระเบียบ จะไปดำเนินการ
หารือกับเพื่อน ๆ
โม่ง เอง
สวัสดีค่ะ เพื่อนๆ ผนส 5 ทุกท่านดิฉันเห็นด้วยกับคุณสุรพลค่ะ ที่จะได้มีการหารือเกี่ยวกับการจัดกิจกรรมสาธารณะประโยชน์
เรียนทุกท่าน
อาจารย์จีระได้เซ็นจดหมายเชิญวิทยากรแล้ว เย็นวันนี้ได้ส่งจดหมายไปให้ผู้ประสานงานกับวิทยากรที่เกี่ยวข้องทางแฟ็กซ์แล้ว
พรุ่งนี้จะส่งจดหมายตัวจริงตามไปค่ะ
ขอแสดงความนับถือ
จิตรลดา
ขอบคุณมากๆ ค่ะ คุณเอ๋ ทำงานรวดเร็ว ว่องไวมากค่ะ
ชื่นชมด้วยใจจริง
พี่ศิริวรรณค่ะ
กำหนดการนำเสนอโครงการฯ เปลี่ยนมาเป็นวันที่ 5-7 ตุลาคม 2553
ผนส.5ทุกคน นำเสนอโครงการให้แล้วเสร็จใน 3 วัน
เดิมผนส.รุ่น 1-4 รุ่นละ 40 คน นำเสนอฯภายใน 2 วัน
ผนส.5 กลุ่มผู้เข้าอบรมเพิ่มมาเป็น 50 คน
จึงขยายวันนำเสนอโครงการออกไปเป็น 3 วัน
คือวันที่ 5- 7 ตค. 2553
ในวันพฤหัสที่ 7 ตค. หลังจากนำเสนอโครงการเสร็จ ก็จะจัดงานเลี้ยงสังสรรค์ ตั้งแต่เวลา 06.00 น. ถึง 22.00 น.
มีการแสดงของ ผนส.5 เชิญผนส.รุ่นพี่ๆ มาร่วมงานด้วย
เช้าวันศุกร์ที่ 8 ตุลาคม บางคนอาจจะเพลียจากงานเลี้ยงเมื่อคืน ตื่นสายหน่อยได้
พอใกล้เวลา ประมาณ 9.30 โมง ทุกคนต้องเตรียมความพร้อม
ฝ่ายสถาบันจะจัดเตรียมพิธีการ
เชิญรมช.ศุภชัย มอบวุฒิบัตร ในเวลา 11.00 น. เสร็จพิธี ประมาณ 12.30 น.
ฝ่ายรับลงทะเบียน (จนท. สสท.) จะช่วยรับลงทะเบียนให้ในช่วงเวลา 12.00-13.00 น.
งาน สัมมนาเวทีสาธารณะจะเริ่มตั้งแต่ 13.00 -16.00 น.
ในส่วนของงานสัมมนา ผอ.กังวาล/คุณสุรพล/คุณอัมพร รับช่วยประสานติดต่อวิทยากร
เมื่อวิทยากรตอบรับครบแล้ว คุณเอ๋จะเป็นผู้ทำจดหมายเชิญวิทยากรเสนอ อ.จีระ ลงนามแล้วจัดส่ง
คุณบุญชัยเป็นคนเขียนโครงการ จากนั้นจะส่งโครงการฉบับเต็มให้คุณอรนุช
คุณอรนุชก็จะส่งโครงการไปให้ อ.ยมและประธานฯ สสท.ตรวจสอบและให้ความเห็นชอบอีกครั้งก่อนส่งออกไปยังกลุ่มเป้าหมาย......
ที่บอกกล่าวมานี้ด้วยความระลึกถึงและขอบคุณเพื่อนๆผนส.5ทุกคนที่ช่วยเหลือและช่วยเป็นกำลังใจให้กันและกัน
ขอบคุณคุณเอ๋ ขอบคุณคุณอรนุช ที่ช่วยให้กิจกรรมของผนส.5 ดำเนินไปได้อย่าราบรื่นไม่สะดุดค่ะ ขอบคุณมากๆๆๆๆๆ ขอบคุณจริงๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ..ค่ะ
copy ข้อความของคุณอรนุชมาจาก Facebook แต่แก้ไขไม่ครบถ้วน..ขออภัยค่ะ
"ในวันพฤหัสที่ 7 ตค. หลังจากนำเสนอโครงการเสร็จ ก็จะจัดงานเลี้ยงสังสรรค์ ตั้งแต่เวลา 06.00 น. ถึง 22.00 น. "
ขอแก้ไขเป็น 18.00 - 22.00 น. ค่ะ
ศิริวรรณ
แจ้งข่าวเพื่อนๆที่ไม่ได้มาเรียนครั้งที่ 5 อีกครั้งนึงค่ะ
วันเดินทางไปศึกษาดูงาน ขึ้นรถที่สันนิบาตฯ สองทุ่มตรงค่ะ (มีอาหารเย็นให้รับประทานก่อนเดินทางค่ะ)
วันเดินทางนัดกันใส่เสื้อสีขาวนะคะ
ถ้าใครจะเดินทางไปเอง นัดเจอกันที่สุวรรณภูมิ สี่ทุ่มตรงค่ะ อาคารผู้โดยสารขาออก ชั้น 4
ประตูทางเข้าที่ 9-10 แถว U1-8 เคาน์เตอร์สายการบิน AIR CHINA (CA )
โปรดตรงเวลานะคะ
วันศึกษาดูงาน ใส่เสื้อเขียว สวมสูทดำ(ผนส.5)
อุณหภูมิปักกิ่ง 25 - 33 องศาเซลเซียส เตรียมหมวกหรือร่มไปด้วยนะคะ อาจมีทั้งฝนและแดด
อย่าลืมแลกเงินหยวนไปด้วย.......
อย่าพกเงินไปเยอะเกิน 50,000 บาทนะคะ เดี๋ยวถูกยึด
ของมีคม ของเหลว น้ำพริกปลาร้า น้ำพริกตาแดง....ใส่กระเป๋าใบใหญ่ไปนะคะ อย่าหิ้วติดตัว
สงสัยข้องใจ....ติดต่อหัวหน้าทัวร์นะคะ ชื่อ คุณวู้ดดี้ 085-161-1888
เดินทางคืนวันอังคารที่ 31 สิงหาคม 2553 นะคะ
ส่งการบ้านอาจารย์จีระค่ะ
การสร้างแรงบันดาลใจ 3 เรือง 1 การปฎิบัติตัวของผู้นำองค์กร ต้องเป็นตัวอย่างที่ดี มีคุณธรรม จริยธรรม และต้องสร้างศรัทธาให้เกิดกับตัวผู้นำ
2 พาเพื่อนร่วมงานไปดูตัวอย่าง หรือต้นแบบที่ดี
3 เชิญบุคคลที่ประสบความสำเร็จในองค์กรต่างๆ มาบอกเล่าประสพการณ์ แล้วประชุมร่วมกันโดยให้อิสระในการแสดงความคิดเห็นเพื่อที่จะก่อให้เกิดแรงบันดาลใจ
การสร้างแรงจูงใจ 3 เรื่อง 1 ให้โดยเป็นตัวเงิน และไม่เป็นตัวเงิน เช่น ยกย่อง ชมเชย
2 ปรับเงินเดือนให้เหมาะสมกับการปฎิบัติงาน
3 ให้สวัสดิการที่เหมาะสม
อุปสรรคของการทำงาน 1-2 ให้ประสบผลสำเร็จคือ 1 ผู้บริหารไม่ให้ความสำคัญ 2 พนักงานขาดความรู้
สวัสดีค่ะ ผนส.5 ทุกท่าน
วันที่ 31 สองทุ่ม จะไปขึ้นรถที่สันนิบาตนะคะ
ไม่ทราบว่าคุณอรนุชจัดให้นั่งรถคันไหน
ผนส.4 ที่ไปด้วย มี 3 คน ค่ะ ชาย 1 (คุณศิวกร - สกก.ศรีเมืองระยอง )
หญิง 2 ( น้องทัศนีย์ - สกก.นาคู กาฬสินธุ์ / แดง - ธ.ก.ส. )
ค่อยคุยกันในรถนะคะ
แดง
ด้วยความยินดีค่ะ
สวัสดีครับอาจารย์ และ ผนส. ทุกท่าน
ขอให้ ผนส. 5 ทุกท่าน ผู้ร่วมเดินทาง และเจ้าหน้าที่ ที่ร่วมเดินทางไปทัศนศึกษาดูงาน ณ ประเทศจีน เดินทางด้วยความสุขสนุกกับการทัศนศึกษา เก็บเกี่ยวประสบการณ์ให้เต็มที่ โชคดีครับ..
สวัสดีค่ะ ท่านอาจารย์จีระ ดิฉันได้เข้าไปดูข้อมูลต่างๆในการทำงานของท่านแล้วค่ะ สุดยอดจริงๆนะค่ะ โลกของ internet ผนส 5
โปรดอ่านอีกครั้ง (ผนส.5 ทุกท่านครับ)
วันที่ 31 ส.ค.53 มีการสำรองห้องพักไว้ให้ทุกท่านได้อาบน้ำ/แต่งตัว จำนวน 4 ห้อง ดังนี้
สุภาพบุรุษ ห้อง 606 และ 607
สุภาพสตรี ห้อง 608 และ 609
มีบริการอาหารเย็น 1 มื้อ (เริ่มเวลา 17.30 - 19.30 น.) กลับจากปักกิ่งวันที่ 4 ก.ย.53 ให้บริการห้องพัก 1 คืน (out 12.00 น. วันที่ 5 ก.ย.53)
จาก Facebook คุณเกรียงไกรค่ะ
ผมจะเดินทางร่วมกับคณะผู้นำสหกรณ์ขั้นสูงรุ่นที่ 5 ไปปักกิ่ง คืนวันอังคารที่ 31 นี้
ดีใจที่ได้สร้างผู้นำอีก 50 คน
ไปครั้งนี้ ผมไปร่วมแค่ 2 วัน ต้องรีบกลับมาช่วยกลุ่มอีสาน มุกดาหาร แต่ก็คิดว่า เป็นโอกาสที่ดีที่จะอยู่ร่วมกับทุกๆท่าน ซึ่งเป็นรุ่น 5 และใกล้ชิดกับผมมากขึ้น
การสร้างผู้นำคือเน้น 5E –E ที่จะใช้ก็คือ Experiences
ขอให้ทุกๆคนเตรียมเขียน Blog ว่า
-ประเทศจีนกับไทย ในอนาคต จะเน้นทำงานร่วมกันอย่างไร
-สหกรณ์ของเขากับเราแตกต่างกันอย่างไร
-ประทับใจอะไรบ้าง
-มีบทเรียนกับตัวเอง เรื่องอะไร
-ช่วยทำให้เราเป็นผู้นำที่ดีได้อย่างไร
เรียนทุกท่าน
ท่านรัฐมนตรีกรณ์มอบหมายให้ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลังมาเป็นผู้แทนร่วมอภิปราย เรื่อง “ขบวนการสหกรณ์สามารถขับเคลื่อนเศรษฐกิจสังคมได้อย่างไร ” ในวันที่ 8 ตุลาคม 2553
ส่วนความคืบหน้าเกี่ยวกับวิทยากรท่านอื่น จะเรียนให้ทราบต่อไป
ขอแสดงความนับถือ
จิตรลดา
เรียน ผนส.5 ทุกท่าน
การไปดูงานที่จีน ทุกท่านคงได้ประสบการณ์มากมาย อย่าลืมเล่าสู่กันฟัง ในช่วง morning coffee นะคะ และท่านใดที่ยังไม่ได้ส่งโครงการพัฒนาสหกรณ์ เร่งมือหน่อยนะคะ ส่วนท่านที่ทำเสร็จสมบูรณ์แล้ว สามารถส่งต้นฉบับ จำนวน 3 ชุด พร้อมกับ power point ได้ที่ ชไมพร หรือส่ง mail มาที่ [email protected] โปรแกรมการเรียน ครั้งที่ 7/8/9และปิดโครงการ ได้จัดส่งมาให้แล้วค่ะ
ด้วยความเคารพทุกท่าน ชไมพร
กำหนดการเรียนครั้งที่ 7
ระหว่างวันที่ 17 – 18 กันยายน 2553
วันศุกร์ที่ 17 กันยายน 2553
เวลา 08.30 - 09.00 น. Morning Coffee
เวลา 09.00 - 12.00 น. การบริหารการเงินและความเสี่ยงกับการทำงานของสหกรณ์
(Financial and Risk Management) โดย ดร.กุศยา ลีฬาหวงศ์
เวลา 12.00 - 13.00 น. รับประทานอาหารกลางวัน
เวลา 13.00 - 16.00 น. ภาวะผู้นำกับการเปลี่ยนแปลง (Leadership in the changed word )
โดย Mr. Peter Bjork
เวลา 18.00 - 19.30 น. รับประทานอาหารเย็น
วันเสาร์ที่ 18 กันยายน 2553
เวลา 08.30 - 09.00 น. Morning Coffee
เวลา 09.00 - 12.00 น. การสื่อสารและการประชาสัมพันธ์องค์กร
(Communication and Public Relation in Organization)
โดย รศ.ดร.ยุบล เบญจรงค์กิจ
เวลา 12.00 - 13.00 น. รับประทานอาหารกลางวัน
เวลา 13.00 - 16.00 น. การบริหารอารมณ์ (EQ Development)
โดย อาจารย์แสงอุษา โลจนานนท์
กำหนดการเรียนครั้งที่ 8
ระหว่างวันที่ 24 – 25 กันยายน 2553
วันศุกร์ที่ 24 กันยายน 2553
เวลา 08.30 - 09.00 น. Morning Coffee
เวลา 09.00 - 12.00 น. เทคโนโลยีสารสนเทศกับการทำงาน (IT and its Application)
โดย ดร.ครรชิต มาลัยวงศ์
เวลา 12.00 - 13.00 น. รับประทานอาหารกลางวัน
เวลา 13.00 - 16.00 น. การวางแผนเชิงกลยุทธ์ (Strategic planning)
โดย รศ.ดร.สมชาย ภคภาสน์วิวัฒน์
เวลา 18.00 - 19.30 น. รับประทานอาหารเย็น
วันเสาร์ที่ 25 กันยายน 2553
เวลา 08.30 - 09.00 น. Morning Coffee
เวลา 09.00 - 12.00 น. ผู้นำกับการพัฒนาระบบความคิด (Leadership and Systematical Thinking)
โดย ศาสตราจารย์ ดร. เกรียงศักดิ์ เจริญวงศ์ศักดิ์
เวลา 12.00 - 13.00 น. รับประทานอาหารกลางวัน
เวลา 13.00 - 16.00 น. ผู้นำในระบอบประชาธิปไตย (Leadership in Democracy Society)
โดย นายโคทม อารียา
กำหนดการเรียนครั้งที่ 9
ระหว่างวันที่ 5 – 7 ตุลาคม 2553
วันอังคารที่ 5 ตุลาคม 2553
เวลา 09.00 - 12.00 น. นำเสนอโครงการพัฒนาสหกรณ์รายบุคคล
โดย ผู้เข้าอบรม
Commentator: 1. นายมงคลัตถ์ พุกะนัดด์
2. ดร.ยม นาคสุข
3. ดร.สุวิชัย ศุภรานนท์
เวลา 12.00 -13.00 น. รับประทานอาหารกลางวัน
เวลา 13.00 -16.00 น. นำเสนอโครงการพัฒนาสหกรณ์รายบุคคล
โดย ผู้เข้าอบรม
Commentator: 1. ดร.ปรีชา สิทธิกรณ์ไกร
2. ดร.ยม นาคสุข
3. ดร.สุวิชัย ศุภรานนท์
เวลา 18.00 -19.30 น. รับประทานอาหารเย็น
วันพุธที่ 6 ตุลาคม 2553
เวลา 09.00 - 12.00 น. นำเสนอโครงการพัฒนาสหกรณ์รายบุคคล
โดย ผู้เข้าอบรม
Commentator: 1. ดร.ปรีชา สิทธิกรณ์ไกร
2. ดร.ยม นาคสุข
3. ดร.สุวิชัย ศุภรานนท์
เวลา 12.00 -13.00 น. รับประทานอาหารกลางวัน
เวลา 13.00 -16.00 น. นำเสนอโครงการพัฒนาสหกรณ์รายบุคคล
โดย ผู้เข้าอบรม
Commentator: 1. ดร.ปรีชา สิทธิกรณ์ไกร
2. ดร.ยม นาคสุข
3. ดร.สุวิชัย ศุภรานนท์
วันพฤหัสบดีที่ 7 ตุลาคม 2553
เวลา 09.00 - 12.00 น. นำเสนอโครงการพัฒนาสหกรณ์รายบุคคล
โดย ผู้เข้าอบรม
Commentator: 1. ดร.ปรีชา สิทธิกรณ์ไกร
2. ดร.ยม นาคสุข
3. ดร.สุวิชัย ศุภรานนท์
เวลา 12.00 -13.00 น. รับประทานอาหารกลางวัน
เวลา 13.00 - 16.00 น. นำเสนอโครงการพัฒนาสหกรณ์รายบุคคล
โดย ผู้เข้าอบรม
Commentator: 1. ดร.ปรีชา สิทธิกรณ์ไกร
2. ดร.ยม นาคสุข
3. ดร.สุวิชัย ศุภรานนท์
เวลา 18.00 - 22.00 น. กิจกรรมแสดงความยินดี กับผู้นำที่สำเร็จหลักสูตร
กำหนดการพิธีปิดโครงการและมอบวุฒิบัตร
โครงการพัฒนาผู้นำสหกรณ์ หลักสูตร “ผู้นำสหกรณ์ขั้นสูง” รุ่นที่ 5 (ผนส.5)
วันศุกร์ที่ 8 ตุลาคม 2553
ณ ห้องประชุมศูนย์รัชนีแจ่มจรัส สันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทย
เวลา 08.00 – 09.00 น. ลงทะเบียน
เวลา 09.00 – 10.00 น. แขกผู้มีเกียรติ กรรมการบริหารฯ และผู้นำสหกรณ์ขั้นสูง รุ่นที่ 1-4
พร้อมกันในห้องประชุม
เวลา 10.00 – 12.00 น. พิธีปิดการฝึกอบรม
- กล่าวรายงาน
โดย ประธานกรรมการดำเนินการสันนิบาตสหกรณ์ฯ
(นายมงคลัตถ์ พุกะนัดด์)
- มอบวุฒิบัตร และกล่าวปิด
โดย ฯพณฯ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
(นายศุภชัย โพธิ์สุ)
- กล่าวขอบคุณ
โดย ศาสตราจารย์ ดร. จีระ หงส์ลดารมภ์
- มอบของที่ระลึก
โดย ประธานกรรมการดำเนินการสันนิบาตสหกรณ์ฯ
- ถ่ายภาพหมู่
เวลา 12.00 – 13.00 น. รับประทานอาหารกลางวัน
เวลา 13.00 – 16.00 น. กิจกรรมสัมมนาวิชาการ
- เรื่อง ขบวนการสหกรณ์สามารถขับเคลื่อนเศรษฐกิจ
สังคม ได้อย่างไร
โดย ผู้นำสหกรณ์ขั้นสูง รุ่นที่ 5
สวัสดีครับอาจารย์ และเพื่อนๆ ผนส.
คิดถึงก็คลิ๊กไปเลยจร้า http://gotoknow.org/blog/leadersship/238209
สวัสดีค่ะ เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ผนส 5 ทุกท่าน และรุ่นพี่ ผนส 4 ทั้ง 4 ท่าน ที่ได้ให้เกียรติร่วมเดินทางไปปักกิ่งด้วยกัน คิดว่าทุกท่านคงเดินทางถึงบ้านกันแล้วนะคะ ไม่ทราบว่าหายเหนื่อยกันหรือยัง รักและคิดถึงทุกคนค่ะ
เจริญศรี โสระมัด ผนส 5
สวัสดีครับ อาจารย์ และ พี่ ผนส.5 ทุกท่าน
กลับบ้านโดยสวัสดิภาพทุกคนนะครับ พี่ๆ สามารถดูำภาพส่วนหนึ่งได้ ที่ http://www.facebook.com/profile.php?id=100001057064811#!/album.php?aid=20200&id=100001057064811
จะทยอยลงเรื่อยๆ นะครับ แต่คงไม่หมด เพราะเยอะมากครับ เรียนครั้งต่อไปรบกวนพี่ๆ นำภาพมาแชร์กันด้วยนะครับ
สวัสดีค่ะอาจารย์ และพี่น้องชาวผนส.ทุกคน
การศึกษาดูงานที่ปักกิ่งของผนส.5 ได้เสร็จสิ้นลงแล้ว
ณ ขณะนี้ ผู้ร่วมเดินทางทุกคนคงจะกลับสู่ครอบครัวกันครบถ้วนแล้ว
อย่าลืมแชร์ประสบการณ์และทำการบ้านส่งอาจารย์ด้วยนะคะ
คิดถึงทุกๆคน อยากให้ถึงวันศุกร์ที่ 17 กันยายนเร็วๆจังเลย.....
ศิริวรรณ
คิดถึงเพื่อนๆ ทุกคนครับ
ศิริชัย ออสุวรรณ ผนส.5
ข้อมูลปักกิ่ง
ปักกิ่ง หรือ เป่ย์จิง (Beijing) เป็นเมืองหลวงของสาธารณรัฐประชาชนจีน มีชื่อย่อว่า จิง ตั้งอยู่ที่ภาคตะวันตกเฉียงเหนือของ ที่ราบหวาเป่ย ชื่อเดิมคือ จี่ สมัยชุนชิวจ้านกั๋วเป็นเมืองหลวงของแคว้นยัน สมัยราชวงศ์เหลียว เป็นเมืองหลวงรอง ชิ้อยันจิง เป็นเมืองหลวงของจีนตั้งแต่สมัยราชวงศ์จิน หยวน หมิง ชิงจนถึง สาธารณรัฐจีน เคยใช้ชื่อจงตู ต้าตู เป่ยผิงและเป่ยจิง โดยมีชื่อเรียกทั้งหมดกว่า 60 ชื่อ เริ่มตั้งเป็นเมืองตั้งแต่ปี 1928 ปัจจุบัน แบ่งเป็น 16 เขตและ 2 อำเภอ เป็นนครที่ขึ้นตรงต่อส่วนกลาง พื้นที่ทั่วนครเป่ยจิงมีถึง 16,800 ตารางกิโลเมตร ปัจจุบันปักกิ่งเป็นเขตการปกครองพิเศษแบบมหานคร 1 ใน 4 แห่งของจีน ซึ่งมีฐานะเทียบเท่ากับมณฑล หลังจากปักกิ่งได้รับการจัดตั้งเป็นเมืองหลวงของสาธารณรัฐประชาชนจีนในปี 1949 โดยเฉพาะหลังจากสมัย 80 ศตวรรษที่ 20 เมืองปักกิ่งได้พัฒนาอย่างรวดเร็วอย่างเหลือเชื่อ มีการเปลี่ยนแปลงจากหน้ามือเป็นหลังมือ ปัจจุบันนี้ปักกิ่งมีถนนที่สลับกับ ตึกสูงๆ โดยไม่เพียงแต่รักษาสภาพเมืองโบราณ และยังแสดงถึงสภาพเมืองที่ทันสมัย ในช่วง 30 ปีที่ผ่านมาปักกิ่งถูกยกสถานะเป็นเมืองสำคัญระดับโลก เป็นศูนย์กลางทางการปกครองการค้า การลงทุนที่สำคัญที่สุดของประเทศจีนในแต่ละปีมีชาวต่างชาติเดินทางเข้ามาติดต่อการค้าท่องเที่ยว ศึกษาเป็นจำนวนมากประชาชนชาวปักกิ่งมีสภาพความเป็นอยู่และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น รวมทั้งได้รับอิทธิพลทางวัฒนธรรมจากตะวันตกมากขึ้นด้วย
ผู้นำสหกรณ์ขั้นสูง” รุ่นที่ ๕ โครงการพัฒนาผู้นำสหกรณ์ สันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทย
ขอเชิญผู้มีจิตศรัทธาร่วมเป็นเจ้าภาพทอดผ้าป่าสามัคคี
ณ วัดพระบาทน้ำพุ ตำบลเขาสามยอด อำเภอเมือง จังหวัดลพบุรี
-------------------------------------------------------------
ด้วยวัดพระบาทน้ำพุมีสิ่งสำคัญในวัดได้แก่ รอยพระพุทธบาทถูกครอบอยู่ภายใต้มณฑป มีโครงการธรรมรักษ์นิเวศน์ที่ฟักฟื้นและรักษาสำหรับผู้ป่วยโรคเอดส์ระยะสุดท้ายที่อาจจะกล่าวได้ว่ามีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ในอุโบสถขนาดกว้าง ๒๐ เมตร ยาว ๔๐ เมตร มีพระประธานพร้อมด้วยพระอัครสาวก นอกจากนี้ในถ้ำบนเขาที่อยู่ในวัด ภายในมีหลวงพ่อดำ ปางมารวิชัยสมัยอยุธยา และพระโพธิสัตว์ ๙ องค์ ส่วนบนยอดภูเขาพระอุทัย อโนโม สร้างหลวงพ่อขาวขึ้นเมื่อพ.ศ. ๒๕๒๓
วัดแห่งนี้เริ่มต้นรับรักษาและพักฟื้นผู้ติดเชื้อและผู้ป่วยโรคเอดส์ครั้งแรกเมื่อพ.ศ. ๒๕๓๕ และดำเนินการต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน ผู้ริเริ่มโครงการคือเจ้าอาวาส พระอาทรประชานาถ การดำเนินการเกี่ยวกับโรคเอดส์มีสองส่วน ส่วนแรกคือรับดูแลรักษาผู้ติดเชื้อ และผู้ป่วยโรคเอดส์ทั่วไปจากทั่วประเทศ ส่วนที่สองคือการรับอุปการะเด็กกำพร้าที่ได้รับผลกระทบโรคเอดส์จากบิดามารดา ทั้งสองส่วนอยู่ในการดูแลของวัดประมาณ ๒,๐๐๐ คน แบ่งเป็นเด็กประมาณ ๑,๓๐๐ คน ในแต่ละเดือนวัดจะมีค่าใช้จ่ายประมาณ ๔ ล้านบาท เป็นค่าใช้จ่ายในส่วนของค่าอาหาร ยารักษาโรค ค่าบริหารจัดการภายในวัด และค่าเผาศพ ปัจจุบันได้รับเงินสนับสนุนจากรัฐบาลประมาณเดือนละ ๑๐๐,๐๐๐ บาท ส่วนที่เหลือพร้อมทั้งยาต้านไวรัสเอดส์และอาสาสมัครเป็นการรับบริจาคจากผู้มีจิตศรัทธา ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งวัดพระบาทน้ำพุ ยังขาดทุนทรัพย์เพื่อใช้จ่ายอีกเป็นจำนวนมาก คณะ “ผู้นำสหกรณ์ขั้นสูง” รุ่นที่ ๕ โครงการพัฒนาผู้นำสหกรณ์ สันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทย จึงขอเชิญผู้มีจิตศรัทธาร่วมเป็นเจ้าภาพทอดผ้าป่าสามัคคี เพื่อเป็นทุนทรัพย์สนับสนุนโครงการของทางวัดดังกล่าว
ขออำนาจคุณพระศรีรัตนตรัย และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย จงดลบันดาลให้ท่าน และครอบครัว จงประสบแต่ความสุข ความเจริญด้วยจตุรพิธพรชัยทั้ง ๔ ประการ คือ อายุ วรรณะ สุขะ พละ ปฏิภาณธนสารสมบัติ ตลอดกาลนานเทอญ
กำหนดการ
วันเสาร์ที่ ๙ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๓
เวลา ๐๗.๐๐ น. ออกเดินทางจากสันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทย ถนนพิชัย กทม.
เวลา ๑๐.๐๐ น. ตั้งองค์ผ้าป่าสามัคคี
เวลา ๑๐.๑๙ น. พิธีทอดผ้าป่าสามัคคี
เวลา ๑๑.๐๐ น. ถวายภัตตาหารเพล แด่พระภิกษุสงฆ์
เวลา ๑๒.๐๐ น. รับประทานอาหารกลางวัน
จัดเลี้ยงอาหารกลางวันแก่อาสาสมัคร/เจ้าหน้าที่และผู้ป่วยในความดูแลของวัด
เวลา ๑๓.๐๐ น. เดินทางกลับ
ประธานฝ่ายสงฆ์
ท่านเจ้าคุณพระอุดมประชาทร (เจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ)
ประธานฝ่ายฆราวาส
นายมงคลัตถ์ พุกะนัดด์ ประธานกรรมการสันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทย
ศ.ดร.จีระ หงส์ลดารมภ์ ประธานคณะกรรมการบริหารและพัฒนาหลักสูตร โครงการพัฒนาผู้นำสหกรณ์
เลขาธิการมูลนิธิพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ระหว่างประเทศ
นายศิริชัย ออสุวรรณ ประธานนักศึกษาโครงการพัฒนาผู้นำสหกรณ์ หลักสูตรผู้นำสหกรณ์ขั้นสูง รุ่นที่ ๕
รองประธาน
(ฝ่ายคณะกรรมการบริหารและพัฒนาหลักสูตร และทีมงานบริหารโครงการผู้นำสหกรณ์ขั้นสูง)
ดร.ปรีชา สิทธิกรณ์ไกร คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
นายเลอพงษ์ มุสิกะมาน รองอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์
นายสมชาย ศิริรุ่งกิจ ผู้อำนวยการสำนักเทคโนโลยีสารสนเทศฯ กรมตรวจบัญชีสหกรณ์
นายสมเพียร ศรีปัญญา ผู้อำนวยการฝ่ายสินเชื่อสถาบัน ธนาคารเพื่อการเกษตรฯ
นายเฉลิมพล ดุลสัมพันธ์ ประธานกรรมการชุมนุมสหกรณ์ออมทรัพย์แห่งประเทศไทย จำกัด
นายอเนก ศรีสำราญรุ่งเรือง ผู้จัดการสหกรณ์ออมทรัพย์ข้าราชการกระทรวงศึกษาธิการ จำกัด
นายชินชัย สถิรยากร ประธานกรรมการสหกรณ์ประมงแม่กลอง จำกัด
อ.ยม นาคสุข ผู้อำนวยการศูนย์บริหารและพัฒนาทุนมนุษย์
ดร.สุวิชัย ศุภรานนท์ ผู้อำนวยการสันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทย
นางสาวอำไพ เหลืองภิรมย์ รองผู้อำนวยการสันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทย
นายเกรียงไกร ขำอินทร์ หัวหน้าสถาบันพิทยาลงกรณและวิชาการ
นางสาวอรนุช กันภัย ผู้ช่วยหัวหน้าสถาบันพิทยาลงกรณและวิชาการ
รองประธาน
(ฝ่ายผู้นำสหกรณ์ขั้นสูง รุ่นที่ ๕)
นายวีรศักดิ์ สงเคราะห์ รองประธาน สหกรณ์การเกษตรมะขาม จำกัด จ. จันทบุรี
พันเอกยุทธเดช พุฒตาล กรรมการ สสหกรณ์ออมทรัพย์กองบัญชาการกองทัพไทย จำกัด
รศ.ปรากรม ประยูรรัตน์ ประธานกรรมการร้านสหกรณ์มหาวิทยาลัยบูรพา จำกัด จ.ชลบุรี
นายวัฒนศักดิ์ จังจรูญ ประธานกรรมการสหกรณ์การเกษตรเขาสวนกวาง จำกัด จ.ขอนแก่น
นายณฐกร แก้วดี กรรมการผู้จัดการสหกรณ์ออมทรัพย์ธุรกิจก๊าซ ปตท. จำกัด จ.ชลบุรี
นายสันติ ขจรเวชไพศาล ประธานกรรมการสหกรณ์นิคมชุมแสงจันทร์ จำกัด จ.ระยอง
นายชัยณรงค์ กัณหา ประธานกรรมการสหกรณ์การเกษตรเมืองศรีสะเกษ จำกัด จ. ศรีษะเกษ
นายรุ่งโรจน์ วรชมพู กรรมการ สหกรณ์ออมทรัพย์สาธารณสุขนครราชสีมา จำกัด จ.นครราชสีมา
นายธวัชชัย อินทรทัต รองประธาน สหกรณ์ออมทรัพย์สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจกฟน. จำกัด
นายสมชาย ทองพันธ์อยู่ ประธานกรรมการ ชุมนุมร้านสหกรณ์แห่งประเทศไทย จำกัด
นายคำนึง โสตถิอุดม กรรมการ ชุมนุมสหกรณ์ออมทรัพย์แห่งประเทศไทย จำกัด
นายมานะ สุดสงวน รองประธาน ชุมนุมสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนแห่งประเทศไทย จำกัด
นายศรชัย วิจิตรพร ประธานกรรมการสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนพระหฤทัยเชียงใหม่ จำกัด จ.เชียงใหม่
นายภาวัต ศุภสุวรรณ ประธานกรรมการสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนเคหะรัษฎาภูเก็ต จำกัด จ. ภูเก็ต
นายภราดร สื่อมโนธรรม ประธานกรรมการสหกรณ์ออมทรัพย์มูลนิธิโครงการหลวง จำกัด จ. เชียงใหม่
พันตำรวจเอกบุญชัย ฤาชัยสา กรรมการสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจแห่งชาติ จำกัด
นายอนุวรรตน์ อิ่มสมบูรณ์ เลขานุการ สหกรณ์การเกษตรเมืองจันทบุรี จำกัด จ.จันทบุรี
นายอัมพร เลิศกิจเจริญไพศาล กรรมการสหกรณ์ออมทรัพย์พนักงานธนาคารแห่งประเทศไทย จำกัด
นายวิเชียร พวงศรี ประธานกรรมการสหกรณ์บริการเดินรถนครสวรรค์ จำกัด จ.นครสวรรค์
นายอานุภาพ กระจ่างแจ้ง ผู้จัดการ สหกรณ์การเกษตรเมืองระยอง จำกัด จ. ระยอง
นายจิตติ เจียมเจือจันทร์ ผู้จัดการ สหกรณ์นิคมลานสัก จำกัด จ.อุทัยธานี
นายเติมศักดิ์ จันทะจร ผู้จัดการ สหกรณ์ออมทรัพย์ครูมหาสารคาม จำกัด จ. มหาสารคาม
นายทักษิณ สารมณี ผู้จัดการ สหกรณ์การเกษตรชนบท จำกัด จ.ขอนแก่น
นายอดิศักดิ์ ฟักแฟง ผู้จัดการ สหกรณ์การเกษตรคลองขลุง จำกัด จ.กำแพงเพชร
นายศิริพงษ์ มีประเสริฐ ผู้จัดการ สหกรณ์การเกษตรเมืองนครราชสีมา จำกัด จ.นครราชสีมา
นางเจริญศรี โสระมัด ผู้จัดการ สหกรณ์การเกษตรขาณุวรลักษณ์ จำกัด จ. กำแพงเพชร
ว่าที่ ร.ท.สุวรรณ แป้นเพ็ชร ผู้จัดการ สหกรณ์การเกษตรสามโคก จำกัด จ.ปทุมธานี
นายอารี ภู่สกุล ผู้จัดการ สหกรณ์การเกษตรเมืองอยุธยา จำกัด จ.พระนครศรีอยุธยา
นายถาวร เนคมานุรักษ์ ผู้จัดการ สหกรณ์การเกษตรบางบาล จำกัด จ.พระนครศรีอยุธยา
นายสมคิด ศรีพยัคฆ์ ผู้จัดการ สหกรณ์การเกษตรบางกรวย จำกัด จ. นนทบุรี
นางสาวสุมาลัย รักเขตรการ ผู้จัดการ สหกรณ์การเกษตรลานสัก จำกัด จ. อุทัยธานี
นางยุวดี เสือพันธุ์เจริญ ผู้จัดการ สหกรณ์การเกษตรวิเศษชัยชาญ จำกัด จ.อ่างทอง
นายชูชีพ วงษ์สูง ผู้จัดการ สหกรณ์ประมงระยอง จำกัด จ.ระยอง
นายอรุณ พรหมคำ ผู้จัดการ สหกรณ์การเกษตรเมืองสงขลา จำกัด จ. สงขลา
นายศุภกร ชูเกษม ผู้จัดการ สหกรณ์การเกษตรปักธงชัย จำกัด จ. นครราชสีมา
นายเกษม ศรีเกื้อกลิ่น ผู้จัดการ สหกรณ์การเกษตรพังโคน จำกัด จ. สกลนคร
นายเจนวิทย์ อภิชัยนันท์ ผู้จัดการ ร้านสหกรณ์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จำกัด
นายมาโนช วรรณบุตร นักวิชาการฯ สำนักงานสหกรณ์จังหวัดลพบุรี
นางสาวภาวินี ตุวยานนท์ นักวิชาการฯ สำนักงานสหกรณ์จังหวัดนครพนม
นางอรพิน เทียมเมฆ นักวิชาการ กรมตรวจบัญชีสหกรณ์
นายจิระ พิมลลิขิต ประธานกรรมการสหกรณ์ออมทรัพย์กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จำกัด
นายกังวาล เนียมสุวรรณ ผู้อำนวยการกองการพัฒนาธุรกิจฯ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร
นายศิริศักดิ์ หลงจิตร ผู้บริหารทีมฝ่ายสินเชื่อฯ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร จำกัด
นายวิรัช รมณีย์ ผู้บริหารทีมฝ่ายสินเชื่อฯ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร จำกัด
นายสามารถ เอี่ยมวงษ์ ผู้บริหารทีมฝ่ายสินเชื่อฯ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร จำกัด
นายสุรพล ชัยมาลา รองเลขาธิการ สมาคมเศรษฐศาสตร์สหกรณ์แห่งประเทศไทย
นายชโลทร สุวรรณลาภเจริญ เลขานุการ สหกรณ์ออมทรัพย์การไฟฟ้าฝ่ายผลิต จำกัด
นางศิริวรรณ ปัญญาธรรม ผู้จัดการ สหกรณ์ออมทรัพย์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จำกัด
นางสิริพชนันท์ ชิตญาติ รองผู้จัดการ สหกรณ์ออมทรัพย์สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ กฟน. จำกัด
กรรมการ
ผู้นำสหกรณ์ขั้นสูงรุ่นที่ ๑ รุ่นที่ ๒ รุ่นที่ ๓ และรุ่นที่ ๔ ทุกท่าน
นางสาวชไมพร ตันกุล นายประทิน บุญตุ้ย นายภูมินทร์ เจือไทย
นายบัณฑิต แทนอิสระ นางสาวจิตรลดา ลียากาศ นางสาวเอราวรรณ แก้วเนื้ออ่อน
ท่านที่ประสงค์จะมอบปัจจัยเพื่อร่วมทำบุญทอดผ้าป่าสามัคคีครั้งนี้ สามารถดำเนินการได้ ดังนี้
1. ฝากส่งมากับประธาน รองประธาน และกรรมการทุกคน
2. ฝากเข้า บัญชีเงินฝากสะสมทรัพย์ ธนาคารกรุงเทพ สาขาสยามสแควร์
เลขที่บัญชี ๑๕๒ ๔ ๖๙๓๐๖ ๔
ชื่อบัญชี “นายบุญชัย ฤาชัยสาและนางศิริวรรณ ปัญญาธรรมและนายเจนวิทย์ อภิชัยนันท์”
“ผู้นำสหกรณ์ขั้นสูง” รุ่นที่ ๕ โครงการพัฒนาผู้นำสหกรณ์ สันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทย
ขอเชิญผู้มีจิตศรัทธาร่วมเป็นเจ้าภาพทอดผ้าป่าสามัคคี
ณ วัดพระบาทน้ำพุ ตำบลเขาสามยอด อำเภอเมือง จังหวัดลพบุรี
วันเสาร์ที่ ๙ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๓ เวลา ๑๐.๑๙ น.
------------------------------------------------------------------
ชื่อ-นามสกุลผู้บริจาค…………………………………………………………………………………………………..………
ที่อยู่ สหกรณ์ เลขที่……………….หมู่ที่…………….ถนน………………………..….ตำบล/แขวง…………………………..
อำเภอ/เขต……………………………จังหวัด………………...........................................รหัสไปรษณีย์……………………
จำนวนเงินบริจาค…………………………………..บาท
โดยทาง (กรุณาทำเครื่องหมาย / ในช่องว่างด้านล่าง)
( ) ฝากส่ง ชื่อบุคคล.........................................................................................................................
( ) ฝากเข้า บัญชีเงินฝากสะสมทรัพย์ ธนาคารกรุงเทพ สาขาสยามสแควร์
เลขที่บัญชี ๑๕๒ ๔ ๖๙๓๐๖ ๔
ชื่อบัญชี “นายบุญชัย ฤาชัยสาและนางศิริวรรณ ปัญญาธรรมและนายเจนวิทย์ อภิชัยนันท์”
ขออำนาจคุณพระศรีรัตนตรัย และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายจงดลบันดาลให้ท่านและครอบครัว
จงประสบแต่ความสุขความเจริญด้วย อายุ วรรณะ สุขะ พละ ปฏิภาณ ธนสารสมบัติตลอดกาลนานเทอญ
หมายเหตุ กรุณาส่งใบนำฝาก และเอกสารฉบับนี้ กลับไปยัง
คุณศิริวรรณ ปัญญาธรรม หมายเลขโทรสาร ๐๒-๖๑๑-๗๔๑๑
เพื่อจัดทำใบอนุโมทนาบัตรส่งให้แก่ท่านต่อไป
ศ.ดร. จีระ หงส์ลดารมภ์
เมื่อ 31 สิงหาคม 2553 10:52
#2155901 [ แจ้งไม่เหมาะสม ]
ผมจะเดินทางร่วมกับคณะผู้นำสหกรณ์ขั้นสูงรุ่นที่ 5 ไปปักกิ่ง คืนวันอังคารที่ 31 นี้
ดีใจที่ได้สร้างผู้นำอีก 50 คน
ไปครั้งนี้ ผมไปร่วมแค่ 2 วัน ต้องรีบกลับมาช่วยกลุ่มอีสาน มุกดาหาร แต่ก็คิดว่า เป็นโอกาสที่ดีที่จะอยู่ร่วมกับทุกๆท่าน ซึ่งเป็นรุ่น 5 และใกล้ชิดกับผมมากขึ้น
การสร้างผู้นำคือเน้น 5E –E ที่จะใช้ก็คือ Experiences
ขอให้ทุกๆคนเตรียมเขียน Blog ว่า
-ประเทศจีนกับไทย ในอนาคต จะเน้นทำงานร่วมกันอย่างไร
-สหกรณ์ของเขากับเราแตกต่างกันอย่างไร
-ประทับใจอะไรบ้าง
-มีบทเรียนกับตัวเอง เรื่องอะไร
-ช่วยทำให้เราเป็นผู้นำที่ดีได้อย่างไร
เพื่อนๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
อย่าลืมส่งการบ้านอาจารย์จีระ.......... นะคะ
เรียน อาจารย์และเพื่อน ๆ ผนส.
ไปดูงานที่สถานเอกอัครราชฑูต ณ กรุงปักกิ่ง เขียนรายงานผู้บริหาร ธ.ก.ส. ก็เลย copy มาเล่าสู่กันฟัง สมาชิกสหกรณ์ท่านใดผลิตพืชเหล่านี้ จะได้ยิ้มออก มีคนต้องการ แต่เราต้องรวมพลังสหกรณ์ให้ได้ จึงจะผลักดันส่งออกหลังจากขายในประเทศเพียงพอแล้ว
ตามที่ธนาคารได้อนุมัติให้ นางศุภาภรณ์ ถาปนศิริ ผอ.กงส. เข้าร่วมโครงการศึกษาดูงานด้านสหกรณ์และการเกษตร ระหว่างวันที่ 31 สิงหาคม – 4 กันยายน 2553 ณ สาธารณรัฐประชาชนจีน นั้น การเดินทางในครั้งนี้ เป็นกิจกรรมหนึ่ง ของโครงการพัฒนาผู้นำสหกรณ์ หลักสูตร“ ผู้นำสหกรณ์ขั้นสูง รุ่นที่ 5 “ ของสันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทย ในคณะ ฯ ประกอบด้วย ผู้นำสหกรณ์ จำนวน 46 คน พนักงาน ธ.ก.ส.ผู้เข้าอบรมในหลักสูตรนี้ จำนวน 4 คน คณะกรรมการบริหารโครงการ จำนวน 4 คน ( รวม ผอ.กงส.ที่เป็นผู้แทนของ ธ.ก.ส.) และเจ้าหน้าที่ของสันนิบาตสหกรณ์ รวมทั้งสิ้น จำนวน 60 คน ได้ไปศึกษาดูงานที่ สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงปักกิ่ง ในวันที่ 3 กันยายน 2553 โดยมี นายวราวุธ ชูวิรัช อัครราชทูต นายเถลิงศักดิ์ วงศ์สามศร อัครราชทูตที่ปรึกษาฝ่ายพาณิชย์ และนายสมพงษ์ นิ่มเชื้อ อัครราชทูตที่ปรึกษาฝ่ายการเกษตร ได้ร่วมกันบรรยายสรุป เรื่อง การพัฒนาของประเทศจีน การค้าระหว่างไทย – จีน โดยมีรายละเอียดตามเอกสารแนบ ( ที่นี่ไม่ได้แนบ )
จากการซักถามและขอรับคำแนะนำเกี่ยวกับสินค้าการเกษตร สรุปได้ว่า ประเทศจีนมีความต้องการสินค้าจากไทยหลายชนิด เนื่องจากการผลิตของจีนไม่เพียงพอสำหรับประชากร 1,300 ล้านคน (จะมีการสำรวจสำมะโนประชากร ครั้งที่ 6 ในเดือนพฤศจิกายนนี้ คาดว่าจำนวนประชากรอาจสูงถึง 1,500 ล้านคน ) สินค้าที่ต้องการ ได้แก่
ข้าวสารหอมมะลิ
ข้าวสารเหนียว
มันสำปะหลัง
ผลไม้ไทย ทุเรียน มังคุด กล้วยไข่ ลำไย ( ไม่ต้องการช่อ )
ยางพารา
จีนกำหนดโควต้านำเข้าข้าวสาร ปีละ 5.32 ล้านตัน เป็นการนำเข้าโดยรัฐบาล 50 %และเอกชน 50 % ซึ่งนำเข้าโดยบริษัทใหญ่ในเมืองกวางโจ และเสิ่นเจิ้น
ภาครัฐจะมีกองเสบียงจีนดูแลสต๊อกสินค้าธัญพืชทุกชนิด ถ้ามีปริมาณผลผลิตในตลาดมากเกินไป รัฐบาลจะซื้อเก็บไว้ เพื่อป้องกันปัญหาราคาสินค้าตกต่ำ
แต่ปัญหาที่เกิดกับข้าวสารหอมมะลิ คือ มีการปลอมปนข้าวเมล็ดยาวเข้าไปแล้วขายในราคาข้าวหอมะลิ ยังไม่ทราบต้นตอว่ามีการปลอมปนไปจากไทยหรือทำในจีน ประเทศใน ASEANที่ส่งสินค้าเข้าจีนเป็นลำดับที่ 1 คือ มาเลเซีย นำเข้ายางพาราและปาล์มน้ำมัน ส่วนไทยเป็นลำดับที่ 2
ผอ.กงส.มีความเห็นว่าข้อมูลเหล่านี้น่าจะเป็นประโยชน์ต่อธนาคาร ในการวางแผน สนับสนุนการตลาดของลูกค้าเกษตรกร สถาบันเกษตรกร หากผลผลิตมีคุณภาพตามที่ตลาดจีนต้องการ ก็จะช่วยให้ลูกค้าของธนาคารสามารถขายผลผลิตได้อย่างแน่นอน
แดงค่ะ
ถึงเพื่อน ๆ ผนส.5 ทุกท่าน
พูดถึงการไปศึกษาดูงานที่เมืองปักกิ่ง ประเทศจีน ก่อนจบการศึกษาดูงานหรือก่อนกลับ ทางคณะเรา(ผนส.5)ได้มีการขอบคุณและมอบน้ำใจให้แก่คณะผู้นำทาง(ไกด์+คนขับรถ)โดยการมอบเป็นเงินสด ในความคิดส่วนตัว พวกเราลืม "คนคนหนึ่ง" ที่คอยให้บริการแก่คณะพวกเราตลอดเวลา ทานข้าวก็ได้ทานทีหลัง ซึ่งพวกเราน่าจะมีการมอบน้ำใจหรือทำอะไรสักอย่างมอบแก่เขา เพื่อเป็นการแสดง "น้ำใจ" ที่พวกเรามีให้แก่เขา และเขาคนนั้น คือ ภูมินทร์ + บัณฑิต
เกษม ศรีเกื้อกลิ่น
ผนส.5
ถึงคุณเกษม ศรีเกื้อกลิ่น และ เพื่อน ๆ ผนส.5 ทุกท่าน
ขออภัยที่ไม่ได้แจ้งให้ทราบ ว่าได้มีการเตรียมการมอบน้ำใจหรือทำอะไรสักอย่างมอบแก่ น้องภูมินทร์ + บัณฑิต + ท่านที่ไม่ได้ไปจีนด้วย เพื่อเป็นการแสดง "น้ำใจ" ที่คอยให้บริการแก่คณะพวกเราตลอดเวลา
อาจารย์ ดร.จิระ ครับผมและเพื่อนได้ช่วยกันสรุปบทเรียนจากการดูงานในภาพรวมเบื้องต้นแยกเป็นข้อ ๆ ดัวนี้
1. จีนกับไทย ในอนาคตจะทำงานร่วมกันอย่างไร ?
1.1 ผู้นำของทั้ง 2 ประเทศ ให้ความสำคัญและเพิ่มบทบาทในเวที ICA-AP มากขึ้น
1.2 ไทย-จีน เปิดเวทีความร่วมมือด้านการผลิต การค้า และเทคโนโลยี ระหว่างสหกรณ์ของสองประเทศ
1.3 รัฐบาล ควรใช้มาตรการสนับสนุนกระบวนการสหกรณ์ เช่น กำหนดให้ Supermarket หรือร้านสะดวกซื้อของต่างชาติต้องมี
สินค้าของสหกรณ์วางจำหน่าย หรือการยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มสำหรับผู้บริดภคที่ซื้อสินค้าสหกรณ์ เป็นต้น
1.4 รัฐบาลส่งเสริมโครงการแลกเปลี่ยนเรียนรู้กระบวนการสหกรณ์ตั้งแต่ระดับเยาวชนจนถึงบุคคลากรในกระบวนการสหกรณ์
โดยทำโครงการแลกเปลี่ยน ฯ
2. สหกรณ์ไทย-จีน ต่างกันอย่างไร ?
2.1 โครงสร้งการบริหารจัดการ จีนบริหารแบบรวมศูนย์ รัฐบาลกลางควบคุมและกำหนดนโยบายผ่านกรรมการบริหาร แต่ไทย
ยึดถือความเป็นอิสระ ตามหลักประชาธิปไตย มีการรวมศูนย์กันลักษณะการเป็นชุมนุมสหกรณ์ หรือ สสท. ซึ่งยังไม่เข้ม
แข็งเพียงพอ
2.2 จีนมีกฎหมายที่เคร่งครัด ยึดนโยบายของรัฐเป็นหลัก แต่ไทยยึดติดกับการเมืองให้ความสำคัญกับฐานคะแนนมากกว่า
อุดมการณ์
3. ประทับใจอะไร ?
3.1 ความเป็นระเบียบ การจัดระบบผังเมือง การจราจร เป็นต้น
3.2 ความสามารถในการบริหารตนเองและประเทศของฮ่องเต้จีนโบราณ
3.3 ความสวยงานของพระราชวังต้องห้าม
4. บทเรียนกับตัวเอง?
" ความเกรงใจและขาดการเตรียมข้อมูลล่วงหน้า อาจส่งผลต่อการเป็นผู้นำที่ดีได้"
5. ช่วยให้เราเป็นผู้นำที่ดีได้อย่างไร ?
5.1 กำแพงเมืองจีน สามารถบอกถึงความพยายาม หรือพลังที่จะฟันฝ่าอุปสรรคของผู้นำ(ฮ่องเต้)
5.2 การจัดประตูเข้า-ออกเมือง ต่างกันเช่น ประตูชัยใช้เมื่อทหารเข้าออกยามสงคราม ประตูขนนำเสบียงอาหาร ขนถ่านหิน
แยกจากกันเพื่อความง่ายต่อการควบคุมป้องกันข้าศึก เป็นต้น
5.3 การเป็นผู้นำคนจำนวนมาก ให้เต็มใจและอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขนั้น ทุกคนต้องเข้าใจบทบาทหน้าที่ของตนเองและยึดมั่น
ในความเป็นตนเองและเพื่อนร่วมงาน รวมถึงสังคมรอบข้างจึงจะสร้างผู้นำที่ดีและยังยืน
สวัสดีครับอาจารย์ เพื่อนๆ ผนส.ทุกท่าน
เนื่องในโอกาสวันนี้ 14 กันยายน เป็นวันคล้ายวันเกิดของท่านเลขา ผนส.5 ในนามของ ผนส. 2 ขอให้ท่านมีแต่ความสุข ไม่เจ็บไม่จน รวย ๆ สวย ๆขึ้นอันดับผู้จัดการยอดเยี่ยมเหมือนป้ายโฆษณาข้างล่างนี้ น่ะครับ
อาจารย์ ดร.จิระ ครับ
ผมสรุปบทเรียนจากการดูงานในประเทศจีน ดังนี้
1. จีนกับไทย ในอนาคตจะทำงานร่วมกันอย่างไร ?
ไทย-จีน สามารถร่วมกันได้เพราะว่าจีนต้องการสินค้าจากไทย เนื่องจากจีนมีประชากรมากต้องการอาหารมาเลี้ยงประชากร โดยการใช้ระบบสหกรณ์ในการทำงานร่วมกัน
ถึงแม้ว่าจีน เป็นระบบสังคมนิคม แต่ก็เปิดการค้าเสรีได้ สามารถทำการค้าได้กับนานาประเทศ
ทางราชการต้องให้ความสำคัญกับขบวนการสหกรณ์อย่างต่อเนื่องและเข้มข้น เพราะว่าประเทศไทยเป็นประเทศที่ผลิตสินค้าด้านการเกษตรและพืชพลังงาน และสหกรณ์ยังได้รับการบกเว้นภาษี
ส่งเสริมความรู้สหกรณ์ตั้งแต่เด็กเพื่อปลูกฝัง สหกรณ์ ให้กับเด็กเมื่อเติบใหญ่จะได้นำเอาระบบสหกรณ์ มาดำเนินชีวิตได้อย่างแท้จริงมิใช่ สหกรณ์เทียม
โครงการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ สหกรณ์เพื่อพัฒนาและแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการนำเอาสหกรณ์มาใช้กับชีวิตประจำวัน ซึ่งสหกรณ์ก็เปรียบเสมือนการดำเนินชีวิตแบบเศรษฐกิจพอเพียงนั้นเอง
2. สหกรณ์ไทย-จีน ต่างกันอย่างไร ?
แตกต่างกันเพราะว่ารัฐบาลพยายามไม่ให้ความเป็นอิสระกับสหกรณ์ ซึ่งต่อมาสหกรณ์ก็เริ่มได้รับการผ่อนคลายมากขึ้น
หลักการสหกรณ์ขอที่ 3 ว่าด้วยการยึดหลักการปกครองในระบอบประชาธิปไตย ซึ่งจีนก็ไม่ประชาธิปไตยอยู่แล้ว จึงมีความแตกต่างกัน แต่จีนก็เคร่งครัดมากในระบบสหกรณ์ ซึ่งระบบสหกรณ์ใช้ได้กับทุกลัทธินิยม และเป็นระบบที่คนทั้งโลกยอมรับว่าเป็นระบบที่ดีที่สุด
3. ประทับใจอะไร ?
การบริหารประเทศโดยใช้ 2 ระบบ ทั้งพรรคการเมืองและอำนาจรัฐ
ความอดทน เสียสละ และยึดมั่นในตัวผู้นำที่เชื่อว่าจะนำพาประเทศชาติไปสู่ความสำเร็จ
ความเป็นระเบียบของบ้านเมือง ซึ่งจะต้องใช้ทรัพยากรอย่างมากประชากรก็ให้ความร่วมมืออย่างดี ซึ่งจะเห็นได้ว่าการพัฒนาของจีน เป็นการพัฒนาแบบก้าวกระโดด ซึ่งขณะนี้เศรษฐกิจดีกว่าญี่ปุ่นแล้ว ตาม อเมริกามาติด ๆ แบบหายใจลดต้นคอแล้ว
4. บทเรียนกับตัวเอง?
" ความผิดพลาดเป็นบทเรียนราคาแพง"
5. ช่วยให้เราเป็นผู้นำที่ดีได้อย่างไร ?
ความเด็ดขาดของผู้นำ ในการกล้าตัดสินใจ เพราะว่าการปกครองคนมากถึง 1300 ล้าน คน ยอมมีความยากอย่างมากหากผู้นำไม่เข้มแข็งก็ไม่สามารถนำพาประเทศชาติไปได้ จีนเพิ่งจะเปิดประเทศได้ 20 กว่าปี ก็พัฒนาประเทศให้มีความเจริญถัดทียมประเทศมหาอำนาจในหลาย ๆ ประเทศ
การได้ไปร่วมสังเกตการณ์ประชุม ICA นั้นเป็นโอกาสที่ดี และชมศูนย์วัฒนธรรมการเกษตร แต่ยังไม่ได้รับรู้การดำเนินงานของสหกรณ์ในประเทศซึ่ง สหกรณ์ในประเทศจีน มีความน่าสนใจมาก เพราะว่าเป็นสหกรณ์ที่อยู่ในระบอบสังคมนิยม แตกต่างกับสหกรณ์ที่อยู่ในระบอบประชาธิปไตยอย่างไร ถ้าเป็นไปได้ก็อยากให้รุ่น 5 ได้ไปร่วมดูงานสหกรณ์กับรุ่น 6 ด้วยก็จะเป็นการเสริมองค์ความรู้ให้กับผู้นำสหกรณ์และเป็นการเพิ่มศักยภาพของ ผนส.รุ่นที่ 5 และเพิ่มทุนมนุษย์ให้กับผู้นำสหกรณ์ได้อย่างแท้จริง
“สหกรณ์จะเกิดได้ก็ต้องมีผู้ที่เสียสละ ผู้เสียสละหาไม่ยากให้ส่องกระจกดูก็จะพบผู้เสียสละ”
..............................................
วิวัฒนาการกฎหมายสหกรณ์ประเทศจีน
จีนได้ประกาศการใช้กฎหมายสหกรณ์เมื่อวันที่ 1 มีนาคม พ.ศ.2477(1934) ซึ่งให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน พ.ศ.2478(1935) ภายหลังการปฏิวัติในแผ่นดินใหญ่ของจีน สหกรณ์ก็กลายเป็นส่วนหนึ่งของระบบเศรษฐกิจที่รัฐบาลกลางเป็นผู้วางแผน และกฎระเบียบต่าง ๆ ของสหกรณ์ต้องได้รับอนุมัติโดยหน่วยงานของรัฐที่ได้รับมอบอำนาจและสหกรณ์ทั้งหลายได้กลายเป็นหน่วยงานรัฐบาลในทางปฏิบัติ อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่หลายปีที่ผ่านมาสหกรณ์ต่าง ๆ ได้ค่อยขยับขยายแยกจากรัฐบาลและพรรคการเมือง และการยกร่างกฎหมายสหกรณ์ใหม่กำลังได้รับการพิจารณาอย่างจริงจัง
ในประเทศใต้หวัน(ส่วนหนึ่งของจีน) กฎหมายสหกรณ์ฉบับเดิมของจีนยังคงใช้บังคับอยู่ ซึ่งมี 77มาตรา แบ่งเป็น 9 หมวด บทบัญญัติที่สำคัญของกฎหมายฉบับนี้มีดังจะได้บรรยายต่อไปนี้
หมวดที่ 1 บททั่วไป
มาตรา 1 ว่าด้วยความหมายของสหกรณ์ที่ใช้ในกฎหมายนี้คือ “องค์กิจการอย่างหนึ่งที่จัดตั้งขึ้นบนหลักการต่าง ๆ ด้านความเสมอภาคการช่วยเหลือซึ่งกันและกัน การร่วมกันจัดดำเนินการเพื่อผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจและเพื่อยกระดับการดำรงชีพของสมาชิกขององค์กิจการ”
มาตรา 2 บัญญัติเกี่ยวกับประเภทธุรกิจซึ่งสหกรณ์แต่ละสหกรณ์จะดำเนินการได้
มาตรา 4-6 ว่าด้วยหน้าที่อำนาจของสหกรณ์
หมวดที่ 2 การจัดตั้งสหกรณ์
มาตรา 8 บัญญัติว่าด้วยจำนวนสมาชิกสหกรณ์จำนวนอย่างน้อยคือ 7 คน
มาตรา 9 อธิบายขั้นตอนการจัดตั้งสหกรณ์
มาตรา 10 ให้นายทะเบียนสหกรณ์พิจารณาคำขอจดทะเบียนสหกรณ์ให้เสร็จภายใน 15 วัน
หมวดที่ 3 สมาชิกภาพ หุ้น และกำไร
มาตรา 11 – 14 บัญญัติว่าด้วยเรื่อง คุณสมบัติการเป็นสมาชิก รวมด้วยคุณสมบัติอื่น ๆ ด้วย ผู้ที่ติดฝิ่นหรือสิ่งทดแทนฝิ่นให้ถือว่าขาดคุณสมบัติที่จะเป็นสมาชิก (มาตรา 13(3))
มาตรา 16 – 25 บัญญัติว่าด้วยเรื่อง หุ้นและการจัดสรรกำไรภายใต้มาตรา 16 มูลค่าหุ้นแต่ละหุ้นไม่ให้ต่ำกว่าสองดอลล่าร์ทำด้วยเงินแต่ไม่เกินหุ้นละ 50 ดอลล่าร์เงิน
หมวดที่ 4 กรรมการผู้ตรวจสอบกิจการและพนักงานลูกจ้าง
มาตรา 32 สหกรณ์หนึ่ง ๆ ให้มีกรรมการไม่น้อยกว่า 3 คน และผู้ตรวจสอบกิจการไม่น้อยกว่า 3 คน ซึ่งได้รับเลือกตั้งโดยที่ประชุมใหญ่ ผู้ตรวจสอบกิจการมีหน้าที่ตรวจสอบบัญชีและเอกสารการเงินของสหกรณ์ ตรวจสอบการเงิน ทรัพย์สินและเป็นผู้แทนสหกรณ์ในการทำข้อตกลงหรือนิติกรรมกับกรรมการ ผู้ตรวจสอบกิจการไม่ให้รับโบนัสแต่กรรมการและพนักงานลูกจ้างให้ได้รับโบนัสจากเงินเกินสุทธิ (Surplus)
หมวดที่ 5 การประชุม
มาตรา 45 ให้มีการประชุม 4 ประการ ลักษณะการประชุมที่ไม่เหมือนการประชุมอย่างอื่น คือ การประชุมทุกสามเดือน ซึ่งประกอบด้วย กรรมการดำเนินการและผู้ตรวจสอบกิจการซึ่งต่างจากการประชุมคณะกรรมการดำเนินการ
หมวดที่ 6 การเลิกและการชำระบัญชีสหกรณ์
ลักษณะพิเศษที่สำคัญประการหนึ่งของหมวดที่ 6 นี้ คือ บทบัญญัติที่ให้ผู้ชำระบัญชีต้องได้รับการแต่งตั้งโดยที่ประชุมใหญ่ หรือโดยคณะกรรมการดำเนินการสหภาพ และให้อำนาจดำเนินการชำระบัญชี นายทะเบียนสหกรณ์ไม่ได้เกี่ยวข้องในการเลิกสหกรณ์ (มาตรา60)
หมวดที่ 7 ชุมนุมสหกรณ์
ลักษณะพิเศษอีกอย่าง ก็คือ จำนวนผู้แทนในชุมนุมสหกรณ์ ซึ่งไม่ได้อาศัยหลักการหนึ่งคนหนึ่งเสียงแต่อาศัยจำนวนหุ้นในการเป็นสมาชิก หรืออาศัยการลงทุนอุดหนุนค่าใช้จ่ายในการจัดตั้งชุมนุมสหกรณ์
หมวดที่ 8 บทลงโทษและค่าปรับ
หมวดนี้บัญญัติว่าด้วยโทษปรับจำนวนมากกว่า 30 หยวนทุกกรณีโทษ
..............................................................
แบบเสนอโครงการ
ส่วนที่ 1 ข้อมูลทั่วไป (กรุณากรอกให้ครบถ้วน)
ชื่อโครงการ .....คุณสมบัติและสมรรถนะที่เหมาะสมกับการเป็นคณะกรรมการดำเนินการสหกรณ์การเกษตร....
ผู้เสนอโครงการ
ชื่อ-นามสกุล …นายสุรพล ชัยมาลา.. ตำแหน่ง …รองเลขาธิการสมาคมเศรษฐศาสตร์สหกรณ์แห่งประเทศไทย….
จากหน่วยงาน…สมาคมเศรษฐศาสตร์สหกรณ์แห่งประเทศไทย…..
ที่อยู่ ….มหาวิทยาลัยแม่โจ้ คณะเศรษฐศาสตร์ อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ ....รหัสไปรษณีย์...........................
โทรศัพท์ที่ติดต่อได้สะดวก.....08-1721-5429................ โทรสาร...............................................
Email:[email protected]......
หน่วยงาน หรือ ผู้รับผิดชอบโครงการโดยตรง (ปรับตามความเหมาะสม)
……มหาวิทยาลัยแม่โจ้ และ…สมาคมเศรษฐศาสตร์สหกรณ์แห่งประเทศไทย……….
1. องค์กร หรือหน่วยงาน หรือนิติบุคคล ที่เป็นเจ้าภาพร่วม (ถ้ามี)
ระบุองค์กรเจ้าภาพร่วมดำเนินการ ที่มีบทบาทสำคัญร่วมดำเนินการหรือสนับสนุนการดำเนินการ
1.1 มหาวิทยาลัยแม่โจ้
1.2 สมาคมเศรษฐศาสตร์สหกรณ์แห่งประเทศไทย
1.3 กรมส่งเสริมสหกรณ์
1.4 สันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทย
ผู้บริหารโครงการ มีดังนี้ (ปรับตามความเหมาะสม)
1. รศ.ดร.ประเสริฐ จรรยาสุภาพ ……. ตำแหน่ง …ประธาน…………………
2. ศาสตราจารย์ พิเศษ ดร.อาบ นคะจัด ตำแหน่ง …กรรมการ…………………
3. นายมงคลัตถ์ พุกกะนัดด์ ……….ตำแหน่ง …กรรมการ…………………
4. ……………………………….ตำแหน่ง ……………………………
5. ……………………………….ตำแหน่ง ……………………………
งบประมาณโครงการที่เสนอในครั้งนี้
จำนวนงบประมาณที่ต้องการสนับสนุนจาก กรมส่งเสริมสหกรณ์.………......600,000.……. บาท
งบประมาณสมทบจากองค์กรที่เสนอโครงการ/องค์กรชุมชน/ชุมชน …...........57,000 ........ บาท
งบประมาณรวม .........................657,000........ บาท
ระยะเวลาโครงการ
วันเริ่มต้น .....1 เมษายน 2553............ กำหนดเสร็จ .....31 มีนาคม 2554......
ส่วนที่ 2 แบบฟอร์มการเขียนข้อเสนอโครงการ
2. หลักการและเหตุผล
อธิบายเหตุผลที่มาที่ไปของการดำเนินงานโครงการ เช่นประเด็นปัญหา หรือระบุความสำคัญของการพัฒนา (แหล่งข้อมูลจะเป็นข้อมูลที่ชุมชนรวบรวม หรือ หน่วยงานในชุมชนรวบรวมก็ได้) และอธิบายได้ว่าเป้าหมายการพัฒนานั้นส่งผลดีต่อตำบล หรือชุมชนท้องถิ่นอย่างไร
การบริหารงานในองค์กรทั้งที่เป็นองค์กรของรัฐและองค์กรเอกชนล้วนแต่จะต้องอาศัยปัจจัยทางการบริหารหลายอย่างจึงจะประเมินผลสำเร็จได้และในบรรดาปัจจัยดังกล่าวนั้น “คน” นับว่าเป็นปัจจัยที่มีความสำคัญอย่างยิ่งเพราะคนหรือมนุษย์เป็นทรัพยากรที่มีค่าสำคัญขององค์กร และมนุษย์เป็นผู้ใช้สติปัญญา ความสามารถในการทำงานต่าง ๆ ขององค์กรให้สำเร็จลุล่วงไปได้ตามที่ต้องการ ดังนั้นการบริหารทรัพยากรมนุษย์จึงเป็นวิธีการแสวงหาแนวทางที่จะให้ได้คนเข้ามาในองค์กรอย่างเพียงพอทั้งปริมาณและคุณภาพทั้งในปัจจุบันและอนาคตตลอดจนทำให้องค์กรเกิดความคล่องตัวในการปรับเปลี่ยนธุรกิจได้อย่างทันท่วงที โดยไม่หยุดชะงักหรือขาดตอน และช่วยให้องค์กรสามารถแสวงหาวิธีการใหม่ ๆ เพื่อเปิดโอกาสให้คนในองค์กรมีโอกาสพัฒนาตนเองให้มีความรู้ ความสามารถในการทำงานให้สูงขึ้น
สหกรณ์การเกษตร เริ่มก่อตั้งมาตั้งแต่ พ.ศ. 2459 เรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน มีสมาชิก 10 ล้านครัวเรือน เมื่อมองภาพรวมแล้วการเติบโตของขบวนการสหกรณ์น่าจะพัฒนาได้มากกว่าที่เป็นอยู่ในระบบเศรษฐกิจแบบเสรี สหกรณ์และธุรกิจอื่น ๆ ที่อยู่ภายใต้ระบบการแข่งขันกันเป็นเรื่องธรรมดาธุรกิจแบบสหกรณ์จะปฏิเสธตัวเองโดยอยู่อย่างโดดเดี่ยวนั้นเป็นไปไม่ได้ถ้าธุรกิจแบบสหกรณ์ ซึ่งทุกฝ่ายยอมรับว่าเป็นแนวคิดที่ดีการบริหารงานของคณะกรรมการประเภทสหกรณ์ออมทรัพย์นั้นจะเห็นว่ามีศักยภาพสูงกว่าคณะกรรมการสหกรณ์การเกษตรเนื่องจากมีความรู้ขั้นต่ำระดับปริญญาตรี มีประสบการณ์ อายุไม่เกิน 60 ปี ซึ่งคุณสมบัติเหล่านี้องค์กรของสมาชิกจะทำการกำหนดและคัดเลือกมาก่อน จึงทำให้สหกรณ์ออมทรัพย์มีคณะกรรมการที่มีศักยภาพ และประสิทธิภาพสูง สหกรณ์การเกษตรเป็นองค์กรของเกษตรกรซึ่งส่วนใหญ่มีความรู้น้อย การศึกษาระดับประถมศึกษา หากรัฐมีการส่งเสริมให้ความรู้ด้านการศึกษาขั้นพื้นฐาน ก็จะทำให้เกษตรกรมีคุณภาพและมีศักยภาพสูงขึ้นและสามารถเพิ่มประสิทธิภาพขีดความสามารถได้สหกรณ์การเกษตร เป็นสหกรณ์ที่มีสมาชิกมากเป็นสหกรณ์ขนาดใหญ่ มีการดำเนินธุรกิจสินเชื่อ ธุรกิจซื้อ ธุรกิจขายและบริการในแต่ละปีค่อนข้างสูงมาก จึงมีความจำเป็นต้องพัฒนาเสริมสร้างความรู้ เพื่อให้ได้คณะกรรมการที่มีคุณสมบัติและสมรรถนะที่เหมาะสมกับการเข้ามาบริหารงานของสหกรณ์
3. ระบุประเด็นเป้าหมายของโครงการ (ปรับตามความเหมาะสม ดังตัวอย่าง)
• การจัดการสิ่งแวดล้อม • การแก้ไขความขัดแย้ง
• พลังงานทดแทน • การดูแลผู้ต้องการความช่วยเหลือ
• พัฒนาเศรษฐกิจ • พัฒนาสื่อสารชุมชน
• พัฒนาการเรียนรู้ • พัฒนาทรัพยากรมนุษย์
• อื่นๆ โปรดระบุ........................................................................
4. วัตถุประสงค์ของโครงการ
วัตถุประสงค์ของโครงการ แสดงให้เห็นว่าการดำเนินงานของโครงการจะก่อให้เกิดการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงกลุ่มเป้าหมาย อย่างไร วัตถุประสงค์ของโครงการไม่ควรเกิน 5 ข้อ
3.1 เพื่อศึกษาและเปรียบเทียบความคิดเห็นของคณะกรรมการดำเนินการสหกรณ์ ฝ่ายจัดการสหกรณ์ และเจ้าหน้าที่ส่งเสริมสหกรณ์ เกี่ยวกับคุณสมบัติและสมรรถนะที่เหมาะสมของการเป็นคณะกรรมการดำเนินการสหกรณ์
3.2 เพื่อกำหนดคุณสมบัติและสมรรถนะที่เหมาะสมของการเป็นคณะกรรมการดำเนินการสหกรณ์
3.3 เพื่อศึกษาและกำหนดเส้นทางที่เหมาะสมของการเข้าสู่ตำแหน่งคณะกรรมการดำเนินการสหกรณ์การเกษตร
5. ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ ที่เป็นรูปธรรมที่คาดว่า (เป็นไปได้) จะเกิดขึ้นจากการดำเนินโครงการ
4.1 สหกรณ์การเกษตรได้คณะกรรมการดำเนินการที่มีคุณสมบัติและสมรรถนะที่เหมาะสมของการเป็นคณะกรรมการดำเนินการอย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน นำไปสู่การเป็นสหกรณ์ที่แท้จริง
4.2มีการกำหนดคุณสมบัติ สมรรถนะและขั้นตอนของสมาชิกที่เข้ามาเป็นคณะกรรมการดำเนินการสหกรณ์ในข้อบังคับ
และระเบียบของสหกรณ์ ให้มีความมั่นคงถาวรและเป็นประโยชน์แก่สมาชิกต่อไป
4.3นำไปสู่การกำหนดธรรมาภิบาล จรรยาบรรณของคณะกรรมการสหกรณ์ และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมส่งเสริมสหกรณ์ กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ สหกรณ์ทุกประเภท เป็นต้น ได้นำเอาธรรมาภิบาล จรรยาบรรณไปกำหนดให้กับคณะกรรมการสหกรณ์เพื่อให้สหกรณ์เป็นองค์กรที่เข้มแข็ง โปร่งใส ตรวจสอบได้ และเป็นสหกรณ์ที่แท้จริง
6. แนวทางดำเนินงาน/กิจกรรม และกลุ่มเป้าหมาย
ระบุ กิจกรรม ระยะเวลาดำเนินงาน กลุ่มเป้าหมายที่ได้รับประโยชน์จากโครงการ ที่จะทำให้บรรลุวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้ (ใช้กระดาษเพิ่มเติมได้)
ขั้นตอน-กิจกรรม
ระยะเวลา
ที่ดำเนินการ
กลุ่มเป้าหมาย/จำนวน ตอบสนองต่อ
วัตถุประสงค์ข้อ ...
(ได้มากกว่า 1 ข้อในแต่ละกิจกรรม)
ตัวชี้วัดความสำเร็จ
ที่เป็นรูปธรรม
1.นำเสนอโครงการการเข้ามาเป็นคณะกรรมการดำเนินการสหกรณ์ 1 เดือน คณะกรรมการ/,ฝ่ายจัดการ/เจ้าหน้าที่ กสส./ผู้ตรวจสอบกิจการ/ที่ปรึกษาสหกรณ์/จำนวน 30 คน ข้อ 1 มีความเข้าในโครงการฯ 100 % และให้การสนับสนุนโครงการฯอย่างเต็มใจ
2.แต่งตั้งคณะทำงานในการดำเนินงานให้เป็นไปตามกำหนดการและแผนงานของโครงการฯ 1 เดือน คณะกรรมการ /ที่ปรึกษา/ เจ้าหน้าที่ส่งเสริมสหกรณ์9 คน ข้อ 1 ออกคำสั่งแต่งตั้งคณะทำงาน
3.ประชุมชี้แจงรายละเอียดของโครงการ วัตถุประสงค์ จัดตังกลุ่มสมาชิก ให้เป็นไปตามข้อบังคับของสหกรณ์
3 เดือน สมาชิกเป็นไปตามที่ สหกรณ์กำหนดตามจำนวนของสมาชิก(ไม่น้อยกว่า 100 กลุ่ม) ข้อ 1 ,2,3 ดำเนินการจัดตั้งกลุ่มสมาชิกประกอบด้วยคณะกรรมการกลุ่มสมาชิก
4. แต่งตั้งคณะกรรมการตำบล ๆ 3คน
3 เดือน ประธานกลุ่มสมาชิก/จำนวนกลุ่มสมาชิก
(ไม่น้อยกว่า 100 กลุ่ม) ข้อ 1 ,2,3 มีคณะกรรมการตำบล ๆ 3 คน(ไม่น้อยกว่า 100 กลุ่ม)
5. แต่งตั้งคณะกรรมการอำเภอ ๆ 3 คน 3 เดือน ประธานคณะกรรมการตำบล ข้อ 1 ,2,3 มีคณะกรรมการอำเภอ ๆ 3 คน(ไม่น้อยกว่า 100 กลุ่ม)
6. เลือกตั้งประธานคณะกรรมการดำเนินการสหกรณ์ 1 คน และคณะกรรมการดำเนินการอีก 14 คน / ปฏิญาณตนต่อหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ 1 เดือน ประธานคณะกรรมการอำเภอ/จำนวน 15 คน ข้อ 1 ,2,3 มีคณะกรรมการดำเนินการ 15 คน
7. แผนปฏิบัติการ
โปรดระบุ กิจกรรมและช่วงเวลาที่จัดกิจกรรม
กิจกรรม ช่วงเวลาที่จัดกิจกรรม
เดือน.... (วันที่) เดือน.... (วันที่) เดือน.... (วันที่) ผู้รับผิดชอบ
กิจกรรมที่ 1 นำเสนอโครงการการเข้ามาเป็นคณะกรรมการดำเนินการสหกรณ์ เมษายน
(1 เมษายน – 30 เมษายน) ผู้บริหารโครงการ
กิจกรรมที่ 2 แต่งตั้งคณะทำงานในการดำเนินงานให้เป็นไปตามกำหนดการและแผนงานของโครงการฯ พฤษภาคม (1 พฤษภาคม 2553 – 31 พฤษภาคม) ผู้บริหารโครงการ/คณะทำงาน
กิจกรรมที่ 3 ประชุมชี้แจงรายละเอียดของโครงการ วัตถุประสงค์ จัดตังกลุ่มสมาชิก ให้เป็นไปตามข้อบังคับของสหกรณ์ มิถุนายน – สิงหาคม ผู้บริหารโครงการ/คณะทำงาน
กิจกรรมที่ 4 แต่งตั้งคณะกรรมการตำบล ๆ 3คน กันยายน – พฤศจิกายน ผู้บริหารโครงการ/คณะทำงาน
กิจกรรมที่ 5 แต่งตั้งคณะกรรมการอำเภอ ๆ 3 คน ธันวาคม – กุมภาพันธ์ ผู้บริหารโครงการ/คณะทำงาน
กิจกรรมที่ 6 เลือกตั้งประธานคณะกรรมการดำเนินการสหกรณ์ 1 คน และคณะกรรมการดำเนินการอีก 14 คน / ปฏิญาณตนต่อหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ มีนาคม ผู้บริหารโครงการ/คณะทำงาน
***หมายเหตุ...กรุณาระบุวันที่ (หากสามารถระบุได้)
8. งบประมาณ
ควรแสดงรายละเอียดงบประมาณที่สมเหตุสมผล โดยประหยัดและคุ้มค่า และสอดคล้องกับกิจกรรม
งบประมาณโครงการที่เสนอในครั้งนี้ งบประมาณรวม 657,000 บาท(หกแสนห้าหมื่นเจ็ดพันบาทถ้วน)
รายการงบประมาณแยกตามกิจกรรม จำนวนเงิน (บาท) ผู้รับผิดชอบ
กิจกรรมที่ 1 นำเสนอโครงการการเข้ามาเป็นคณะกรรมการดำเนินการสหกรณ์ 67,000 ผู้บริหารโครงการ
กิจกรรมที่ 2 แต่งตั้งคณะทำงานในการดำเนินงานให้เป็นไปตามกำหนดการและแผนงานของโครงการฯ -
กิจกรรมที่ 3 ประชุมชี้แจงรายละเอียดของโครงการ วัตถุประสงค์ จัดตังกลุ่มสมาชิก ให้เป็นไปตามข้อบังคับของสหกรณ์ 500,000 ผู้บริหารโครงการ/คณะทำงาน
กิจกรรมที่ 4 แต่งตั้งคณะกรรมการตำบล ๆ 3คน 50,000 ผู้บริหารโครงการ/คณะทำงาน
กิจกรรมที่ 5 แต่งตั้งคณะกรรมการอำเภอ ๆ 3 คน 25,000 ผู้บริหารโครงการ/คณะทำงาน
กิจกรรมที่ 6 เลือกตั้งประธานคณะกรรมการดำเนินการสหกรณ์ 1 คน และคณะกรรมการดำเนินการอีก 14 คน / ปฏิญาณตนต่อหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ 15,000 ผู้บริหารโครงการ/คณะทำงาน
รวมงบประมาณทั้งสิ้น 657,000 -
9. องค์กร หรือหน่วยงาน หรือบุคคล ที่เป็นเจ้าภาพร่วม(ถ้ามี)
ระบุองค์กรเจ้าภาพร่วมดำเนินการ ที่มีบทบาทสำคัญร่วมดำเนินการ หรือสนับสนุนการดำเนินการ
กรมส่งเสริมสหกรณ์ มีบทบาทหน้าที่ในการส่งเสริมความรู้ อุดมการณ์ หลักการ วิธีการสหกรณ์ และจัดอบรมพัฒนาศักยภาพคณะกรรมการดำเนินการสหกรณ์ และสนับสนุนงบประมาณให้กับสหกรณ์
สันนิบาตสหกรณ์ มีบาบาทหน้าที่ในการส่งเสริม สนับสนุน โครงการดังกล่าวในด้านสถานที่การอบรมและบริการห้องพักให้กับคณะกรรมการดำเนินการสหกรณ์ และคณะทำงานโครงการฯ
มหาวิทยาลัยแม่โจ้ มีบทบาทหน้าที่ในการให้ความรู้ ทางวิชาการ วิจัย พัฒนา องค์ความรู้ การบริหารงานสหกรณ์และการพัฒนาสหกรณ์แบบยั่งยืน
สมาคมเศรษฐศาสตร์สหกรณ์แห่งประเทศไทย มีบทบาทหน้าที่ในการให้ความรู้ ด้าน กฎหมายสหกรณ์ ข้อบังคับ ระเบียบสหกรณ์ การดำเนินธุรกิจ และการควบคุมภายในสหกรณ์
10. การติดตามประเมินผล
ให้ข้อมูลแนวทางในการติดตามประเมินผล
10.1 ประเมินผล ก่อน – หลัง การฝึกอบรม
10.2 สมาชิกมีความเข้าใจและศรัทธาต่อสหกรณ์
10.3 สมาชิกได้รับข้อมูลข่าวสารจากสหกรณ์อย่างต่อเนื่อง
10.4 สหกรณ์มีระบบโครงสร้างกรรมการบริหารที่เข้มแข็งและบริหารงานที่โปร่งใส ตรวจสอบได้
........................................
การพัฒนาประเทศของจีน
1. การพัฒนาทางการเมือง
จีนปกครองด้วยระบอบสังคมนิยมที่มีลักษณะเฉพาะตัว (Socialism with Chinese Characteristics) โดยมีพรรคคอมมิวนิสต์จีนเป็นแกนหลักในการบริหารประเทศ มีประธานาธิบดีเป็นประมุขของประเทศ มีนายกรัฐมนตรีเป็นหัวหน้ารัฐบาล และมีคณะกรรมการถาวรกรมการเมืองพรรคคอมมิวนิสต์ (Politburo) จำนวน 9 คนเป็นผู้บริหารระดับสูงสุดที่มีอำนาจกำหนดนโยบายในด้านต่างๆ
สถานการณ์การเมืองภายใน
การเมืองภายในของจีนยังคงมีเสถียรภาพและความมั่นคงสูง โดยพรรคฯ ยังคงอำนาจเบ็ดเสร็จและมุ่งมั่นสร้างชาติให้ทันสมัย เน้นการกวาดล้างการฉ้อราษฏร์บังหลวงในระดับต่าง ๆ และการสร้างผู้นำและผู้บริหารรุ่นใหม่เพื่อรองรับการแข่งขันในโลกยุคโลกาภิวัตน์
เมื่อวันที่ 5-14 มีนาคม 2553 จีนได้จัดการประชุมสภาประชาชนแห่งชาติ (ชุดที่ 11) สมัยประชุมประจำปีที่ 3 ซึ่งมีผู้นำของจีนที่สำคัญเข้าร่วมประชุม ดังนี้
รายนามผู้นำจีน
1. นายหู จิ่นเทา (Hu Jintao) ประธานาธิบดีและประธานคณะกรรมการทหารกลางแห่งชาติ
2. นายอู๋ ปางกว๋อ (Wu Bangguo) ประธานสภาประชาชนแห่งชาติ
3. นายเวิน เจียเป่า (Wen Jiabao) นายกรัฐมนตรี
4. นายเจี่ย ชิ่งหลิน (Jia Qinglin) ประธานสภาที่ปรึกษาการเมืองแห่งชาติ
5. นายสี จิ้นผิง (Xi Jinping) รองประธานาธิบดี
6. นายหวัง เซิ่งจุ้น (Wang Shengjun) ประธานศาลฎีกา
7. นายเฉา เจี้ยนหมิง (Chao Jianming) ประธานศาลอัยการสูงสุดแห่งชาติ
8. นายหลี่ เค่อเฉียง (Li Keqiang) รองนายกรัฐมนตรี
9. นายหุย เหลียงยู่ (Hui Liangyu) รองนายกรัฐมนตรี
10. นายจาง เต๋อเจียง (Zhang Dejiang) รองนายกรัฐมนตรี
11. นายหวัง ฉีซาน (Wang Qishan) รองนายกรัฐมนตรี
12. นางหลิว เหยียนตง (Liu Yandong) มนตรีแห่งรัฐ
13. พลเอกเหลียง กวงเลี่ย (Liang Guanglie) มนตรีแห่งรัฐ
14. นายหมา ข่าย (Ma Kai) มนตรีแห่งรัฐ
15. นายเมิ่ง เจี้ยนจู้ (Meng Jianzhu) มนตรีแห่งรัฐ
16. นายไต้ ปิ่งกว๋อ (Dai Bingguo)
ในโอกาสเดียวกันนั้น นายกรัฐมนตรีของจีนได้สรุปรายงานผลการดำเนินงานประจำปีและแถลงเป้าหมายของการดำเนินงานในปีต่อไป
การดำเนินงานของรัฐบาลจีนในช่วงปี 2547-2552
(1) รัฐบาลจีนได้ดำเนินการอย่างแข็งขัน เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม เพื่อมุ่งสู่การปฏิรูปและเปิดประเทศ ภายใต้ทฤษฎีเติ้ง เสี่ยวผิง หลักการ “สามตัวแทน” และแนวคิดการพัฒนาเชิงวิทยาศาสตร์
(2) เศรษฐกิจจีนในรอบปี 2552 พัฒนาไปได้อย่างดี โดย GDP มีมูลค่า 33.54 ล้านล้านหยวน เพิ่มขึ้นร้อยละ 8.7 จากปีก่อนหน้า ปัจจุบันมีขนาด GDP อยู่ในอันดับ 2 ของโลก ปริมาณธัญพืชบรรลุยอด 531 ล้านตัน โดยนับเป็นปีที่ 6 ที่มีอัตราเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง มีรายได้การคลังสูงถึง 6.85 ล้านล้านหยวน เพิ่มขึ้นร้อยละ 11.7 มีเงินสำรองระหว่างประเทศมากกว่า 2.47 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ และมีมูลค่าการค้าต่างประเทศ สูงถึง 2.17 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ
(3) นโยบายที่สำคัญในรอบ 5 ปี ได้แก่
ด้านการเมือง การส่งเสริมระบอบประชาธิปไตยแบบสังคมนิยม การส่งเสริมระบบการปกครองท้องถิ่นให้มีอิสระมากขึ้น การปฏิรูปการออกและบังคับใช้กฎหมาย การปราบปรามคอร์รัปชัน การยกระดับคุณภาพข้าราชการ การส่งเสริมการพัฒนาของชนกลุ่มน้อย การส่งเสริมระบอบ “1 ประเทศ 2 ระบบ” และการยึดมั่นในแนวทางการรวมประเทศอย่างสันติ
ด้านเศรษฐกิจ การปรับปรุงและควบคุมเศรษฐกิจมหภาค เพื่อการพัฒนาทางเศรษฐกิจที่รวดเร็วและมั่นคง การปฏิรูปทางเศรษฐกิจและเปิดประเทศ การพัฒนารัฐวิสาหกิจให้มีประสิทธิภาพ การรักษาเสถียรภาพของอัตราการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ การสร้างระบบตลาดให้เข้มแข็งมากขึ้น การพัฒนาภาคเกษตรกรรมและอุตสาหกรรม และการพัฒนาวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรมใหม่ๆ
ด้านสังคม การยกระดับความเป็นอยู่ของประชาชน การเพิ่มความเข้มแข็งของระบบสวัสดิการ การศึกษา สาธารณสุข การส่งเสริมความก้าวหน้าทางวัฒนธรรมและการกีฬา และการแก้ปัญหาภัยธรรมชาติอย่างทันท่วงที
ด้านการต่างประเทศ การใช้นโยบายเปิดกว้างและปฏิสัมพันธ์ในเชิงรุก การส่งเสริมการแลกเปลี่ยนและความร่วมมือกับนานาประเทศ การรักษาและกระชับความสัมพันธ์กับประเทศต่างๆ เช่น สหรัฐฯ รัสเซีย ยุโรป ญี่ปุ่น และประเทศเพื่อนบ้าน การเข้าร่วมในกรอบความร่วมมือระดับภูมิภาคอย่างแข็งขัน รวมถึงมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาระดับโลกและปัญหาในภูมิภาคอย่างสร้างสรรค์
ผลงานที่โดดเด่นในปี 2552
- ปี 2552 เป็นปีที่จีนเผชิญความยากลำบากที่สุดในการพัฒนาเศรษฐกิจเนื่องจากผลกระทบจากวิกฤตการณ์การเงินโลก แต่จีนก็สามารถใช้นโยบายการเงินและการคลังเอาชนะอุปสรรคต่างๆ จนกลายเป็นประเทศแรกๆ ที่ เศรษฐกิจพลิกฟื้นจากภาวะชะงักงันเป็นการเติบโตเพิ่มขึ้น
- รัฐบาลได้ผลักดันเศรษฐกิจให้ก้าวพ้นจากภาวะวิกฤตโดยการดำเนินนโยบายการคลังเชิงรุก และมาตรการการเงินที่มีความผ่อนคลายอย่างเหมาะสม พร้อมทั้งปรับปรุงแผนการต่างๆ ในการรับมือกับวิกฤตการณ์การเงินโลก เพิ่มงบประมาณรายจ่ายและปรับลดภาษีเชิงโครงสร้าง รวมทั้งการเพิ่มวงเงินกู้อย่างต่อเนื่อง เพื่อสนองต่อความต้องการด้านเงินทุนในการพัฒนาเศรษฐกิจของทุกภาคสังคม ซึ่งส่งผลต่อการขยายอุปสงค์ภายในประเทศ และฉุดรั้งภาวะเศรษฐกิจถดถอยอย่างได้ผล
- รัฐบาลได้ปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจเพื่อวางพื้นฐานของการพัฒนาในระยะยาว โดยเฉพาะการให้ความสำคัญกับการพัฒนาชนบทโดยได้ทุ่มงบประมาณเพื่อการนี้ถึง 725,300 ล้านหยวน เพิ่มขึ้น 21.8% จากปีก่อนหน้า
- รัฐบาลยังเดินหน้าต่อไปกับการปฏิรูปกลไกและระบบต่างๆ ให้พัฒนาอย่างเป็นวิทยาศาสตร์และสมบูรณ์มากขึ้น การปฏิรูปกลไกที่สำคัญ เช่น การปรับบทบาทเชิงพาณิชย์ของธนาคาร การแปรรูปธนาคารเพื่อการเกษตรเป็นระบบหุ้นส่วน การเริ่มทดลองใช้เงินสกุลหยวนในการซื้อขายแลกเปลี่ยนระหว่างประเทศ และการรักษาอุปสงค์จากตลาดภายนอกโดยการสนับสนุนและกระตุ้นการส่งออก เป็นต้น ทำให้ช่วงครึ่งปีหลังของปี 2552 สภาวะการถดถอยของการส่งออกเริ่มกระเตื้องดีขึ้น
- ในขณะเดียวกัน รัฐบาลก็ไม่ละเลยการปรับปรุงชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน และเร่งพัฒนากิจการด้านสังคม โดยแบ่งการดำเนินงานออกเป็น 4 ส่วน ได้แก่ (1) การสร้างงานเชิงรุก โดยมีงบประมาณเฉพาะส่วนนี้ถึง 42,600 ล้านหยวน เพิ่มขึ้นถึง 59% (2) การเร่งสร้างระบบประกันสังคมให้มีความสมบูรณ์ โดยเฉพาะการวางระบบหลักประกันการยังชีพวัยชราในระดับมณฑลทั่วประเทศ ซึ่งครอบคลุมไปถึงแรงงานชนบท (3) การส่งเสริมความเท่าเทียมทางการศึกษา และ (4) การพัฒนาและปฏิรูปด้านการแพทย์และสาธารณสุข
เป้าหมายการทำงานของรัฐบาลจีนในปี 2553
ในการแถลงนโยบายของรัฐบาลสำหรับปี 2553 นายกรัฐมนตรีเวิน เจียเป่าได้เน้นให้ความสำคัญเป็นพิเศษต่อนโยบาย 2 ประการ คือ
1. การให้ความสำคัญเป็นอันดับแรกต่อการพัฒนาและยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ของเกษตรกรในชนบทกว่า 800 ล้านคน ทั้งนี้ เป็นเพราะรัฐบาลจีนกำลังตระหนักถึงปัญหาช่องว่างที่นับวันยิ่งห่างมากขึ้นในระดับการพัฒนาระหว่างเมืองกับชนบท โดยเฉพาะระหว่างมณฑลชายฝั่งทางภาคตะวันออกที่เจริญแล้วกับมณฑลทางภาคตะวันตกที่ส่วนใหญ่ยังคงยากจนล้าหลัง
2. นับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของสาธารณรัฐประชาชนจีนก็ว่าได้ ที่รายงานการทำงานของรัฐบาลได้มีการกล่าวถึงการปฏิรูปทางการเมือง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินของเจ้าหน้าที่รัฐ และการบริหารงานที่โปร่งใสของรัฐบาลเพื่อให้ประชาชนและสื่อมวลชนสามารถตรวจสอบได้ ซึ่งน่าจะเป็นแสดงถึงความเชื่อมั่นในระดับที่ค่อนข้างสูงของผู้นำทั้งในพรรคคอมมิวนิสต์จีนและรัฐบาลต่อสถานะและพัฒนาการทางการเมืองที่มีเสถียรภาพของตนเอง
ทั้งนี้ การที่จีนได้พัฒนาด้านอินเตอร์เนตอย่างรวดเร็ว จนมีประชากรอินเตอร์เนต (netizens) มากที่สุดในโลก คือ มากกว่า 400 ล้านคน ซึ่งประชากรเหล่านี้มีการแสดงความคิดเห็นในเรื่องราวต่างๆ อย่างกว้างขวาง จึงน่าจะเป็นกระจกเงาที่สะท้อนให้รัฐบาลจีนได้รับรู้สถานะและภาพลักษณ์ของตนเองได้ด้วยในระดับหนึ่ง
2. การพัฒนาทางเศรษฐกิจ
นับแต่เปิดประเทศในปี 2521 เศรษฐกิจจีนพัฒนารวดเร็วและประสบความสำเร็จมาโดยตลอด ในช่วง 25 ปีที่ผ่านมา GDP ของจีนเติบโตโดยเฉลี่ยร้อยละ 9.4 ส่งผลให้จีนมีบทบาทมากขึ้นต่อเศรษฐกิจภายในภูมิภาคและโลก กลายเป็นแรงขับเคลื่อนที่มีส่วนสำคัญในการฉุดดึงให้เศรษฐกิจโลกโดยรวมมีอัตราการเจริญเติบโตที่สูงขึ้น จนในปัจจุบัน จีนมีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลกแซงหน้าญี่ปุ่นแล้ว
ในปี 2552 สถิติทางเศรษฐกิจที่สำคัญของจีน ได้แก่
• GDP 4.90 ล้านล้าน USD (+8.7%)
• การค้ากับต่างประเทศ 2.21 ล้านล้าน USD (-13.9%)
• การส่งออก 1.20 ล้านล้าน USD (-16.0%)
• การนำเข้า 1.01 ล้านล้าน USD (-11.2%)
• ดุลการค้า 0.19 พันล้าน USD
• เงินทุนสำรองระหว่างประเทศ 2.39 ล้านล้าน USD (ธ.ค. 52)
• การลงทุนโดยตรงจากต่างชาติ 9.00 หมื่นล้าน USD (-2.0%)
• การลงทุนของจีนในต่างประเทศ 4.33 หมื่นล้าน USD
• อัตราเงินเฟ้อ -0.7%
เป้าหมายทางเศรษฐกิจของจีนในปี 2553
- ดำเนินนโยบายในทุกด้านเพื่อสร้างพื้นฐานที่มั่นคงไปสู่การดำเนินตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 (2554-2558)
- รักษาการเติบโตทางเศรษฐกิจที่มั่นคงและค่อนข้างรวดเร็ว โดยรักษาอัตราการเติบโตของ GDP ไว้ที่ร้อยละ 8 เพิ่มการจ้างงาน 9 ล้านตำแหน่ง ควบคุมอัตราการว่างงานให้น้อยกว่าร้อยละ 4.6 อัตราเงินเฟ้อไม่ให้เพิ่มเกิน
ร้อยละ 3 และให้สภาวะรายรับรายจ่ายของประเทศมีความสมดุล
- ส่งเสริมให้ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องพัฒนาโครงสร้างทางเศรษฐกิจที่เน้นเชิงคุณภาพมากกว่าเชิงปริมาณ พัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ ที่ประหยัดทั้งพลังงานและทรัพยากร ส่งเสริมภาคการผลิตแนวใหม่ที่มีความสำคัญเชิงยุทธศาสตร์ โดยเฉพาะในด้านการพัฒนาพลังงานรูปแบบใหม่ นวัตกรรม การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ยาชีวภาพ ระบบเครือข่ายสารสนเทศและผลิตภัณฑ์ประเภท high-end
- ดำเนินนโยบายการคลังเชิงรุกและนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายอย่างต่อเนื่อง โดยการคงตัวเลขติดลบทางคลังและขนาดพันธบัตรกู้รัฐบาลในวงเงินที่เหมาะสม โดยในปี 2553 จะดำเนินงบประมาณติดลบ 1,050,000 ล้านหยวน กำหนดเป้าหมายให้ broad money (M2) เพิ่มขึ้น 17% และวงเงินหยวนที่เป็นสินเชื่อมีขนาด 7.5 ล้านล้านหยวน (ลดลงจากวงเงิน 9.5 ล้านล้านหยวนที่มากเป็นประวัติการณ์ในปี 2552) เพื่อกระตุ้นการอุปโภคบริโภคของพลเมือง รวมทั้งเพื่อการกระตุ้นการลงทุนภายในประเทศ
- วางแผนพัฒนาเมืองและชนบทอย่างบูรณาการ ส่งเสริมการพัฒนาเกษตรกรรมและยกระดับรายได้ของเกษตรกรอย่างต่อเนื่อง เพิ่มพูนการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานทางด้านเกษตร รวมทั้งปฏิรูประบบทะเบียนราษฎร์เพื่อแก้ไขปัญหาแรงงานชนบทที่ไปทำงานและดำรงชีพในตัวเมือง
- ปฏิรูปการศึกษา ส่งเสริมการศึกษาภาคบังคับให้กระจายทั่วถึง ส่งเสริมการศึกษาสายอาชีวะ ปฏิรูประบบบริหารรวมทั้งระบบการรับนักศึกษาของสถาบันอุดมศึกษา และการพัฒนาวิทยาศาสตร์แขนงต่างๆ
- สร้างหลักประกันสังคมและปรับปรุงชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน ซึ่งรวมถึงการเพิ่มอัตราการจ้างงาน การสร้างระบบประกันสังคมที่ครอบคลุมประชาชนทั้งในเมืองและชนบท การปฏิรูประบบการกระจายรายได้ให้เกิดความเป็นธรรม การควบคุมความเป็นระเบียบเรียบร้อยของตลาดอสังหาริมทรัพย์ และการพัฒนาและการปฏิรูปด้านการแพทย์และสาธารณสุข โดยเฉพาะการควบคุมโรคระบาดร้ายแรงโดยเฉพาะเชื้อไวรัส H1N1 รวมทั้งการวางแผนครอบครัวอย่างต่อเนื่อง
- พัฒนาและปฏิรูประบบการเงินของจีนให้มีความสมบูรณ์เพื่อรองรับผลกระทบจากปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจ พัฒนาตลาดการเงิน ผลักดันโครงการทดลองการใช้เงินหยวนแลกเปลี่ยนในการค้าข้ามพรมแดน และพัฒนาธุรกรรมเงินหยวนในต่างประเทศอย่างค่อยเป็นค่อยไป
ทั้งนี้ ผลพวงจากการปฏิรูปได้เป็นไปอย่างรอบด้านไม่เพียงโครงสร้างทางเศรษฐกิจของจีนเท่านั้น หากแต่ต้องปฏิรูปโครงสร้างทางการเมืองและด้านอื่นๆ พร้อมกันไปด้วย โดยเฉพาะสิทธิพลเมืองในด้านต่างๆ อาทิ การเลือกตั้ง (ปัจจุบันมีการเลือกตั้งสมาชิกสภาประชาชนท้องถิ่นโดยตรงในระดับตำบลลงมา) การรับรู้ข่าวสาร การเข้าร่วมกิจกรรมการเมือง การแสดงออกและการตรวจสอบ ซึ่งรวมทั้งการขยายประชาธิปไตยและองค์กรจัดตั้งในระดับรากแก้ว ตลอดจนการยึดตัวบทกฎหมายในการปกครองและบริหารประเทศ
ค่าเงินหยวน
นับตั้งแต่วันที่ 21 กรกฎาคม 2548 ธนาคารกลางจีนได้เริ่มลอยตัวค่าเงินหยวนแบบมีการบริหารจัดการ (managed float) โดยอิงกับตะกร้าเงินต่างชาติ (currency basket) (มีเงินดอลลาร์สหรัฐเป็นสกุลหลักประมาณร้อยละ 60 นอกจากนั้นมีเงินเยนและเงินวอน) และปรับให้เงินหยวนแข็งค่าขึ้น ร้อยละ 2.1 เท่ากับ 8.11 หยวนต่อ 1 ดอลลาร์สหรัฐ นับเป็นการตัดสินใจเพื่อปรับปรุงโครงสร้างทางการเงินของจีนที่สำคัญ หลังจากนั้น จีนค่อยๆ ปรับค่าเงินให้เพิ่มขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป โดยเมื่อถึงเดือนสิงหาคม 2552 จีนได้ปรับค่าเงินหยวนขึ้นเท่ากับ 6.83 หยวนต่อ 1 ดอลลาร์สหรัฐ และหลังจากนั้นได้รักษาระดับอัตราแลกเปลี่ยนให้คงที่มาโดยตลอดท่านกลางเสียงเรียกร้องของประเทศคู่ค้า เช่น สหรัฐฯ และสหภาพยุโรปให้ปรับค่าเงินหยวนขึ้นไปอีก
ล่าสุด เมื่อวันที่ 19 มิถุนายน 2553 ภายหลังได้รับแรงกดดันและการร้องขอจากประเทศคู่ค้าสำคัญของจีน โดยเฉพาะสหรัฐอเมริกา ธนาคารกลางของจีนได้ประกาศปรับนโยบายอัตราแลกเปลี่ยนให้มีความยืดหยุ่นขึ้น โดยปล่อยให้ค่าเงินหยวนสามารถปรับตัวขึ้น-ลงตามความต้องการในตลาดได้ในช่วงราคาแคบๆ ที่อ้างอิงกับกลุ่มเงินตราต่างประเทศหลายๆ สกุล (basket of currencies) โดยย้ำว่า จะยังคงกรอบการแกว่งตัวของอัตราแลกเปลี่ยน (floating band) ไว้เท่าเดิมตามที่ได้เคยประกาศไว้ (ช่วงก่อนเกิดวิกฤตการณ์การเงินโลก)
เขตเศรษฐกิจพิเศษ
จีนมีเขตเศรษฐกิจพิเศษที่สำคัญ 5 เขต ได้แก่
(1) เขตลุ่มแม่น้ำเพิร์ล (Pearl River Delta) ประกอบด้วย 9 เมือง ได้แก่ นครกวางโจว เสิ่นเจิ้น จูไห่ ตงก่วน ฝอซาน (รวมหนานไห่และซุนเต๋อ) จงซาน เจียงเหมิน หุ้ยโจว (ยกเว้น Longmen County) และ จ้าวชิ่ง (เขตเมืองจ้าวชิ่ง Gaoyao และ Sihui)
(2) เขตปากแม่น้ำแยงซี (Yangtze River Delta) รวม 16 เมือง ได้แก่ นครเซี่ยงไฮ้ 8 เมือง ในมณฑลเจียงซู และ 7 เมืองในมณฑลเจ้อเจียง
(3) เขตเศรษฐกิจโปไห่ (Bohai Economic Zone) ประกอบด้วยกรุงปักกิ่ง มหานครเทียนจิน และเมืองในมณฑลเหอเป่ยและซานตง
(4) เขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือ คลอบคลุมมณฑลเหลียวหนิง จี๋หลิน และเฮยหลงเจียง
(5) เขตเศรษฐกิจอ่าวเป่ยปู้กว่างซี (Beibu Gulf Region) เป็นความร่วมมือระหว่างมณฑลกวางตุ้ง ไห่หนาน และกวางสี กับประเทศอาเซียน
การค้าและการลงทุนระหว่างประเทศ
สำหรับการค้าระหว่างจีนและอาเซียน ประเทศต่างๆ ในอาเซียนพยายามเข้าไปแสวงหาโอกาสทางเศรษฐกิจในจีน แต่ยังเป็นแบบแยกกันดำเนินการ ไม่มีการรวมตัว/เกาะกลุ่มที่ชัดเจน และในบางครั้ง ก็แข่งขันกันเองด้วย ในขณะที่จีนรุกตลาดอาเซียนทั้งแบบแยกรายประเทศและแบบรวมกลุ่ม ดังจะเห็นได้จากการริเริ่มเสนอให้จัดตั้งเขตการค้าเสรีจีน-อาเซียน อาเซียนจึงควรโยงความสำคัญและบทบาทของจีนที่มีต่อภูมิภาคและโลกในลักษณะที่เชื่อมโยงกัน และกำหนดนโยบายที่ชัดเจน รวมถึงส่งเสริมให้จีนมาลงทุนในภูมิภาคมากขึ้น ซึ่งจีนมองว่าอาเซียนเป็นแหล่งลงทุนที่หลากหลายมากเกินไป จึงอาจพิจารณาสร้างความชัดเจน โดยการแบ่งโซนการลงทุนตามความชำนาญและความเหมาะสมของแต่ละประเทศ
จีนไม่เพียงแต่เป็นประเทศที่รองรับเงินลงทุนต่างประเทศจำนวนมหาศาล ในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา จีนยังได้สนับสนุนให้วิสาหกิจของจีนที่มีกำลังและศักยภาพเพียงพอออกไปลงทุนในต่างประเทศด้วยเช่นกัน เช่น การ
ไปลงทุนในปากีสถาน พม่า เวียดนาม และไทย เป็นต้น นอกจากนี้ วิสาหกิจขนาดใหญ่ของจีนยังได้เข้าไปซื้อกิจการของวิสาหกิจต่างชาติในหลายๆ ประเทศ เช่น บริษัท Lenovo ของจีนได้ซื้อกิจการของ IBM รวมถึงตั้งฐานการผลิต/สำนักงานในต่างประเทศ เช่น บริษัท Haier ในสหรัฐฯ นอกจากนี้ จีนยังได้วางแผนที่จะสร้างเขตความร่วมมือเศรษฐกิจการค้านอกประเทศให้ได้ 50 แห่งภายใน 10 ปีข้างหน้า
3. การพัฒนาทางสังคม
การเปิดประเทศและการปฏิรูปเศรษฐกิจส่งผลให้ประชาชนจีนมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น โดยมีรายได้ สูงขึ้นเป็นลำดับ แต่ในขณะเดียวกันก็เป็นสาเหตุที่ก่อให้เกิดปัญหาสังคมอย่างกว้างขวาง อาทิ ปัญหาการแพร่ขยายอิทธิพลทางวัฒนธรรมและความคิดของโลกตะวันตก ยาเสพติด คอร์รัปชั่น และความเหลื่อมล้ำทางสังคม อย่างไรก็ดี ตามสถิติแล้ว รัฐบาลจีนสามารถแก้ไขปัญหาความยากจนได้ค่อนข้างดี โดยประชากรมีอัตรารายได้เพิ่มขึ้น 1 เท่าทุก 8 ปี
สำหรับปัญหาสังคมที่เกิดขึ้น รัฐบาลจีนได้พยายามแก้ปัญหาโดยใช้มาตรการควบคุมและรณรงค์ให้ประชาชนยึดมั่นในอุดมการณ์สังคมนิยมและชาตินิยม ควบคุมสื่อมวลชนและอินเตอร์เน็ต เพื่อควบคุมการเผยแพร่ข้อมูลที่อาจเป็นภัยคุกคามต่อประเทศ ขณะเดียวกัน ก็พยายามลดช่องว่างระหว่างเมืองกับชนบท ตลอดจนให้สิทธิเสรีภาพแก่ประชาชนในการประกอบธุรกิจและการดำเนินชีวิตประจำวันมากขึ้น นับตั้งแต่ปี 2542 จีนได้ทุ่มงบประมาณจำนวนมากในการสร้างสาธารณูปโภคพื้นฐานและเสริมสร้างระบบการศึกษาในพื้นที่ที่ห่างไกลความเจริญ นอกจากนี้ ยังมีการออกกฎหมายต่างๆ เพื่อเสริมสร้างคุณภาพชีวิตให้แก่ประชาชน อาทิ กฎหมายคุ้มครองคนพิการ กฎหมายคุ้มครองผู้ที่ถูกปลดออกจากงาน อันเนื่องมาจากการปฏิรูปโครงสร้างรัฐวิสาหกิจ เป็นต้น
ขณะเดียวกัน จีนก็ให้ความสำคัญมากกับการศึกษา การพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดยพยายามให้ชาวจีนได้รับการศึกษาภาคบังคับ 9 ปีอย่างทั่วถึง และประกาศว่าภายในปี 2549 เด็กชาวจีนในชนบทจะสามารถเข้าถึงระบบการศึกษาภาคบังคับได้ทั้งหมด ซึ่งการเน้นด้านการศึกษาดังกล่าว จะทำให้แรงงานจีนมีและทักษะที่สูงขึ้นเป็นลำดับ
ปัจจุบัน จีนกำลังประสบกับปัญหาช่องว่างของรายได้ที่ขยายตัวมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะระหว่างประชาชนในภาคตะวันออกและภาคตะวันตก ปัญหาระบบประกันสังคมและสวัสดิการ ประชาชนต้องใช้ค่าใช้จ่ายที่สูงเกินไปในการเข้ารับการศึกษา การแสวงหาที่อยู่อาศัย และการเข้าถึงระบบสาธารณสุข ซึ่งรัฐบาลจีนได้ตระหนักถึงปัญหาเหล่านี้อย่างดี และกำลังเร่งหาทางแก้ไข โดยได้ระบุเอาไว้ในเป้าหมายการดำเนินงานของทั้งรัฐบาลและของพรรคคอมมิวนิสต์
อย่างไรก็ดี ปัญหาหนึ่งที่สังคมจีนกำลังเผชิญอย่างหนัก คือ การย้ายถิ่นฐานจากชนบทเข้ามาทำงานในเมือง เนื่องมาจากรายได้ที่สูงกว่า โดยเฉพาะการย้ายเข้าไปทำงานในเมืองตามชายฝั่งทะเลตะวันออก ทำให้รัฐบาลจีนเร่งพัฒนาแผ่นดินตอนใน/จีนภาคตะวันตกโดยด่วน มีการขยายเมืองและสร้างงานจำนวนมาก เพื่อลดปัญหาดังกล่าว และวางรากฐานที่มั่นคงสำหรับการพัฒนาประเทศโดยรวมด้วย
นอกจากนี้ รัฐบาลจีนยังให้ความสำคัญกับการรักษาสิ่งแวดล้อมมากขึ้น โดยมีนโยบายควบคุมระดับมลพิษในเมืองต่างๆ และมีการปรับปรุงกฎระเบียบอยู่เสมอ แต่ปรากฏว่า 5 ใน 10 เมืองที่มีมลภาวะมากที่สุดในโลกก็อยู่ในจีน ทำให้รัฐบาลจีนเพิ่มระดับความเข้มงวดมากขึ้น รวมถึงโทษปรับสำหรับอุตสาหกรรมที่ก่อมลภาวะทางน้ำและอากาศ
4. พัฒนาการด้านการต่างประเทศ
ความสำเร็จของจีนในการพัฒนาประเทศให้เจริญรุดหน้าในด้านต่างๆ อย่างรวดเร็ว และความสำเร็จในการรับมือกับผลกระทบจากวิกฤตการณ์การเงินโลกจากปี 2552 จนถึงต้นปี 2553 ได้ส่งเสริมให้จีนมีสถานะและบทบาทเพิ่มขึ้นในเวทีโลกทั้งในด้านเศรษฐกิจและด้านการเมือง จีนสามารถดำเนินงานทางการทูตเพื่อตอบสนองผลประโยชน์หลักของจีนในด้านต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี อาทิ ด้านเศรษฐกิจ พลังงาน ความมั่นคงทั้งภายในและภายนอกภูมิภาค โดยเฉพาะความร่วมมือในการช่วยประคับประคองเศรษฐกิจโลกที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาวิกฤต รวมทั้งการที่จีนประสบความสำเร็จในการปฏิสัมพันธ์กับประเทศทั้งมหาอำนาจและกำลังพัฒนารวมถึงภูมิภาคต่าง ๆ อย่างกว้างขวาง อาทิ ความสัมพันธ์กับสหรัฐฯ ดีขึ้นมาหลังจากประธานาธิบดีบารัค โอบามา ก้าวขึ้นรับตำแหน่ง แม้ทั้งสองฝ่ายจะยังคงมีข้อขัดแย้งทางด้านการค้าและปัญหาที่สหรัฐฯ ยังคงค้าอาวุธให้ไต้หวันอยู่ก็ตาม การเยือนจีนของประธานาธิบดีสหรัฐฯ ระหว่างวันที่ 15-18 พฤศจิกายน 2552 ก็เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่ผู้นำสหรัฐฯ เยือนจีนในปีแรกของการขึ้นรับตำแหน่ง
มีความพยายามของฝ่ายสหรัฐฯ ที่จะยกระดับความสัมพันธ์ระหว่างจีน-สหรัฐฯ เป็นรูปแบบ G2 เพื่อร่วมมือกันรับมือกับสิ่งท้าทายต่างๆ ของโลก แต่จีนก็ยังคงสงวนท่าทีโดยมองว่าจีนเองยังคงเป็นประเทศกำลังพัฒนาและยังมีขีดจำกัดในการแสดงบทบาทในระดับโลกดังกล่าว แต่ในขณะเดียวกันจีนก็ดำเนินนโยบายเชิงรุกเพื่อกระชับ ความสัมพันธ์และความร่วมมือกับประเทศในภูมิภาคต่าง ๆ เพื่อแสวงหาผลประโยชน์ อาทิ การพัฒนาความร่วมมือกับประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ซึ่งเป็นทางออกสู่ทะเลของภาคตะวันตกของจีน และความร่วมมือกับประเทศต่างๆ ในแถบเอเชียกลางซึ่งเป็นแหล่งพลังงานแห่งใหม่ของจีน รวมทั้งเพื่อหาทางป้องกันการผูกขาดด้านพลังงานแต่ฝ่ายเดียวของรัสเซียในภูมิภาคดังกล่าว เห็นได้จาก การเยือนสิงคโปร์ มาเลเซีย คาซัคสถานและเติร์กเมนิสถาน ของประธานาธิบดีหู จิ่นเทาในปี 2552 เป็นต้น
ในกรอบภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ซึ่งเป็นเสมือนหลังบ้านของจีน จีนก็ยังคงเพิ่มบทบาทมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง จีนเชื่อว่าหากจีนได้รับความสัมพันธ์และความร่วมมือที่ดีจากกลุ่มประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หรืออาเซียน ก็จะช่วยเสริมสร้างบทบาทและสถานะของจีนในภูมิภาค จีนสนับสนุนบทบาทนำของอาเซียนในกรอบความร่วมมือระดับภูมิภาค มีส่วนร่วมอย่างแข็งขันโดยเฉพาะการเป็นผู้ให้ความช่วยเหลือประเทศในภูมิภาคนี้ภายใต้กรอบต่าง ๆ อาทิ GMS อาเซียน+3 ซึ่งในการประชุมอาเซียน-จีน ครั้งที่ 12 เมื่อเดือนตุลาคม 2552 ที่ไทย จีนประกาศให้ความช่วยเหลือและความริเริ่มใหม่ ๆ จำนวนมาก อาทิ จัดตั้งกองทุน ASEAN-China Investment Cooperation 10,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในขณะเดียวกัน จีนเองก็ยังคงรักษาประโยชน์ของตนไว้อย่างเหนียวแน่น เช่น การอ้างกรรมสิทธิ์เหนือดินแดนบริเวณหมู่เกาะในทะเลจีนใต้
สำหรับภูมิภาคเอเชียตะวันออก จีนแสดงบทบาทนำอย่างชัดเจน เห็นได้จากการเป็นเจ้าภาพ จัดการประชุมผู้นำประเทศ +3 (จีน เกาหลีใต้ และ ญี่ปุ่น) เมื่อ ต.ค. 2552 และการเป็นผู้แสดงบทบาทหลักในกรอบการประชุมเจรจา 6 ฝ่ายเพื่อแก้ปัญหานิวเคลียร์ในคาบสมุทรเกาหลี โดยเฉพาะความพยายามอย่างไม่ลดละที่จะโน้มน้าวฝ่ายเกาหลีเหนือให้กลับสู่โต๊ะเจรจาในกรอบ 6 ฝ่าย ดังจะเห็นได้จากครั้งล่าสุดที่ประธานาธิบดีจีนได้ส่งผู้แทนจาก พคจ. ไปเยือนเกาหลีเหนือเพื่อพบกับนายคิม จองอิล ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ เมื่อกลางเดือนกุมภาพันธ์ 2553 ที่ผ่านมา แต่ในขณะเดียวกันจีนก็ไม่ได้ลืมจะให้ความสำคัญกับภูมิภาคอื่น ๆ ไปพร้อม ๆ กัน อาทิ การเข้าร่วมการประชุม China-EU Summit ครั้งที่ 11 และครั้งที่ 12 และการผลักดันความร่วมมือในลักษณะหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์แบบรอบด้านในรูปแบบใหม่ของแอฟริกาภายใต้กรอบความร่วมมือ China-Africa Summit ซึ่งเป็นความร่วมมือบนหลักการความเท่าเทียมและการเอื้อประโยชน์ซึ่งกันและกันโดยปราศจากเงื่อนไขทางการเมือง โดยในหลายปีที่ผ่านมาผู้นำจีนรวมทั้ง รมว. กต. ยังคงเลือกที่จะเยือนกลุ่มประเทศในแอฟริกาเป็นประเทศแรกๆ ในช่วงต้นปี
จีนใช้การประชุมพหุภาคีเป็นเวทีสำคัญในการดำเนินการทางการทูต จะเห็นได้ว่า จีนมีบทบาทนำในการแก้ปัญหาระดับโลกต่าง ๆ และมีสิทธิในการออกเสียงอย่างมาก อาทิ ประธานาธิบดีจีนได้เข้าร่วมการประชุม G20 ทั้งที่ London Summit และ Pittsburgh Summit เพื่อแก้ปัญหาวิกฤตการเงินโลกและเรียกร้องให้มีการเพิ่มสิทธิในการออกเสียงของประเทศกำลังพัฒนาให้มากขึ้นและต่อต้านลัทธิกีดกันทางการค้า เป็นประเทศสำคัญประเทศหนึ่งในการแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ และได้เรียกร้องสิทธิของประเทศกำลังพัฒนา โดยเห็นว่าประเทศพัฒนาแล้วควรมีบทบาทในการรับผิดชอบที่มากกว่า ตามหลักการการร่วมรับผิดชอบแต่ในระดับที่แตกต่างในการประชุมสุดยอดว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศของโลกที่กรุงโคเปนเฮเกน (COP15) ช่วงปลายปี 2552 ที่ผ่านมา
* * * * *
ก้าวทันกระแสการค้า รู้ทันเล่ห์เหลี่ยมกลโกง
การค้าขยายตัวมากขึ้น ประเด็นปัญหาทางการค้าต่างๆ เริ่มมีมากขึ้น
การหลอกลวง หรือการฉ้อโกงทางธุรกิจ มากขึ้น และมีรูปแบบตั้งแต่เรียบง่ายไปจนถึงขั้นที่สลับซับซ้อน
การค้าผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์
โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัจจุบันการค้ามีความเสรีมากขึ้น สามารถซื้อขายผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์
- มิจฉาชีพที่แฝงตัวเข้ามาในรูปแบบนี้ก็มีมากขึ้นเช่นกัน
[internet/website- เป็นเวปของบริษัทโดยตรง (ทำเลียนแบบ) หรือเวปศูนย์กลางซื้อขาย (ฝากชื่อ/ประเภทธุรกิจ หมายเลขติดต่อ แต่ host ไม่สามารถ screen ได้ 100%)
กรณีที่พบบ่อย คือ การจ่ายชำระเงินค่าสินค้าแล้วไม่ได้รับของ /ได้รับไม่ครบ/ เป็นของที่ไม่มีคุณภาพ
ถึงแม้จะมีการเปิด LC ก็ตาม แต่ก็ไม่ได้เป็นการยืนยันว่าเราจะได้รับของตามที่สั่ง 100%
กรณีซื้อขายผ่านอินเตอร์เน็ต
- ควรเช็คสอบประวัติบริษัทให้รอบคอบรัดกุม (สอบถามจาก สพต./ผู้เคยทำธุรกิจด้วย)
- โทรศัพท์มือถืออาจไม่สามารถเชื่อถือได้ ควรขอหมายเลข fix line ของบริษัท มีการโทร crossเช็คไปยังเจ้าหน้าที่คนอื่นของบริษัทว่า เซลล์ที่มาติดต่อเราเป็นพนักงานที่แท้จริงหรือเปล่า
- เงื่อนไขในการจ่ายชำระค่าสินค้าต้องตกลงให้ชัดเจน
พยายามหา counterpart / shipping ที่รู้จักจะเป็นประโยชน์ในการตรวจสอบว่า มีการส่งของลงเรือจริง ตรงตาม order ที่สั่ง
หากเป็นไปได้ ควรขอให้ทางบริษัทส่งเอกสารยืนยันจากธนาคารเกี่ยวกับบัญชีของบริษัท ชื่อเจ้าของบัญชี หมายเลขบัญชี (หลายกรณีมีการแอบอ้างใช้ชื่อของผู้อื่นมาเปิดบัญชี) และโทรเช็คสอบไปที่ธนาคารเจ้าของบัญชีเพื่อตรวจสอบ โดยอาจติดต่อผ่านธนาคารในไทยให้ประสานงานให้ก่อนที่จะทำธุรกรรม
หากบริษัทไม่สามารถส่งหนังสือยืนยันจากธนาคารมาได้ อย่าเพิ่งรีบตัดสินใจโอนเงินค่าสินค้า ให้เช็คดูความน่าเชื่อถือของบัญชีจากธนาคารที่ระบุก่อน
- หากเป็นการสั่งซื้อจำนวนมาก หรือมีมูลค่าสูง ควรบินมาเพื่อตรวจสอบโรงงาน/สถานที่ผลิตว่ามีตัวตนจริง ดูประวัติการจดทะเบียนบริษัท
- ข้อควรระวัง บางบริษัท จดทะเบียนจริง แต่จดขึ้นมาเพื่อฉ้อโกงโดยเฉพาะ เมื่อบรรลุเป้าหมายแล้ว ก็ปิดบริษัทไป และเปิดบริษัทใหม่ (ดูระยะเวลาดำเนินกิจการ เงินทุนจดทะเบียน)
- การโต้ตอบผ่านอีเมล ควรเช็คสอบให้ดีว่า เป็นอีเมลของ counterpart เราจริง (อาจมีการสวมลอยจากมือที่สาม) ดัดแปลง/แก้ไข โดยใช้ชื่ออีเมลที่แตกต่างไปเล็กน้อย (ต้องรอบคอบและช่างสังเกต)
- บางกรณี หากเคยติดต่อกันมาบ้างแล้ว อาจทำให้เกิดความละเลย / ไม่ใส่ใจ/ ไม่รอบคอบเท่าที่ควร พึงระลึกไว้เสมอว่า เหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้นได้เสมอ เช่น
เดิมคู่ค้าของเราให้โอนเงินค่าสินค้าเข้าบัญชีธนาคาร A แต่อยู่ๆ เปลี่ยนให้โอนเข้าธนาคาร B (ต้องฉุกคิด) หลายคนอาจมองว่า ซื้อขายมาหลายรอบแล้วไม่มีปัญหา รอบนี้ก็น่าจะโอเค
อีเมลของคู่ค้าเราอยู่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม (เปลี่ยนเล็กน้อย/ เปลี่ยนไปเลย) หากพบต้องโทรถามเช็คสอบ หรือใช้รูปแบบการติดต่อโดยวิธีอื่น [วิธีโต้ตอบทางอีเมล ส่วนใหญ่จะเป็นการ click reply จาก Email เดิม ต้องระวัง เพราะอาจมีมือที่สามแทรกเข้ามาได้ทุกเวลา]
เซลล์ที่มาติดต่ออย่างสม่ำเสมออาจทำให้เราเชื่อใจ แต่บางกรณีอาจลองติดต่อผ่านเซลล์คนอื่นของบริษัท เพื่อดู feedback/ การประสานงาน
ตรวจสอบเอกสารที่ได้รับอย่างรอบคอบ (หลายกรณีไม่ใช่เอกสารตัวจริง แต่เป็นเอกสารที่ scan และส่งผ่านทางอีเมล)
หากเกิดปัญหาขึ้นแล้วจะทำอย่างไร
- รวบรวมเอกสารการติดต่อสื่อสารทั้งหมดที่เกี่ยวข้องให้ครบถ้วน (Email โต้ตอบ/ MSN/ จดหมาย/ fax) รวมถึงเอกสารทางการค้าที่เกี่ยวข้อง (Order/ invoice/ LC/ BL ฯลฯ)
- แจ้งความไว้เป็นหลักฐานกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (หน่วย Interpol) ซึ่งตำรวจจะมีเครือข่ายส่งเรื่องมาที่ contact point ในท้องที่ที่เกิดเหตุได้ทันที
- ติดต่อประสานงานกับสถานเอกอัคคราชทูต/สถานกงสุลไทย ที่รับผิดชอบในพื้นที่ที่เกิดเหตุ
- เปรียบเทียบมูลค่าความเสียหาย กับ ค่าใช้จ่ายในการติดตาม และประเมินว่าควรดำเนินการต่อไปอย่างไร
กรณีที่ตัดสินใจดำเนินการตามขั้นตอนทางกฎหมาย
- นัดหมายหารือกับทนายฝ่ายจีน การเตรียมเอกสารและการติดตามคดี (ค่าทนาย รับฟังcase เบื้องต้น 1,500 หยวน/ชั่วโมง)
- ประสานเรื่องกำหนดการเดินทางกับเจ้าหน้าที่สถานทูต / สพต.
- เดินทางไปแจ้งความกับสถานีตำรวจในท้องที่ที่เกิดเหตุ พร้อมเจ้าหน้าที่สถานทูต/สถานกงสุล เพื่อความสะดวกในการติดต่อประสานงาน/ ตำรวจจีนจะลงบันทึกแจ้งความ
- ขอทราบ contact point ของฝ่ายจีน และคอยติดตามความคืบหน้าอย่างต่อเนื่อง
***เจ้าทุกข์จำเป็นต้องเป็นผู้ดำเนินการ สถานทูต/สพต. เป็นเพียงหน่วยงานประสานและอำนวยความสะดวก***
------------------------------
สำนักงานพาณิชย์ในต่างประเทศ ณ กรุงปักกิ่ง
สิงหาคม 2553
เรียน อาจารย์จีระ
กระผมได้เรียนเชิญ ศ.พิเศษ ดร.อาบ นคะจัด ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ สมาคมเศรษฐศาสตร์สหกรณ์แห่งประเทศไทย มาบรรยายพิเศษให้กับผู้นำสหกรณ์ขั้นสูงเพื่อเป็นวิทยาทานความรู้ เพิ่มพูนประสบการณ์และพัฒนาศักยภาพของ ผู้นำสหกรณ์ รุ่น 5 ในเรื่อง "กฎหมายสหกรณ์เปรียบเทียบ ตอน การวิวัฒนาการกฎหมายสหกรณ์ของประเทศในเอเชียและแปซิฟิก 21 ประเทศ" จะทำให้ ผนส.ได้รับความรู้เกี่ยวกับกฎหมายของสหกรณ์เพิ่มมากขึ้น
กระผมใคร่ขออนุญาต อาจารย์ช่วยจัดเวลาในการบรรยายให้ท่านอาจารย์ ด้วยครับ
ขอขอบพระคุณอย่างสูง
สวัสดีครับ.......พี่น้องงงงง
ศิริชัย ออสุวรรณ ผนส.5
สรุปการบรรยายเรื่อง การวางแผนเชิงกลยุทธ์ โดย รศ.ดร.สมชาย ภคภาสน์วิวัฒน์ ในวันที่ 24 กันยายน 2553
การบรรยายพิเศษเรื่อง "กฎหมายสหกรณ์เปรียบเทียบ ตอน การวิวัฒนาการกฎหมายสหกรณ์ของประเทศในเอเชียและแปซิฟิก 21 ประเทศ" โดย ศ.พิเศษ ดร.อาบ นคะจัด ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ สมาคมเศรษฐศาสตร์สหกรณ์แห่งประเทศไทย
การศึกษาดูงานที่ประเทศจีน
1) .ในอนาคตไทยกับจีนเน้นการทำงานร่วมกันในระบบขนส่งสินค้า ระบบการค้าสินค้าเกษตร
2) ประเทศจีนจะเน้นการทำวิสาหกิจชุมชน มากกว่าระบบสหกรณ์ เพราะว่าจีนปกครองโดยระบอบสังคมนิยม การบริหารเบ็ดเสร็จอยู่ที่รัฐบาล สหกรณ์ของจีนจึงไม่มีอิสระเท่าที่ควร ซึ่งแตกต่างจากสหกรณ์ของไทยที่มีอิสระในการบริหาร
3) ประทับใจด้านการสร้างความยิ่งใหญ่ของประวัติศาสตร์ให้อยู่อย่างสมบูรณ์และมีคุณ ค่าต่อประเทศชาติ
4) บทเรียนเรื่องการซื้อสินค้า ราคาสินค้าที่ตั้งไว้สูงไม่ต่ำกว่า 70 % ซื้อก่อนได้แพง ซื้อหลังได้ถูก
5) เป็นผู้นำที่กล้าตัดสินใจเพื่อผลประโยชน์ส่วนรวม มีความขยัน มีวิสัยทัศน์การพัฒนาประเทศหรือองค์กร
ประชาธิปไตยในเมืองไทยกับภาวะผู้นำ
ผมเชื่อว่าผู้นำในเมืองไทยทุกคนมีภาวะผู้นำที่ดีในระดับหนึ่ง แต่มีข้อสังเกตุว่า ผู้นำที่มีความเป็นประชาธิปไตยอยู่ในตัวเองอย่างเต็มเปี่ยมนั้น มีอยู่สักกี่คน การครองตนของผู้นำนั้นเป็นสิ่งสำคัญ ผู็นำที่เป็นประชาธิปไตย จะต้องครองตนให้อยู่ในธรรม ต้องยึดหลัก ธรรมเป็นหลัก จึงจะถือว่ามีภาวะผู้นำที่สูง
กำหนดการ
งานฉลองจบโครงการ ผนส.5
18.00 น. เริ่มงาน / ฉายวิดีทัศน์กิจกรรมผนส.5 / รับประทานอาหารว่าง+เครื่องดื่ม
19.00 น. พิธีกรเชิญประธานฯ กล่าวเปิดงาน
ผนส.5 มอบของที่ระลึกแด่อาจารย์และทีมงานสสท.
รับประทานอาหาร (โต๊ะจีน)/นักร้องขับกล่อมเพลงไพเราะ
20.00 น. การแสดงละครเวที (ผนส.2)
20.30 น. ประธานฯเปิดฟลอร์ / เชิญผู้ร่วมงานร่วมรำวง
การแสดง รำวงย้อนยุค (ผนส.5)
21.30 น. การขับร้องหมู่ เพลง......... (ผนส.1-4)
22.00 น. ปิดงาน
เพื่อนๆช่วยดูด้วย ใครคิดเห็นอะไรต่างจากนี้ช่วยเสนอแนะด้วยค่ะ
ศิริวรรณ 081 9263632
กำหนดการ
พิธีปิดโครงการและมอบวุฒิบัตร
วันศุกร์ที่ 8 ตุลาคม 2553
ภาคเช้า
08.00 - 09.00 น. ลงทะเบียน
09.00 - 10.00 น. แขกผู้มีเกียรติ / กก.บริหารฯ / ผนส.รุ่น 1 - 4 พร้อมกันในห้องประชุม
10.00 - 12.00 น. พิธีปิดการฝึกอบรม
พิธีกรเชิญรมช.กระทรวงเกษตรฯ(นายศุภชัย โพธิ์สุ)เป็นประธานฯมอบวุฒิบัตร
พิธีกรเชิญ ประธานสันนิบาตฯ กล่าวรายงาน
รมช.มอบวุฒิบัตร/ กล่าวปิด
พิธีกรเชิญศ.ดร.จีระฯ กล่าวขอบคุณ
ประธานฯสันนิบาตฯมอบของที่ระลึก
ถ่ายภาพหมู่
12.00 - 13.00 น. รับประทานอาหารกลางวัน
ภาคบ่าย
11.00 - 13.00 น. ลงทะเบียนผู้มาร่วมงานสัมมนาวิชาการ / รับประทานอาหารว่าง-กาแฟ
13.00 - 13.30 น. พิธีเปิดการสัมมนา
พิธีกรเชิญประธานฯสันนิบาตฯ รับฟังการกล่าวรายงานและกล่าวเปิดการสัมมนา
พิธีกรเชิญประธานผนส.5 กล่าวรายงาน
13.30 - 16.00 น.การอภิปรายเรื่อง"ขบวนการสหกรณ์สามารถขับเคลื่อนเศรษฐกิจสังคมได้อย่างไร"
ผู้ดำเนินการอภิปราย ศ.ดร.จีระ หงส์ลดารมภ์
ผู้ร่วมอภิปราย 1. ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (ศ.นริศ ชัยสูตร)
2. รศ.ดร.ประเสริฐ จรรยาสุภาพ
3. นายเอ็นนู ซื่อสุวรรณ
4. ผู้แทนผนส.5 (นายศิริชัย ออสุวรรณ)
5. ผู้แทนผนส.5 (นายภาวัต ศุภสุวรรณ)
6. ผู้แทนผนส.5 (นายสุรพล ชัยมาลา)
เมื่อเช้านี้ ทางสำนักงานเศรษฐกิจการคลังได้โทรมาแจ้งว่า ท่านที่ปรึกษากฤษฎาติดภารกิจไปราชการด่วนที่ภาคใต้ จึงไม่สามารถมาร่วมเป็นผู้วิพากษ์ได้ในวันที่ 8 ต.ค. 53
จึงเหลือแค่ผู้วิพากษ์ 2 คนคือ ท่านเอ็นนูและอาจารย์ประเสริฐค่ะ
สวัสดีครับอาจารย์ เพื่อน ผนส. 5 ทุกท่าน
ขอแสดงความยินดีเป็นอย่างยิ่งกับทุกท่านที่จบหลักสูตรผู้นำสหกรณ์
ขอบคุณ ผนส. 5 ทุกท่านสำหรับความเป็นกันเอง งานเลี้ยงสังสรรค์ยิ่งใหญ่อลังการ สุดยอด
ผนส. 2 ขอร่วมแสดงความยินดีกับ ผนส. 5
ไม่มีอะไรจะขัดขวางการเชื่อมโยงของเราชาว ผนส. ได้ นอกจากเราไม่ต้องการเชื่อมโยงตามลิงค์ข้างล่างนี้ได้เลยครับ
http://gotoknow.org/blog/chiraacademy/295677 รุ่น 1
http://gotoknow.org/blog/chiraacademy/193426 รุ่น 2
http://gotoknow.org/blog/leadersship/238209 รุ่น 2
http://gotoknow.org/blog/chiraacademy/231359 รุ่น 3
http://gotoknow.org/blog/chiraacademy/295678 รุ่น 4
http://gotoknow.org/blog/chiraacademy/372489 รุ่น 5
สนใจที่จะศึกษา facebook เชิญครับ
สรุป
โครงการสัมมนาวิชาการเรื่อง “ขบวนการสหกรณ์ขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมได้อย่างไร”
วันศุกร์ที่ 8 ตุลาคม 2553
ณ ห้องประชุมศูนย์การประชุมรัชนีแจ่มจรัส สันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทย
คุณศิริชัย ออสุวรรณ
คุณภาวัต ศุภสุวรรณ
คุณ สุรพล ชัยมาลา
ศ.ดร. จีระ หงส์ลดารมภ์
รศ.ดร. ประเสริฐ จรรยาสุภาพ
ศ.ดร. จีระ หงส์ลดารมภ์
คุณ เอ็นนู ซื่อสุวรรณ
ความเห็น
อาจารย์เต็มใจ
ดร. ชาญชัย เพชรประพันธ์กุล ภาควิชาการสหกรณ์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
เชิดศักดิ์
รองประธานเครือข่ายสหกรณ์ฯ (ชายเสื้อฟ้า)
ประสิทธิ์ บุญสม (ผนส. 4)
รอบสรุป
คุณศิริชัย ออสุวรรณ
คุณ ภาวัต ศุภสุวรรณ
คุณ สุรพล ชัยมาลา
รศ.ดร. ประเสริฐ จรรยาสุภาพ
คุณ เอ็นนู ซื่อสุวรรณ
ศ.ดร. จีระ หงส์ลดารมภ์
ภาพบรรยากาศ พิธีปิดโครงการฯ
ไม่มีอะไรจะขัดขวางการเชื่อมโยงของเราชาว ผนส. ได้ นอกจากเราไม่ต้องการเชื่อมโยงตามลิงค์ข้างล่างนี้ได้เลยครับ
http://gotoknow.org/blog/chiraacademy/295677 รุ่น 1
http://gotoknow.org/blog/chiraacademy/193426 รุ่น 2
http://gotoknow.org/blog/leadersship/238209 รุ่น 2
http://gotoknow.org/blog/chiraacademy/231359 รุ่น 3
http://gotoknow.org/blog/chiraacademy/295678 รุ่น 4
http://gotoknow.org/blog/chiraacademy/372489 รุ่น 5
สนใจที่จะศึกษา facebook เชิญครับ
ขอบคุณค่ะ พี่นพคุณ ผนส.2
อย่าลืมที่นัดกันไว้นะคะ...............งานรับน้อง ผนส.6 นะคะ
สวัสดีครับอาจารย์ ผนส.ทุกท่าน
ร้านสหกรณ์ผู้ปฏิบัติงาน กฟผ. มีมติส่งผมสมัครเป็นกรรมการสันนิบาติสหกรณ์แห่งประเทศไทย ซึ่งจะมีเลือกตั้งในวันที่ 18 ตุลาคม 2553 นี้ ที่โรงแรมรอแยลริเวอร์ ห้องประชุมภาณุรังษี ในการนี้ผมขอรับการสนับสนุนจากพี่ๆ เพื่อน ผนส. และนักสหกรณ์ทุกท่านครับ
ขอขอบพระคุณทุกท่านที่ให้การสนับสนุน
สวัสดีครับอาจารย์ เพื่อนๆ ผนส. ทุกท่าน
วันนี้ขออนุญาตที่จะนำผลการประชุมวิสามัญ และข้อคิดเห็น มาเล่าสู่กันฟังครับ ผมขอจั่วหัวว่า
ฤาว่าขบวนการสหกรณ์จะต้องเน่าจริงๆ
ไม่น่าเชื่อวิธีการสกปรกที่นำมาใช้กันในขบวนการสหกรณ์นับวันจะแนบเนียนขึ้น เหมือนกับที่ว่าทุจริตเชิงนโยบาย อย่างไงอย่างงั้น
นับวันสหกรณ์จะแบ่งขั้วกันอย่างชัดเจนกันมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ที่บอกว่าสหกรณ์มี 7 ประเภท ไปๆ มาๆ ชักจะเป็นประเภทใครประเภทมันเสียแล้ว
เริ่มจากคณะกรรมการดำเนินการบริหารสันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทย (สสท.) ออกหนังสือเชิญประชุมแทนที่เมื่อรู้ว่าจะมีการประชุมวันที่ 18 ตุลาคม 2553 ก็ควรจะมีการเตรียมการแต่เนิ่น เพราะเมื่อคราวประชุมวิสามัญครั้งที่ 1 วันที่ 30 กันยายน 2553 รู้อยู่แล้วต้องมีการประชุมแน่นอนอยู่แล้ว ในที่ประชุมในวันนั้นก็รับทราบและรับรู้แต่ไม่สามารถมาร่วมประชุมได้เพราะไม่มีหนังสือเชิญประชุม กว่า สสท. จะออกหนังสือและเริ่มส่งได้ในวันที่ 11 ตุลาคม 2553 สหกรณ์ใน กทม. ได้รับอย่างไวก็ 13 ตุลาคม 2553 ประเด็นสำคัญอีกประเด็นหนึ่งก็คือเนื้อหา ในหนังสือแต่งตั้งผู้แทนรายละเอียด ทำเหมือนไม่อยากจะให้สมาชิกมาร่วมประชุมอย่างไงอย่างงั้น เพราะมีสหกรณ์ หลายสหกรณ์บ่นให้ฟัง ตอนแรกผมคิดว่าผมจะคิดคนเดียวไหงมีเพื่อนเพียบ
และนี่คือประเด็นที่หลายๆ คนสงสัย ว่าทำไม ทำไม ผมเองก็ไม่รู้ เลยถามต่อ
ทำไมคณะกรรมการบริหาร สสท. ถึงไม่ดำเนินการในเรื่องหนังสือเชิญประชุม หลังจากที่ได้รับทราบผลการประชุมวิสามัญคร้งที่ 1 แล้วว่าจะประชุมวันที่ 18 ตุลาคม 2553
ทำไมคณะกรรมการบริหาร สสท. ถึงได้จัดให้มีอบรมสัมมนาเจ้าหน้าที่ ทั้งๆ ที่รู้ว่าวันเสาร์ และวันอาทิตย์จะต้องมีสมาชิกสหกรณ์โทรถามเรื่องหนังสือเชิญประชุม แต่กลับไม่มีเจ้าหน้าที่อยู่เลย
มีกลุ่มคนบางกลุ่มโทรศัพท์หาหน่วยงานสหกรณ์หลายๆ สหกรณ์ว่าไม่ควรไปร่วมประชุมวิสามัญ
มีกลุ่มคนบางกลุ่มจัดสัมนาบังหน้าเชิญชวนให้สหกรณ์มาฟัง และเข้าร่วมประชุมวิสามัญ
บรรยากาศในที่ประชุมโรงแรมรอแยลริเวอร์ไซค์
ประธานเข้าสู่พิธีการ เวลาประมาณ 10.30 น. ซึ่งเลยเวลามาประมาณ 1 ชั่วโมง แต่ที่ประชุมยังไม่ครบองค์ ประชุม ซึ่งในขณะที่ให้มีการรอวินิจฉัยของผู้แทนที่ทำหนังสือเข้ามาเป็นผู้แทน แต่คณะกรรมการผู้ตรวจสอบสิทธิ์ให้ไปนั่งเป็นฝ่ายผู้สังเกตการณ์ ในขณะรอตรวจอยู่นั้นก็มีการอภิปรายกันถึงวิธีการ และข้อหารือหากสมาชิกมาไม่ครบองค์จะเปิดประชุมได้หรือไม่ อภิปรายกันประมาณ 6 ท่าน อยู่ๆ ประธานให้เจ้าหน้าที่รายงานจำนวนสมาชิกที่เข้าร่วมประชุมว่ามีจำนวนเท่าใด เมื่อเจ้าหน้าที่รายงานให้ประธานทราบ
ประธานประกาศทันทีขณะนี้มีผู้เข้าร่วมประชุม 425 ท่าน ถือว่าไม่ครบองค์ประชุมขอปิดการประชุม เท่านั้นเองล่ะครับวงแตกกันไปพักใหญ่ สักครู่มีรองประธานขึ้นมาประกาศว่ายังไม่เปิดประชุมแล้วจะประกาศปิดประชุมได้อย่างไร เท่านั้นเองแหละครับเป็นเรื่อง ยาวพอสมควร สุดท้ายมีกรรมการดำเนินงานมาร่วมสมทบอีก 4 ท่าน รวมรองประธานเป็น 5 ท่าน
มีการอภิปรายกันหลายต่อหลายท่านเสนอทางออก รายละเอียดในการอภิปรายคงไม่ต้องบรรยายเอาเป็นว่า สรุปให้อ่านล่ะกัน
สรุป คณะกรรมการจะหาวิธีการที่จะให้มีการเปิดประชุมวิสามัญ หรืออาจจะเป็นสามัญ ให้ได้โดยจะขอเชิญกรรมการอย่างน้อยอีก 3 ท่านเข้าร่วมประชุมภายในวันที่ 18 ตุลาคม 2553 เพื่อกำหนดวันประชุม และส่งให้ทางฝ่ายจัดการเป็นผู้ออกหนังสือเชิญประชุมไปยังสหกรณ์สมาชิก ซึ่งกำหนดคร่าวๆ เป็นวันอาทิตย์ที่ 14 พฤศจิกายน 2553 ส่วนเรื่องสถานที่ๆ ใดนั้นจะแจ้งให้ทราบภายหลัง
งานนี้ประธานน้อย ลงไม่สวยอย่างที่คิดไว้
รีบร้อนที่จะปิดประชุมเกินไป เหมือนกับว่าเตรี่ยมกันมาก่อน
ลืมไปว่ามีเรื่องที่จะต้องพิจารณาว่า ตกลงผู้ที่คณะกรรมการวินิจฉัยให้ผู้แทน ไปเป็นผู้สังเกตการณ์ ยังไม่มีการพิจารณา รีบชิงปิดเสียก่อน
เมื่อปิดแล้ว ก็น่าจะขอหารือว่าจะมีการประชุมวันไหน หรือทำอย่างไรให้มันถูกต้องตามกฎหมาย
ข้อคิดเห็นและข้อที่น่าเป็นห่วง และน่ากลัวต่อขบวนการสหกรณ์ (เป็นข้อคิดเห็นส่วนตัว)
กลัววิธีการเลือกตั้งที่จะใช้วิธีการเดิมๆ ที่ใช้มาแล้ว และได้ผลชงัด โดยการใช้เงินเป็นตัวชี้วัด จะด้วยวิธีการใดๆ นั้นหลายท่านคงรู้ดี ผมถือว่าไม่ใช่นักสหกรณ์ที่หวังดีต่อขบวนการสหกรณ์ เป็นนักสหกรณ์ที่มุ่งหวังผลประโยชน์ส่วนตน ซึ่งจะเป็นเหตุผลที่จะทำให้ขบวนการสหกรณ์เสื่อมลงในที่สุด
คนที่คิดจะทำผมขอเถอะครับ อย่าเลยครับ มาช่วยกันคิดมาช่วยกันทำงาน ว่าทำอย่างไรให้ขบวนการสหกรณ์ของเราเจริญก้าวไปข้างหน้า เหมือนกับสหกรณ์ที่เค้าเคยมาดูงานเรา แต่ปัจจุบันเราต้องไปดูงานเขา ครับ
ศรัทธาในขบวนการสหกรณ์ เพราะว่า สหกรณ์เป็นพระราชประสงค์ ของ ในหลวง
สหกรณ์เป็นระบบที่ดีที่สุดในโลก ทั่วโลกเค้ายอมรับในระบบสหกรณ์
ประเทศไทย มีสหกรณ์ก็จะครบ 100 ปี แล้ว น่าชื่นใจ ว่า สหกรณ์ของเรายั่งอยู่ยืนยงแม้ว่าจะมีอุปสรรคมามากมาย
นึกว่าจะหมดไปแล้ว เพราะว่าเรามี หัวใจดวงเดียวกัน แต่ฝันกลับมาสลายเสียแล้ว..........เฮ้อ...
เมื่อการประชุมหัวขบวนสหกรณ์ที่มีความไม่โปร่งใสในการทำงานของคณะกรรมการดำเนินการ สันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทย (ไม่น่ามีประเทศไทยเลย สันนิบาตสหกรณ์ เฉย ๆ จะดีกว่า เพราะว่า ทุกวันนี้ ก็จะเป็นสันนิบาตอยู่แล้ว..........ผับ ๆ ๆ ๆ ๆ แบบนก... )
ไม่น่าจะเชื่อเลยว่าการประชุทจะล่ม แบบไม่เป็นท่า อายเค้า เพราะว่า ผู้ใหญ่ กันทั้งนั้น เด็ก ๆ เค้ามองอยู่ แล้วอย่างนี้จะไปพูดไปสอนสั่งเค้าได้อย่างไร สหกรณ์แทนที่จะก้าวหน้า กลับ ถอยหลังอีกแล้ว เหมือนกับ คณะกรรมการชุดที่ 18 และ 19 ปัญหายังไม่จบเลย สร้างใหม่อีกแล้ว ล้มไม่เป็นขบวนท่าสหกรณ์เลย
อย่ามีดีกว่ามั้ง อยู่แบบตัวใครตัว เพราะว่า สมาชิกส่งเงินค่าบำรุงมา ปีละ 10000 บาท มาประชุม ดูคณะกรรมการฯแบ่งพรรคแบ่งพวกกัน เพื่ออะไร เลิกเถาะ ไม่เห็นแก่ สหกรณ์ก็เห็นแก่ สถาบันสหกรณ์ที่องค์พระมหากษัตริย์ ได้มอบให้ไว้กับคนไทยทั้งหมด
จาก .......คนสหกรณ์ สงสารสหกรณ์ที่ถูกพวกเอาไปหาผลประโยชน์
เรียน ผนส.5 ทุกท่าน
ตามที่พี่แดงได้จัดงานมุทิตาจิตแด่คุณแม่ชลินทร ถาปนศิริ ในโอกาสที่ท่านมี อายุครบ 84 ปี และร่วมทำบุญวันเกิดครบ 60 ปีของตัวเอง ด้วยการทอดผ้าป่าการกุศลที่สำนักปฏิบัติธรรม ดอยเชียงดาว อ.เชียงดาว เชียงใหม่ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 17 ตุลาคม ที่ผ่านมา (ขณะนี้ได้รับอนุญาตให้เป็นสำนักสงฆ์แล้ว )
พี่น้อง ญาติมิตร ได้ร่วมทำบุญ นับเป็นเงินทั้งหมด 133,205 บาท เพื่อก่อสร้างพระธาตุเจดีย์ " พุทธะนิโรธรังสี “ และพระวิหารต่อไป
ด้วยพลังแห่งคุณความดีทั้งหลาย ที่ทุกท่านได้กระทำแล้วในครั้งนี้ ขอจงเป็นเหตุปัจจัยส่งผลให้ทุกท่าน ประสบแต่ความสุข มีความเจริญรุ่งเรือง ปราศจากทุกข์โศกโรคภัย ได้เข้าสู่มรรคผลนิพพาน ด้วยกันทุกท่านเทอญ
แดง
วันศุกร์ที่ 22 ตุลาคมนี้ เวลา11.00น.ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทยจำกัด (ชสท.)และสมาชิก ผนส.รุ่น 5 จะทำการมอบเครื่องอุปโภค-บริโภค ให้กับประชาชนจากอำเภอต่างๆ ที่ประสบความเดือดร้อนจากอุทกภัย ณ สำนักงานชุมนุมสหกรณ์การเกษตรนครราชสีมา จึงขอเรียนเชิญ ผนส.ทุกท่าน ทุกรุ่น ตลอดจนผู้มีจิตศรัทธรา ไปร่วมงาน โปรด...ติดต่อ คุณประสิทธิ ผจก.ชุมนุมฯ โทร 081-9679193 หรือคุณศิริพงษ์ ผจก.สกก.เมืองฯ ผนส.5 โทร084-9821638
ได้รับทราบบรรยากาศการประชุมสันนิบาตฯเมื่อวันที่ 18 ตค.จากคำบอกเล่าของหลายๆ คน รวมทั้งอ่านจากข้อเขียนของพี่นพคุณ(ผนส.2) จากคุณสุรพลฯ(ผนส.5) จากคุณอัมพรฯ (ผนส.5)แล้ว รู้สึกเสียใจเหมือนกะหลายๆ คน
องค์กรกลางของขบวนการสหกรณ์มีอาถรรพ์หยั่งงี้มาเป็นระยะ ระยะ
ไม่ได้อยู่กันอย่าสงบราบรื่นพร้อมก้าวไปข้างหน้าอย่างที่ควรจะเป็น......
สันนิบาตฯ มีผลประโยชน์อะไรมากมายหรือไง????
ทำไมบางคนจึงต้องการเข้าไปแสวงหา ??????????????
เห็นใจคนตั้งใจทำงาน ตั้งใจอาสาจะเข้าไปช่วยพัฒนา แต่ไม่มีเงิน ไม่มีพวก.....
เลิกทะเลาะกัน เลิกกนะแนะกระแหนกัน หันหน้าเข้าหากัน ช่วยกันทำงานดีกว่านะ นะ
แต่ตอนนี้.....สามัคคีกัน ไปช่วยเพื่อนๆ ที่ประสบภัยน้ำท่วม ก่อนนะ
สวัสดีค่ะเพื่อนๆ ผนส 5 ทุกท่านเป็นอย่างไรกันบ้างค่ะช่วงนี้หลายท่านคงจะวุ่นเกี่ยวกับเรื่องน้ำท่วมดิฉันเองก็เช่นกันค่ะเพราะว่าไร่นาของสมาชิกก็ถูกน้ำท่วมเสียหายเช่นกันค่ะ แต่ยังดีกว่า อ.ปักธงชัยค่ะ ทั้งนี้ทางสหกรณ์ก็ได้จัดข้าวสารแจกให้กับสมาชิกของสหกรณ์ทุกคนเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในขั้นต้น หวังว่ารัฐบาลคงจะจัดงบประมาณชดเชยดอกเบี้ยให้กับสมาชิกนะค่ะ
สวัสดีครับอาจารย์ เพื่อน ผนส. ทุกท่าน
สันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทย กำหนดจัดประชุมใหญ่วิสามัญ ครั้งที่ 3/2553 ในวันอาทิตย์ที่ 14 พฤศจิกายน 2553 ตั้งแต่เวลา 07.00 น. เป็นต้นไป ณ ห้องประชุมรัชนีแจ่มจรัส ในการนี้จัดให้มีการเลือกตั้งกรรมการสันนิบาตชุดใหม่ด้วย
จึงขอเรียนเชิญสมาชิกทุกท่านเข้าร่วมประชุมวิสามัญ และเลือกตั้งกรรมการ สสท. ดังกล่าว
14 พฤศจิกายน 2553 เลือกตั้งกรรมการ สสท.
โปรดเลือกเบอร์ 2 ประเภทร้านสหกรณ์
นายนพคุณ ยังเอี่ยม
รองประธานร้านสหกรณ์ผู้ปฏิบัติงาน กฟผ.
เป็นกรรมการสันนิบาตประเภทสหกรณ์ร้านค้า
การศึกษา
ปวส.บัญชี ปริญญาตรีสารนิเทศ
ปริญญาโทเศรษฐศาสตร์ สหกรณ์
มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ (รุ่นที่๑)
ฝากบอกต่อๆ ด้วยครับ หนึ่งท่านมีสิทธิเลือกได้ 7 ประเภท ฝากเบอร์ 2 ประเภทร้านสหกรณ์ด้วยครับ ขอบคุณครับ
สวัสดีครับอาจารย์ เพื่อน ผนส. และผู้มาเยือนทุกท่าน
รายงานผลการเลือกตั้งกรรมการสันนิบาติสหกรณ์แห่งประเทศไทยทีม "คนรุ่นใหม่" ได้ยกทีม
สวัสดี ผนส.5 ที่รักและเคารพทุกท่าน
วันที่ 2 ธันวาคม 2553 สหกรณ์การเกษตรเมืองจันทบุรี ได้กำหนดประชุมใหญ่สามัญประจำปี ในปีนี้สหกรณ์ มีกำไรสุทธิ19 ล้านกว่า จ่ายปันผลคืนให้กับสมาชิdร้อยละ6 ได้รับเกียรติจากอาจารย์ยม และพี่โม่ง พีปั๊ก พี่อ้วนรุ่น 4 พี่ปื๊ด พี่สันติ (กรรมการชุมนุม) เข้าร่วมประชุมด้วย เอาไว้วันหลังจะเข้ามาเล่าเหตุการณ์ให้ฟังโอกาสหน้าครับ
สวัสดีผู้นำรุ่น 5 ทุกคน
เป็นเวลาเกือบ 2 เดือนแล้วที่จบหลักสูตรนี้ไป ผมยังจำบรรยากาศการทำงานของรุ่นนี้ได้ดี จะฝากไว้ 2 เรื่อง
ปัจจุบัน blog รุ่น 5 รวมกัน 3 blog ได้ 6,000 คลิก ต่ำกว่ามาตรฐานของรุ่น 1-4 มาก
ทางสันนิบาตสหกรณ์ได้ริเริ่มที่จะมีหลักสูตรรุ่นที่ 6 จะขอให้รุ่นที่ 5 เป็นพี่เลี้ยง
สงสัยว่าพวกเรา ผนส.5 ช่วงนี้งานเข้า เลยไม่ค่อยเข้ามาใช้ blog แต่พบกันบ่อยๆใน Face book (มีลูกเล่นมากกว่า) ขอใช้ทั้ง 2 ช่องทาง ก็น่าจะดี ท่านใดว่างช่วยกระตุ้นเพื่อนๆด้วยครับ
คิดถึงเพื่อนทุกคนเสมอ
ศิริชัย ออสุวรรณ (ผนส.5)
วันอาทิตย์ที่ 26 ธ.ค.53 สันนิบาตสหกรณ์ฯ กำหนดประชุมใหญ่สามัญ ที่ศูนย์การประชุมรัชนีแจ่มจรัส กทม. หลังจากประชุมแล้ว ขอเชิญเพื่อน ผนส.ทุกท่าน ทุกรุ่น ร่วมหารือโครงการคืนสู่เหย้าผู้นำสหกรณ์ขั้นสูง (สันนิบาตฯตั้งงบประมาณไว้แล้วจะจัดในเดือนมีนาคม 2554 ครับ)
จาก ศิริชัย ออสุวรรณ
Sirichai Orsuwan
Friday at 10:07pm
·เจริญศรี โสระมัด ขอบคุณค่ะท่านประธานศิริชัย พวกเราจะได้พบกัน
Friday at 11:24pm ·
เรียนอาจารย์ยม ทางสันนิบาตฯจะมีหนังสือเชิญประชุมใหญ่ (ในตำแหน่งที่ปรึกษาสันนิบาตฯ) ในวันที่ 26 ธ.ค.53
กรุณาวางแผนงานคืนสู่เหย้า ผนส. ด้วยครับ หลังประชุมหากมีเวลาจะได้ปรึกษากัน
Yesterday at 11:34am ·
ไม่มีอะไรขัดขวางการเชื่อมโยงของเราชาว ผนส. ได้ ตาม Link ข้างล่างนี้ได้เลยครับ
http://gotoknow.org/blog/chiraacademy/295677 รุ่น 1
http://gotoknow.org/blog/chiraacademy/193426 รุ่น 2
http://gotoknow.org/blog/leadersship/238209 รุ่น 2
http://gotoknow.org/blog/chiraacademy/231359 รุ่น 3
http://gotoknow.org/blog/chiraacademy/295678 รุ่น 4
http://gotoknow.org/blog/chiraacademy/372489 รุ่น 5
สนใจที่จะศึกษา facebook เชิญครับ
สวัสดีวันปีใหม่จีน
万事如意 ว่านซื่อหยูอี้ ....สมความปรารถนา
恭喜发财 กงสี่ฟาไฉ..ขอให้ร่ำรวย
财源广进 ไฉเหยียนกว่างจิ้น...เงินทองไหลมา
招财进宝 เจาไฉ่จิ้นเป่า..เงินทองไหลมา
年年有余 เหนียนเหนียนโหย่วหยวี๋..เหลือกินเหลือใช้
事事顺利 ซื่อซื่อซุ่นลี่..ทุกเรื่องราบรื่น
金玉满堂 จินยวี้หม่านถัง..ร่ำรวยเงินทอง
一本万利 อิ้เปิ่นว่านลี่...กำไรมากมาย
大吉大利 ต้าจี๋ต้าลี่...ค้าขายได้กำไร
年年发财 เหนียนเหนียนฟาไฉ...รำรายตลอดไป
龙马精神 หลงหม่าจินเสิน..สุขภาพแข็งแรง
吉祥如意 จี๋เสียงหยูอี้..สมปรารถนา
好运年年 เห่ายวิ่นเหนียนเหนียน..โชคดีตลอดไป
四季平安 ซื่จี้ผิงอัน..ปลอดภัยตลอดปี
一帆风顺 อี้ฝันฟงซุ่น..ทุกอย่างราบรื่น
.*. คำอวยพรตรุษจีน .*.
คำอวยพร : ซินเจียยู่อี่ ซินนี้ฮวกใช้
คำแปล : ปีใหม่ขอให้ทุกอย่างสมหวัง ปีใหม่ขอให้ร่ำรวย
คำอวยพร : ซินเจิ้งหรูอี้ ซินเหนียนฟาไฉ
คำแปล : ปีใหม่ขอให้ทุกอย่างสมหวัง ปีใหม่ขอให้ร่ำรวย
คำอวยพร : เจาไฉจิ้นเป้า
คำแปล : เงินทองไหลมาเทมา ทรัพย์สมบัติเข้าบ้าน
คำอวยพร : ฟู๋ลู่ซวงฉวน
คำแปล : ศิริมงคลเงินทองอำนาจวาสนา
คำอวยพร : จู้หนี่เจี้ยนคัง
คำแปล : ขอให้คุณสุขภาพแข็งแรง
คำอวยพร : จู้หนี่ฉางโส่ว
คำแปล : ขอให้คุณอายุยืนยาว
คำอวยพร : จู้หนี่ซุ่นลี่
คำแปล : ขอให้คุณประสบความสำเร็จ
คำอวยพร : จู้เห้อซินเหนียน
คำแปล : การอวยพรปีใหม่
เรื่องเล่าของเอี๋ยนหุย
เอี๋ยนหุยเป็นศิษย์รักของขงจื้อ เป็นคนใฝ่ศึกษา มีคุณธรรมงดงาม วันหนึ่ง เอี๋ยนหุยออกไปทำธุระที่ตลาด เห็นผู้คนจำนวนมากห้อมล้อมอยู่ที่หน้าร้านขายผ้า จึงเข้าไปสอบถามดู จึงรู้ว่าเกิดการพิพาทระหว่างคนขายผ้ากับลูกค้า ได้ยินลูกค้าตะโกนเสียงดังโหวกเหวกว่า “3x8ได้ 23 ทำไมท่านถึงให้ข้าจ่าย 24 เหรียญล่ะ!”
เอี๋ยนหุยจึงเดินเข้าไปที่ร้าน หลังจากทำความเคารพแล้ว ก็กล่าวว่า “พี่ชาย 3x8 ได้ 24 จะเป็น 23 ได้ยังไง? พี่ชายคิดผิดแล้ว ไม่ต้องทะเลาะกันหรอก”
คนซื้อผ้าไม่พอใจเป็นอย่างยิ่ง ชี้หน้าเอี๋ยนหุยและกล่าวว่า “ใครให้เจ้าเข้ามายุ่ง! เจ้าอายุเท่าไหร่กัน! คนที่จะตัดสินได้ก็มีเพียงท่านขงจื้อเท่านั้น ผิดหรือถูกมีท่านขงจื๊อผู้เดียวที่ข้าจะยอมรับ ไป ไปหาท่านขงจื้อกัน ”
เอี่ยนหุยกล่าวว่า “ก็ดี หากท่านขงจื้อบอกว่าท่านผิด ท่านจะทำอย่างไร?”
คนซื้อผ้ากล่าวว่า“หากท่านวินิจฉัยว่าข้าผิด ข้ายอมให้หัวหลุดจากบ่า! แล้วหากเจ้าผิดล่ะ?”
เอี๋ยนหุยกล่าวว่า “หากท่านวินิจฉัยว่าข้าผิด ข้ายอมถูกปลดหมวก(ตำแหน่ง)”
ทั้งสองจึงเกิดการเดิมพันขึ้น
เมื่อขงจื้อสอบถามจนเกิดความกระจ่าง ก็ยิ้มให้กับเอี๋ยนหุยและกล่าวว่า “3x8ได้ 23 ถูกต้องแล้วเอี๋ยนหุย เธอแพ้แล้ว ถอดหมวกของเธอให้พี่ชายท่านนี้เสีย”
เอี๋ยนหุย ไม่โต้แย้ง ยอมรับในการวินิจฉัยของท่านอาจารย์ จึงถอดหมวกที่สวมให้แก่ชายคนนั้น
ชายผู้นั้นเมื่อได้รับหมวกก็ยิ้มสมหวังกลับไป
ต่อคำวินิจฉัยของขงจื้อ ต่อหน้าแม้เอี๋ยนหุยจะยอมรับ แต่ในใจกลับไม่ได้คิดเช่นนั้น
เอี๋ยนหุยคิดว่าท่านอาจารย์ชรามากแล้ว ความคิดคงเลอะเลือน จึงไม่อยากอยู่ศึกษากับขงจื้ออีกต่อไป
พอรุ่งขึ้น เอี๋ยนหุยจึงเข้าไปขอลาอาจารย์กลับบ้าน ด้วยเหตุผลที่ว่าที่บ้านเกิดเรื่องราว ต้องรีบกลับไปจัดการ ขงจื้อรู้ว่าเอี๋ยนหุยคิดอะไรอยู่ ก็ไม่สอบถามมากความ อนุญาตให้เอี๋ยนหุยกลับบ้านได้
ก่อนที่เอี๋ยนหุยจะออกเดินทาง ได้เข้าไปกราบลาขงจื้อ ขงจื้อกล่าวอวยพรและให้รีบกลับมาหากเสร็จกิจธุระแล้ว พร้อมกันนั้นก็ได้กำชับว่า “อย่าแฝงเร้นกายใต้ต้นไม้ใหญ่ อย่าฆ่าผู้ใดหากไม่ชัดแจ้ง” เอี๋ยนหุยคำนับพร้อมกล่าวว่า “ศิษย์จะจำใส่ใจ” แล้วลาอาจารย์ออกเดินทาง
เมื่อออกเดินทางไปได้ระยะหนึ่ง เกิดพายุลมแรงสายฟ้าแลบแปลบ เอี๋ยนหุยคิดว่าต้องเกิดพายุลมฝนเป็นแน่ จึงเร่งฝีเท้าเพื่อจะเข้าไปอาศัยอยู่ไต้ต้นไม้ใหญ่ แต่ก็ฉุกคิดถึงคำกำชับของท่านอาจารย์ที่ว่า “อย่าแฝงเร้นกายใต้ต้นไม้ใหญ่ อย่าฆ่าผู้ใดหากไม่ชัดแจ้ง” เราเองก็ติดตามท่านอาจารย์มาเป็นเวลานาน ลองเชื่ออาจารย์ดูอีกสักครั้ง คิดได้ดังนั้น จึงเดินออกจากต้นไม้ใหญ่
ในขณะที่เอี๋ยนหุยเดินไปได้ไม่ไกลนัก บัดดล สายฟ้าก็ผ่าต้นไม้ใหญ่นั้นล้มลงมาให้เห็นต่อหน้าต่อตา เอี๋ยนหุยตะลึงพรึงเพริด คำกล่าวของพระอาจารย์ประโยคแรกเป็นจริงแล้ว หรือตัวเราจะฆ่าใครโดยไม่รู้สาเหตุ? เอี๋ยนหุยจึงรีบเดินทางกลับ กว่าจะถึงบ้านก็ดึกแล้ว แต่ไม่กล้าปลุกคนในบ้าน เลยใช้ดาบที่นำติดตัวมาค่อยๆเดาะดาลประตูห้องของภรรยา
เมื่อเอี๋ยนหุยคลำไปที่เตียงนอน ก็ต้องตกใจ ทำไมมีคนนอนอยู่บนเตียงสองคน! เอี๋ยนหุยโมโหเป็นอย่างยิ่ง จึงหยิบดาบขึ้นมาหมายปลิดชีพผู้ที่นอนอยู่บนเตียง เสียงกำชับของอาจารย์ก็ดังขึ้นมา “อย่าฆ่าผู้ใดหากไม่ชัดแจ้ง” เมื่อเขาจุดตะเกียง จึงได้เห็นว่า คนหนึ่งคือภรรยา อีกคนหนึ่งคือน้องสาวของเขาเอง
พอฟ้าสาง เอี๋ยนหุยก็รีบกลับสำนัก เมื่อพบหน้าขงจื้อจึงรีบคุกเข่ากราบอาจารย์และกล่าวว่า “ท่านอาจารย์ คำกำชับของท่านได้ช่วยชีวิตของศิษย์ ภรรยาและน้องสาวไว้ ทำไมท่านจึงรู้เหมือนตาเห็นว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับศิษย์บ้าง?”
ขงจื้อพยุงเอี๋ยนหุยให้ลุกขึ้น และกล่าวว่า “เมื่อวานอากาศไม่ค่อยสู้ดีนัก น่าจะมีฟ้าร้องฟ้าแลบเป็นแน่ จึงเตือนเธอว่า อย่าแฝงเร้นกายใต้ต้นไม้ใหญ่ และเมื่อวาน เธอจากไปด้วยโทสะ แถมยังพกดาบติดตัวไปด้วย อาจารย์จึงเตือนเธอว่า อย่าฆ่าผู้ใดหากไม่ชัดแจ้ง ”
เอี๋ยนหุยโค้งคำนับ “ท่านอาจารย์คาดการดังเทวดา ศิษย์รู้สึกเคารพเลื่อมใสท่านเหลือเกิน”
ขงจื้อจึงตักเดือนเอี๋ยนหุยว่า “อาจารย์ว่าที่เธอขอลากลับบ้านนั้นเป็นการโกหก ที่จริงแล้วเธอคิดว่าอาจารย์แก่แล้ว ความคิดเลอะเลือน ไม่อยากศึกษากับอาจารย์อีกแล้ว เธอลองคิดดูสิ อาจารย์บอกว่า 3x8ได้ 23 เธอแพ้ ก็เพียงแค่ถอดหมวก หากอาจารย์บอกว่า 3x8ได้ 24 เขาแพ้ นั่นหมายถึงชีวิตของคนๆหนึ่ง เธอคิดว่าหมวกหรือชีวิตสำคัญล่ะ? ”
เอี๋ยนหุยกระจ่างในฉับพลัน คุกเข่าต่อหน้าขงจื้อ แล้วกล่าวว่า “ท่านอาจารย์เห็นคุณธรรมเป็นสำคัญ โดยไม่เห็นแก่เรื่องถูกผิดเล็กๆน้อยๆ ศิษย์คิดว่าอาจารย์แก่ชราจึงเลอะเลือน ศิษย์เสียใจเป็นที่สุด”
จากนั้นเป็นต้นไป ไม่ว่าขงจื้อจะเดินทางไปยังแห่งหนตำบลใด เอี๋ยนหุยติดตามไม่เคยห่างกาย
จากตำนานเรื่องเล่านี้ ทำให้นึกถึงเพลงๆหนึ่งของอิวเค่อหลี่หลิน(นักร้องดูโอของไต้หวัน) ที่ร้องว่า “หากสูญเสียเธอไป ต่อให้เอาชนะทั้งโลกได้แล้วจะยังไง?
เช่นกัน.......บางครั้งคุณอาจเอาชนะคนอื่นด้วยเหตุผลของคุณ แต่อาจจะสูญเสียสิ่งที่สำคัญที่สุดไป...
เรื่องราวต่างๆ แบ่งเป็นหนักเบารีบช้า อย่าเป็นเพราะต้องการเอาชนะให้ได้ แล้วทำให้เสียใจไปตลอดชีวิต เรื่องราวมากมายที่ไม่ควรทะเลาะกัน ถอยหนึ่งก้าวทะเลกว้างฟ้างาม
ทะเลาะกับลูกค้า ต่อให้ชนะ ก็แพ้อยู่ดี (วันที่ส่งตัวอย่างผลิตภัณฑ์ใหม่ คุณก็จะรู้สึก)
ทะเลาะกับเจ้านาย ต่อให้ชนะ ก็แพ้อยู่ดี (วันที่ประเมินผลงานปลายปีมาถึง คุณก็จะรู้สึก)
ทะเลาะกับภรรยา ต่อให้ชนะ ก็แพ้อยู่ดี (เธอไม่สนใจคุณ คุณก็หากับข้าวกินเองละกัน)
ทะเลาะกับเพื่อน ต่อให้ชนะ ก็แพ้อยู่ดี (เคลียร์ไม่ได้ คุณอาจจะเสียเพื่อนไปเลย)
ใบชา เกิดสีสวยและกลิ่นหอมน่าลิ้มลองได้ ก็เพราะโดนน้ำร้อนลวก ชีวิตของคนเราก็เช่นเดียวกัน เพราะเผชิญกับอุปสรรคครั้งแล้วครั้งเล่า จึงเหลือไว้ซึ่งเรื่องราวเป็นตำนานให้ได้เล่าขานน่าตามติด
ผู้ที่รู้สำนึกคุณอยู่เสมอ จึงเป็นผู้มีวาสนามากที่สุด...........................
ที่มาของคำว่า "สวัสดี "
"ฮัลโหล" เป็นคำทักทายที่ใช้มากที่สุดในการรับโทรศัพท์ บ่อยครั้งเราก็นำมาใช้เป็นคำทักทาย ระหว่างเพื่อนฝูง เมื่อพบเจอกัน ทุกวันนี้คนไทยใช้คำว่า "ฮัลโหล" กันจนติดปาก จนบางคนอาจจะลืมไปแล้วว่า คนไทยเราเองก็มีคำทักทายแบบไทย ๆ ที่มีความงดงามทางภาษา มีความไพเราะ และเป็นคำที่มีความหมายดีด้วย
เป็นเวลากว่า 64 ปีแล้ว ที่คำว่า "สวัสดี" ได้ก้าวเข้ามาในชีวิตของคนไทย ผู้ที่คิดค้นคำนี้ขึ้นก็คือ "พระยาอุปกิตศิลปสาร (นิ่ม กาญจนาชีวะ)" ซึ่งในขณะนั้นท่านเป็นอาจารย์สอนที่คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ท่านได้นำคำว่า "สวัสดี" ทดลองใช้ในหมู่นิสิตจุฬาก่อน หลังจากนั้นรัฐบาลในสมัยจอมพล ป.พิบูลสงคราม เป็นนายกรัฐมนตรีได้เห็นชอบให้นำคำว่า "สวัสดี" มาใช้เป็นคำทักทายอย่างเป็นทางการ เมื่อปีพ.ศ. 2486
คำว่า "สวัสดี" นั้น พระยาอุปกิตศิลปสาร (นิ่ม กาญจนาชีวะ) ได้พิจารณามาจากศัพท์ "โสตถิ" ในภาษาบาลี หรือ "สวัสดิ" (สะ-หวัด-ดิ) ในภาษาสันสกฤต ซึ่งเป็นคำที่ใช้ในวรรณคดีไทยมานาน โดยคำว่า "โสตถิ" หรือ "สวัสดิ์" นี้พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถานให้ความหมายว่า
สวัสดิ์ สวัสดี มีความหมายว่า ความดี ความงาม ความเจริญรุ่งเรือง ความปลอดภัย
โสตถิ มีความหมายว่า ความสวัสดี ความเจริญรุ่งเรือง
จะเห็นได้ว่าคำดังกล่าว เป็นความหมายที่ดี จึงมีความเหมาะสม ที่จะใช้กล่าวเมื่อแรกพบกัน หรือเมื่อลาจากกัน เพราะสวัสดี ไม่ได้เป็นเพียงแค่ คำทักทายเท่านั้น แต่ยังเปี่ยมไปด้วยไมตรีจิต เป็นการอวยพรให้กับผู้ที่เราสนทนา ให้ประสบแต่สิ่งดี ๆ นั่นเป็นลักษณะพิเศษในคำทักทายของคนไทย ซึ่งในคำทักทายของหลายชาติไม่มีเหมือน ยกตัวอย่างคำว่า "ฮัลโหล" ในภาษาอังกฤษ ก็แค่ทักทายกันเมื่อพบกัน คำว่า "หนีฮ่าว" ของภาษาจีนนั้นก็มีความหมายว่าคุณสบายดีไหม ส่วนคำทักทายทั้ง 3 เวลาของชาวญี่ปุ่นนั้น ก็จะเป็นแค่การทักทายโดยทั่วไป ไม่ได้มีความหมายพิเศษอื่น ๆ แต่อย่างไร
ส่วนคำว่า "สวัสดี" นั้นจะทำหน้าทีทั้งการทักทาย และอวยพรไปในคราวเดียวกัน และ เมื่อเรากล่าวคำสวัสดี คนไทยเรายังยกมือขึ้นประนมไหว้ตรงอก มือทั้งสองจะประสานกันเป็นรูปดอกบัวตูม เหมือนสัญลักษณ์ที่สื่อความหมาย ถึงสิ่งสูงค่าที่เป็นมงคล เพราะชาวไทยใช้ดอกบัวในการสักการะผู้ใหญ่บูชาพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ส่วนการวางมือไว้ตรงระดับหัวใจนั้น เป็นการถ่ายทอดความรู้สึกให้เห็นว่า การทักทายนั้น มาจากใจของผู้ไหว้
ดังนั้น เมื่อกล่าวคำว่า สวัสดี พร้อมกับการยกมือขึ้นประนม จึงแฝงให้เห็นถึงความมีจิตใจที่งดงามของคนไทย ที่หวังให้ผู้อื่นพบเจอแต่ในสิ่งที่ดี ซึ่งการกระทำที่งดงามดังกล่าวนี้ ถือเป็นมงคลทั้งต่อตัวผู้พูด และผู้ฟัง
ไม่ว่าโลกจะล้ำหน้าไปขนาดไหนเพียงใดก็ตาม แต่การทักทายด้วยคำว่า สวัสดี ที่สื่อถึงความจริงใจมีไมตรี และความปรารถนาดี ที่คนไทยมีต่อกันและกันนั้น ก็ยังไม่เคยล้าสมัย
ซึ่งชาวต่างชาติเขาก็ยังชื่นชมวัฒนธรรมล้ำค่านี้ แล้วพวกเราจะปล่อยให้ การคำทักทายอย่าง "สวัสดี" นั้นสูญสลายหายไปตามกาลเวลาหรือ....
สวัสดีค่ะ
ที่มาของคำว่า "สวัสดี "
"ฮัลโหล" เป็นคำทักทายที่ใช้มากที่สุดในการรับโทรศัพท์ บ่อยครั้งเราก็นำมาใช้เป็นคำทักทาย ระหว่างเพื่อนฝูง เมื่อพบเจอกัน ทุกวันนี้คนไทยใช้คำว่า "ฮัลโหล" กันจนติดปาก จนบางคนอาจจะลืมไปแล้วว่า คนไทยเราเองก็มีคำทักทายแบบไทย ๆ ที่มีความงดงามทางภาษา มีความไพเราะ และเป็นคำที่มีความหมายดีด้วย
เป็นเวลากว่า 64 ปีแล้ว ที่คำว่า "สวัสดี" ได้ก้าวเข้ามาในชีวิตของคนไทย ผู้ที่คิดค้นคำนี้ขึ้นก็คือ "พระยาอุปกิตศิลปสาร (นิ่ม กาญจนาชีวะ)" ซึ่งในขณะนั้นท่านเป็นอาจารย์สอนที่คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ท่านได้นำคำว่า "สวัสดี" ทดลองใช้ในหมู่นิสิตจุฬาก่อน หลังจากนั้นรัฐบาลในสมัยจอมพล ป.พิบูลสงคราม เป็นนายกรัฐมนตรีได้เห็นชอบให้นำคำว่า "สวัสดี" มาใช้เป็นคำทักทายอย่างเป็นทางการ เมื่อปีพ.ศ. 2486
คำว่า "สวัสดี" นั้น พระยาอุปกิตศิลปสาร (นิ่ม กาญจนาชีวะ) ได้พิจารณามาจากศัพท์ "โสตถิ" ในภาษาบาลี หรือ "สวัสดิ" (สะ-หวัด-ดิ) ในภาษาสันสกฤต ซึ่งเป็นคำที่ใช้ในวรรณคดีไทยมานาน โดยคำว่า "โสตถิ" หรือ "สวัสดิ์" นี้พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถานให้ความหมายว่า
สวัสดิ์ สวัสดี มีความหมายว่า ความดี ความงาม ความเจริญรุ่งเรือง ความปลอดภัย
โสตถิ มีความหมายว่า ความสวัสดี ความเจริญรุ่งเรือง
จะเห็นได้ว่าคำดังกล่าว เป็นความหมายที่ดี จึงมีความเหมาะสม ที่จะใช้กล่าวเมื่อแรกพบกัน หรือเมื่อลาจากกัน เพราะสวัสดี ไม่ได้เป็นเพียงแค่ คำทักทายเท่านั้น แต่ยังเปี่ยมไปด้วยไมตรีจิต เป็นการอวยพรให้กับผู้ที่เราสนทนา ให้ประสบแต่สิ่งดี ๆ นั่นเป็นลักษณะพิเศษในคำทักทายของคนไทย ซึ่งในคำทักทายของหลายชาติไม่มีเหมือน ยกตัวอย่างคำว่า "ฮัลโหล" ในภาษาอังกฤษ ก็แค่ทักทายกันเมื่อพบกัน คำว่า "หนีฮ่าว" ของภาษาจีนนั้นก็มีความหมายว่าคุณสบายดีไหม ส่วนคำทักทายทั้ง 3 เวลาของชาวญี่ปุ่นนั้น ก็จะเป็นแค่การทักทายโดยทั่วไป ไม่ได้มีความหมายพิเศษอื่น ๆ แต่อย่างไร
ส่วนคำว่า "สวัสดี" นั้นจะทำหน้าทีทั้งการทักทาย และอวยพรไปในคราวเดียวกัน และ เมื่อเรากล่าวคำสวัสดี คนไทยเรายังยกมือขึ้นประนมไหว้ตรงอก มือทั้งสองจะประสานกันเป็นรูปดอกบัวตูม เหมือนสัญลักษณ์ที่สื่อความหมาย ถึงสิ่งสูงค่าที่เป็นมงคล เพราะชาวไทยใช้ดอกบัวในการสักการะผู้ใหญ่บูชาพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ส่วนการวางมือไว้ตรงระดับหัวใจนั้น เป็นการถ่ายทอดความรู้สึกให้เห็นว่า การทักทายนั้น มาจากใจของผู้ไหว้
ดังนั้น เมื่อกล่าวคำว่า สวัสดี พร้อมกับการยกมือขึ้นประนม จึงแฝงให้เห็นถึงความมีจิตใจที่งดงามของคนไทย ที่หวังให้ผู้อื่นพบเจอแต่ในสิ่งที่ดี ซึ่งการกระทำที่งดงามดังกล่าวนี้ ถือเป็นมงคลทั้งต่อตัวผู้พูด และผู้ฟัง
ไม่ว่าโลกจะล้ำหน้าไปขนาดไหนเพียงใดก็ตาม แต่การทักทายด้วยคำว่า สวัสดี ที่สื่อถึงความจริงใจมีไมตรี และความปรารถนาดี ที่คนไทยมีต่อกันและกันนั้น ก็ยังไม่เคยล้าสมัย
ซึ่งชาวต่างชาติเขาก็ยังชื่นชมวัฒนธรรมล้ำค่านี้ แล้วพวกเราจะปล่อยให้ การคำทักทายอย่าง "สวัสดี" นั้นสูญสลายหายไปตามกาลเวลาหรือ....
สวัสดีค่ะ
สันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทย ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อการจากไปของคุณอารี ภู่สกุล ผู้จัดการสหกรณ์การเกษตรเมืองพระนครศรีอยุธยา จำกัด ผนส. 5
สันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทย ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อการจากไปของคุณอารี ภู่สกุล ผู้จัดการสหกรณ์การเกษตรเมืองพระนครศรีอยุธยา จำกัด ผนส. 5
ในนามของ ผนส.2 ต้องขอแสดงความเสียใจกับ ครอบครัว ของ คุณอารีย์ ภู่สกุล ผู้จัดการสหกรณ์การเกษตรเมืองอยุธยา จำกัด ที่จากไปอย่างกระทันหัน ด้วยความอาลัยอย่างสุดซึ้ง
ผนส. 2 ทุกท่านขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวของคุณอารีย์ ภู่สกุล เป็นอย่างยิ่ง
สิ่งหนึ่งสิ่งเดียวที่พี่จากเราไปคือร่างกาย แต่สิ่งที่พี่ทิ้งไว้คือมิตรภาพของพวกเราและความทรงจำที่จะยังคงอยู่กับพวกเราตลอดไป
พี่และเพื่อนและน้อง ผนส.5
พวกเราในนามของ ผนส.5
ขอขอบคุณ ที่ทุกท่านแสดงความเสียใจในการจากไปของพี่อารีย์ ภู่สกุล
ด้วยความซาบซึ้ง
ผมขอร่วมอาลัยคุณอารีย์ ภู่สกุล ผนส. 5 และขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวของคุณอารีย์ด้วยครับ (ขออภัยด้วยที่ตกข่าว เพราะเพิ่งทราบ เนื่องจากเพิ่งมีเวลาเข้ามาอ่าน Block ครับ)
มนตรี ช่วยชู
ผนส. 4 เบอร์ 40
ผมขอร่วมอาลัยคุณอารีย์ ภู่สกุล ผนส. 5 และขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวของคุณอารีย์ด้วยครับ (ขออภัยด้วยที่ตกข่าว เพราะเพิ่งทราบ เนื่องจากเพิ่งมีเวลาเข้ามาอ่าน Blog ครับ)
มนตรี ช่วยชู
ผนส. 4 เบอร์ 40
ผมขอร่วมอาลัยคุณอารีย์ ภู่สกุล ผนส. 5 และขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวของคุณอารีย์ด้วยครับ (ขออภัยด้วยที่ตกข่าว เพราะเพิ่งทราบ เนื่องจากเพิ่งมีเวลาเข้ามาอ่าน Blog ครับ)
มนตรี ช่วยชู
ผนส. 4 เบอร์ 40
...รวงข้าวที่ลีบและเบา มักชูตัวสูง แกว่งไปมา เพราะภายในกลวง ไม่มีอะไร
...รวงข้าวที่หนักสุกปลั่ง จะค้อมตัวต่ำนิ่งงดงาม เพราะภายในหนักด้วยคุณค่า และเนื้อหา
...คนเรายิ่งก้าวขึ้นสูง ถ้าทำตัวให้ยิ่งอ่อนน้อมลงต่ำ ก็ประดุจรวงข้าว ที่ยิ่งหนัก ยิ่งอร่ามงดงาม...
สวัสดีครับอาจารย์ เพื่อน ผนส. ทุกท่าน
ตามที่ ผนส. 2 มีมติส่ง ผม คุณอรุณี และคุณประวัติ ลงสมัครเป็นผู้ตรวจสอบกิจการ ชสอ. นั้น ขณะนี้ได้สมัครเรียบร้อยแล้ว ได้รับเบอร์ 1 ถึง 3 ตามลำดับ จึงขอรับการสนับสนุนจากเพื่อนๆ ผนส. ทุกท่าน และหากมีเพื่อนที่รู้จักกรุณาแนะนำให้ด้วย จักเป็นพระคุณยิ่ง เลือกตั้งวันที่ 11 มิถุนายน 2554 ที่เมืองทองธานีครับ
เรียนทุกท่าน
ขอเชิญเข้าร่วมหลักสูตร “พัฒนาผู้นำ ... การบริหารภายใต้วิกฤตและความเสี่ยง” มีรายละเอียดในลิ้งค์นี้
ขอเชิญเข้าร่วมสัมมนา มีรายละเอียดในลิ้งค์นี้