หัวใจเศรษฐี


เศรษฐีที่แท้

      หัวใจของเศรษฐีคืออะไร หลายท่านคงอยากรู้ เผื่อว่าเรามีแล้วจะได้เป็นเศรษฐีกับเขาบ้าง และเมื่อให้ท่านลองตอบว่าหัวใจของเศรษฐีคืออะไร  คำตอบที่ได้ก็มักจะเป็น การรู้จักประหยัด อดออม รู้จักใช้จ่ายในสิ่งที่จำเป็น ไม่จ่ายเงินสุรุ่ยสุร่าย ขยันขันแข็งทำงานหากิน รู้จักลงทุนอย่างชาญฉลาด ให้มีความเสี่ยงน้อยที่สุดได้กำไรมากที่สุด แต่สิ่งที่กล่าวมาเหล่านี้เป็นเพียงวิธีการที่จะนำไปสู่การเป็นเศรษฐีเท่านั้นหาได้เป็นหัวใจของเศรษฐีไม่ หลายคนเพียรปฏิบัติตามวิธีการดังกล่าวมาหลายปี ก็ยังรู้สึกว่าไม่ได้เป็นเศรษฐีกับเขาเสียที รู้สึกว่าต้องมีทรัพย์สินเงินทองให้มากกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน ถึงจะเป็นเศรษฐีตามที่คิดไว้ เพราะยังมีเศรษฐีอีกหลาย ๆ คนที่ร่ำรวยกว่ามาก หลายคนจึงทุ่มเทเวลาในการหาเงินจนบางครั้งเกิดปัญหาในครอบครัวเพราะไม่มีเวลาให้กับครอบครัว  หลายคนประหยัดมาก ๆ แม้กระทั่งจะใช้เงินของตนในการทำบุญ กุศล ช่วยเหลือคนอื่นบ้างตามโอกาสก็รู้สึกเสียดาย หรือบางคนไม่เคยยอมเสียเปรียบเพื่อนในการใช้จ่ายเวลาไปกินไปเที่ยวกับเพื่อน ๆ ต้องคิดคำนวณว่าต้องจ่ายเท่ากันมากที่สุด ถ้าตนเองต้องเสียเกินไปบ้างก็เก็บไปคิดว่าตนเองเสียเปรียบ ไม่ยุติธรรม ไปเที่ยวไปกินกลับมาแล้วก็ไม่สนุกเพราะคิดถึงเรื่องที่ตนเองเสียเปรียบ ที่เป็นเช่นนี้เพราะให้ความสำคัญของเงินทองมากเกินไป จนลืมไปว่าความสุขที่เกิดจากการให้เป็นอย่างไร จึงตั้งหน้าเก็บเงิน ประหยัดให้มากที่สุด เพื่อให้สะสมเงินทองให้มากมายหรือเรียกว่าเป็นเศรษฐี ทั้งนี้เพราะไม่รู้ว่าอะไรคือหัวใจของเศรษฐีนั่นเอง 

      ถึงตรงนี้หลายท่านคงอยากรู้ว่า อะไรคือหัวใจของเศรษฐี   ผมขอแอบบอกความลับหัวใจของเศรษฐีให้ท่านได้ทราบเพื่อจะได้เป็นเศรษฐีบ้าง   หัวใจเศรษฐีที่แท้จริงแล้วก็คือ การรู้จักให้ เพราะการให้ที่มาจากจิตใจของผู้ให้นั้นเป็นการแสดงถึง การเติมเต็มแล้วของผู้ให้ซึ่งมีมากพอทั้งความดี ความเมตตา กรุณา การมีทรัพย์สิ่งของ จึงหันมาแบ่งปันทรัพย์ของตนช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ หรือสังคมบ้างตามโอกาส เมื่อคิดว่าตนเองมีกินมีใช้พอควรแล้ว แต่ไม่ใช่การให้เพื่อเอาหน้าตาทางสังคม เปรียบเสมือนเศรษฐีที่มีอุดมพรั่งพร้อมทรัพย์สมบัติต่าง ๆ แล้วจึงเสียสละบริจาคทรัพย์บ้างเพื่อฝึกฝนตนเองให้เอาชนะความตระหนี่ ละความยึดมั่นถือมั่นในทรัพย์สมบัติต่าง ๆ ไม่ให้ยึดติดมากเกินไป เพราะรู้ว่าสิ่งดังกล่าวเป็นเพียงสิ่งสมมุติทางโลก เมื่อตนเองตายไปก็เอาไปด้วยไม่ได้

      มีหลายคนที่กันเงินเพื่อเก็บสะสมจำนวนหนึ่ง เอาไว้ไปช่วยเหลือคนที่ด้อยโอกาสเมื่อสิ้นปี หรือวันเกิดของตน บางคนเอาบาตรเล็ก ๆ มาตั้งไว้ที่บ้านแล้วหยอดเงินเล็ก ๆ น้อย ๆ สะสมจนเต็มบาท แล้วนำไปช่วยเหลือเด็กที่ขาดพ่อแม่ ขาดเงินในการศึกษาเล่าเรียน ซึ่งเป็นความต้องการให้ที่เกิดจากจิตใจของผู้ที่รู้สึกว่าตนเองมีเพียงพอพรั่งพร้อมทั้งทรัพย์สิน และความเมตตา กรุณาแล้ว เปรียบเสมือนผู้ที่เข้าถึงแล้วของหัวใจเศรษฐี ในขณะที่หลายคนเพียรพยายามตั้งหน้าตั้งตาเก็บเงิน มีความสุขทุกครั้งที่เห็นจำนวนเงินที่เพิ่มขึ้น แต่เป็นความรู้สึกที่ดีที่เกิดจากการได้รับ เป็นความรู้สึกสุขใจที่เกิดเพื่อตนเองเท่านั้น ในขณะที่ผู้ที่มีหัวใจของเศรษฐี จะมีความสุขที่เกิดจากการให้ เป็นความรู้สึกสุขใจที่เกิดเพื่อผู้อื่นเป็นสุขด้วย เป็นความสุขที่เกิดจากได้ช่วยบรรเทาความทุกข์ยาก เดือดร้อนของเพื่อนมนุษย์ ท่านใดที่เข้าถึงหัวใจของเศรษฐีที่แท้ ท่านนั้นก็จะสัมผัสกับความสุขที่เกิดจากการให้ การเสียสละทรัพย์บางส่วน การได้ฝึกตนเองให้เอาชนะความตระหนี่ เพราะเศรษฐีที่แท้ไม่ได้ขึ้นอยู่กับจำนวนเงินหรือทรัพย์สมบัติที่มากมาย แต่เกิดจากความรู้สึกว่าตนเองเพียงพอ และเผื่อแผ่ความเพียงพอของตนไปสู่คนอื่น ๆ บ้างเท่านั้นเอง......ดังนั้นคนที่มีเงินทองมากมายแต่เป็นคนที่ตระหนี่ถี่เหนียว ไม่รู้จักความพอเพียง ไม่รู้จักการให้ก็ไม่กล่าวได้ว่าเข้าถึงหัวใจของเศรษฐี เป็นเพียงผู้ที่กำลังมุ่งมั่นสะสมทรัพย์สมบัติต่าง ๆ อย่างไม่รู้จักเพียงพอเท่านั้นเอง

 

 

หมายเลขบันทึก: 369634เขียนเมื่อ 26 มิถุนายน 2010 16:55 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 23:07 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (14)

สวัสดีค่ะน้องชำนาญ

การให้ทำให้เราเป็นเศรษฐีความสุข ความพอเพียง เพราะหากไม่ให้เลยก็ไม่ใช่การเดินสายกลาง

เป็นข้อคิดที่ดีค่ะ กระตุ้นให้เรารู้จักการให้ การเสียสละ

ขอบคุณค่ะ

สวัสดีค่ะ

อ่านบันทึกหัวใจเศรษฐีของคุณชำนาญแล้วชื่นใจ อิ่มเอมใจจังเลย  อยากให้คนในสังคมคิดแบบนี้ ใช้ชีวิตอย่างพอเพียง ไม่อ้นรนแสวงหาจนเกินขอบเขต เกินกำลังจนก่อให้เกิดความทุกข์...

และที่สำคัญ ต้องรู้จักให้ แบ่งปัน เอื้ออาทรต่อกัน  "รวยน้ำใจ ไม่ใช่รวยทรัพย์สิน"

ขอบคุณมากค่ะ

 

สวัสดีครับพี่ถาวร

  ความสุขที่เกิดจากการให้ แม้จะให้เพียงเล็กน้อยตามที่ตนจะเสียสละได้ แต่ความสุขที่ได้ช่างอิ่มเอมอิ่มใจ อย่างบอกไม่ถูก โลกนี้อยู่ได้ เพราะเรารู้จักให้แบ่งปัน ขอบคุณที่แวะเข้ามาให้กำลังใจอย่างสมำเสมอนะครับ

อ่านบันทึกนี้แล้ว   ทำให้อยากเป็นเศรษฐีขึ้นมาทันที

ปกติก็เป็นเศรษฐีน้อยๆอยู่แล้ว   เพราะชอบที่จะให้มากกว่ารับไม่ว่ากับใครก็ตาม

มีความรู้สึกว่าพอเราให้ปุ๊บก็สบายใจ  โล่ง  อิ่มใจ  บอกไม่ถูก

ไม่ใช่ให้เพราะอยากอวดหรืออยากเด่นแต่..ให้เพราะอยากให้

......การให้มีความสุขมากกว่าการคาดหวังค่ะ.......

สวัสดีครับคุณครูใจดี

    ขอบคุณที่แวะเข้ามาแบ่งปันครับ ถ้าสังคมไทยเรารวยน้ำใจ ช่วยเหลือกัน ก็จะมีความสุขใจทั้งผู้ให้ผู้รับ ผู้ที่รับแล้วก็จะรู้จักให้แบ่งปันต่อ ๆ กันไป เป็นสังคมที่น่าอยู่เหมือนสมัยปู่ ยาตายายเราครับ

สวัสดีครับคุณ krugui Chutima

        ยินดีด้วยครับกับความสุขที่ท่านได้จากการให้ ทุกครั้งที่ได้ให้เป็นการฝึกเอาชนะความตระหนี่ ถือว่าเราชนะตัวเอง และได้เข้าไปสัมผัสกับหัวใจเศรษฐีแล้วครับ ขอบคุณที่แวะเข้ามาทักทายนะครับ

ขอบคุณข้อคิดดีดีดยามเช้านี้

ความสุขจากการให้โดยไม่มีเงื่อนไขเป็นความสุขที่สงบสุขที่สุดครับ

สวัสดีค่ะ

ขอขอบพระคุณกับบันทึกที่สร้างสรรค์ ก่อให้คนอ่านเกิดแนวคิดดี ๆตามไปด้วย  ดีใจมากค่ะที่ได้อ่านบันทึกแบบนี้ยามเช้า ๆ ขอชื่นชมและเป็นกำลังใจให้นะคะ

การให้คือ...หัวใจของเศรษฐี  จะจดจำไปสั่งสอนลูกศิษย์ ลูกเล็กเด็กแดงค่ะ  ยังมีอีกหลายท่านที่อยากจะเป็นผู้ให้แต่ไม่ทราบจะให้อย่างไร  โปรดมาอ่านบันทึกนี้นะคะ

  • สวัสดีครับคุณพรเทพ
  • ยินดีครับที่แวะเข้ามาทักทาย สิ่งดี ๆ ย่อมเกิดจากจิตใจที่ดี การที่มีผู้รับสิ่งดี ๆ ต่อ ๆ กันได้ผู้รับก็ต้องมีจิตใจดีด้วยจึงจะรับสิ่งดี ๆ นั้นได้ เสมือนการรับคลื่นวิทยุครับจะรับคลื่นได้ ตัวรับก็ต้องมีความถี่คลื่นที่เท่ากัน หรือใกล้เคียงกันครับ
  • สวัสดีครับคุณครูคิม
  • ขอบคุณสำหรับกำลังใจที่มอบให้ในยามเช้า เหมือนน้ำฝนจากฟากฟ้า โปรยลงมาให้เย็นชุ่มฉ่ำใจครับ
  • ยินดีมากครับที่คุณครูจะนำแนวคิดนี้บอกลูกศิษย์ ผู้ที่ให้ ย่อมมีใจเป็นสุขครับ

สวัสดีค่ะ

ได้อ่านบันทึก "หัวใจของเศรษฐี" ได้ข้อคิดดี ๆ มากมายเลยค่ะ ขอบคุณสำหรับสาระประโยชน์ที่นำมาแบ่งปันกันค่ะ

ขอบคุณค่ะ

  • สวัสดีครับคุณบุษรา
  • ยินดีที่แวะเข้ามาทักทายและร่วมแบ่งปันครับ หวังว่าคงได้หัวใจของเศรษฐีไปคนละดวงนะครับ

ขอบคุณสำหรับข้อคิดดีๆนะครับ สำหรับผมแล้วหัวใจเศรษฐีนอกจากการให้แล้ว การรู้จักพอใจในสิ่งที่ตนมีก็เป็นสิ่งหนึ่งของหัวใจเศรษฐีก็คือพอเพียงแต่ไม่ใช่หยุดเท่านี้ บางครั้งผมคิดว่าคนที่เป็นเศรษฐีแล้วทำไมเค้ายังไม่หยุดหรือพอใจกับการที่เขาเป็น แต่เมื่อเราผ่านเข้าไปถึงจุดนั้นก็พบว่า "ความพอเพียง" ที่ว่าคือพอใจในขณะนั้นจะดีหรือร้ายก็พอใจและยอมรับผล แต่ไม่หยุดอยู่กับที่นะครับ ต้องขวานขวายในสิ่งที่สูงกว่า ผมเคยคิดว่านี้คือ "ความโลภหรือเปล่า" เคยมีคนบอกว่าพวกที่รำ่รวยเป็นเศรษฐีมัีกได้ เอาเปรียบคนโน่นคนนี้ แต่ผมว่าไม่ใช่ ผมใช้เวลานั่งดูจิตใจตัวเองก็ได้คำตอบว่า "ทำไม่คนที่รำ่รวยถึงรำ่รวยเป็นเศรษฐีไปเรือยๆ เพราะเขาไม่หยุดอยู่กับที่ สิ่งที่แบ่งคนที่ยากจนกับคนที่รำ่รวยก็คือมุมมอง สิ่งที่แบ่งคนที่ไม่มีหัวใจเศรษฐีและคนที่มีหัวใจเศรษฐีคือเชืื่อและความศรัทธา

การที่มีหัวใจของเศรษฐีไม่ใช่เพียงแค่การให้ แต่มันมีสิ่งที่ซ่อนลึกอยู่ในนั้นอีกมาก ขอให้ทุกคนเป็นคนดีและมีหัวใจเศรษฐีนะครับ

  • สวัสดีครับคุณ krit
  • ขอบคุณที่ร่วมแบ่งปันความเห็นครับ
  • เศรษฐีเป็นได้ถ้ารู้จัก พอใจ และพอเพียง ที่กล่าวมา ถือเป็นความรู้สึกทางใจ ที่รับรู้ได้เฉพาะตัวครับ เมื่อพอใจในทรัพย์ที่มี และหันมารู้จักให้ คือ สิ่งที่ยิ่งกว่าการพอแค่ตัวเอง แต่หมายถึงการเผื่อแผ่ ที่มาจากความคิดว่าตัวเองมีมากเพียงพอ ผิดกับคนมีที่ไม่รู้จักให้เพราะกลัวของตัวเองจะลดไป น้อยไป ให้แล้วก็ไม่สบายใจ ดังนั้นคนที่มีทรัพย์สมบัติน้อยๆ ที่รู้จักให้ ก็สามารถสัมผัสความสุขแห่งหัวใจเศรษฐีได้โดยไม่รู้ตัว
  • ส่วนใครจะมองว่าใครจะร่ำรวยเท่าไหร่ ก็อยู่ที่มุมมองของแต่ละคนนั่นเอง ดังที่ท่านกล่าวครับ
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท