APHN foundation workshop in Malaysia


วันที่ 19-22 มิุุถุนายน มีการจัด APHN-Malaysian hospis foundation workshop ( Hospis = hospice ไม่ได้เขียนผิดหรอกคะ ที่นี้เขียนภาษามลายู โดยตัวอักษรอังกฤษ จึงเป็นเช่นนี้)  ช่วงนี้เป็นฤกษ์ดีแห่งการจัดงานประชุม สัมมนาเกี่ยวกับ Palliative เสียจริง เพราะมีสามงานชนกันจังๆ  ทั้งที่ สวนดอก Palliative care day (22-23 มิ.ย.)  ที่คุนหมิง (22-24 มิ.ย) และงานนี้ ชนกันเต็มๆ แต่ตัดใจไปมาเลเซียก็ด้วยเหตุว่า
- อยากไปพบ Dr.Rosaline Shaw หลังจากได้รับข่าวว่าปลายปีที่แล้ว ท่านป่วยจนต้องไปพักฟื้นที่ออสเตรเลีย
- อยากพบ Dr.Ednin Hamzah CEO/medical director ของ Malaysia hospis ซึ่งมีหลายคนกล่าวถึงความสามารถของท่าน ในการบริหารยาแก้ปวดที่บ้าน  เผื่อมีโอกาสเชิญมาเมืองไทย
- อยากไปมาเลเซีย ดินแดน Truly asia..อยู่ใกล้กันแค่นี้ มีบินตรงจากเชียงใหม่- กัวลาลัมเปอร์มาตั้งนาน แต่ไม่มีโอกาสไปเสียที

ภาพ: รส skybus ที่สถานีรถไฟฟ้า KLsentral เห็น KL tower กับยอดตึก Petronas ลิบๆ

การเดินทางไปมาเลเซีย นั้นแสนสะดวก การจองสายการบินสีแดงแรงฤทธิ์ สามารถจองรถ skybus จากสนามบินนานาชาติ ( LCCT) เข้าไปในตัวเมือง ส่วนที่เรียกว่าสถานีรถไฟฟ้า KLsentral  การจองผ่าน internet จะถูกกว่าไปซื้อตั๋วเอง (ุ6.5 RM vs 9 RM ; 1 RM ประมาณ 10 บาท)

มีที่พักแถว KLsentral มากมายตั้งแต่โรงแรม 5 ดาว ไปจน YMCA  ที่ฉันจองผ่าน agoda คือ Myhotel@sentral ซึ่งใกล้สนานีเพียงลากกระเป๋าข้ามถนน และราคาห้อง 91 RM/คืน - ห้องสบายแต่ไร้หน้าต่าง (อีกแล้วครับท่าน) ทำให้อดนึกถึง Kongseik hotel ในสิงคโปร์ไม่ได้


my hotel = Myhotel@sentral ไม่หรูแต่ใช้พื้นที่ได้คุ้มค่า อยู่สบายแบบพอเพียง

ที่สถานีรถไฟฟ้า KLsentral มีรถไฟฟ้าหลายเจ้า แต่รู้จัก putra line ก็พอ เพราะเป็นสายที่ผ่านสถานที่ไฮไลท์ อย่าง ตึก Petronas ( KLCC) , Merdeka square - เสาธงยักษ์ สถานที่ประกาศอิสรภาพจากอังกฤษ และไปสถานีที่ใกล้า สถานที่จัด workshop ครั้งนี้คือ Wijaya international medical center ( Taman jaya) ด้วย

ภาพ : ป้ายรถเมล์ที่ติดกับ Wijaya international medical center..เงียบได้ใจจริงๆ

วันแรกฉันยอมเปลืองนั่งแท็กซี่ จากโรงแรมถึงที่จัด workshop เสียไป 15 RM
จากนั้นก็ได้รับการบอกว่า นั่งแท็กซี่ทำไมให้รถติดเสียเวลา ( สำหรับฉัน ไม่เห็นรู้สึกว่ารถติดตรงไหน ก็พอๆ กับเชียงใหม่ตอนเช้าไปทำงาน เจอ กทม.แล้วจะหนาว) ให้นั่งรถไฟฟ้ามาลงที่  Taman jaya 1.6 RM แล้วนั่งรถสาย T505 1 RM เท่านั้น
การใช้ public transport ในประเทศต่างๆ ถือเป็นรสชาดที่ไม่ควรพลาด  เช้าถัดมาฉันจึงทำตาม..สิ่งแรกที่ไม่คาดคิดคือ พอฉันยื่นแบงค์ 5 RM ให้ บังคนขับก็พูดมลายูใส่บลาๆๆ แล้วก็เอาไปวางหน้ารถ? จนมีพระเอกขี่ม้าขาว (แม้ผิวดำแต่ใจดี) มาช่วยจ่าย 1 RM ให้..ประทับใจ
ตอนเย็นขากลับ ยังไม่เข็ด อยากทดสอบสมมติฐานว่า ตกลงรถที่นี่เขาไม่ทอนเงินจริงหรือเปล่า หรือเป็นแค่บางคน (เหมือนเครื่องออกตั๋ว บางเครื่องก็ยอมทอน บางเครื่องก็ไม่ยอมทอน..โชคร้ายที่สมมติฐานเป็นจริง แต่ก็ได้อาซ้อมาช่วยแตกเงินให้ เลยรอดไป..สรุปว่า ถ้าจะนั่งรถบัสที่มาเลเซีย ให้ใช้บัตรเติมเงิน หรือแบงค์ 1 RM เท่านั้นจ๊ะ


ภาพ: Wijaya international medical center..ที่จอดรถสบายมาก..แถม..เงียบได้อีก

ภาพ: การ Lecture สั้นๆ ไม่เกิน 45 นาที - ดีใจที่ Dr.Shaw กลับมาแข็งแรง กระฉับกระเฉงอีกครั้ง

รูปแบบของ Workshop แบ่งเป็นส่วน lecture กับ group discussion ประมาณสัดส่วน 20 : 80  เป็นภาษาอังกฤษทั้งหมด เนื่องจากเป็นงานระดับนานาชาติ
แต่ส่วนมากเป็นแพทย์ พยาบาลในมาเลเซียเอง มีทีมแพทย์พยาบาลมาจาก อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ แห่งละ 4 คน กับประเทศไทยหนึ่งคน
คนมาเลเซียที่มีการศึกษา เช่นเดียวกับสิงคโปร์ คือสามารถพูดคล่องได้สามภาษา คือ แมนดาริน, มลายู และภาษาอังกฤษ นับเป็นข้อได้เปรียบอย่างยิ่ง เพราะสามภาษานี้คือภาษาของคนค่อนโลก..สะท้อนใจ คิดถึงบ้านเรา เมื่อมีอาจารย์เก่งๆ ดังๆ จากต่างประเทศมาปาฐกถา เด็กเราเสียโอกาส พอฟังไม่รู้เรื่องก็พลอยไม่อยากฟัง ภาษาจึงเป็นเรื่องสำคัญในการเิปิดโลกทัศน์เกินกว่าที่เราจะบอกว่าก็เป็นหมอรักษาคนไทย พูดภาษาไทยได้ก็พอ..


ภาพ: Dr.Ednin เป็น facilitator ใน group discussion  คนที่นั้งข้างๆ ฉันเป็นผู้ได้รับรางวัลออสการ์จาก Dr.Shaw ในฐานะตีบท care giver แตกกระจุย

การแบ่งกลุ่มเพื่อ discussion กลุ่มละ 12-13  คน จำนวน 4 กลุ่ม เป็นช่วงที่ให้ประโยชน์มากที่สุด เพราะแต่ละคนเหมือนมีจิ๊กซอว์ในใจ เหมือนจะมีคำตอบแต่ก็ไม่ชัด เมื่อได้มาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ร่วมกับการมีผู้เชี่ยวชาญคอยตอบปัญหา ก็ช่วยให้ภาพชัดขึ้น...การแบ่ง fix กลุ่มเดิมตั้งแต่วันแรกจนวันสุดท้าย ข้อดีคือ มีความคุ้นเคยกันมากขึ้น เปิดใจคุยได้มากขึ้น  แต่ข้อเสีย คือ ไม่ได้รู้จักให้ทั่วถึง

เขียนไปเขียนมา มีแต่เรื่องการเดินทางก็ยาวเสียแล้ว ไว้โอกาสหน้าจะนำเรื่องสาระมาคุยต่อคะ

คำสำคัญ (Tags): #aphn foundation#dr.ednin#dr.shaw#malaysia
หมายเลขบันทึก: 368736เขียนเมื่อ 23 มิถุนายน 2010 19:19 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 23:06 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

หวัดดีแต้

ขอบคุณครับสำหรับ update บรรยากาศใน KL พี่plan ปีนี้จะไปดูงานที่ hospice malaysia ตอน practicum มแต้เป็นไงบ้าง บายดีป่าว

ได้สัมผัสตา Ednin ตัวจริงแล้วเป็นไงบ้าง

ตอนแรกนึกว่าจัดที่ Hospis Malaysia ของเขา

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท