ตำนานผีล้านนาตอน"ปล๋าผีรถไฟ"


สี่แยกทางรถไฟผ่านชนคนตาย ต่อมามีคนไปหาปลาได้มากมาย ที่สุดก็ตายด้วยปลาผี

              สามเณรดวงดี  เป็นผู้สนใจศึกษาค้นคว้าตำราพื้นบ้าน    สนใจทางพระคาถาอาคม   จึงได้ขอตุ๊หลวง(เจ้าอาวาส)สอนพระคาถาอาคมที่มีอยู่ให้ทั้งหมดเพื่อหวังจะรับเอาวิชาตำราของหลวงพ่อให้สิ้น 

      ตุ๊หลวงก็ใจดีหนักหนาเห็นผู้สนใจพระคาถาอาคมก็ให้หมด ทั้งยังสักลายยันต์ให้ลูกศิษย์เต็มตัว ดูแล้วตัวดำลายขุ่ยหยุ่ย(ลายพร้อย)เพราะสีหมึกและลวดลายตัวอักขระยันต์นั่นเอง

      อยู่มาไม่นานสามเณรดวงดีร้อนผ้าเหลืองจึงสึกออกมาเป็นฆราวาส   ที่ชาวบ้านทั่วไปเรียกผู้เป็นสามเณรที่สึกออกมาให้ฉายาว่า  "น้อย"   ชาวบ้านเรียกกันว่า  "น้อยดวงดี"

      น้อยดวงดีเมื่อสึกออกมาก็ใช้พระคาถาอาคมที่ได้ร่ำเรียนมาหากิินโดยเฉพาะพระคาถา "พระสังข์เรียกปลา"   เมื่อถึงยามคืนน้อยดวงดีจะหิ้วไซออกไปดักปลาตามลำคลองหลังบ้าน  ทั้งๆที่คลองบางแห่งมีน้ำเฉาะแฉะเกือบว่าจะแห้งอยู่แล้ว  แต่น้อยดวงดีก็สามารถดักปลาเอามาจนได้  โดยเฉพาะปลาหลิม(ปลาช่อน)ตัวโตดำมะเมื่อม

      ได้ปลามาก็นำไปขายบ้าง นำมาเป็นอาหารบ้างทำให้ผู้คนลือเล่ากันว่า "น้อยดวงดีพระสังข์"  สถานที่น้อยดวงดีไปหาปลาดังกล่าวก็ใกล้สี่แยกทางรถไฟ ที่เรียกกันว่าแยกร้อยศพ  เพราะรถไฟมักจะชนคนตายอยู่เสมอตั้งแต่มีรถไฟอยู่ก่อน ต่อมามีีการทำถนนตัดเส้้นทางรถไฟ ผู้คนไม่เคยสถานที่ก็ต้องมีอุบัติเหตุกันบ้าง

      ข้างทางรถไฟมีบ่อเล็กๆ  น้ำขังเฉอะแฉะดูๆแล้วก็ไม่น่าจะมีปลา  ถัดบ่อขึ้นมาที่ริมทางเหล็กมีร่องดินแห้งขอดแต่หมดจดเหมือนมีคนมากวาดเป็นประจำ ที่นี่แหละน้อยดวงดีเอาไซมาดักปลา เรียกกันว่าดักปลาบน-บก-ว่างั้นเถอะ  แต่ก็มีปลามาเข้าไซทุกครั้งแถมตัวดำตัวใหญ่แต่ไม่แข็งแรงเหมือนปลาหลิม(ช่อน)ทั่วไปที่ดิ้นรนเมื่ออยู่ในไซ  ส่วนปลาที่เข้าไซน้อยดวงดีเป็นปลาที่นิ่มค่อนข้างจะนิ่งผิดสังเกต   อย่างไรก็ตามน้อยดวงดีก็มีปลามาขายเลี้ยงชีพอยู่นานเกือนปีหลังจากสึกเป็นฆราวาส

      เช้าวันนี้ก็เช่นกัน หลังจากนำปลาไปขายที่ตลาดได้เงินมาส่วนหนึ่ง พี่แกมานั่งกินอาหารเช้าจู่ๆก็ดิ้นพลาดเหมือนปลาถูกทุบหัว  บรรดาพี่น้องต่างเข้าช่วยเหลือนำส่งโรงพยาบาลแต่พี่แกก็มาสิ้นใจในรถกู้ภัย

      บรรดาผู้สงสัยจึงพากันไปที่บ่อน้ำข้างทางรถไฟ  ก็ได้เห็นปลาหลิม(ช่อน)หลายตัวนอนตายค้างร่องดินแห้ง  รอยไซของน้อยดีก็พอมีให้เห็น "เออแปลกแท้  น้อยดวงดีดักปลาบนบก" ผู้คนต่างพึมพำ    ดูแอ่งน้ำเฉอะแฉะก็เห็นเหมือนรอยคนเข้าไปเหยียบย่ำ

      ชาวบ้านร่ำลือกันว่า"น้อยดีตายเพราะปลาผีรถไฟแท้ๆ"

   เล่ามาแล้วก็ให้ผู้อ่านลองกึ๊ด(คิด)เอาเต๊อะ(เอาเถอะ)  อย่างน้อยๆก็ได้ภาษาล้านนาไปหลายคำเน้อ....

หมายเลขบันทึก: 368155เขียนเมื่อ 20 มิถุนายน 2010 21:13 น. ()แก้ไขเมื่อ 29 พฤษภาคม 2012 08:23 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (7)

จริงๆ ที่พ่อท่านเขียนมามากมายเนี่ย จริงๆ น่าจะรวมเล่มได้เลยนะครับ

ขอบคุณ..คุณบิเวอร์ครับ..ที่แนะนำรวมเล่มหลายๆคนก็ว่าอย่างนั้น..

แต่ขณะนี้ลุงกำลังเขียนเรื่อง"โรคลมผิดเดือน"(โรคอยู่ไฟไม่ไ้ด้)ให้กับนักศึกษาที่เรียนทางแพทย์ทางเลือกอยู่ครับ..

อีกไม่นานเกินรอคงรวบรวมแน่ๆครับ..

ด้วยความปรารถนาดีจากลุงหนาน...พรหมมา

 

ครับท่านได้ภาษาล้านนาหลายคำ

ไหว้สาครับคุณเบดูอิน..

ขอบคุณครับที่เข้ามาแว่อ่านครับ...

ด้วยความปรารถนาดีจากลุงหนาน..พรหมมา

  • สรีสวัสดีเจ้าป้อลุงหนาน ..พรหมมา
  • ป้อลุงหนานสบายดีก่อเจ้า
  • ตำนานที่ป้อลุงหนานเขียนไว้ หล้าได้ฮู้ได้อ่านเป็นอะไรที่ทรงคุณค่าและหาอ่านได้ยากมาก สำหรับคนล้านนารุ่นใหม่
  • ขอชื่นชมและขอหื้อป้อลุงหนานฮักษาสุขภาพเน้อเจ้า
  • สรีสวัสดีเจ้า
  • สวัสดีค่ะ
  • แวะมาทักทายด้วยความระลึกถึง สบายดีนะคะ
  • วันนี้บุษราได้นำภาพดอกไม้สวย ๆ มาฝากกันค่ะ
  • ขอบคุณค่ะ

                         

สวัสดีเจ้าหลานคำแสนดอยและบุษราเจ้า...

ขอบคุณที่เข้ามาแว่อ่านครับ..และลุงหนานสบายดีครับ..

ขอหื้อหมู่เฮาสบายดีจุ๊ผู้คนครับ..

ด้วยความปรารถนาดีจากลุงหนาน...พรหมมา

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท