หน้าแรก
สมาชิก
ว่าที่ ร.ต. พลนิก...
สมุด
การปฏิบัติเพื่อให...
เรื่อง น่าอ่านของ...
ว่าที่ ร.ต. พลนิกรณ์ ไสวงาม
สมุด
บันทึก
อนุทิน
ความเห็น
ติดต่อ
เรื่อง น่าอ่านของการปฎิบัติ
การรับ ประทานอาหารเมื่อหิว ก็คือเมื่อเกิดความทุกข์ จึงหาทางดับทุกข์
การเข้าสู่โสดาบัน หรือพระอนาคามี หรือขั้นต่างๆ ตลอดจนการบรรลุได้ถึงพระอรหัตผล ล้วนได้รับมาจากการปฏิบัติดีทั้งทางกาย วาจา และใจนำพาตัวเองผ่านสถานการณ์ต่างๆ ในขณะปัจจุบัน ด้วยความไม่ท้อถอย เผชิญกับความยากลำบากของผู้ที่อยู่รอบข้างที่อาจทำเราไขว้เขว เป็นเหตุให้จิตใจเศร้าหมอง แล้วอาจเกิดความลังเล สงสัย แต่หากพิจารณาให้ดีแล้ว สิ่งใดในโลกจะใช้เป็นเครื่องมือแก้ปัญหาโดยไม่อยู่บนพื้นฐานของธรรมที่พระองค์ทรงตรัสรู้ไว้ เห็นเป็นไม่มี
การจะได้บรรลุธรรมขั้นต่างๆ ในทางพระพุทธศาสนานั้น น่าจะเปรียบได้ง่ายกับ
"การรับประทานอาหารเมื่อหิว ก็คือเมื่อเกิดความทุกข์ จึงหาทางดับทุกข์ เพื่อพ้นทุกข์ เมื่อหิวแล้ว สิ่งที่ต้องทำคือหาอาหาร เลือกอาหาร ประกอบอาหาร ผู้รู้ใช้สติ เลือกแต่อาหารที่สมบูรณ์ สะอาด ให้ประโยชน์กับร่างกาย ผู้ไม่รู้เลือกที่สีสรร หรือสักแต่ว่ามีอาหารอยู่ตรงหน้า ก็บริโภคโดยไม่คิดถึงประโยชน์ไม่มีประโยชน์ การเลือกอาหารนั้น เปรียบเสมือนการเลือกใช้วิธีแก้ปัญหา หรือดับทุกข์ ผู้ไม่รู้ใช้อารมณ์แก้เพื่อดับทุกข์เฉพาะหน้า แต่ผู้รู้ใช้ธรรมมะแก้ให้พ้นทุกข์ตลอดไป หากปฏิบัติตามคำสั่งสอนของพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าแล้ว ยังว้าวุ่นใจ ก็น่าจะลองพิจารณาเมื่อเวลาเราหิว กว่าจะผ่านขั้นตอนการรับประทานอาหารเพื่อให้หายหิว ทีมีใครบ้างเมื่อรับประทานอาหารด้วยคำแรกแล้วจะอิ่มท้องเลย ก็หาไม่มีเลย ล้วนต้องมีคำที่สอง สามสี่ จนกว่าจะรู้สึกเองว่าอิ่ม "
การปฏิบัติเพื่อบรรลุธรรมในขั้นต่างๆ ก็เช่นการต้องอดทนรับประทานอาหารทีละคำนั้น เมื่ออยากปฏิบัติเพื่อให้ได้ขั้นนั้น ขั้นนี้ แล้วปฏิบัติวันนี้ เดือนนี้ ปีนี้ ผ่านไปหลายปีแล้ว แต่ยังไม่รู้สึกอะไร ก็อาจเป็นเพราะยังไม่ได้ถึงเวลาตรงนั้น ที่ควรจะปฏิบัติต่อไป เหมือนเมื่อรับประทานอาหารที่แม้แต่ทานข้าวหมดไปสองจานก็ยังรู้สึกว่าไม่พอ จึงต้องรับประทานต่อไปจนกว่าจะหายหิว และการปฏิบัติเพื่อบรรลุธรรมในขั้นต่างๆ นี้ ก็อาศัยการประกอบเหตุให้ได้ผลแห่งขั้นธรรมต่างๆ ที่เมื่อได้เวลาแล้วก็จะรู้สึกถึงผลแห่งธรรมขั้นต่างๆ ได้ด้วยตัวเอง เหมือนเมื่อรับประทานอาหารอิ่มแล้ว รู้สึกอิ่มเองแล้ว ก็มีความสุขเอง แต่อย่ายึดติดกับชื่อของธรรมในขั้นต่างๆ เลย เพราะอาจทำให้กังวล หมกมุ่น แต่ตราบใดที่ทุกขณะจิต ตั้งมั่นอยู่บนพื้นฐานแห่งศีลไว้อบรมให้ตัวเองมีสมาธิรับรู้ เผชิญกับเรื่องราวต่างๆ ได้ จนนำปัญญาใช้แก้ปัญหาได้แล้ว อาจไม่ต้องอยากรู้เลยว่าตัวเองอยู่ในขั้นใด.. เพราะสิ่งต่างๆ ที่กระทำผ่านมาด้วย ศีล สมาธิ และปัญญาแล้ว คือยอดบรมสุขในปัจจุบัน ที่ระลึกถึงเมื่อใด ก็สะอาดบริสุทธ์ และสุขใจเสมอ และยังถูกสะสมไว้เป็นปัจจัยเพื่อตัวเองสำหรับภพหน้า... แน่นอน
ที่มา : จำไม่ได้แล้ว แต่ประดับใจเลยฝากบอกไว้
เขียนใน
GotoKnow
โดย
ว่าที่ ร.ต. พลนิกรณ์ ไสวงาม
ใน
การปฏิบัติเพื่อให้หลุดพ้น
คำสำคัญ (Tags):
#หนทางดับทุกข์
หมายเลขบันทึก: 368122
เขียนเมื่อ 20 มิถุนายน 2010 18:04 น. (
)
แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 14:46 น. (
)
สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกัน
จำนวนที่อ่าน
จำนวนที่อ่าน:
ความเห็น (0)
ไม่มีความเห็น
ชื่อ
อีเมล
เนื้อหา
จัดเก็บข้อมูล
หน้าแรก
สมาชิก
ว่าที่ ร.ต. พลนิก...
สมุด
การปฏิบัติเพื่อให...
เรื่อง น่าอ่านของ...
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID
@gotoknow
สงวนลิขสิทธิ์ © 2005-2023 บจก. ปิยะวัฒนา
และผู้เขียนเนื้อหาทุกท่าน
นโยบายความเป็นส่วนตัว (Privacy Policy)
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท