เรื่องเล่าระหว่างวันที่ ๑๔ - ๑๙ มิถุนายน ๒๕๕๓


 

๑๙  มิถุนายน  ๒๕๕๓

เรียน  เพื่อนครูและผู้บริหารที่รักทุกท่าน

วันจันทร์ที่ ๑๔  มิถุนายน  ๒๕๕๓  เข้าสโมสรเช้าพบท่านรองฯครรชิต หิรัณยหาด และท่านรองฯ สมมาตร ชิตญาติ กำลังรับฟังนักเรียนและผู้ปกครองเล่าเรื่องที่ครูคนหนึ่งแสดงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมกับตนเอง สาเหตุมาจากเข้าร่วมกิจกรรมไม่ทันเวลา ครูจึงต่อว่าด้วยถ้อยคำรุนแรงเกินกว่าที่ครูพึงปฏิบัติต่อศิษย์  นักเรียนเล่าให้ผู้ปกครองฟังจึงไปปรับความเข้าใจกันก็ไม่มี่ทีท่าว่าจะลดราวาศอก ประกอบกับมีบุคคลภายนอกโทรศัพท์ไปต่อว่าข่มขู่นักเรียนจนต้องแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ นั่งฟังแล้วได้ซักถามในประเด็นต่าง ๆ ถึงความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับครู นักเรียนก็บอกว่าปกติไม่มีอะไรเป็นพิเศษ  สิ่งที่แย่ที่สุดขณะนี้นักเรียนบอกว่าครูไม่ยอมเข้าสอนในห้องที่เธอเรียนอยู่ ทำนองจะบีบให้เธอออกจากโรงเรียน  จึงรับหนังสือร้องเรียนไว้สืบสวนให้สิ้นกระบวนความ เดินทางไปโรงเรียนปทุมวิไล เพื่อเป็นประธานเปิดอบรมครูโรงเรียนขยายโอกาสและมัธยมศึกษาตอนต้น เกี่ยวกับการจัดการเรียนการสอนตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ ไม่ได้บรรยายพิเศษยืดยาว เพราะต้องไปเปิดอบรมครูประถมศึกษาในเรื่องเดียวกันที่โรงเรียนอนุบาลปทุมธานีอีกจุดหนึ่ง ไปถึงที่ประชุมพร้อมแล้วแต่ก่อนพิธีเปิดเขาจัดดนตรีไทยมาบรรเลงพร้อมรำอวยพรให้ชมด้วย  วันนี้ไม่ได้พูดยาวเพราะเห็นสายแล้วควรให้วิทยากรได้ดำเนินการตามตารางอบรม  ผู้อำนวยการโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัยรังสิต นางสาวสุภาวดี  วงษ์สกุล มาปรึกษาเรื่องการบรรจุครูพลศึกษาโค้ชตะกร้อ เลยชวนกลับมาคุยกันต่อที่สโมสรเขต ในที่สุดได้ข้อยุติว่าได้ส่งเรื่องไป ก.ค.ศ.แล้วจึงต้องรอต่อไป  ผอ.มยุรี  ทรัพย์บุญ จากโรงเรียนบัวแก้วเกษร อำเภอลาดหลุมแล้ว มาลาเพื่อเดินทางไปรับตำแหน่งใหม่ที่โรงเรียนโพธิ์นิมิตวิทยา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษานนทบุรี เขต ๒ เชิญให้ไปร่วมงานเลี้ยงส่งที่โรงเรียนในวันที่ ๑๘ มิถุนายน ๒๕๕๓  ได้โทรศัพท์เชิญท่านผู้อำนวยการโรงเรียนที่นักเรียนมาฟ้องครูในตอนเช้ามาสอบถามและรับทราบข้อเท็จจริง ฟังว่าผู้อำนวยการโรงเรียนเองก็ถูกครูท่านนี้แสดงความไม่พอใจเหมือนกันเพราะไปจัดระเบียบการรับงานแสดงกลองยาวเช่นกัน แนะนำให้ไปแก้ปัญหาให้เรียบร้อย กลับขึ้นไปทำงานที่ห้องจนเที่ยงชวนท่านรองฯ ครรชิต  หิรัณยหาด ไปทานข้าวที่ร้านประนอม บางคูวัด บ่ายทำงานแฟ้มเอกสารจนเย็น มีภาระงานใหม่เข้ามาจาก สพฐ.ที่ตั้งเป็นประธานกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง รอง ผอ.เขต รายหนึ่งที่ถูกร้องเรียนกล่าวโทษทางวินัย จากประสบการณ์ที่ผ่านมาการเป็นกรรมการสอบสวนคนมีแต่ขาดทุน หากำไรไม่ได้เลย หากสอบแล้วพบความผิดผู้ถูกกล่าวหาก็โกรธหาว่ากลั่นแกล้ง หากเสนอยุติเรื่อง ผู้ร้องเรียนก็ไม่พอใจหาว่าช่วยคนผิด สรุปแล้วเสียทั้งขึ้นทั้งล่อง แต่เมื่อมีหน้าที่ก็ต้องทำ หลีกเลี่ยงไม่ได้ ต้องทำความจริงให้ปรากฏ

วันอังคารที่ ๑๕  มิถุนายน ๒๕๕๓  คณะวิทยากรที่มาอบรมคอมพิวเตอร์ให้กับครูที่ห้องประชุมชั้น ๓ มาพบที่ห้องสโมสร เล่าให้ฟังว่าได้ติดตั้งฮาร์ดแวร์ซอร์ฟแวร์ตัวใหม่ให้กับคาราโอเกะ พร้อมเปิดสาธิตให้ดู  เป็นโปรแกรมที่ภาพคนร้องไปปรากฏในจอเป็นพื้นหลังเนื้อเพลงเพราะมีกล้องดิจิตอลจับภาพเหมือนกล้องวีดีโอ  และได้ลงเพลงมีภาพประกอบแบบวีซีดีคาราโอเกะที่วางขายเป็นแผ่นทั่วไปอีกประมาณ ๘๐๐๐ เพลง ทำให้การร้องเพลงมีชีวิตชีวาขึ้นอีก  ห้องสโมสรเป็นศูนย์รวมของผู้ที่เหนื่อยล้าจากการทำงานและอยากพักผ่อนหย่อนอารมณ์  ขึ้นไปทำงานเอกสารที่ทยอยกันมาส่วนใหญ่เป็นการอนุมัติเบิกจ่ายงบประมาณ ผู้ปกครองมาร้องทุกข์เรื่องโรงเรียนบังคับให้นักเรียนทำบัตรนักเรียนแบบสมาร์ทการ์ดรายละ ๕๐๐ บาทเป็นการกระทำที่ผิดระเบียบกระทรวงศึกษาธิการ สร้างความเดือดร้อนและแสวงหาประโยชน์ มอบท่านรองฯครรชิต หิรัณยหาด ช่วยตรวจสอบข้อเท็จจริง   ก่อนเที่ยงมีเลขานุการของรองหัวหน้าพรรคการเมืองหนึ่งซึ่งปัจจุบันมีตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีในรัฐบาลมาหาพร้อมผู้บริหารโรงเรียนเอกชน ได้เล่าพฤติกรรมของผู้บริหารโรงเรียนท่านหนึ่งให้ฟังว่าได้ทำการเปลี่ยนแปลงระบบที่ผู้บริหารโรงเรียนท่านเดิมซึ่งดีอยู่แล้วจนทำให้ครูเดือดร้อนวุ่นวายเป็นอย่างมาก มีการพูดจาข่มขู่ยกตนข่มท่านกับครู ภาษาชาวบ้านเรียกว่า “หาเรื่อง” ทุกวัน จนครูร้องไปที่ท่าน แต่เห็นว่าผมเคยเป็นผู้บริหารในจังหวัดของท่านมาก่อนจึงมาเล่าให้ฟังเพื่อคลี่คลายปัญหา ยังไม่อยากให้เรื่องถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ นายชินวรณ์  บุณยเกียรติ ตามที่ผู้ร้องเรียนต้องการ  รับปากรับคำว่าจะเจราจาให้จนเขาลากลับ มานั่งคิดใคร่ครวญความเป็นไปได้ของเหตุการณ์ ลองถามจากผู้บริหารโรงเรียนก่อนหน้านี้และครูที่เคยอยู่ พอเห็นเค้าเหมือนกัน คงต้องคุยกันยาว อำนาจไม่เข้าใครออกใครบางคนใช้มากเกินไปจนคนรอบข้างเดือดร้อน บางคนไม่ใช้เลยคนก็เดือดร้อนเช่นกัน เป็นศิลปะการบริหารที่ต้องเรียนรู้และมีจิตสำนึกจึงจะพาตัวเองและองค์กรไปได้ การจะไปชี้แนะสำหรับผู้บริหารโรงเรียนส่วนใหญ่จะไม่ค่อยปฏิบัติตามเพราะถือว่าตัวเองเป็นผู้ทรงอำนาจ การที่ต้องถอยให้ครูถือว่าเสียเกียรติ หากคิดในเชิงยุทธศาสตร์การรุกที่ไม่มีเกียร์ถอยโอกาสชนะสงครามมีน้อยมาก ฉะนั้น การรุกและการถอยจึงเป็นยุทธศาสตร์พื้นฐานสำหรับผู้บริหารมืออาชีพ  มีหนังสือร้องเรียนที่อ่านแล้วดูเป็นเรื่องเล็กของเราแต่เป็นเรื่องใหญ่ของเด็ก ๆ ผู้ปกครองเขียนจดหมายมาร้องว่าโรงเรียนแห่งหนึ่งจำหน่ายเครื่องแบบให้นักเรียน แต่ปรากฏว่ากระดุมใส่ยาก เพราะรังดุมเล็กเกินไป ขอให้เขตแจ้งโรงเรียนแก้ไขด้วย ครับอย่างนี้ต้องแก้ไขโดยเร็ว เดี๋ยวนักเรียนประท้วงโดยไม่ปิดกระดุมเสื้อทั้งโรงเรียนจะยุ่งนะคุณครู ก่อนเที่ยงคุณเกื้อพร วานิชชัย  อดีตผู้อำนวยการวิทยาลัยมหาดไทย มาหาพร้อมทีมงานบริษัทซอร์ฟแวร์เพื่อขอคำแนะนำในการผลิตสื่อการเก็บข้อมูลในการบริหารงานโรงเรียน ได้ให้ ศน.ทรงเดช ขุนแท้ มาช่วยดูรายละเอียดให้  เที่ยงพาไปกินก๋วยเตี๋ยวที่ร้านเจ๊วรรณ ถนนสายเก่าอิ่มแล้วเชิญมานั่งคุยกันต่อที่สโมสร วิทยาลัยมหาดไทย เป็นหน่วยงานในสังกัดสถาบันดำรงราชานุภาพ สำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นผู้ให้การศึกษาอบรมหลักสูตรนักปกครองระดับสูง(นปส.) ผมเป็นลูกศิษย์รุ่นที่ ๕๓ เป็นรุ่นสุดท้ายก่อนที่ท่านจะลาออกจากราชการ  ส่งแขกแล้วกลับขึ้นทำงานเอกสารที่ห้องทำงาน  มีหนังสือร้องเรียนว่าผู้บริหารไม่ค่อยอยู่โรงเรียน รองเป็นใหญ่เอาญาติมาทำงานเต็มโรงเรียนสร้างปัญหาให้กับครูที่ไม่ใช่พวกยิ่งนัก  เป็นปัญหาโรงเรียนหนึ่งซึ่งยังแก้ไขไม่ได้ วิธีที่ง่ายที่สุดในการแก้ไขคือผู้บริหารต้องอยู่โรงเรียนบ้าง นับแต่นี้ต่อไปจะแวะไปโรงเรียนนี้บ่อย ๆ หากท่านผู้อำนวยการโรงเรียนไม่อยู่จะว่าราชการแทนต่อไป

วันพุธที่ ๑๖ มิถุนายน  ๒๕๕๓  เช้าขับรถไปโรงแรมเวล จังหวัดนครปฐม เพื่อประชุมพิจารณาร่างกฎหมายการศึกษา สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษาเป็นเจ้าภาพ เชิญ ผอ.สพท.  นิติกร ผู้บริหารโรงเรียนมาร่วมวิพากษ์วิจารณ์ ปทุมธานี เขต ๑ ไปกันหลายคน ถึงโรงแรมเช้ารับเอกสารมานั่งพลิกดูไปเรื่อย ๆ ไม่ค่อยจะตื่นเต้นและสนใจเหมือนการปฏิรูปครั้งแรกก่อนเปลี่ยนระบบบริหาร อาจเป็นเพราะเหนื่อยหน่ายและชินชากับความไร้ทิศทางของนโยบายระดับสูง  นั่งคุยกับคุณโพยม  จันทร์น้อย ผู้อำนวยการโรงเรียนบดินทร์เดชานนทบุรี เพื่อนร่วมรุ่นมัธยมศึกษาตอนต้น คุณพิศุทธิ์  วิระจิตต์  ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาสมุทรสาคร  และท่านรองฯทรงพล  ลิโมภาสิทธิ์ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษานครปฐม เขต ๑ เกี่ยวกับเรื่องทั่ว ๆ ไป ทั้งเขตประถมและเขตมัธยม ที่กำลังจะเกิดใหม่ ภาคเช้าท่านผู้อำนวยการฯ ดร.นิวัติ  น้อยมณี สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาฉะเชิงเทรา เขต ๑ เป็นวิทยากรชี้ประเด็นปัญหาจากการใช้กฎหมายที่ผ่านมา โดยเฉพาะกฎกระทรวงที่ออกตามกฎหมายแม่ทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการแบ่งส่วนราชการของสำนักงานเขต การประกันคุณภาพการศึกษา การแบ่งระดับการศึกษา เป็นต้น ต่อด้วยคุณมานิต ชนะโต จากสำนักงาน ก.ค.ศ.หลังอาหารเที่ยงที่ห้องอาหารของโรงแรม ผอ.โพยม จันทร์น้อย ชวนไปเยี่ยมเพื่อนร่วมรุ่นมัธยมศึกษาตอนต้น “เขียว-เหลือง ๑๖” คุณวัชรินทร์ วากะมะนนท์ ปฏิรูปที่ดินจังหวัดนครปฐม  สำนักงานอยู่ถนนทางเข้าองค์พระปฐมเจดีย์  ใกล้ ๆ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด คุยกันพอหายคิดถึง บ่ายนั่งอภิปรายกันเป็นกลุ่มเกี่ยวกับร่างกฎกระทรวง ก่อนจบมีการส่งผู้แทนออกไปรายงาน  ประมาณ ๑๕.๓๐ น.การสัมมนาก็ยุติสำหรับวันนี้

วันพฤหัสบดีที่ ๑๗  มิถุนายน ๒๕๕๓  วันนี้เกิดเหตุร้ายตั้งแต่เช้าทราบว่า นักเรียนโรงเรียนปทุมวิไลถูกยิงเสียชีวิต ๑ บาดเจ็บ ๑ ต่อหน้าแม่ที่ขี่จักรยานยนต์พาลูกสาว ม.6 และลูกชาย ม.3 ไปส่งขึ้นรถโรงเรียน เหตุเกิดบริเวณถนนสายไม้ตรา -ลาดบัวหลวง หมู่ที่ 4  ตำบลสิงหนาท  อำเภอลาดบัวหลวง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ใกล้วัดบันลือธรรม มีผู้ ได้รับบาดเจ็บ 3 คน ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลศุภมิตรเสนา อ.เสนา ทราบชื่อ น.ส.สุพัชญา วงษ์บุญมี อายุ 17 ปี นักเรียนชั้น ม.6 โรงเรียนปทุมวิไล นายวีระพล วงษ์บุญมี อายุ 15 ปี นักเรียนชั้น ม.3 โรงเรียนปทุมวิไล และนางชมเพลิน วงษ์บุญมี อายุ 52 ปี ทั้งหมดอยู่บ้านเลขที่ 8 หมู่ที่ 4 ตำบลสิงหนาท อำเภอลาดบัวหลวง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา การตรวจสอบพบว่า น.ส.สุพัชญา ถูกยิงด้วยปืนลูกซอง 3 นัด บริเวณใบหน้าด้านซ้ายและหน้าอกบาดเจ็บสาหัส และเสียชีวิตในเวลาต่อมา ส่งศพชันสูตรโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ศูนย์รังสิต ส่วนนายวีระพลถูกยิงด้วยปืนลูกซองจำนวน 2 นัด บริเวณหัวไหลซ้ายและลำคอ อาการสาหัส ขณะที่นางชมเพลินได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ผลการสอบสวนของตำรวจทราบว่า  น.ส.สุพัชญา เป็นพี่สาวของนายวีระพล ซึ่งทั้ง 2 คนเป็นลูกของนางชมเพลิน ก่อนเกิดเหตุทั้งหมดขับขี่รถจักรยานยนต์ออกจากบ้าน มีนางชมเพลินเป็นคนขับ นายวีระพลนั่งกลางและน.ส.สุพัชญานั่งท้ายกำลังจะไปขึ้นรถไปโรงเรียน เมื่อถึงที่เกิดเหตุมีคนร้าย 2 คน ขับขี่รถจักรยานยนต์ฮอนด้าเวฟ สีดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน มาประกบข้าง จากนั้นคนนั่งซ้อนท้ายได้ใช้ปืนลูกซองยาว 5 นัดยิงใส่ น.ส.สุพัชญา 3 นัดและยิงนายวีระพล 2 นัด ก่อนหลบหนีไป  เบื้องต้นจากแนวทางการสืบสวนสอบสวนทราบว่า นางชมเพลิน ขับขี่รถจักรยานยนตร์คอยรับส่งลูกขึ้นรถโดยสารไปโรงเรียนทุกวัน ส่วนผู้ก่อเหตุนั้น คาดว่าน่าจะเป็นอดีตเพื่อนชายคนสนิทของ น.ส.สุพัชญา แต่นางชมเพลิน บอกให้ลูกสาวเลิกคบ ซึ่งเพื่อนชายคนสนิทของลูกสาวคนดังกล่าว ได้พยายามข่มขู่และเคยยิงปืนหน้าบ้านนางชมเพลิน จนต้องไปแจ้งความที่ สภ.ลาดบัวหลวงเอาไว้ นอกจากนั้น ก่อนเกิดเหตุยังได้โทรศัพท์มาข่มขู่จะยิงให้ตาย และขับขี่รถจักรยานยนต์วนเวียนดูลาดเลาหลายรอบซึ่งเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่าสาเหตุของคดีนี้ น่าจะเป็นเรื่องชู้สาว หลังจากนักเรียนสาวคบกับแฟนหนุ่มแล้วถูกแม่กีด จนแฟนสาวบอกเลิกไม่ยอมพูดคุยกับแฟนหนุ่มจนเกิดการตามข่มขู่ต่างๆ นานา ล่าสุด เจ้าหน้าที่ทราบเบาะแสผู้ก่อเหตุแล้วส่งเจ้าหน้าที่ประกบตัว  ได้รายงานให้เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานทราบ การหาข่าวทำได้ยากเย็นสู้พิมพ์เข้าหาใน Google รวดเร็วกว่า เพราะจะมีการสื่อสารผ่านอินเตอร์เน็ตของผู้รู้เหตุการณ์ค่อนข้างไว

 

วันศุกร์ที่ ๑๘  มิถุนายน  ๒๕๕๓  เช้าเป็นประธานเปิดการอบรมครูโครงการปัจจัยสนับสนุนการศึกษาที่ห้องประชุมชั้น ๓ ของเขต เป็นรุ่นที่ ๒ เน้นให้ผู้เข้ารับการอบรมสามารถใช้คอมพิวเตอร์เพื่อการสื่อสารได้ ทั้งผลิตเว็บไซด์  เฟดบุ๊ค อีเมล และอีกสารพัดโปรแกรมที่จะทำให้ผู้เข้ารับการอบรมมีทักษะเพียงพอที่จะนำไปใช้จัดการเรียนการสอน  วิทยากรได้เชิญมาจากนอกสังกัดและในสังกัด ส่วนใหญ่จะเป็นเครือข่ายที่เคยทำงานร่วมกัน  ผู้เข้าอบรมนำโน๊ตบุ๊คมาใช้ฝึกแทน PC ตั้งโต๊ะขนาดใหญ่ ดูทันสมัยมาก แม้บางโรงเรียนจะเป็นแบบ ๓ รุม ๑ อยู่   เชื่อว่าในอนาคตคงจัดหาเป็นเครื่องมือประจำตัวกันทุกคน การอบรมจะต่อเนื่องไปทั้งเสาร์-อาทิตย์และจบในวันจันทร์สำหรับรุ่นนี้   ก่อนเที่ยง  ดร. เอนก  ล่วงลือ  ผู้อำนวยการกลุ่มนิเทศฯ แจ้งว่า ท่านรองฯจตุรงค์  เปรมชัยพร จาก สพท.กรุงเทพมหานคร เขต ๑ จะมาเยี่ยม พร้อมด้วย คุณปราโมทย์  จิตบรรจง ศึกษานิเทศก์ ทั้งสองท่านเป็นคนสนิทคุ้นเคยกันมาเกือบ ๓๐ ปี  ลงไปรอที่สโมสร พากันไปกินข้าวกลางวันที่ร้านครัวเจ้าพระยา สามโคก กลับมาคุยกันต่อที่สโมสร  บ่ายขึ้นไปทำงานที่ห้องจนหมดเวลาทำการและหมดแฟ้มที่เสนอไว้  เย็นเดินทางไปโรงเรียนบัวแก้วเกษร เพื่อร่วมงานเลี้ยงส่ง ผอ.มยุรี  ทรัพย์บุญ โรงเรียนอยู่ตลาดลาดหลุมแก้ว สถานที่เช่าวัดปีละ ๙๐๐ บาท มีอาคารเรียนวางเป็นแนวยาวไปตามรูปที่ดิน  ไม่เคยมาโรงเรียนนี้ เพราะไม่มีปัญหาให้ต้องติดตามแก้ไข  แขกเหรื่อมากันมากทั้งผู้บริหาร ครูและผู้ปกครอง ศิษย์เก่า มาอยู่ในงานยังมีคนโทร.มาตามว่าได้แก้ปัญหาเรื่องผู้บริหารที่มาร้องเรียนไว้เมื่อวันอังคารหรือยังตอบไปตามตรงว่ายังไม่ได้ดำเนินการอะไร เขาบอกว่าครูเดือดร้อนกันใหญ่แล้ว การแก้ปัญหาจากภายนอกเปรียบเหมือนลิงแก้แห ต้องแก้จากภายในยึดหน้าที่มีวินัยจึงจะสำเร็จ ผู้บริหารก็ต้องชั่งน้ำหนักให้ดีหากพายุโซนร้อนทวีความรุนแรงจนถึงระดับไต้ฝุ่น การแก้ปัญหายังไม่เคยเห็นเขาย้ายครูยกโรงเรียนสักที    อยู่ร่วมงานขึ้นอวยพรให้เดินทางโดยสวัสดิภาพ มีความสุขกับที่ทำงานใหม่ มีลูกน้องไม่ดื้อไม่ซน ลากลับไปสำนักงานเขตเพราะนัดรองปลัด อบจ.ปทุมธานี คุณเดชา  พวงงาม และท่านรองฯ จตุรงค์  เปรมชัยพร ไว้ที่สโมสร นั่งคุยกันจนสี่ทุ่มจึงแยกย้ายกันไป

วันเสาร์ที่ ๑๙  มิถุนายน  ๒๕๕๓  ไปโรงเรียนบ้านคลองขวางบน ของท่าน ผอ.จรุญ จารุสาร มีคุณวิภาวรรณ พึ่งโยธิน ประชาสัมพันธ์เขต และคุณมาลี โภชนาทาน เลขานุการ ติดตามไปด้วย การเดินทางต้องผ่านตลาดลาดหลุมแก้วไปจนจรดคลองเลี้ยวซ้ายผ่านโรงเรียนวัดสุทธาวาส ไปเลี้ยวซ้ายอีกครั้ง ผ่านนาข้าวไปสักพักก็จะพบโรงเรียนอยู่ซ้ายมือ มีอาคารเรียน ๑ หลัง ห้องประชุมเอนกประสงค์ ๑ หลัง ห้องน้ำ ๑ หลัง มีสนามด้านหน้าโรงเรียนเทคอนกรีต เป็นโรงเรียนขนาดเล็กที่มีคุณภาพ วันนี้มูลนิธิดวงประทีปมาจัดกิจกรรมผลิตสื่อเล่านิทานผ้ากันเปื้อน มูลนิธิได้เทคนิคการผลิตหุ่นนิทานผ้ากันเปื้อน มาจากประเทศญี่ปุ่น เทคนิคการผลิตจะเริ่มจากการประดิษฐ์ตัวละครในนิทานจะถูกตัดเย็บเป็นตัวการ์ตูน และเรื่องราวของนิทานจะติดอยู่บนผ้ากันเปื้อน ขณะที่ผู้เล่านิทาน เล่าถึงจุดไหนของเรื่องก็จะหยิบตัวแสดงนั้นออกมา และเมื่อเล่าเสร็จก็จะติดกลับไปยังผ้ากันเปื้อน ทำให้ผู้ฟังหรือเด็กเกิดจินตนาการที่ต่อเนื่อง เพราะยังเห็นตัวละครอยู่   ได้พบผู้บริหารโรงเรียนในเครือข่ายหลายท่านมาให้การต้อนรับ ที่พอจำได้มี ผอ.กิตติพัฒน์  แก้วมา โรงเรียนวัดบัวขวัญ ผอ.จตุพงษ์ คล้ายพุฒ โรงเรียนวัดบ่อเงิน ผอ.เจริญ ยังมี โรงเรียนวัดบัวสุวรรณประดิษฐ์ผอ.วินัย  ยุคดร โรงเรียนวัดสุทธาราม ผอ.วินัย  สมคะเณย์ โรงเรียนชุมชนวัดท่าไม้ ผอ.สมร ปาโท โรงเรียนวัดเนกขัมมาราม ผอ.เสรี ปัญจมณี โรงเรียนวัดบ่อทอง ผอ.สมชาย  ฟักทอง โรงเรียนสามวาวิทยา ผอ.สมทรง รอดแจ่ม โรงเรียนบ้านคลองเจ้าเมือง ได้เดินชมห้องเรียนที่ถูกแบ่งซอยออกเป็นห้องเล็ก ๆ เป็นห้องเรียนห้องพิเศษ ยกทีมกันออกมากินข้าวร้านครัวปรีชาปากทางเข้าวัดบ่อทอง  กินอาหารเลียนแบบโต๊ะจีน เพราะเขารับทำโต๊ะจีนด้วย ได้การบ้านจากวงสนทนามาปรับปรุงการทำงานอีกเรื่อง เขาบอกว่าการเบิกจ่ายเงินของเขตล่าช้า บางครั้ง ๒-๓ เดือนยังไม่ได้เงิน โรงเรียนต้องตากหน้าเป็นหนี้ร้านค้าจนเขาเอือมระอากันเต็มที เป็นข้อมูลใหม่ที่รับว่าจะไปติดตามปรับปรุง อิ่มแล้วกลับมาเขตมีการอบรมตามโครงการปัจจัยสนับสนุนการศึกษา ไม่ได้ขึ้นไปดูเพราะมีภารกิจที่เมืองนนท์

                ก่อนลาสัปดาห์นี้จะนำนิทานชาดกมาเล่าสู่กันฟังสักเรื่อง กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ในเมืองพาราณสีมีงานเทศกาลประจำปี ชาวเมืองต่างก็สนุกสนานรื่นเริง ในพระราชอุทยานมีลิงอาศัยอยู่ฝูงหนึ่ง คนเฝ้าสวนหลวงอยากจะไปเที่ยวงานประจำปีกับเขาด้วย จึงเข้าไปหาฝูงลิงแล้วพูดกับลิงหัวหน้าฝูงว่า
             “เจ้าลิง สวนหลวงนี้ มีอุปการคุณแก่พวกเจ้ามาก พวกเจ้าได้ขบเคี้ยวดอก ผลและใบอ่อนของต้นไม้ในสวนหลวงนี้ บัดนี้ ในเมืองมีงานเทศกาลประจำปี เราอยากจะไปเที่ยวบ้าง เราอยากจะวานให้พวกเจ้าช่วยรดน้ำต้นไม้ ที่กำลังปลูกใหม่ในสวนนี้ แทนเราจะได้ไหม ? ”
ลิงรับว่าได้ คนเฝ้าสวนหลวงก่อนจะเข้าไปเที่ยวในเมือง กำชับว่า
              “พวกท่านอย่าประมาทนะ ”  แล้วมอบอุปกรณ์ตักน้ำให้แก่พวกลิง
ลิงตัวหัวหน้าฝูง ได้กล่าวกะพวกลิงผู้ถือเอาอุปกรณ์ตักน้ำเตรียมพร้อมที่จะรดน้ำต้นไม้ว่า
             “ท่านทั้งหลาย ธรรมดาน้ำเป็นของหายาก พวกท่านเมื่อจะรดน้ำต้นไม้ พึงรดตามความต้องการของต้นไม้ ด้วยการถอนต้นไม้ขึ้นมาดู ต้นไหนรากยาวก็จงรดน้ำให้มากๆ ต้นไหนรากสั้นก็จงรดน้ำให้แต่น้อย ”พวกลิงรับคำแล้วก็ทำตามนั้น สร้างความเสียหายแก้ต้นไม้เป็นจำนวนมาก ในขณะนั้น ได้มีชายบัณฑิตคนหนึ่งเดินผ่านมาเห็นเข้า จึงถามความนั้นแก่ฝูงลิง พวกลิงจึงบอกว่าหัวหน้าให้ทำเช่นนั้น เขาจึงคิดว่า
             “โอ! เจ้าลิงโง่ ช่างไม่ฉลาดเสียเลย คิดจะทำประโยชน์ แต่กลับทำความฉิบหายเสียนี่ ”
แล้วกล่าวเป็นคาถาว่า    “ผู้ไม่ฉลาดในสิ่งที่เป็นประโยชน์ ถึงจะบำเพ็ญประโยชน์ ก็ไม่สามารถจะนำความสุขมาได้เลย คนมีปัญญาทราม ทำประโยชน์ให้เสียหายเหมือนลิงเฝ้าสวน ”

กำจัด  คงหนู

ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาปทุมธานี เขต ๑

 

หมายเลขบันทึก: 367491เขียนเมื่อ 18 มิถุนายน 2010 21:10 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 23:05 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (7)

นิทานของท่านให้คติเตือนใจมากเลยค่ะ เป็นความจริงแท้ที่กล่าวว่า“ผู้ไม่ฉลาดในสิ่งที่เป็นประโยชน์ ถึงจะบำเพ็ญประโยชน์ ก็ไม่สามารถจะนำความสุขมาได้เลย คนมีปัญญาทราม ทำประโยชน์ให้เสียหายเหมือนลิงเฝ้าสวน ”

ดูภาระงานผอ. เขตแล้ว ยุ่งมาก วันหนึ่งไปหลายที่ น่าปวดหัว โดยเฉพาะเรื่องร้องเรียน มัน เป็นเรื่องที่ลำบากใจที่สุด อีกอย่างท่านทำงานหนักมากต้องออกเยี่ยมโรงเรียนเกือบทุกที่ นับถือท่านมาก อย่าลืมดูแลรักษาสุขภาพนะครับ เดี๋ยวไม่สบายครับเป็นห่วงครับ

สุขทุกข์ นั้นย่อมมีปะปนกันไปในชีวิต ดีชั่ว ชิงชัง ก็ย่ออมมี ถูกผิดสมมุติขึ้นมา ถูกใจว่าดี ผิดใจว่าชั่ว อยู่กับมนุษย์นั้นลำบากต้องทำใจ ควมวุ่นวายมันมีมาก เวลามีน้อยเร่งสะสมบารมีธรรม ท่านจะได้พบกับบรมสุขแห่งธรรม ทุกอย่างล้วนเกิดจากเหตุ ผลก็เลยตามา สิ้นโลก เหลือธรรม สิ้นกรรม หมดเวร เวรย่อมระงับด้วยการไม่จองเวร การให้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคือให้อภัย ทุกคนต่างก็ต้องการธรรม บางพวกต้องการ ยุติธรรม บางพวกต้องการ ธรรมชาติ บางพวกต้องการ ความเป็นธรรม บางทีคนเรามีวัตถุสิ่งของเครื่องอำนวยความสะดวก แต่ก็ยังต้องการความยุติธรรม ยุติ นั้น คือ หยุด เมื่อนำมารวมแล้วก็คือ หยุดที่ธรรม ธรรมคือคำสอนของศาสดา ศาสดาสอนให้ปถุชนมีศีล 5 ใครไม่มีศีลห้าคนนั้นไม่มีธรรม ศีล ข้อ 4 บอกว่าไม่ให้มุสา มุสา นั้นหมายถึง การใช้คำพูดที่ไม่เหมาะสมไม่ถูกไม่ควร เช่น พูดปด พูดนินทา พูดหยาบคาย พูดทำร้ายจิตใจคนอื่น เป็นต้น คนบางประเภทนั้นพูดไปแล้วบอกว่าจำไม่ได้นั้น เขาอาจลืมเพราะไม่ใส่ใจในคำพูดของตน หรือ สมองผิดปกติ (เป็นประสาท) จึงจำไม่ได้

คนประเภทนี้ไม่มีเวลาดูแลตัวเอง งานเยอะมาก ยุ่ง! เวลาหวีผมไม่มีหรอก สิ่ง สำคำญคือไม่ยึดติด แค่ปล่อยแล้ววาง มันก็เบา เราก็สบาย  บางคนแก่ใกล้ตายก็วางไม่เป็น ก็สุดแล้วแต่กำลังสติปัญญาที่มี เพราะบารมีมันต่างกัน สวัสดีครับ

ได้อ่านเรื่องต่างๆที่ท่าน ผอ.เขต เขียนครั้งใดเหมือนได้ไปกับท่านด้วยทุกครั้งเลย แถมมีตบท้ายที่มีคติเตือนใจดีๆทุกครั้ง เป็นที่ประดับสติปัญญาได้ดีอีกแหล่งหนึ่ง นอกเหนือจากการเปิดอ่านตามเว็ปต่างๆ และของท่านความคิดเห็นที่ 2 ก็ให้ข้อคิดที่ถูกใจดิฉันมากๆ กราบขอบพระคุณทั้ง 2 ท่านมากนะคะ

คิดถึงท่านผอ.เสมอมาค่ะ แต่เวลามีน้อยไม่ค่อยได้เข้ามา ปัญหาการร้องเรียนนั้นก็ได้พบเจอมาเช่นกันค่ะ คนเรานั้นบางคนมีอัตตาในตัวเองสูงมาก สำคัญผิดว่าตัวเองดี ตัวเองเก่ง อยากจะด่าว่าใครตามใจก็ทำใช้คำพูดหยาบคาย นินทาว่าร้ายคนอื่น ตัวเองกับพวกประจบสอพลอเท่านั้นที่ดี นึกว่าที่ตัวเองทำนั้นโก้เก๋ มีคนเกรง หารู้ไม่ว่าเป็นดั่งนิทานที่ท่านผอ.เล่า เรื่องพ่อค้าที่ไปขายของไงคะพ่อค้าคนแรกทะเลาะกับหมาสินค้าเสียหายหมดโดนหมาเห่าหมากัดเจ็บตัวเจ็บใจ พ่อค้าคนหลังเห็นว่าเป็นหมาไมใส่ใจไม่ทะเลาะด้วยก็เลยค้าขายได้เงินทองมากมายเพราะคิดว่าอย่าไปสนใจหมาที่มันมาเห่าเลย ลองคิดแบบนี้ก็ดีเหมือนกันว่าอย่าไปสนใจหมามันเลย อิอิ สิ่ง สำค้ญคือไม่ยึดติด แค่ปล่อยแล้ววาง มันก็เบา เราก็สบาย บางคนแก่ใกล้ตายก็วางไม่เป็น ก็สุดแล้วแต่กำลังสติปัญญาที่มี เพราะบารมีมันต่างกัน จริงดั่งที่ท่านชนะว่าไว้ แหมชักอยากเจอท่านชนะแล้วสิคะเขียนไว้ถูกใจมากมาย ท้ายนี้ก็ขอขอบคุณท่านผอ.ที่มีนิทานดีดีไว้ให้เราได้อ่านและที่สำคัญผู้อ่านทุกท่านที่มาแสดงความคิดเห็น เพิ่มสีสันและได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้เรื่องดีดีแก่กันและกัน ขอบคุณค่ะ

อยากฝากผู้รับผิดชอบโดยฌฉพาะศึกษานิเทศก์และผู้เกี่ยวข้อง การจัดประชุมสัมมนา ทำไมมาจัดพร้อมๆ กัน ในช่วงนี้ ทราบหรือไม่โรงเรียนแต่ละโรงเรียนมีครูไม่เหลือพอที่จะสอนแทนกันหรอก แต่ถ้า 1 คน สำหรับโรงรียนขนาดเล็กก็พอรับไหว ถ้ามากกว่านี่คงรับไม่ไหว ดูอย่างการอบรมคอมพิวเตอร์จัด 4 วัน โครงการของเขตอีก ของโรงเรียนอนุบาลอีก ของโรงเรียนนันทมุนีอีก คงต้องปิดโรงเรียน แต่ก็เป็นไปไม่ได้ปิดไม่มีเหตุผลผู้ปกครองก็ตำหนิ ไม่ทำตามนโยบายผู้ใหญาก็ตำหนิ แล้วปิดเทอมที่ผ่านมาทำไมไม่จัดกันทำอะไรกันอยู่ อย่างนี้คุณภาพการศึกษามันจะเกิดได้อย่างไร ท่านที่รับผิดชอบขอความกรุณานำไปเป็นข้อคิดในการจัดการอบรมด้วยจะขอบพระคุณเป็นอย่างสูงย่ง

คนทุกคนสำคัญที่ความคิด...คิดดีก็จะพบแต่สิ่งดีๆ ตื่นปุ๊บ คิดปุ๊บ กรรมเกิด คิดดี บุญท่วมเตียง คิดร้าย บาปเกิดทันที คนทั้งโลกมีความเคยชินเป็นเจ้าหัวใจ.. อด...หมายว่าอยากได้แต่ไม่ได้ ทน...หมายว่าไม่อยากได้แต่มันมา...คนเราจึงต้อง อดและทนต่อทุกสิ่งให้ได้ อาชีพครู เป็นที่กราบไหว้ของมนุษย์และเทวดา ถ้าเรามีเป้าหมายเป็นหลัก อุปสรรคย่อมไม่มี...พบเห็นอะไรที่ไม่ถูกใจเรา...ก็...วางใจให้ถูก...ก็จะสบาย...ท่าน ผอ.เขต...ช่วยแก้ปัญหาให้ครูทุกเรื่อง...บางเรื่องแก้ถูกใจ...เขาก็ชมว่า...ดี...บางเรื่อง...ไม่ถูกใจ...เขาก็ว่าท่านเข้าข้างแต่ผู้บริหาร...เป็นผู้หลักผ้ใหญ่นี่ช่างลำบากใจเสียเหลือเกินนะท่าน...แต่...ทำไมคนถึงอยากเป็นใหญ่กันจังคงเพราะ...คน...อยากมีอำนาจ...ใช่ไหมนะ...มีความรู้สึกว่า...ท่านเป็นผู้กล้าในทุกเรื่อง..น่านับถือ...แต่บางเรื่อง...ขอให้เข้าใจผู้น้อยให้มากๆ...ก็จะดี...เพราะผู้ใหญ่บางคน...ก็ช่างเหลือ...เห็นด้วยกับครูเก่า...ใช่เลย...เปิดโรงเรียนปุ๊บ...เชิญอบรมปั๊บ...ใครอยู่สอนเด็กละทีนี่...แล้วก็...อะไร ๆ ก็ต่ำไปหมด...ไปดูเหอะ...โรงเรียนใหญ่ ๆ ขนโน่นให้...ขนนี่ให้...เหลียวหลังแลดูโรงเรียนเล็กบ้างก็จะดี...ครูขาด....งบประมาณน้อย...ดิ้นรนเองทุกอย่าง...เป็นหมด...หมอ...ตำรวจ...นายแบงค์...ทนายความ...แม่พระ...แม่ยก...แล้วไง...เอาโรงเรียนที่สมบูรณ์แบบมาเป็นแม่แบบให้โรงเรียนที่ขาดทุกอย่างเพื่อให้เอาเป็นตัวอย่าง....แล้วจะทำได้ไหมล่ะ...เฮ้อ...เบื่อ

ขอโทษ....กรรมไม่ดีเกิดซะแล้ว...เพราะคิดไม่ดี...จริง ๆ แล้วจะบอกว่า...ขอเป็นกำลังใจให้ท่านสู้ ๆ เพื่อครูปทุมทุกคน...ขอบคุณท่านเป็นอย่างยิ่งที่มีบล๊อกให้ครูได้ระบายสี....ในใจ....ใจก็เบาขึ้น เป็นกุศลอย่างหนึ่งที่เกิดกับท่าน...ด้วยความเคารพจริง ๆ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท