brain abcess ในเด็กโรคหัวใจพิการแต่กำเนิด


หัวอก พ่อ แม่

 

 คนเราทุกคนที่เกิดมามีกรรมที่แตกต่างกันค่ะ  แต่สำหรับดิฉันขอให้ไม่เจ็บป่วยก็ถือว่ามีความสุข มีบุญ มากแล้วค่ะ เพราะเมื่อป่วย คนในครอบครัวก็ป่วยด้วยกัน ทั้ง กังวล ไม่สบายใจ หงุดหงิด ทั้งจัดการเวลา งาน ฯลฯ

แต่เรื่องราวที่จะเล่าจากความประทับใจของครอบครัวหนึ่ง ที่ทุ่มเทกับลูกชายตัวน้อยมาตลอดเวลาที่เหลืออยู่ทั้งๆที่รู้ว่า ทรงกับทรุดเท่านั้น

 เด็กน้อยน่าตาดีน่ารักมาก ตาโต จมูกโด่งช่างเจรจาอารมณ์ดี ครั้งแรกที่มาเราดูประวัติการเจ็บป่วยแล้ว ก็เข้าใจดีว่าโรคหัวใจพิการแต่กำเนิดที่น้องเป็นอยู่คุณพ่อคณแม่ของน้องเข้าใจเรื่องโรคดีมาก เขาเล่าว่า

 

 ลูกเป็นโรคหัวใจพิการชนิดเส้นเลือดดำแดงสลับกัน ลิ้นหัวใจตีบร่วมด้วย หัวใจอยู่ด้านขวา แพทย์บอกว่าผ่าตัดไม่ได้  รักษาแบบประคับประคองกันไป

 

ครั้งแรกที่รู้ว่าโรคเป็นโรคนี้ตั้งแต่คลอด  (การตั้งครรภ์ปกติแม้จะดูแลครรภ์อย่างดี)

โกรธมั้ย โกรธตัวเองและโทษทุกอย่างว่าทำไมลูกถึงเป็นอย่างนี้

ต่อมาได้สติ...เวลาค่ะช่วยทำให้ทำใจและต้องทำเพื่อลูก.....

ลูกเขียวเหนื่อยง่าย ป่วยบ่อย....เข้าออกโรงพยาบาลหลายครั้งต่อเดือน(แขกประจำว่างั้นเถอะ)

 

 เมื่ออายุ 2ขวบก็มีอาการ  ไข้สูง ปวดศรีษะ คลื่นไส้ อาเจียน และชักผลจากการเอ็กซเรย์คอมพิวเตอร์แพทย์บอกว่าเป็นสมองอักเสบ และมีน้ำในโพรงสมองมาก จากโรคหัวใจที่เป็นอยู่ที่ไม่สามารถแก้ไขได้

 

   ช็อคมาก สำหรับพ่อแม่

 

แต่หมอดูแลให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ให้กำลังใจ ครอบครัวสนับสนุนดี จึงต้องต่อสู้ร่วมกับลูก พ่อแม่ต้องช่วยกันดูแล สวนยางพาราไม่ได้ทำอีกต่อไปรายได้มาจากครอบครัวทั้งสองฝ่ายจุนเจือ เพื่อหลานรัก ทุกคนพร้อมรับกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นร่วมกัน...

แม้จะทำใจแต่ในส่วนลึกใจหาย สงสาร แม้จะเหน็ดเหนื่อย พ่อกับแม่ต้องช่วยกันดูแลให้แต่ละวันผ่านพ้นไปด้วยดี

 

หลังจากทำทางระบายปัญหาที่ตามมาคือสายของทางระบายน้ำโผล่ออกมามีโอกาสติดเชื้ออีก ก็ต้องมาผ่าตัดเอาสายออก ร่วมกับยาต้านการอักเสบ  ทีมการรักษาทั้งศัลยแพทย์ทางโรคสมอง แพทย์เด็ก บางครั้งวิสัญญีด้วยค่ะเพราะ ไม่สามารถหาเส้นเลือดให้ยาต้านการอักเสบได้     ต้องให้วิสัญญีแพทย์ช่วยแทงเส้นเลือดคาไว้ซึ่งก็เป็นปัญหามากในทางปฏิบัติ

และขอบคุณพยาบาลตึกเด็ก(ทั้งเด็กโตเด็กเล็ก)ค่ะที่ช่วยหาเส้นเลือดคาเข็มไว้ให้ยาต้านจุลชีพให้ครบ

 

กลับบ้านไป 3วันต่อมา พวกเราที่ดูแลก็โทรศัพท์เยี่ยมยามถามข่าว คุณแม่บอกว่าน้องพฤติกรรมเปลี่ยนมาก โวยวาย  ร้องกรี๊ดๆ บางวันมีไข้  ไม่กินข้าวขณะนี้กำลังพาไปโรงพยาบาล

 

พวกเราเล่าให้แพทย์เจ้าของไข้ฟังแพทย์บอกว่าสำรองเตียงให้ด้วยนะพี่เดี๋ยวเขาส่งน้องมา แพทย์โทรมาบอกผมแล้ว

เกือบหกโมงเย็นน้องมาถึง ดูยังไม่ซึมมากเท่าไหร่แต่ผลเลือดผิดปกติหลายตัวที่สำคัญ     ไล่เจ้าหน้าที่ไปไกลๆ ออกไป้ ออกไป แต่ดูคุณแม่แล้วท่าทางเหนื่อยมากๆ คุณพ่อต้องอุ้มตลอดเวลา

    วันนี้แพทย์ให้งดน้ำงดอาหารดูอาการ  การรักษาหลายอย่างมาพร้อมๆกันโชคดีเส้นเลือดเปิดง่ายหน่อย แต่น้องยังไม่ต้อนรับพวกเราเลย

    กลางคืนตื่นมางอแงสักพักแล้วก็หลับ ระดับน้ำตาลก็ไม่ปกติ ค่อนข้างต่ำ กินได้น้อย ไข้ยังสูง วันที่ 2-3-4-5......ทำเอ็กซเรย์คอมพิวเตอร์สมองดูแล้ว....จนถึงวันที่แพทย์ดูว่าไข้เริ่มลงสามารถทำหัตถการได้ก็ต้องกลับมาใส่สายระบายใหม่.....

พ่อแม่รู้ว่าการรักษาจะเป็นแบบนี้ประคับประคองได้อย่างดีมากคือเท่านี้เหรือน้อยกว่า เพราะโรคหัวใจที่น้องเป็นอยู่.......

                     สองคนพ่อแม่ ให้กำลังใจซึ่งกันและกัน....

คุณแม่เล่าให้เราฟังว่ามีหลายๆคถามว่าไม่เอาน้องอีกสักคนหรือ...

คุณแม่อยากทุ่มเทให้น้องเขา เพราะสงสาร อีกอย่างไม่อยากมีน้องอีกคนเพราะกลัวว่าจะเหมือนลูกคนนี้....ขอให้เวลาที่เหลือเพื่อเขา....

รู้ว่าเขาจะอยู่กับเราไม่นาน........

.....เมื่อน้องกลับบ้านไปครั้งนี้เราได้โทรยามถามข่าวอีกครั้ง...

น้องยังกรี๊ดๆเหมือนเดิม ให้อุ้ม เดิน ไม่เล่นกับคนอื่นนาน...ต้องให้พาไปโน่นไปนี่ ดีนะที่บานมีที่เดินที่วิ่ง แต่คนดูแลต้องผลัดกันอุ้ม..ช่วงนี้อากรไข้ไม่มี ไม่อาเจียน อาหารไม่ชอบรับประทาน ขนม(นี่คือปัญหา)แต่พวกเราก็จัดการให้อาหารที่น้องชอบ คือข้าวเหนียวกับ หมูทอดจืด แก้ปัญหาได้เล็กน้อยก็ดีใจแล้วค่ะ

พวกเราก็ได้แต่อธิษฐานให้น้องสุขภาพแข็งแรง ให้กำลังใจคุณพ่อคุณแม่ที่ดูแลน้องๆๆ และอย่าลืมดูแลตนเองด้วยค่ะ

 

 Ventriculoperitoneal shunt

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

Ventriculoperitoneal shunt (VP shunt) เป็นท่อสำหรับระบายน้ำในโพรงสมองแบบถาวร โดยจะต่อจากสมองในบริเวณ Lateral Ventricle และไประบายน้ำออกที่กระเพาะอาหาร ซึ่งการทำ VP shunt นี้มักทำในเด็กที่เป็นโรค Hydrocephalus
ฝีในสมอง (Brain abscess)

ฝีในสมอง (Brain abscess)เป็นโรคร้ายแรงที่พบได้ทั้งในเด็กและผู้ใหญ่ สาเหตุอาจเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย strephyloccus จากอวัยวะใกล้เคียงที่มีการอักเสบ อยู่ก่อนแล้ว เช่น Otitis media ,sinussitis เป็นต้น หรืออาจแพร่กระจายผ่านทางกระแสเลือด

:: อาการ

อาการปวดศรีษะ คลื่นไส้ อาเจียน และชัก มักจะเป็นอาการนำ และอาจมี pregressive focal nuueological signs เช่นเดียวกันกับเนื้องอก ของสมอง ต่างกันตรงที่การดำเนินโรคของ brain abscess จะเร็วกว่ามากและร่วมกับการมีไข้สูง ในกรณีที่สงสัยว่าจะเป็น sinusitis, otitis media ,mastoiditis,pneumonia หรือbacterial หรือ endcarditis เป็นต้น
http://www.thaiabc.com/data/health.php?d=abscess
หมายเลขบันทึก: 367381เขียนเมื่อ 18 มิถุนายน 2010 10:51 น. ()แก้ไขเมื่อ 15 มิถุนายน 2012 23:05 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

ป้าหนูอยากร้องไห้ มันสะอื้นในอก  หนูสงสารลูกจังฯลฯ

(ครั้งนี้เป็นการติดตามครั้งที่2หลังจากน้องกลับบ้าน)

ความรู้สึกของผู้เป็นแม่ที่รักลูกสุดหัวใจ

ความรู้สึกทั้งเหนื่อย ทั้งอ่อนเพลีย มันเกิดรวมๆกัน คนนเป็นแม่ทุกอย่างทุ่มเทเพื่อลูกได้ กว่าจะผ่านไปในแต่ละวัน

ลูกมีไข้ไหม  (ไข้สูงเดี๋ยวชัก)

ลูกจะงอแงไหม(ร้องไห้นานไม่ได้เดี๋ยวขาดออกซิเจน)

ลูกจะติดเชื้อเพิ่มเติมอีกไหม?

น้ำจะท่วมปอดลูกไหมเพราะลูกเริ่มกินเค็มอีกแล้ว(แม้จะกินทีละเล็กละน้อยก็ตาม)

แม้พ่อกับแม่จะรู้ทุกอย่างที่คุณหมอแนะนำ แต่ด้วยข้อจำกัดที่มากมายทำให้บางครั้งก็ต้องแก้ปัญหาเฉพาะหน้าเอาไว้ก่อน

เพราะโรคหัวใจของลูกน้อย...ผ่าตัดไม่ได้ รักษาแบบประคับประคอง....แต่ละวันขอให้ผ่านไปด้วยดี..ดังนั้นสิ่งศักดิ์สิทธิ์เท่านั้นที่แม่หวังให้ช่วยคุ้มครองเจ้า....

ความสุขใจจะดีเท่าเมื่อเจ้ากินได้นอนหลับไม่มีไข้ ไม่ชัก ลูกรัก

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท